บทที่ 5 คนพันธุ์หวง
วันที่สวี่ซือเถียนมาที่บริษัทครั้งแรกนั้นสั่นสะเทือนทั้งสายตาและจิตวิญญาณของหนิงเหมิงอย่างมาก
ผู้หญิงคนนี้สูงถึงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร เฉพาะแค่ขาคู่นั้นก็ร้อยหกสิบเซนติเมตรแล้วมั้ง
เธอดัดผมเป็นลอนใหญ่ อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตเข้าเอวกับกระโปรงสั้น ทุกย่างก้าวที่เดินออกไปก็มีกลิ่นน้ำหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว
หนิงเหมิงรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็ตามจะมีกลิ่นหอมลอยออกมา เป็นความรู้สึกน่ากิน น่ากินจนทำให้ใจของเธอเกิดความอิจฉา ต่างก็เป็นสาววัยรุ่นด้วยกันแท้ๆ ทำไมคนเขาถึงดูน่ากิน แต่เธอกลับดูแห้งกระด้างเหมือนกับเปลือกไม้แก่ๆ
คืนวันนั้นหลังจากกลับถึงบ้าน หนิงเหมิงก็ปลดผมหางม้าของตัวเองออก ถอดแว่นตาแล้วใช้โรลม้วนผมไฟฟ้าดัดผมให้เป็นลอน
เมื่อดัดเสร็จก็มองตัวเองในกระจก หนิงเหมิงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสวยเลยสักนิด มองกระจกแล้วมีแค่ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวคืออยู่ๆ ก็อยากจะกินบะหมี่ถ้วยขึ้นมาซะงั้น
ผู้หญิงเป็นเพศที่ไวต่อความรู้สึก สัมผัสที่หกมันรุนแรงกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ดังนั้นหนิงเหมิงจึงรู้สึกได้ว่าสาวปักกิ่งอย่างสวี่ซือเถียนชอบลู่จี้หมิง
แล้วก็ชอบแบบชอบมากๆ ด้วย
แต่ลู่จี้หมิงล่ะ เมื่อทำงานแล้วพอจะพูดได้ว่ามีท่าทางของคนมีความสามารถ แต่พอเลิกงานก็กลายร่างเป็นหนุ่มเสเพลทันที
เขาก็ไม่ต่างจากเพื่อนๆ ลูกคนรวยทั้งหลายของเขา ชอบดื่ม รักสนุก หยอกล้อผู้หญิงไปทั่ว พอดื่มเสร็จคำพูดหยอกเย้าพวกนั้นก็ผ่านเลยไป
พูดกันตรงๆ ก็คือยังไม่เห็นคุณค่าของสาวๆ พวกนั้น
สวี่ซือเถียนเป็นผู้หญิงที่ฉลาด ไม่ได้ลดค่าตัวเองโดยการไปดื่มเหล้าที่ผับเพื่อจะใกล้ชิดกับลู่จี้หมิง หลังเลิกงานหนิงเหมิงก็เคยถูกลู่จี้หมิงลากตัวไปเป็นคนขับรถงานแฮงก์เอาต์ต่างๆ แต่เธอไม่เคยเจอสวี่ซือเถียนสักครั้ง
สวี่ซือเถียนทำงานด้านการเงิน ทำงานได้ครึ่งปีก็ใช้เส้นสายของครอบครัวเพื่อเข้าเรียนอีเอ็มบีเอ* แม้ว่าอายุจะยังไม่ถึงสามสิบตามเกณฑ์ที่จะเข้าเรียนได้ แต่เงื่อนไขพวกนี้มีไว้สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น สำหรับคนมีเงินดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้สวี่ซือเถียนจึงก้าวข้ามเรื่องอายุเข้าไปเป็นเพื่อนนักเรียนกับคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เธอมักจะหาผู้ที่ประสบความสำเร็จมาคุยโปรเจ็กต์ความร่วมมือต่างๆ กับลู่จี้หมิงเสมอ แม้ว่าสุดท้ายอัตราความสำเร็จจะไม่สูงเท่าไหร่ แต่ยุทธวิธีการจีบหนุ่มแบบอ้อมๆ นี้ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าไม่ฉลาดและไม่มีความพยายาม
คราวนี้สวี่ซือเถียนก็พาสืออิงซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนอีเอ็มบีเอมา
ในห้องประชุมสืออิงแนะนำข้อมูลทั่วไปของโปรเจ็กต์ให้กับลู่จี้หมิง
ร่างเป้าหมายของการลงทุนก็คือบริษัทอุตสาหกรรมครัวเรือนซึ่งทำปฏิรูปหุ้น* เสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทหลักทรัพย์ที่สืออิงสังกัดอยู่นั้นกำลังเป็นที่ปรึกษาให้กับกิจการและเตรียมความพร้อมเข้าคิวเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
พวกเขาต้องการหานักลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีทุนสูงเพื่อทำการเปลี่ยนโอนหุ้น ก่อนที่จะมาหาบริษัทจี้หมิงแคปปิตอล พวกเขายังได้พิจารณาหน่วยงานที่มีชื่อเสียงหลายแห่งด้วย แต่หน่วยงานเหล่านั้นทำการประเมินไว้ต่ำมาก บ้างก็เพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติมมากมาย จึงทำให้ไม่อาจเจรจาความร่วมมือกันได้สำเร็จ
“พอดีวันนั้นเป็นวันรวมตัวเพื่อนที่เรียนอีเอ็มบีเอเลยได้คุยกับเสี่ยวสวี่เรื่องนี้ เธอบอกว่านอกจากประธานลู่จะเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถแล้ว ที่สำคัญพวกคุณยังโตมาด้วยกันอีกด้วย รู้จักกันเป็นอย่างดี เธอก็เลยดึงฉันมาพูดคุยกัน พอได้เจอกันก็เป็นอย่างที่เสี่ยวสวี่พูดไว้ไม่ผิด ประธานลู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถจริงๆ”
ลู่จี้หมิงพูดคำว่าคุณชมเกินไปแล้วซ้ำๆ แต่หนิงเหมิงแอบปรายตามองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาที่แสดงออกมาว่าใช่เลยๆ ข้านี่แหละที่หล่อแล้วยังหาเงินได้เยอะอีกด้วย