หนิงเหมิงยิ้มพร้อมกับพูดอย่างไว้หน้าว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอยู่นิดหน่อย คุยกันอีกสักครู่จนซูเหวยหรานค่อนข้างจะพอใจแล้วก็วางสายไป
ผ่านไปสักพักหลิ่วหมิ่นฮุ่ยก็โทรเข้ามา เขาเชิญหนิงเหมิงไปฉลองข้ามปีด้วยกันแต่เธอปฏิเสธ เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ โทรกลับมาตื๊ออีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้รับคำตอบปฏิเสธเช่นเดิมในที่สุดเขาก็ยอมอย่างจำใจ อวยพรขอให้เธอมีความสุขในวันปีใหม่แบบตัดพ้อ
ราวกับว่าคนที่ควรจะติดต่อกันก็ติดต่อหมดแล้ว คืนก่อนวันปีใหม่นี้ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นคืนที่สมบูรณ์แบบคืนหนึ่ง
แต่บอกไม่ถูกว่าทำไม หนิงเหมิงกลับรู้สึกว่าเหมือนยังขาดอะไรไปสักอย่าง
ก่อนเที่ยงคืน หนิงเหมิงสวมเสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายลงลิฟต์ไปชั้นล่าง
ลานกว้างหน้าหมู่บ้านมีคนกลุ่มใหญ่รวมตัวกันอยู่ กำลังเตรียมตัวเคานต์ดาวน์ไปด้วยกัน หนิงเหมิงเข้าไปร่วมด้วย เบียดเสียดกับคนที่ไม่รู้จัก
ค่ำคืนของฤดูหนาวอากาศค่อนข้างเย็น แต่การเบียดเสียดท่ามกลางฝูงชนคนแปลกหน้าได้ปลดปล่อยความคึกคักที่จะจุดประกายขึ้นในตอนเที่ยงคืน หนิงเหมิงรู้สึกคึกอยู่บ้าง ในความคึกนี้เธอรู้สึกเหมือนว่ามีสิ่งที่คั่งค้างอยู่ เหมือนกับว่ายังมีเรื่องที่ยังไม่เสร็จสิ้นคั่งค้างอยู่ตรงนั้น แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบไม่ดีอะไร เป็นความกังวลที่เธอปล่อยวางไม่ได้เท่านั้น
หนิงเหมิงสะบัดหัวไปมา ผู้คนจำนวนมากเริ่มตะโกนนับถอยหลังอย่างพร้อมเพรียง
“สิบ! เก้า! แปด…”
หนิงเหมิงเปล่งเสียงตะโกนนับถอยหลังออกมาพร้อมๆ กัน
มือถือที่อยู่ในกระเป๋าสั่นจนหนิงเหมิงรู้สึกได้ เธอควานหามือถือพร้อมกับร่วมนับถอยหลังร่วมกับผู้คนต่อไป
“หก! ห้า! สี่…”
พอหยิบมือถือออกมา เวลาไม่รอช้าเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เธอใจจดใจจ่ออยู่กับการนับถอยหลัง เกรงว่าหากเผลอคิดเรื่องอื่นจะพลาดช่วงท้ายที่จะตะโกนไปพร้อมกับฝูงชน จึงไม่ใส่ใจที่จะมองชื่อบนหน้าจอมือถือที่บอกว่ามีสายเรียกเข้า
“สาม! สอง! หนึ่ง…”
หนิงเหมิงเผลอกดปุ่มรับสายโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเธอเหมือนจะเหลือบมองเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา แต่ด้วยความตื่นเต้นของเลือดที่สูบฉีดทั่วร่างจึงไม่ทันที่จะมีอาการโต้ตอบใดๆ ขณะร่วมกับฝูงชนนับถอยหลังตัวเลขสุดท้ายเธอก็ยกมือถือแนบหูตนเองอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เพิ่งจะนับถอยหลังเสร็จพอดี เธอใช้อารมณ์ที่พุ่งถึงจุดสูงสุดตะโกนออกมาพร้อมกับผู้คน
“สุขสันต์วันปีใหม่!”
ปลายสายของโทรศัพท์ปรากฏเสียงแหบพร่าของลู่จี้หมิงที่ดังขึ้นว่า “สุขสันต์วันปีใหม่”
เสียงแสดงความยินดีจากคนแปลกหน้าระเบิดดังกระหึ่มก้องไปทั่วลานกว้าง
หนิงเหมิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เสียงก้องดังกระหึ่มไม่สามารถกลบเสียงของลู่จี้หมิงทางสายโทรศัพท์ผ่านคลื่นสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าที่เป็นเสียงเบาๆ ลงไปได้
หนิงเหมิงตะโกนกับปลายสาย “ลู่จี้หมิง คุณโทรมาผิดเบอร์รึเปล่า”
เจิงอวี่หังเคยเล่าให้ฟังว่าทุกๆ เทศกาลเวลาเที่ยงคืนของลู่จี้หมิงจะมอบให้แก่นางในฝันของเขา
สายสนทนาน่าจะตัดไปแล้ว