บทที่ 1
เดือนมีนาคม ปี 20XX
สายฝนปรอยตกลงมายังพื้นดิน ฤดูหนาวทางตอนใต้ในปีนี้ดูเหมือนจะหนาวเป็นพิเศษ
เทศกาลตรุษจีนเพิ่งผ่านพ้นไป ทั้งบริษัทใหญ่และหน่วยงานต่างๆ เริ่มเปิดรับสมัครพนักงานรอบใหม่…แต่ทว่าสำหรับนักศึกษาส่วนใหญ่ที่เรียนสาขาภาษาจีนและวรรณคดี ข่าวการรับสมัครที่น่าตื่นเต้นที่สุดคงจะหนีไม่พ้นข่าวรับสมัครของอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำในประเทศอย่าง ‘สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ย’ ที่ปีนี้คาดไม่ถึงว่าจะประกาศรับสมัครพนักงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นต่อให้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ ฝ่ายเทคโนโลยีธุรกิจของสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยนั้น แน่นอนว่าย่อมมีผู้คนตบเท้าเข้ามาสัมภาษณ์งานกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ครึกครื้นสุดๆ
“เฮ้! เธอได้ยินข่าวไหมว่าครั้งนี้สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยเปิดรับคนเพิ่ม ดูเหมือนว่าบริษัทจะจดทะเบียนเพื่อให้มีการประเมินมูลค่าที่ดี เลยต้องการเพิ่มจำนวนพนักงานน่ะ”
“เห็นว่าจะขยายขอบเขตการทำธุรกิจด้วยนะ เลยเพิ่มตำแหน่งงานแบบนั้น…ก่อนหน้านี้สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยทำแต่วรรณกรรมแนวโบราณ นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้อยากจะบุกตลาดแนวนิยายขึ้นมา…”
“พระเจ้า! ถ้าเป็นหนังสือนิยายก็ต้องสำนักพิมพ์ซินตุ้นสิ เขาทำแนวนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าต้องการแย่งงานน่ะสิ…”
“ชู่ว! พูดเบาๆ หน่อย ฉันได้ยินมาว่ามันสอดคล้องกันกับวรรณกรรมแนวโบราณในนิตยสารรายเดือน ‘เส้นทางแห่งดวงดาว’ แล้วสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยยังทำนิยายสำหรับวัยรุ่นในนิตยสารรายเดือนเล่มใหม่อีกเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘แสงแห่งจันทรา’ อ้อๆๆ ฉันยังได้ยินมาอีกว่าทำไปแล้วเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน แถมยังเชิญโจ้วชวนมาร่วมงานด้วยนะ…”
“โอ้แม่เจ้า! โจ้วชวน! ใช่โจ้วชวนคนนั้นที่ฉันรู้จักหรือเปล่านะ ที่เขียนเรื่อง ‘บันทึกแห่งบูรพา’ อย่าบอกนะว่าเขาร่วมงานกับสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยแล้ว!!!!”
