ทดลองอ่าน Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว เล่ม 3 บทที่ 69 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว

ทดลองอ่าน Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว เล่ม 3 บทที่ 69

เธอถามเขาว่า “แล้วคุณคิดว่าภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่สร้างจากการดัดแปลงนิยายออนไลน์มีข้อได้เปรียบพิเศษอะไรเมื่อเทียบกับบทละครที่เขียนขึ้นใหม่”

ความสนใจของผู้คนในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์จำนวนมากกับทรัพยากรด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์เอนเอียงมาทางนิยายออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ในนั้นต้องมีบางอย่างที่บทละครแบบดั้งเดิมไม่มี ยังไงซะคนในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ไม่ได้โง่ พวกเขารู้ดีว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์

หลิ่วหมิ่นฮุ่ยอธิบายว่า “ข้อดีของภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่สร้างจากนิยายออนไลน์เมื่อเทียบกับละครอื่นๆ ก็คือนิยายดีๆ ที่มียอดอ่านสูงบนอินเตอร์เน็ต นั่นก็หมายถึงตัวมันมีแฟนคลับนิยายจำนวนมาก นวนิยายเรื่องนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากกลุ่มแฟนคลับไปแล้วถึงได้รับความนิยม ก็แสดงว่านิยายนั้นมีคุณค่า ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครชอบอ่าน ดังนั้นเด็กที่มีพันธุกรรมดี ถ้าหาคนดัดแปลงเนื้อหาเก่งๆ สักหน่อย คัดเลือกนักแสดงหน้าตาดีมีทักษะการแสดงถึงระดับ มันก็จะเติบโตอย่างไม่อาจหยุดยั้ง เพิ่มการประชาสัมพันธ์ลงไปอีกในภายหลัง จะคาดหวังให้เป็นผลงานซีรี่ส์แนวหน้าก็ย่อมเป็นไปได้ คอยดูนะอีกสองปีข้างหน้า ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายออนไลน์จะต้องดังมากขึ้น ดังสุดๆ ถึงตอนนั้นตลาดภาพยนตร์และละครโทรทัศน์จะวุ่นวายมากขึ้น เพราะนิยายเองจะมีการแบ่งระดับสูงต่ำ มีทั้งผลงานดีๆ มีทั้งแบบตามกระแส มีทั้งเขียนเพื่อเรียกยอด สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความโกลาหลที่จะเกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ เมื่อความโกลาหลพบกับความโกลาหล พวกที่นิ่งและหัวเราะได้เป็นคนสุดท้ายต้องเป็นคนที่ทำภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ยืนหยัดยึดมั่นในความตั้งใจอย่างพวกเราเท่านั้น”

หนิงเหมิงเห็นด้วยกับคำพูดของหลิ่วหมิ่นฮุ่ย เขาพูดซะจนเธอคึกคักขึ้นมาเลย

นิยายออนไลน์ดังย่อมเป็นเพราะการตอบสนองของแฟนคลับ ยังไม่ถ่ายทำก็ดังแล้ว นี่คือผลของแฟนหนังสือเป็นผู้สร้าง เป็นข้อได้เปรียบที่หาไม่ได้จากบทละครแบบเดิม

หนิงเหมิงรู้สึกว่าชายล่ำบึ้กอย่างหลิ่วหมิ่นฮุ่ยไม่เสียเวลาอ่านนิยายรักเปล่าๆ เลย คนอื่นอ่านเรื่องราวในนิยายเรื่องนี้ แต่เขากลับมองเห็นเรื่องราวที่นอกเหนือไปจากเนื้อเรื่องในนิยาย รวมทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมนิยายออนไลน์ให้มีความเจริญก้าวหน้า

