ทดลองอ่าน Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว บทที่ 9-บทที่ 10 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว

ทดลองอ่าน Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว บทที่ 9-บทที่ 10

7 of 7หน้าถัดไป

เมื่อเธอกลับไปที่โต๊ะทำงานก็นั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ยิ่งเธอนั่งนิ่งและโกรธมากขึ้น ใจเธอก็มีแผนการคร่าวๆ ขึ้นมา

เรื่องนี้เธอไม่อาจยอมได้!

หนิงเหมิงโทรหาซีเหลียนก่อน แต่ไม่ได้ต่อว่าอีกฝ่ายเรื่องเซ็นสัญญาโดยไม่บอกก่อน กลับกลายเป็นซีเหลียนที่อ้ำๆ อึ้งๆ ทำท่าทางราวกับไม่รู้ว่าควรจะขอโทษสำหรับความเห็นแก่ตัวของตัวเองดีไหม บรรยากาศก็อึดอัด หนิงเหมิงจึงทำลายความอึดอัดนี้โดยการขอให้ซีเหลียนส่งแฟ็กซ์สัญญาข้อตกลงที่เธอเซ็นกับชิวจวิ้นหลินเป็นการส่วนตัว สัญญาใต้ลิ้นชักที่ซีเหลียนบอกว่าจะโอนสิบเปอร์เซ็นต์ในสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของผลประโยชน์ที่เธอได้เข้าบัญชีส่วนตัวของชิวจวิ้นหลิน

ซีเหลียนถามหนิงเหมิงว่าเธอต้องการให้แฟ็กซ์เพื่ออะไร ในเมื่อหัวหน้าของเธอก็มีอีกชุดไม่ใช่เหรอ

หนิงเหมิงสงบสติอารมณ์และบอกว่าสำเนาของ ผอ. ชิวไม่ทันระวังถูกน้ำหกใส่ มีบางส่วนมันเลือนไป จะใช้สำเนาแฟ็กซ์นี้เป็นเอกสารแนบเสริมเข้าไป

ซีเหลียนแฟ็กซ์ข้อตกลงมาให้อย่างรวดเร็ว

หลังจากได้รับแฟ็กซ์แล้วหนิงเหมิงก็ไปหา ผอ. เหรินที่แผนกโปรเจ็กต์หนึ่ง

เธอกล่าวขอโทษ ผอ. เหริน “คุณเหริน ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ ฉันเกรงว่าโปรเจ็กต์ที่บอกคุณก่อนหน้านี้คงจะทำไม่ได้แล้ว มันมีความผิดพลาดบางอย่าง แล้วฉันจะคุยรายละเอียดกับคุณทีหลัง ตอนนี้ฉันมีเรื่องจะต้องคุยกับประธานลู่ ฉันขอโทษจริงๆ!”

หนิงเหมิงโค้งคำนับอย่างรู้สึกผิดแล้วจากไป

ผอ. เหรินที่ยืนอยู่หลังเธอพึมพำกับตัวเองด้วยความงุนงง “โปรเจ็กต์นี้ดีมาก ทำไมถึงไม่ทำแล้วล่ะ”

หนิงเหมิงผละจาก ผอ. เหริน แล้วก็ถือแฟ็กซ์สัญญาใต้ลิ้นชักตรงไปที่ห้องทำงานของลู่จี้หมิง

“คุณเอาไอ้นี่ให้ผมดู คุณคิดจะให้ผมทำอะไร” ลู่จี้หมิงโยนข้อตกลงส่วนตัวไปบนโต๊ะทำงาน เงยหน้าขึ้นและมองหนิงเหมิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างไร้ความรู้สึก

ในน้ำเสียงของเขาเหมือนจะมีความไม่พอใจอยู่หลายส่วน

หนิงเหมิงอึ้งกับคำถามของอีกฝ่าย

เขาไม่ใช่ควรจะโมโหโกรธาหรอกหรือ เขาควรจะเรียกให้คนข้างนอกไปตามชิวจวิ้นหลินเข้ามาทันทีไม่ใช่หรือ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน แบบนี้ก็เท่ากับยักยอกรายได้ของบริษัทเข้ากระเป๋าตัวเองไม่ใช่เหรอ

แต่ทำไมเขายังมีท่าทางเฉยเมยแบบนี้ล่ะ

ไม่เข้าใจจริงๆ

ความคิดในหัวของหนิงเหมิงขาดตอนแล้ว มีเสียงตึ้กดังขึ้น

ลู่จี้หมิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเรียกสติหนิงเหมิงที่กำลังงุนงงกลับมา “คุณมีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีก็ออกไป”

หนิงเหมิงกัดฟันสรุปความว่า “คุณไม่คิดว่าการกระทำของชิวจวิ้นหลินมันมีปัญหาหรือไง ที่สำคัญโปรเจ็กต์นี้เขาก็หลอกเอาไปจากฉันด้วย”

