ไม่มีได้ยังไง?! รูปนั้นน่ะตั้งอยู่ตรงนั้นมาตลอดหลายปีเลยนะ!
“คุณแอ๊นท์”
เธอหันไปตามเสียงเรียกแผ่วๆ ของยายฝน สาวใช้ตัวดีของเธอส่งสายตาเข้าอกเข้าใจมาให้
“นี่อย่าบอกนะว่า…”
ยายฝนทำท่ารูดซิปปากแล้วก็ชี้ไปที่ลิ้นชักตู้ไม้ ขยับปากโดยไม่มีเสียงมาเป็นคำว่า ‘ฝนซ่อนไว้ให้แล้ว คุณแอ๊นท์ไม่ต้องกลัว’
อาริสาถึงกับเหม่อ เอาเถอะ…เอาเถอะ เธอยอมแพ้พระพรหมแล้ว!
นับจากวันนั้นทุกหกโมงเช้าสมาชิกของบ้านเธอก็เพิ่มมาอีกหนึ่งคน เขามักจะมากดกริ่งหน้ารั้วพร้อมกับชูถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋กรอบไม่อมน้ำมันในมือซ้าย
ขอโทษนะแมน…แอ๊นท์ขอโทษด้วย บ้านของแอ๊นท์ที่แมนสั่งไว้ว่าห้ามปล่อยให้ผู้ชายเข้าบ้าน ตอนนี้ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่!
“แน่ใจนะคะว่าวันนี้จะโชว์ฝีมือเอง” เธอยังจำได้ดีถึงการเป็นลูกมือครั้งที่แล้วของเขา ยายฝนถึงกับร้องไห้หลังต้องขัดกระทะที่ถูกเขาทำไหม้ใบนั้นจนปวดแขน ทำเอาเธอต้องปลอบใจด้วยการจ่ายค่าจ้างขัดกระทะให้ต่างหากนอกเหนือจากเงินเดือน
“อย่าดูถูกเชียวนะ ผมน่ะพ่อครัวยังต้องหลบเลย”
“ใช่ค่ะ ต้องหลบเพราะอาจถูกลูกหลงจากอาหารที่คุณทำจนตัวพองไง” เธอพูดกลั้วหัวเราะ
“ทำเป็นหัวเราะไปเถอะ พอคุณกินฝีมือผมคราวนี้แล้วจะร้องโอ้โห” เขาขยิบตา จากนั้นมือหนาก็รุนหลังอาริสาให้ออกไปจากห้องครัว “วันนี้ผมจะทำคนเดียว เจ้าหญิงไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยครับ”
ตลอดเวลาที่เธอนั่งคอย ได้ยินเสียงเคาะตะหลิวกับกระทะและเสียงสบถร้องยามที่ชายหนุ่มหลบน้ำมันจากกระทะที่กระเด็นมาโดน ไหนจะเสียงโครมครามของหม้อและจานชามที่กระทบกระแทกกันให้วุ่นวาย ไม่อยากจะจินตนาการเลยในตอนนี้ว่าครัวของเธอจะป่นปี้สักแค่ไหน อาริสาหันไปปลอบใจสาวใช้ “เอาน่าฝน มันคงไม่เละมากเท่าเมื่อวานหรอกมั้ง”
“แต่ฟังเสียงแล้วมันน่าจะตรงกันข้ามนะคุณแอ๊นท์”
“งั้นเราลองเข้าไปดูกันไหมล่ะ” หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง “ไป ไปดู”
“คุณแอ๊นท์”
“ว่า?”
“อย่าหาว่าฝนจุ้นจ้านเลยนะคะ แต่เขามาทุกวันแบบนี้…คงไม่ใช่แค่กิ๊กแล้วใช่ไหม”
“บ้า ไม่ใช่นะ”
“แปลว่าเขาคือตัวจริงเหรอคะ” ฝนถามซื่อๆ “งั้นกับคุณแมน…คุณแอ๊นท์เลิกกับทางนั้นแล้วเหรอ”