อิ๋งจิ่งตรงกลับไปที่หอพัก บรรดาคนที่ร่วมวงสนุกครึกครื้นกันเมื่อครู่นี้ได้สลายตัวไปหมดแล้ว
“นายไปทำอะไรมาเหรอ” ฉีอวี้เงยหน้าขึ้นมาจากตำราเรียนก็เห็นคนบางคนกำลังรื้อค้นตู้หาข้าวของอย่างร้อนรน
“นายดูหน่อยสิ” อิ๋งจิ่งโยนของที่หาเจอให้เขา
ฉีอวี้งุนงงไม่เข้าใจ มองดูซองหนังอยู่พักหนึ่ง “นี่คืออะไร”
อิ๋งจิ่งสงบนิ่งอย่างมาก “หนังสือโครงการ นายทำด้วยกันกับฉันนะ”
เมื่อวัยรุ่นทำงานย่อมกระตือรือร้นสุดๆ ด้วยพลังที่เปี่ยมล้น
คืนนั้นทั้งสองคนเขียนรายการแผนงานออกมา
วันที่สอง ขยายความเพิ่มเติม
วันที่สาม เขียนโค้ดบนคอมพิวเตอร์ ทำการสร้างภาพแบบจำลองพื้นฐาน
ทั้งกุลีกุจอ ทั้งกระวีกระวาด ทว่าอิ๋งจิ่งไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด สิ่งที่ไม่พอใจเพียงอย่างเดียวก็คืออาหารที่ดีลิเวอรี่มาส่งให้น้อยเกินไปทุกครั้ง เขากินไปสองกล่องแล้วก็ยังหิวสุดๆ
วันที่สี่ ลี่โจวซานมองอิ๋งจิ่งที่หน้าตาเหมือนกับอดหลับอดนอนพักผ่อนไม่เพียงพออย่างรุนแรง ถุงใต้ตาดำคล้ำห้อยคล้อยลงมาเกือบจะถึงหน้าอกอยู่แล้วก็ตกใจทันที
“นายใช้เวลากี่วันในการทำ”
“ผมกับฉีอวี้ทำด้วยกัน สี่วันครับ”
ลี่โจวซานไม่พูดอะไรอยู่นาน สุดท้ายก็หยิบกล่องยาบำรุงสมองคลายประสาทกล่องใหม่ออกมาจากลิ้นชักแล้วยื่นให้
“…”
ทุกปีมหาวิทยาลัยการบินฯ C จะมีโควตารายชื่อเพื่อส่งเสริมผลักดันสู่ภายนอก เป็นโครงการที่เกิดขึ้นร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับบริษัท ในฐานะที่เป็นสถานศึกษาที่ทรงคุณวุฒิภายในประเทศ มูลค่าที่แท้จริงของโควตานี้ไม่จำเป็นต้องพูดก็เข้าใจได้ว่ามีค่าขนาดไหน ถ้าหากสามารถดึงดูดองค์กรธุรกิจให้มอบการสนับสนุนทางการเงินได้ และทำผลลัพธ์ในการศึกษาวิจัยของภาควิชาได้สำเร็จก็จะเป็นกระดาษคำตอบที่ถือว่าเป็นเงินทองล้ำค่าในสี่ปีของระดับปริญญาตรีจริงๆ เลยล่ะ ซึ่งโบนัสที่ได้มาส่วนนี้ก็จะกลายเป็นหลักฐานที่โดดเด่น เป็นที่จับตามองในกระบวนการสอบปริญญาโทและการจ้างงานอย่างแน่นอน
โควตารายชื่อในโครงการนี้ทุกปีจะตกเป็นของสาขาเอกการออกแบบอากาศยาน
สาขาดาวเด่น เป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัย ได้รับการสนับสนุนก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
ส่วนสาขาเอกเครื่องยนต์อากาศยานของอิ๋งจิ่ง ความรู้สึกในการมีตัวตนอยู่ช่างน้อยนิดมาก
แทบทุกคนต่างคิดว่าในครั้งนี้พวกเขาคงไร้ความหวังที่จะได้รับโควตารายชื่อแล้ว แม้กระทั่งตัวอิ๋งจิ่งเองก็ถือแค่ว่าเป็นการทำการบ้านแบบแหกตาน่ารำคาญ ทำๆ ไปงั้น เพื่อให้อาจารย์ให้คะแนนแบบจบๆ เรื่องไป