“ใช่ๆๆ…”
หนุ่มสาวจำนวนมากรวมตัวกันด้านนอกห้องประชุมของสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ย ในมือของพวกเขาถือบัตรคิวเพื่อรอการสัมภาษณ์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพิ่งมารู้จักกันตอนนี้ ในเวลานี้มีผู้คนรวมกลุ่มกันแอบกระซิบกระซาบ…จนกระทั่งมีเสียงล้อหมุนจากปลายทางเดินดังกึก…กึก…เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้การสนทนานี้หยุดลง
ผู้คนจำนวนมากเงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจแล้วมองไปยังปลายทางเดิน ปรากฏร่างหญิงสาวอายุราวยี่สิบปี เธอมีรูปร่างสูงเพรียว ไว้ผมสั้น…ผิวขาวใส อาจเป็นเพราะวิ่งมาจึงทำให้แก้มนั้นแดงเล็กน้อย ปลายจมูกเรียวเล็กแดงก่ำเพราะอากาศที่หนาวเย็น เธอมีหน้าตาหมดจด เมื่อดูรวมๆ แล้วให้ความรู้สึกว่าทุกส่วนบนใบหน้ากลมกลืนกันดีอย่างไม่ขัดตา ส่วนตาสีดำและขาวก็ตัดกันอย่างเด่นชัดจนกลายเป็นดวงตาที่เจิดจรัสเป็นพิเศษ เผยให้เห็นความน่ารักสดใสอย่างมีชีวิตชีวา
อากาศหนาวแบบนี้แต่เธอกลับสวมใส่รองเท้าบูตยาวถึงเข่า กระโปรงสั้น ด้านนอกสวมเพียงเสื้อคลุมกันลมตัวยาว ร่างกายของเธอดูช่างบอบบางนัก เมื่อเทียบกับกระเป๋าใบใหญ่ที่เธอลากมาด้วยด้านหลัง…ขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังถือเรซูเม่ เธอรีบวิ่งจ้ำอ้าวไปหาพนักงานบริษัทหยวนเยวี่ยที่กำลังแจกบัตรคิวการสัมภาษณ์ ก่อนที่จะยืนนิ่งพร้อมถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วยิ้มออกมา
“ขอโทษด้วยค่ะ ถนนที่มาจากสถานีรถไฟรถมันติด ฉันเป็นนักศึกษาที่จบจากสาขาภาษาจีนและวรรณคดี มาสัมภาษณ์ค่ะ ขอบัตรคิวให้ฉันด้วยค่ะ”
เธอเปล่งเสียงออกมาอย่างสุภาพและคล่องแคล่ว
พนักงานแจกบัตรคิวชะงักงัน ยกมือขึ้นมองนาฬิกา พบว่ายังไม่เลยเวลานัดสัมภาษณ์ ดังนั้นจึงยื่นบัตรคิวต่อไปส่งให้เธออย่างง่ายดาย ครั้นเมื่อกำลังยื่นบัตรคิวให้ สายตาเขาก็กวาดไปเห็นเรซูเม่ในมือของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว…จึงทันเห็นคอลัมน์ชื่อสกุลที่เขียนไว้เป็นตัวอักษรใหญ่ๆ สองตัวว่า ‘ชูหลี่’*
…เมื่อมองดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างเพรียวบาง ดูไม่มีพิษมีภัยต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ชื่อชูหลี่จึงเป็นชื่อที่เข้ากับภาพลักษณ์ของเธอเสียจริง
ชูหลี่รับบัตรคิวท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างเงียบงันของผู้คนรอบกาย เธอยิ้มออกมาอย่างสดใสและพยักหน้าให้กับพนักงานแจกบัตรคิว หลังจากนั้นก็ลากกระเป๋าไปยังมุมหนึ่งอย่างไม่สนใจใคร ก่อนจะหาเก้าอี้ว่างแล้วนั่งลง…
ทันทีที่เธอนั่งลง รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายวับไป แววตาถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้นและตึงเครียด ชูหลี่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาลงชื่อเข้าใช้งานคิวคิว** แล้วเข้าไปยังแชตของชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งใช้ชื่อบัญชีว่า ‘Mr. L ที่หายไป’ ก่อนจะใช้นิ้วพิมพ์อย่างรวดเร็ว…
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : ฉันมาถึงที่สัมภาษณ์แล้วนะ! คนขับแย่มากแกล้งทำเป็นไม่รู้จักทาง พาไปอ้อมจนฉันเกือบสาย ฉันก็เลยเปิดแมปนำทางเองเลย เปิดเสียงโทรศัพท์ให้ดังจนสุดเสียง…อีกสามร้อยเมตรข้างหน้าเลี้ยวซ้าย ฮ่าๆๆๆๆ คอยดูว่าคนขับยังจะกล้าขับไปทางไหนได้อีก เหอๆๆๆ แต่ตอนนี้ทุกคนมองฉันเหมือนตัวประหลาด…
เธอเงยหน้าขึ้นขณะที่พิมพ์ ค่อยๆ กวาดตาไปโดยรอบอย่างสงบนิ่ง และสายตาหลายคู่ที่ลอบมองเธอก็ถอนกลับไปทันที
ชูหลี่ยิ้มมุมปาก ก้มหน้าพิมพ์ข้อความต่ออย่างพึงพอใจ…