ทดลองอ่าน Our Secret รักในความลับ บทที่ 3 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Our Secret รักในความลับ

ทดลองอ่าน Our Secret รักในความลับ บทที่ 3

“นายเคยเห็นทะเลสาบซีหู** มั้ย เคยเห็นเจดีย์เหลยเฟิง*** มั้ย รู้จักสะพานต้วนเฉียว**** มั้ย”

โจวซือเยวี่ยจ้องเธอพลางยิ้มเยาะ กอดอกและพูดโดยไม่เข้าใจจิตใจเธอ “ดูเรื่องนางพญางูขาวมากไปหรือเปล่าเนี่ย!”

การสนทนาสิ้นสุดลง คุณชายน้อยไม่สนใจเธออีก

ติงเซี่ยนครุ่นคิดกับข้อสอบอยู่คนเดียว ข้อหลักๆ แทบจะผิดหมด เธอขีดฆ่าสิ่งที่คำนวณในกระดาษทดทิ้งและลองคำนวณใหม่ จู่ๆ ข้างหูก็มีเสียงดังขึ้นมาประโยคหนึ่ง

“ความจริงแล้ววิวของเทียนอันเหมิน***** ที่ปักกิ่งก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”

มือที่เขียนโจทย์ของติงเซี่ยนชะงัก เธอเงยหน้าเล็กน้อยและหันไปมองคนข้างๆ “ฮะ?”

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเหล่านี้โดยปกติแล้วคนแน่นมาก เธอเพิ่งย้ายมาไม่ถึงสองเดือน แถมงานที่บ้านก็เยอะ เยี่ยหวั่นเสียนจึงไม่ออกไปไหนง่ายๆ

ติงเซี่ยนพึมพำเบาๆ “เรียนหนังสือยังไม่รู้เรื่องเลย ยังจะไปดูวิวอะไรอีก”

“ข้างๆ มีคนเป็นๆ นั่งอยู่ทั้งคน ไม่รู้จักถาม?”

ติงเซี่ยนโต้กลับ “ชิ นายไม่เคยฟังครูสอน ถ้าฉันถามนาย นายจะรู้เหรอว่าฉันพูดอะไร”

โจวซือเยวี่ยคว้าสมุดบนโต๊ะไปเคาะหัวเธอเบาๆ ตามใจชอบ ท่าทางดูเป็นธรรมชาติมาก “ถึงไม่เรียนก็ยังเก่งกว่าเธอ”

ติงเซี่ยนใช้สายตาจ้องมองเขา ในใจกลับไม่ปฏิเสธ แถมยังรู้สึกว่าหวานหน่อยๆ

ประตูหลังห้องมีผู้ชายห้องอื่นที่รู้จักกับโจวซือเยวี่ยเดินผ่านมา เมื่อเห็นเขากำลังทะเลาะกับผู้หญิงก็ผิวปากและล้อพวกเขาสองสามคำตรงระเบียง

ติงเซี่ยนมองไปก็เห็นผู้ชายคนนั้นใช้สายตามีเลศนัยมองสำรวจพวกเขาไปมา เธอจึงรีบหันกลับมา ก้มหน้าแกล้งทำเป็นเปิดหนังสือ

โจวซือเยวี่ยพิงพนักเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเธอ

เพื่อนร่วมโต๊ะชายหญิงมัธยมปลายมักจะถูกคนอื่นล้อได้ง่าย โจวซือเยวี่ยเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ติงเซี่ยนนึกขึ้นได้ทันทีว่าแต่ก่อนตอนที่เขาเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกับคนอื่นก็ถูกล้อแบบนี้ใช่มั้ยนะ

หรือว่าเฉพาะแค่เธอ

ขณะกำลังคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงโจวซือเยวี่ยลอยมาเข้าหู “เอาข้อสอบมานี่”

ฮะ? ข้อสอบอะไร

ติงเซี่ยนทำหน้าเด๋อด๋า มองมือยาวๆ ที่หยิบกระดาษข้อสอบซึ่งเพิ่งติดเสร็จไปจากตรงหน้าเธอ และวางลงที่กึ่งกลางระหว่างสองโต๊ะ พลิกเปิดไปที่หน้าหลังแล้วชี้ตำแหน่งที่ผิด ก่อนจะใช้ปากกาวงบนข้อสอบช่วยเธอวงข้อที่ผิด หลังจากนั้นก็เขียนขั้นตอนการคำนวณตรงพื้นที่ว่างข้างๆ

“เพราะตัวคูณร่วมน้อยของสอง สาม และห้าคือสามสิบ ถ้าทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากมีเส้นทแยงมุมของลูกบาศก์เท่ากับสามสิบ มีเส้นขอบซึ่งประกอบด้วยสอง สาม และห้าเป็นจำนวนเต็มบวก ดังนั้นทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีเส้นทแยงมุมของลูกบาศก์เท่ากับเก้าสิบ เส้นขอบซึ่งประกอบด้วยสอง สาม และห้าก็น่าจะนำไปคูณด้วยสามถึงจะได้ผลลัพธ์ออกมา เธอลองดูตัวเลือกในข้อสอบ และหาค่าที่คูณด้วยสาม…

