บทที่ 2
เธอไม่รู้ว่าใครกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องทำงานฝ่าย บ.ก. ของนิตยสารแสงแห่งจันทรา แต่อย่างน้อยเวลานี้เสียงดังก้องนั้นก็ทำเธอขวัญเสียจนแทบก้าวขาไม่ออกเลยทีเดียว…เธอจับกระเป๋าอย่างมึนงงและยืนนิ่งราวกับฝ่าเท้าหยั่งรากลึกลงไปในดิน วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังออกมาจากห้องทำงาน หญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ออก แต่จะวิ่งหนีไปจากสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ทันแล้ว เพราะคนคนนั้นก้าวมาที่ประตูไวดุจสายลม
ทั้งสองเผชิญหน้ากันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ปฏิกิริยาแรกของชูหลี่คือเธอคิดว่าคนคนนี้สูงมากเลย แต่คงสูงไม่เกินหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรหรอกมั้ง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เตี้ยมากนัก แต่ชายผู้นี้กลับสูงกว่าเธอมากเลยทีเดียว…อายุของเขาน่าจะประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี จมูกเป็นสัน ริมฝีปากบาง หน้าตาหล่อเหลาเอาการ มีเพียงนัยน์ตาสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยความโกรธและเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง จากเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ เขาดูเย่อหยิ่ง…สวมเสื้อสเว็ตเตอร์สีดำ กางเกงยีน รองเท้าบูตมาร์ติน ในมือของเขาถือเสื้อขนเป็ดสีดำที่ยังไม่ทันได้ใส่
ขณะที่เดินออกจากประตู เขาตะลึงเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นชูหลี่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
…คิดไม่ถึงว่าบนทางเดินจะมีคนอยู่
แต่ความตะลึงบวกมึนงงนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว เขาเหลือบมองไปเห็นกระเป๋าเดินทางที่อยู่ด้านหลังชูหลี่ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่ดูยุ่งเหยิงเพราะก่อนหน้านี้เธอวิ่งไปสัมภาษณ์…เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชูหลี่ถึงเข้ามาอยู่ในหัวของเขา ขณะนั้นมีเพียงคำพูดถากถางที่ฉายชัดในแววตาสีน้ำตาล เขายกมุมปากขึ้นราวกับกำลังเย้ยหยัน มองเธอด้วยหางตา จากนั้นก็หันกลับไป เหลือเพียงใบหน้าอันงดงามแต่ไร้อารมณ์ และเดินเฉียดไหล่ของเธอไป
ชูหลี่ “…”
คนคนนี้…วินาทีแรกเขายังโกรธแค้นสุดชีวิตราวกับราชสีห์ที่ถูกรุกรานอาณาเขต แต่วินาทีต่อมาเมื่อเขาลดความโกรธลงได้แล้ว…กลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกผู้เยือกเย็นและทะนงตัว
หลังจากที่สุนัขจิ้งจอกจากไป ชูหลี่ก็หันหลังเดินตามหลังสุนัขจิ้งจอกออกจากอาคารสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ย…แต่สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นขายาวและก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เธอยืนอยู่ใต้ชายคาของอาคารและพยายามใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือเรียกรถไปส่งโรงแรมที่จองไว้ ด้านนอกฝนตกมองดูแล้วขมุกขมัว ไม่เห็นแม้แต่ขนของสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นสักเส้น
…เขาทะเลาะกับ บ.ก. เรื่องจำนวนพิมพ์ครั้งแรก ถ้างั้นเขาเป็นนักเขียนเหรอ
ขณะที่กำลังคาดเดาอย่างใจลอย ชูหลี่ก็ขึ้นรถแท็กซี่มุ่งหน้ากลับโรงแรม ตอนที่นั่งอยู่บนรถก็อดไม่ได้ที่จะเข้าเวยป๋อ* ของเทพโจ้วชวนผู้เป็นนักเขียนคนดังซึ่งถูกกล่าวถึงตรงกระดานดำหน้าห้องทำงานฝ่าย บ.ก. เพื่อปลอบประโลมตนเองหลังจากเกิดเรื่องเมื่อครู่ขึ้น
โจ้วชวน : ผมได้พบกับเรื่องที่ไม่พอใจอย่างมาก ผมโกรธนะครับ แต่อันที่จริงก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองยังขยันไม่พอหรือเปล่าถึงได้ค่าตอบแทนแค่นี้ บางทีผมอาจต้องพยายามต่อไป สู้ๆ แล้วคนอื่นจะเห็นคุณค่าอย่างที่เราต้องการ
…นี่คือโพสต์ของโจ้วชวนบนเวยป๋อเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว
ถัดไปคือความคิดเห็นประเภทคำชม
‘ท่านเทพอ่อนโยนมาก’
‘พระเจ้า! นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนไม่เห็นคุณค่าของคุณ เป็นคนยังไงกันนะที่ทำให้คุณร้องไห้ QAQ’
‘ประสบเรื่องราวเหล่านี้แล้วนำมาทบทวนตัวเองก่อน คุณช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ คุณทำได้ดีมากแล้วนะ’