ตอนแรกฉันฟังแล้วไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอค่อยๆ ย่อยข้อมูลต่างๆ จากคำพูดเควินแล้วก็เลยเริ่มจะเดาออกว่าเควินกำลังเข้าใจผิดว่าฉันกับเจอเรมี่เป็นแฟนกันจริงๆ พอตอนนี้เขาเห็นเจอเรมี่ไปควงกับโดนิต้า ก็เลยเป็นห่วงว่าน้องชายตัวเองกำลังนอกใจฉัน…
“จริงๆ แล้วเรื่องส่วนตัวของเจมันไม่ได้เกี่ยวกับฉันแล้วล่ะค่ะ อย่าไปพูดอะไรกับเจเลยนะคะ”
เควินเลิกคิ้ว “หมายความว่าคุณจะปล่อยให้เป็นแบบนี้โดยไม่เอาเรื่องเจเลยหรือครับ”
“ค่ะ ก็น่าจะอย่างนั้น” ฉันยิ้มอย่างแห้งแล้ง ไม่อยากอธิบายอะไรมากไปกว่านี้ให้ยิ่งยุ่งยากสับสน
“เรื่องเอ็มวี คุณคิดว่าคุณต้ากับคุณฝ้ายจะตกลงไหมครับ”
เควินหาหัวข้อใหม่มาสนทนาด้วย หลังจากพูดเรื่องเจอเรมี่แล้วเราก็พากันเงียบไปพักใหญ่ แต่ทำไมเขาต้องเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกนะ ฉันไม่อยากคิดถึงมันให้รู้สึกแย่อีก
“ก็น่าจะตกลงนะคะ พวกเขารู้สึกดีกับคุณมาก ทางบ้านก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะต้ากับฝ้ายไม่ใช่เด็กแล้ว ทั้งสองคนน่าจะยินดีกับประสบการณ์ที่ดีแบบนี้ด้วย”
เควินพยักหน้าและยิ้มบางๆ ฉันยิ้มตอบเขา รู้สึกดีขึ้นที่ตัวเองสามารถปรับสภาพน้ำเสียงและสีหน้าให้ดูเป็นปกติได้ ก็คือตอนนี้ฉันทำใจได้แล้วล่ะ เพราะคิดว่าความอิจฉาไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพจิต เราควรยินดีกับทุกสิ่งดีๆ ที่เพื่อนได้รับมากกว่า
“ผมไม่อยากให้เพื่อนคุณรับปากเพราะเกรงใจผมหรอกนะครับ ทางทีมงานก็ยืนยันว่าจะไม่เซ้าซี้เอาเป็นเอาตายให้ทุกคนลำบากใจ อยากให้ทั้งสองมาร่วมงานด้วยความเต็มใจมากกว่า ตอนแรกผมลำบากใจมากที่ต้องมาพูดเรื่องนี้ กลัวพวกคุณจะคิดว่าเห็นแก่ผลประโยชน์ที่หวังจะใช้ภาพลักษณ์คุณต้ากับคุณฝ้ายมาช่วยโปรโมตผลงาน นี่ถ้าพวกเขาให้มาขอร้องคุณปูด้วย ผมคงลำบากใจยิ่งกว่านี้”
สีหน้าเขายิ้มละไม น้ำเสียงสุภาพน่าฟัง แต่กลับทำร้ายประสาทสัมผัสฉันได้อย่างรุนแรงเหลือเชื่อ เควินใจร้ายมากกก!
“!-?-!-?-!-?-!-?” นี่คือสภาพจิตของฉันขณะนี้ที่กำลังพยายามคิดทบทวนความหมายในคำพูดของเควินอย่างเอาเป็นเอาตาย หรือว่าจริงๆ แล้วเขาอาจยังไม่บรรลุในหลักการใช้ภาษาไทย จึงได้พูดจาแบบไม่ไว้หน้ากันเลยแบบนี้ หรือเขากำลังบอกเป็นนัยๆ ว่าโชคดีที่ทีมงานไม่เลือกฉันอีกคน เพราะเขาทำใจให้หน้าฉันไปโผล่ในเอ็มวีเขาไม่ได้!?
ทำไมต้องดูถูกและไม่เห็นคุณค่ากันขนาดนี้ด้วยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเควินจะใจร้ายถึงขั้นนี้ ฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ วูบๆ วาบๆ ไปทั้งตัวเหมือนกำลังจับไข้ ถ้าหากเผลอเครียดจนหมดสติไปดื้อๆ ตอนนี้จะน่าเกลียดหรือเปล่านะ แต่ว่าจริงๆ แล้วจิตใจฉันอ่อนแอเกินกว่าจะทนรับฟังคำพูดหยาบคายแบบนั้นจากปากของผู้ชายที่ฉันรักและชื่นชมอย่างสุดหัวใจแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
“จริงๆ แล้วผมก็อยากให้คุณปูมาเล่นเอ็มวีด้วย แต่ก็ไม่อยากทำให้ลำบากใจ เพราะคิดว่าคุณปูคงไม่ชอบอะไรแบบนี้”
ฉันมองรอยยิ้มเหมือนจงใจหว่านเสน่ห์ของเควินอย่างเย็นชา เหตุผลของเขาไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลย เพราะฉันคิดว่าถ้าเขาคิดแบบนั้นจริงก็ควรลองทาบทามฉันดูก่อน แล้วค่อยให้ฉันเป็นฝ่ายปฏิเสธ แต่ดันเมินกันแต่แรกแบบนี้ได้ลงคอ ทว่าคนอย่างเขาคงไม่เคยโดนดูถูก เลยไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนเหยียดหยามด้วยการไม่เห็นคุณค่า
“แค่เรื่องที่เจอเรมี่ทำให้คุณตกเป็นข่าวผมก็รู้สึกผิดไปด้วยมากแล้ว เลยไม่อยากให้คุณคิดว่าการรู้จักกับเราทำให้ต้องมาเจอแต่เรื่องลำบากใจ”
“ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้นหรอกค่ะ” คะแนนความปากตรงกับใจติดลบอย่างแรง “เรื่องที่เป็นข่าวนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ไม่มีใครด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใคร ก็แค่มีชื่อเล่นหลุดไปเท่านั้นเอง”
“ถ้างั้นมาเล่นเอ็มวีให้ผมด้วยได้ไหม ถ้าเขินก็เป็นนางเอกแบบไม่ต้องให้เห็นหน้าก็ได้ครับ”
เควินถามด้วยรอยยิ้มเป็นประกายเจิดจ้า ฟันขาววาววับสะท้อนแสงจนฉันแสบตา แต่คำพูดนั้นทำเอาฉันตัวแข็งไปชั่วขณะด้วยความสะเทือนใจอย่างหนัก สมองด้านมืดแปลเจตนาคำพูดนั้นไปในแง่ร้ายทันทีว่า เขากำลังแกล้งพูดแดกดันฉันอยู่ เพราะคิดว่าฉันอยากไปเล่นเอ็มวีเขาจนตัวสั่น!
ฉันโกรธเควินสุดๆ ไปเลยตอนนี้ แต่ก็ต้องทนเก็บไว้ในใจ และฝืนยิ้ม แล้วถ้าขืนฉันยังปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกับเควิน อายุคงจะสั้นลงเรื่อยๆ อย่างน่าหวาดกลัว!