หนิงเหมิงคิดว่าเขาน่าจะโทรมาผิดจริงๆ เขาคงต่อสายถึงนางฟ้าในฝัน โทรจนสายพันมาโทรถึงเธอ
หลังจากเก็บมือถือเรียบร้อย ความรู้สึกที่แปลกประหลาดและคั่งค้างอยู่ในใจหนิงเหมิงก็อันตรธานหายไปทันที
เธอคิดว่าบางทีแรงผลักดันที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะพระเจ้ารอมอบการนับถอยหลังนั่นเอง
สิ้นสุดการนับถอยหลัง ผู้คนเริ่มทยอยแยกย้าย หนิงเหมิงแยกย้ายตามฝูงชนมุ่งหน้ากลับบ้าน
ระหว่างทางกลับเธอนึกขึ้นมาได้ในฉับพลันว่าโมเมนต์ของการฉลองขึ้นปีใหม่เธอลืมขอพร เป็นเพราะถูกขัดจังหวะด้วยสายที่ต่อผิดของลู่จี้หมิง หนิงเหมิงคิดได้เช่นนี้ก็อยากจะชกเข้าที่หน้าลู่จี้หมิงขึ้นมา
คำอธิษฐานขอพรปีใหม่มีความสำคัญทางพิธีกรรมสำหรับเธอ เพื่อตั้งเป้าการทำงานในปีนี้ เธอถึงจะมีจิตใจที่ขยันขันแข็งต่อสู้กับอุปสรรค
เธอเสียดายและเสียใจที่พลาดโอกาสที่จะตั้งเป้าหมายตลอดทั้งปี
หนิงเหมิงเดินถอนหายใจกลับเข้าไปในทางเดินของอาคาร เดินตรงไปที่หน้าลิฟต์ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าข้างหน้าเธอเต็มไปด้วยคนที่ไปนับถอยหลังมารอลิฟต์อยู่
เธอนับดูแล้วลิฟต์รอบหนึ่งไม่สามารถบรรทุกคนมากมายอย่างนี้ได้หมด ดังนั้นเธอจึงหันไปตัดสินใจเดินขึ้นบันได
มีสองสามคนที่เดินตามเธอขึ้นไปทางบันไดด้วย คนหนึ่งเลี้ยวออกไปตอนที่ถึงชั้นสาม อีกสองคนเมื่อถึงชั้นห้าก็ถอนตัวออกจากกลุ่ม เหลือเพียงหนิงเหมิงคนเดียวที่เดินขึ้นไปต่อจนเหลืออีกสองชั้นสุดท้าย เธอไม่รู้สึกเดียวดายเลยสักนิด เธอเดินช้าลง เริ่มต้นดื่มด่ำกับความเงียบสงัดท่ามกลางความมืดมิด ค่ำคืนแห่งฤดูหนาวที่สดชื่นและหนาวเหน็บ
เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นหกครึ่ง เธอเลี้ยวผ่านชานพักบันได เตรียมก้าวขึ้นต่อไปอีกครึ่งชั้นที่เหลือ
จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น มีใครบางคนกระแอมเบาๆ เสียงดังพอที่จะทำให้ไฟเซ็นเซอร์สว่างขึ้น
บริเวณนั้นสว่างไสวขึ้นทันใด หนิงเหมิงแสบตาเพราะแสงไฟ เธอหรี่ตาและแหงนหน้ามองขึ้นไป จึงเห็นว่าลู่จี้หมิงกำลังนั่งอยู่บนบันไดขั้นสูงสุดของชั้นที่เจ็ดและเขากำลังก้มหน้าลงไปด้านล่าง
สายตาของเขาจับจ้องมาโดยไม่ว่อกแว่ก จดจ่อจนหางตากระตุกเหมือนกำลังหยอกล้อกับใครอยู่อย่างไม่รู้ตัว
หนิงเหมิงจากที่หรี่ตาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เบนสายตาออกมา ตั้งสติและแล้วมองกลับไปใหม่
ลู่จี้หมิงนั่งอยู่ที่ขั้นบันไดใต้แสงไฟและกำลังจดจ้องมองมาที่เธอ
อยู่ดีๆ เขาก็หัวเราะออกมา “คุณเองเหรอ!”
เชิงอรรถ
* จางอ้ายหลิง เป็นนักเขียนหญิงชาวจีน มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1920-1995 เธอได้ฝากผลงานนิยายและร้อยแก้วเอาไว้รวมเกือบหนึ่งร้อยกว่าเรื่อง เธอเขียนนิยายเรื่องหนึ่งชื่อว่า ‘กุหลาบแดงกับกุหลาบขาว’ เป็นเรื่องราวความรักที่ยุ่งเหยิงของผู้ชายที่ชื่อตงเจิ้นเป่ากับเมิงเยียนหลีภรรยาที่เขาเริ่มเบื่อหน่าย และหวังเจียวหรุ่ย หญิงสาวที่แต่งงานแล้วแต่เพิ่งรู้ตัวว่าเธออยากได้ความรักจากตงเจิ้นเป่าชายที่เป็นชู้รักของเธอ นิยายเรื่องนี้บรรยายถึงความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ช่วงที่หมดรักกับคนเก่าและต้องการเริ่มต้นรักครั้งใหม่
* ขึ้นป้ายตีระฆัง ในที่นี้หมายถึงพิธีขึ้นป้ายแสดงความยินดีและผู้บริหารร่วมตีระฆังเพื่อฉลองให้บริษัทหรือกิจการที่ยื่นจดทะเบียนเข้าเอ็นอีอีคิวสำเร็จและเริ่มการซื้อขายในตลาดทุน
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 22 ส.ค. 65 เวลา 12.00 น.