ลู่จี้หมิงขมวดคิ้วเข้าหากัน เส้นตรงกลางหว่างคิ้วเป็นสัญญาณว่ากำลังจะระเบิดอารมณ์

“คุณรู้สึกโดนรังแกใช่ไหม คุณไม่มีความสามารถในการควบคุมโปรเจ็กต์ด้วยซ้ำ จะน้อยใจทำไม”

ลู่จี้หมิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอีกครั้งและเขาก็หมดความอดทนแล้ว “มีอะไรจะพูดอีกไหม ถ้าไม่ก็รีบออกไปซะ จำไว้ว่าต่อไปอย่าเข้ามาหาผมตามอำเภอใจอีก ระดับของคุณยังไม่พอ นอกจากผู้บริหารระดับสูงที่สามารถเข้าห้องทำงานผมเมื่อไหร่ก็ได้ก็มีแค่เลขาฯ ผมเท่านั้น”

หนิงเหมิงกำหมัดแน่นแล้วก็คลายออก หลังจากหายใจเข้าลึกๆ อีกสองครั้ง ในที่สุดเธอก็ระงับความคิดที่จะวิ่งเข้าไปบีบคอคนให้ตายไว้ได้

ใจเธอด่าแรงๆ ลู่จี้หมิงพ่อแกน่ะสิ แล้วยิ้มออกมา

“ประธานลู่ ฉันคิดเสมอว่าแม้ว่าคุณจะเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่คุณก็ถือว่าเป็นเจ้านายที่ดี คุณไม่สนับสนุนการกระทำที่ชั่วร้าย คุณไม่เชื่อคำใส่ร้ายป้ายสี แต่ดูจากตอนนี้…ฉันตาบอดไปเอง”

ลู่จี้หมิงขมวดคิ้วแน่นขึ้น เขาชี้ไปที่ข้อตกลงฉบับนั้น เพิ่มระดับความดังของเสียงถามหนิงเหมิง

“เพราะข้อตกลงฉบับนี้ คุณถึงกล้าพูดกับผมแบบนี้เหรอ หนิงเหมิง ผมจะบอกคุณอีกครั้ง คุณไม่เหมาะกับการลงทุนจริงๆ ยอมแพ้ซะตั้งแต่ตอนนี้เถอะ!”

รอยยิ้มมุมปากของหนิงเหมิงสั่นเล็กน้อย แต่เธอรีบปรับอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบกระดาษที่พับสองครั้งออกมาจากกระเป๋าของตัวเองแล้วคลี่มันออกมา เธอเผยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพและสง่างาม

“ประธานลู่ ไม่ต้องกังวลค่ะ ต่อไปฉันจะไม่เข้ามาในห้องทำงานของคุณตามอำเภอใจเป็นอันขาด!” เธอวางกระดาษแผ่นนั้นไว้ตรงหน้าลู่จี้หมิงเบาๆ ทว่าหนักแน่น “นี่คือจดหมายลาออกของฉัน”

ลู่จี้หมิงคุณเบ่งกับคนอื่นตลอด ลุงแกน่ะสิ ไม่ทำแล้วโว้ย!

 

เชิงอรรถ

* ร้านลู่กั่งเสี่ยวเจิ้น คือร้านอาหารไต้หวันที่มีสาขาที่เมืองเป่ยจิ่ง (ปักกิ่ง) ซั่งไห่ (เซี่ยงไฮ้) ฝูโจว (ฮกจิว) อู๋ซี อาหารคาวเน้นไปทางอาหารมณฑลฝูเจี้ยนและไต้หวัน โดยน้ำแข็งไสและบิงซูของร้านได้รับความนิยมมาก คนที่มาร้านลู่กั่งเสี่ยวเจิ้นหลังทานข้าวเสร็จมักจะสั่งบิงซู ซึ่งบิงซูมะม่วงของร้านนี้เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาก

* Tencent QQ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘คิวคิว’ เป็นโปรแกรมเมสเซนเจอร์สำหรับวินโดวส์ ผลิตโดยบริษัทเทนเซนต์จากประเทศจีน

* IP ย่อมาจาก Intellectual Property หมายถึงทรัพย์สินทางปัญญา

* ลูกกุ้ง หมายถึงคนที่อ่อนประสบการณ์

* BP ย่อมาจาก Business Plan หมายถึงแผนธุรกิจ

* โรคหวาดระแวง หรือพารานอยด์ (Paranoia) เป็นภาวะผิดปกติทางความคิดที่ทำให้เคลือบแคลงสงสัยหรือระแวงผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามีคนจ้องทำร้ายอยู่ตลอดเวลา คิดว่าคนรอบข้างไม่ชอบตนเอง หรือไม่ไว้ใจผู้อื่น อาการเหล่านี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาการหลงผิด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือเข้าสังคมได้ยาก

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน มิถุนายน 65)

7 of 7หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com