บนพื้นฐานคำพูดของหลิ่วหมิ่นฮุ่ย เธอยังให้ความคิดในมุมมองของตัวเองด้วยว่า “ข้อดีของสื่อใหม่ในอนาคตเมื่อเปรียบเทียบกับสื่อแบบเดิมก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นละครออนไลน์และภาพยนตร์ออนไลน์จะมีพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ มันจะค่อยๆ กลายเป็นสื่อหลักของผู้คนโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว และคนกลุ่มนี้ก็เป็นพวกที่มีอำนาจในการใช้จ่าย เต็มใจควักกระเป๋าจ่ายในสิ่งที่ตัวเองชอบ ถึงแม้ว่าตอนนี้ละครออนไลน์ไม่อาจจะงัดข้อกับละครโทรทัศน์ก็ตาม แต่ก็ยากที่จะบอกว่าธุรกิจใดจะเหนือกว่าอีกฝ่าย แหล่งที่มาของรายได้สำหรับละครโทรทัศน์นั้นขึ้นอยู่กับค่าโฆษณาของสถานีโทรทัศน์เป็นหลัก และรายได้สูงสุดแค่ไหนก็เห็นกันอยู่ แต่ละครออนไลน์ไม่เหมือนกัน ชาวเน็ตทั้งหมดก็เป็นผู้บริโภคที่ซ่อนตัวอยู่ พูดโดยหลักการแล้วรายได้ของมันมีอยู่อย่างไม่จำกัด ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นในการพัฒนาละครออนไลน์ในอนาคต และฉันก็ยินดีที่จะลงทุนในบริษัทที่เน้นผลิตละครออนไลน์เป็นหลัก”

คำพูดเหล่านี้เข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจของหลิ่วหมิ่นฮุ่ย เขาตื่นเต้นมากจนปรบมือให้หนิงเหมิงพลางพูด

“พูดได้ดีมาก! พูดได้ดีจริงๆ!” สิ้นเสียงปรบมือ เขายังถามเธอด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “นี่…หนิงเหมิง พูดกันมาขนาดนี้แล้ว ดูแล้วคุณน่าจะอยากร่วมมือกับพวกเราสินะ งั้นผมขอถามอะไรสักคำได้รึเปล่า ก่อนหน้านี้คุณพูดในสายว่าคุณมีจุดเด่นเรื่องการควบรวมทรัพยากร ทรัพยากรที่คุณว่ามีอะไรบ้าง”

หนิงเหมิงยิ้มและพูดว่า “ฉันเคยบอกว่าปีนี้ฉันลงทุนในบริษัทแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดแพลตฟอร์มหนึ่ง ตอนนี้บริษัทนั้นกำลังเตรียมที่จะเข้าสู่เอ็นอีอีคิว คาดว่าในอีกไม่นานเท่าไหร่ ต่อไปศิลปินสาวสวยในสังกัดของคุณสามารถไปที่แพลตฟอร์มเพื่อเปิดการถ่ายทอดสดเพิ่มยอดไลค์ แล้วก็ให้สตรีมเมอร์ที่ได้รับความนิยมมาเป็นนักแสดงรับเชิญในละครเพื่อเรียกยอด นอกจากนี้ฉันมีคอนเน็กชั่นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและสื่อโฆษณาในมือที่สามารถร่วมมือกับละครของคุณได้ ฉันยังมีพี่ใหญ่ที่รู้จักกันอย่างดีซึ่งเขาอยู่ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขาได้พัฒนาบ้านเดี่ยวหรูหราทั่วประเทศ สามารถช่วยแก้ปัญหาโลเกชั่นในการถ่ายทำของคุณได้มากกว่าครึ่ง นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรอีกอย่างที่สามารถนำมาบูรณาการได้ แต่ฉันยังไม่ได้ลงไปคุยในรายละเอียด เป็นแค่แนวคิดเบื้องต้น เรื่องใดที่ยังไม่มั่นใจเต็มสิบฉันก็จะยังไม่เอามาคุยโวโอ้อวดหรอก รอให้ฉันคุยเรียบร้อยแล้วค่อยบอกรายละเอียดให้คุณฟังอีกที ประธานหลิ่วคะ ทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ในมือฉันตอนนี้ คุณพอใจไหมคะ”

หลิ่วหมิ่นฮุ่ยได้ฟังก็เกือบจะตกตะลึง พูดสองประโยคที่ไม่เกี่ยวกันเลย

“จัดการแบบนี้ สุดยอดมาก!! อย่าเรียกผมว่าประธานหลิ่ว เรียกผมว่าพี่หลิ่วเถอะ!”