หนึ่งวันก่อนการเปิดประชุมพบปะองค์กรธุรกิจ มหาวิทยาลัยแจ้งว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมด้วย
เรื่องเซอร์ไพรส์มาเยือนอย่างปัจจุบันทันด่วน ทำเอาอิ๋งจิ่งเกือบจะต้องไปซื้อยาบำรุงหัวใจชนิดออกฤทธิ์เฉียบพลัน เขาบอกลี่โจวซานอย่างตื่นเต้น ผลคืออีกฝ่ายดันสงบนิ่งสุดๆ ตอบว่าอือคำเดียวอย่างเย็นชา
“อย่าคิดมากเลย แค่ไปเจอโลกบ้าง ฝึกฝนความกล้าบ้างก็ใช้ได้แล้ว”
ความเหน็บหนาวเฉยชานี้ช่าง…
ไม่เป็นไร ร่างกายของคนที่ไม่ใส่กางเกงลองจอนทนทานต่อความหนาวเยือกได้อยู่แล้ว อิ๋งจิ่งยังคงซุกซ่อนความร้อนรนอยู่ในอก ร้อนถึงขนาดแผ่คลื่นความร้อนได้ แทบจะแผดเผาทำเอาตัวเองตายได้เลย
เรื่องนี้ก่อให้เกิดความโกลาหลในสาขามากทีเดียว ส่วนใหญ่รู้สึกปลาบปลื้มดีใจหลังจากอัดอั้นมานาน ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยความสุขออกมาเสียที ไม่นานนักกลุ่มแฟนคลับของเขาก็ได้รวมพลังออนไลน์ด้วยเทรนด์ ‘ออกตัวพุ่งชน ทำทุกสิ่งเพื่อเธอด้วยพลังรักแบบสุดปัง’ ส่วนทางฝั่งสาขาเอกออกแบบอากาศยานที่รับตำแหน่ง สนมคนโปรดมาหลายปีนั้นก็กลอกตาอย่างเอือมระอามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ขณะนั้นเองทั้งสองกลุ่มต่างฝ่ายต่างเปิดฉากรบแบบกินกันไม่ลงสุดๆ
‘สนมคนโปรด’ เปล่งวาจา
“เจ้าอย่าได้ริอ่านอวดดีแสดงนิสัยหยิ่งยโสโอหังที่เจ้ามีต่อหน้าข้า”
‘สนมโปรดคนใหม่’ ประกาศกร้าว
“หนทางอีกยาวไกล อย่าเกรี้ยวกราดให้มากนัก ในชีวิตอาจมีผู้ที่ยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์เหนือเจ้าก็เป็นได้”
แหมๆ คนมาใหม่อย่างพวกเจ้าล้มเลิกความมั่นหน้าไปเสียเถอะ!
“ทำการใดต้องแยกแยะว่าใครเป็นใหญ่เป็นรอง วันนี้ข้าจะสอนให้เจ้ารู้จักคำว่า ‘ศิโรราบ’ ”
ก๊วนแฟนคลับของอิ๋งจิ่งเชิดใส่
“คนมีตั้งเยอะแยะมากมายเป็นสิบล้าน ใครกลัวใครกันเล่า โง่เง่าเต่าตุ่น”
อิ๋งจิ่งมีสติอยู่เพียงลำพังท่ามกลางความอลหม่าน เขาค้นหาในไป่ตู้* เกี่ยวกับการแต่งตัวในวาระโอกาสหรืองานที่เป็นมารยาทพิธี แล้วจึงใช้เงินค่าครองชีพสำหรับครึ่งเดือนซื้อชุดสูทสีดำที่อย่างเป็นงานเป็นการมาจนได้
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาเลย
อิ๋งจิ่งตัวสูง โดยทั่วไปแล้วไม่ได้รู้สึกเลยว่าการแต่งตัวในชุดทางการจะเหมือนกับการสวมใส่ชุดเกราะ ชุดสูทนั้นเผยให้เห็นสะโพกแคบ ไหล่ผึ่งผาย และรูปร่างที่ได้สัดส่วน ปกคอเสื้อเชิ้ตสีขาวพับเก็บเรียบร้อย ความรู้สึกที่ดูดีในแบบเด็กๆ ลดน้อยถอยลงไป หลอมรวมเป็นความหล่อเหลาและภูมิฐาน
เขาส่องกระจกแล้วก็ยิ้มในทันที ดวงตาทอแสงระยิบดุจดวงดาว