ทดลองอ่าน Miracle… ปาฏิหาริย์นี้แด่เธอ บทที่ 2-บทที่ 3 – หน้า 9 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Miracle··· ปาฏิหาริย์นี้แด่เธอ

ทดลองอ่าน Miracle… ปาฏิหาริย์นี้แด่เธอ บทที่ 2-บทที่ 3

ฉันจะไม่ยอมเสียอาการตามที่ยายต้าคาดการณ์ไว้เด็ดขาด เพราะฉันจะไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของเควินอีกต่อไปแล้ว ฉันจะตั้งสติให้ดี จะแข็งแกร่ง และเอาชนะความอ่อนไหวของตัวเองให้ได้เลยคอยดู

ตอนนี้ฉันมีอยู่แค่สองทางเลือก คือยับยั้งความรู้สึกที่มีต่อเควินไว้ให้ได้แล้วก็ตัดใจจากเขาซะ กับรีบไปรักษาอาการทางจิต ซึ่งแน่นอนว่าฉันยังไม่อยากไปพบจิตแพทย์

แต่ทำไมฉันต้องตื่นเต้นและคิดถึงแต่เรื่องเควินจะมาที่นี่ตลอดเวลาขนาดนี้ด้วยเนี่ย ดังนั้นเมื่อฉันพบว่าตัวเองพยายามปล่อยวางแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ จึงต้องหาสิ่งอื่นมาดึงความสนใจ…

ฉันรวบรวมสมาธิเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจโดยการโทรศัพท์ถึงแม่ แล้วก็พบว่ามันช่วยบรรเทาความฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี แม่บอกให้แวะไปเยี่ยมป้ามณี ญาติผู้ใหญ่ที่ฉันเคยอาศัยอยู่ด้วยสมัยที่เข้ามาเรียนกรุงเทพฯ ใหม่ๆ เพราะตอนนี้ป้ามณีอยู่คนเดียว เนื่องจากลูกสาวของป้ามณีที่อายุน้อยกว่าฉันสองสามปีเพิ่งหนีตามผู้ชายไปเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว

ไม่อยากเชื่อเลยว่าสมัยนี้ยังมีผู้หญิงที่ตัดสินใจหนีตามผู้ชายอยู่อีก ฉันจำได้ว่า ‘พิมล’ ลูกสาวของป้ามณีเป็นเด็กสาวที่เรียบร้อยมาก ตอนฉันอาศัยอยู่ด้วยเราไม่ค่อยสนิทกัน เพราะพิมลชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ เพื่อทำงานศิลปะที่เธอหลงใหล ฉันไม่ค่อยเข้าใจความเป็นพิมลมากนัก แต่ก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะกล้าทำเรื่องแบบนั้น… หรือจริงๆ แล้วอาการของฉันที่เกิดจากเควิน ไม่ได้ผิดปกติจนอาจเป็นโรคจิตเภทอย่างที่นึกกลัว เพราะการตกหลุมรักใครสักคนจนขาดสติ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปและยากที่จะควบคุมความรู้สึก เพียงแต่ว่าอาการของฉันอาจจะออกแนวเก็บกดมากเกินไปเท่านั้นเอง…

ตกลงว่าวันนี้ฉันจะออกไปเยี่ยมป้ามณี แต่ก่อนออกไปต้องเขียนจดหมายแนบรูปถ่ายเพื่อส่งถึงพ่อกับแม่ด้วย เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว ทั้งสองคนคงดีใจถ้าได้เห็นรูปถ่ายที่ฉันดูสุขภาพดีมีความสุขแบบนี้ มันเป็นรูปที่เควินถ่ายให้ตอนเขามาขอความช่วยเหลือจากเราในวันนั้น เป็นรูปที่มีฉันกับต้าและฝ้ายนั่งเรียงกันที่โซฟา ตอนที่ถูกเควินมองผ่านเลนส์กล้องดิจิตอล ฉันตื่นเต้นมาก ประหม่าจนมือเย็นไปหมด แล้วก็เขินจนแก้มแดงเปล่งปลั่งแบบมีเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดีสุดๆ ไปเลยไหมล่ะ

“นั่นแกจะไปไหน เควินกำลังมาแล้วนะ เขาเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้” ต้าที่ตอนนี้มาอยู่ในห้องฝ้ายแล้ว ร้องโวยวายออกมาทันทีเมื่อเห็นฉันเดินออกจากห้องนอนในลักษณะที่เดาได้ว่ากำลังจะออกไปข้างนอก

“สรุปว่าตอนนี้ปูไม่ได้ชอบเควินแล้วจริงๆ เหรอ” ฝ้ายทำหน้าเศร้า เสียงหวานใสฟังดูหดหู่จนฉันพลอยห่อเหี่ยวไปด้วย