หนิงเหมิงแทบจะร้องเพลงออกมาในใจ พี่หลิ่วพูดจา เหตุผลช่างเอนเอียง*

ช่วงท้ายของการสนทนาที่น่ายินดีนี้หนิงเหมิงและหลิ่วหมิ่นฮุ่ยก็เปิดใจและไว้วางใจกันมากขึ้น หนิงเหมิงกล่าวว่าหลิ่วหมิ่นฮุ่ยเป็นคนในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ไม่ธรรมดาเพราะเขาไม่ทำตัวเจ้าเล่ห์ หลิ่วหมิ่นฮุ่ยก็กล่าวว่าหนิงเหมิงคือนักลงทุนที่ผิดปกติเพราะเธอไม่วางแผนเอาเปรียบคนอื่นเลย

หนิงเหมิงถามหลิ่วหมิ่นฮุ่ยว่าที่ผ่านมามีนักลงทุนมาพูดคุยกับเขาเยอะรึเปล่า

หลิ่วหมิ่นฮุ่ยตบที่หน้าขาอย่างมีอารมณ์แล้วตอบว่า “เยอะสิ! มาคุยตั้งหลายคน แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ”

“ทำไมถึงไม่สำเร็จคะ”

หลิ่วหมิ่นฮุ่ยเล่าว่า “นักลงทุนพวกนั้นดูใจกว้างมาก เปิดปากมาแต่ละครั้งพูดไปพูดมาก็มีแต่เงินๆๆ ไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยล้าน แต่พอจะนำเงินมาลงทุนหรือดำเนินงานจริงๆ ค่าใช้จ่ายทุกหยวนเขาไม่ให้คุณได้ไปฟรีๆ หรอก สุดท้ายเขาจะมาขูดรีดขูดเนื้อตั้งแต่ต้นทุนไปจนถึงกำไรจากเรา และพวกเขาก็จะเข้ามายุ่มย่ามการบริหารกิจการของผมอีก ผมไม่มีวันยอมให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด เอาคนนอกมาคุมคนใน จะให้ผมเปลี่ยนนักแสดงหลักเป็นเด็กของใครเมื่อไหร่ก็ได้ นี่มันล้อกันเล่นใช่ไหม สุดท้ายถ่ายละครดีๆ ออกมาไม่ได้ นี่ก็เท่ากับทำให้พวกเรากลายเป็นละครแสนเศร้าไปเลย”

หลิ่วหมิ่นฮุ่ยหยุดไปชั่วขณะ หน้าตาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา เขากลอกตาอย่างดูถูกพลางพูดไปด้วยว่า “นอกจากนี้นักลงทุนบางคนยังคิดว่าบริษัทเรามีตัวประหลาดเยอะมาก ไม่สามารถควบคุมได้ งั้นก็ไม่ร่วมลงทุนเลยดีกว่า” หลังจากที่เขากลอกตาอย่างรวดเร็วแล้วก็ถามหนิงเหมิงว่า “แล้วคุณล่ะ ทำไมถึงมีความคิดที่จะร่วมลงทุนกับเรา”

หนิงเหมิงยิ้ม “ก็เพราะพวกคุณมีคนที่แปลกๆ เยอะไง!” หนิงเหมิงทำให้หลิ่วหมิ่นฮุ่ยฟังแล้วเข้าใจว่าคำพูดของเธอไม่ได้ล้อเล่นหรือเสียดสี แต่เป็นคำชมจากก้นบึ้งของหัวใจ “อันที่จริงฉันไม่กล้าพูดว่าฉันเข้าใจพวกคุณมาก ฉันมองออกเลยว่าไอเดียแปลกๆ ของพวกคุณมันทุ่มเทและยืนหยัดในศิลปะ ละครที่สร้างบนพื้นฐานของเงินเป็นละครรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ไร้จิตวิญญาณ แต่ความพากเพียรของคุณทำให้ละครของคุณมีจิตวิญญาณขึ้นมา”

ทำไมเธอถึงอยากจะลงทุนกับฮุ่ยมีเดีย

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com