ฉันฝืนยิ้มอย่างที่ทำให้รู้ตัวว่ากำลังอาการหนัก… “แม่บอกให้ไปเยี่ยมป้าที่บ้าน แกมีปัญหานิดหน่อย แล้วฉันก็ไม่ได้ไปเจอป้าตั้งนานแล้วด้วย”

เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยของเรา หัวใจฉันระทึกขึ้นมาอย่างน่ากลัวทันที เพราะเดาได้ว่าเป็นเควินแน่นอน

“มาเร็วจัง” ต้าอุทานออกมาด้วยท่าทางดีใจ หล่อนหันมาทางฉันด้วยสีหน้ายิ้มๆ เหมือนดีใจที่ตัวเองเป็นผู้ชนะ คงคิดว่าพอเห็นหน้าเควินแล้วฉันจะระทดระทวยและยอมเปลี่ยนใจไม่ไปหาป้าแล้ว

ต้าไปเปิดประตูให้เควินซึ่งมาพร้อมกับน้องชายของเขา ฉันเคยเห็น ‘เจอเรมี่’ ตามหน้านิตยสารกับโฆษณาทีวีบ่อยๆ ตัวจริงเขาดูทะเล้นสดใส และน่าจะช่างพูดกว่าพี่ชายหลายเท่า

“คุณปูจะออกไปไหนหรือครับ” เควินถามเมื่อเห็นฉันยืนถือรองเท้าและกระเป๋า ทำท่าเตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่ฉันยังไม่ทันได้อ้าปากก็โดนต้าพูดตัดหน้า

“จริงๆ ธุระแกก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไรนี่นา เอางี้ ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้จะไปหาป้าแกเป็นเพื่อน วันนี้อยู่คุยกับเควินก่อนดีกว่า นะ” ต้าพูดพลางเดินมาแย่งรองเท้ากับกระเป๋าฉันไปหน้าตาเฉย แล้วก็ยื่นหน้ามากระซิบขู่ที่ข้างหู “อย่าได้ขัดใจฉันเชียวนะ!”

เควินเอาโปรแกรมสำเร็จรูปที่ยืมไปมาคืน แล้วเอาบัตรวีไอพีของคอนเสิร์ตครบรอบยี่สิบปีของค่ายเพลงต้นสังกัดมาให้เราเป็นการขอบคุณ ตอนที่เควินยื่นบัตรให้นั้น ฉันรีบเอื้อมมือไปรับอย่างไวด้วยความลืมตัว แววตาที่ใช้มองเขาเป็นประกายระยับด้วยความยินดี แต่มันก็ดับวูบไปทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นแววขบขันของยายต้า สีหน้าหล่อนเหมือนกำลังบอกว่า เห็นไหมล่ะ ฉันว่าแล้ววว

ครั้งก่อนเควินก็เห็นแล้วว่าฉันไม่ค่อยพูด เพราะหนักไปทางชอบคิดในใจ… คราวนี้เขาก็คงไม่ผิดสังเกตเท่าไหร่ที่ฉันเอาแต่เงียบกริบ แต่เจอเรมี่ดันมีความมุ่งมั่นจะที่จะชวนฉันคุยมากเสียจนต้ากับฝ้ายมองมายิ้มๆ อย่างจับผิด แล้วก็หยอกเย้าเป็นระยะกันจนฉันปั้นหน้าไม่ถูก ฉันนึกอยากขอตัวออกไปหาป้าแต่ก็โดนต้ากับฝ้ายกันท่าจนไม่มีจังหวะให้ทำได้

เจอเรมี่อายุยี่สิบปี เขาพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงแปร่งหูเล็กน้อย รูปลักษณ์โดยรวมดูไม่ค่อยแตกต่างจากเควินที่อายุยี่สิบสามปีมากนัก พวกเขาเป็นพี่น้องที่มีความแตกต่างทางสรีระค่อนข้างน้อย แต่ดูเหมือนว่านิสัยใจคอจะไม่เหมือนกันเลย เควินค่อนข้างเงียบขรึมและขี้อายเมื่อเทียบกับน้องชาย แต่อาจจะด้วยความเป็นคนดังและต้องทำงานในวงการบันเทิง เลยทำให้เขายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเดิมมาเป็นคนที่เฟรนด์ลี่และคุยเก่งขึ้น ซึ่งมันทำให้เขาดูมีชีวิตชีวาและเจิดจ้ามาก โดยเฉพาะตอนปรากฏตัวในที่สาธารณะและตามสื่อต่างๆ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Miracle··· ปาฏิหาริย์นี้แด่เธอ

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com