และยังมีโจทย์ข้อนี้อีก เชื่อม AD และ BC และ CD ลบเส้นเสริมอื่นๆ บนแกน x และแกน y รูปสี่เหลี่ยม ABCD ก็จะเป็นแผนภาพไดอะแกรม คำนวณหาค่าโดยตรงได้เลย…”

หลายปีหลังจากนั้นติงเซี่ยนยังนึกถึงภาพในวันนี้ได้ดี

วัยรุ่นใจร้อน คว้าข้อสอบจากมือเธอไป ช่วยอธิบายโจทย์เลขซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัดที่สุดให้เธอฟัง ใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงสีเหลืองอ่อนนอกหน้าต่างปลิวร่วงลงมา อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้น ต้นกล้าภายในใจกำลังเข้าสู่อีกฤดูพร้อมกับอากาศภายนอกหน้าต่าง

ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจว่าตัวเองไม่พอใจอะไร เธอก็แค่อิจฉาเติ้งหวั่นหวั่นที่ชอบเขาอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย จึงได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะกล้าหาญขึ้นมาบ้าง

ไม่รู้ว่าติงเซี่ยนรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าโจวซือเยวี่ยตั้งใจลดความเร็วในการอธิบายโจทย์ให้เธอฟังช้าลงเป็นพิเศษ

สุดท้ายแล้วเพื่อนร่วมโต๊ะก็มีสิทธิพิเศษมากกว่า เธอคิดเช่นนี้แล้วก็ยิ้ม

จากนั้นก็โดนปากกาเคาะศีรษะหนึ่งที “ยิ้มบ้าอะไร รีบจดสิ”

“อ้อ” ติงเซี่ยนรีบเก็บรอยยิ้มและหยิบปากกาขึ้นมาเขียนอย่างซื่อๆ แต่เธอผู้ซึ่งไม่ได้ฟังอะไรเลยก็ไม่รู้ว่าควรจะจดอะไรดี ปลายปากกาชะงักค้างอยู่กลางอากาศ แอบชำเลืองมองคนข้างๆ โจวซือเยวี่ยจึงเขกศีรษะเธอเป็นรางวัลอีกที

“เมื่อกี้ไม่ได้ฟังใช่มั้ย”

น้ำหนักมือนั้นแรงไม่ใช่น้อย เธอคลึงศีรษะและพยักหน้า “ฟังๆ”

โจวซือเยวี่ยยิ้มอย่างเย็นชา “อ้อ งั้นฉันพูดว่าอะไร”

ติงเซี่ยนพยายามเค้นสมอง แต่นึกได้เพียงประโยคท้ายสุด “นายบอกว่า…สี่เหลี่ยม ABCD ก็จะเป็นแผนภาพไดอะแกรม คำนวณหาค่าโดยตรงได้เลย…”

โจวซือเยวี่ยหัวเราะอย่างเสียดสี สีหน้ากลับมาเย็นชาอีกครั้ง “เธอเป็นปลาเค็มจริงๆ นั่นแหละ ความจำสามวินาที” พูดไปพร้อมกับเอนตัวไปข้างหลังพิงพนักเก้าอี้ มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า หัวเราะเย้ยหยันเบาๆ “เธอสอบเข้ามาได้ยังไงกัน”

เมื่อเคยชินกับความเย็นชาของเขา เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่ารับไม่ได้ ตอนนี้ติงเซี่ยนปรับตัวได้แล้ว ว่าแล้วเธอก็เล่าให้เขาฟังถึงประวัติการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมเยี่ยนซานตั้งแต่ตอนแรกอย่างเจื้อยแจ้วไม่หยุด

“นายรู้จักสวี่เคอมั้ย”

สวี่เคอ? โจวซือเยวี่ยส่ายศีรษะ

เวลาติงเซี่ยนพูดถึงสวี่เคอ สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ใบหน้าเล็กๆ แดงก่ำ ดวงตาดำขลับเป็นประกาย

“เพราะเขา ฉันถึงตัดสินใจสอบเข้าโรงเรียนมัธยมเยี่ยนซาน ความจริงแล้วตอนฉันอยู่ประถม คะแนนไม่ค่อยดี ก็เหมือนกับที่นายพูดนั่นแหละ ความจำแย่มากเป็นพิเศษ เด็กคนอื่นท่องตัวอักษรยี่สิบหกตัวได้ตั้งแต่เด็กๆ ส่วนฉันท่องอยู่เป็นเดือน แม่ชอบเอาฉันไปเปรียบกับสวี่เคอ พอเปรียบเทียบบ่อยๆ เข้าก็รู้สึกขัดแย้งในใจมาก เกลียดตัวเอง ทำไมคนอื่นเรียนได้ แต่ฉันเรียนไม่ได้ ต่อมาพอเจอสวี่เคอ เขาบอกฉันว่าโลกใบนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่คนอื่นทำได้แล้วเธอจะทำไม่ได้ การที่เธอทำไม่ได้เพราะเธอพยายามไม่มากพอ”

โจวซือเยวี่ยกอดอก ส่งเสียงฮึเบาๆ ออกมาทางจมูกอย่างไม่สนใจ

ติงเซี่ยนรู้ดีว่าคนอย่างเขาไม่สนใจคำพูดสวยหรูที่ใช้ชี้แนะการดำเนินชีวิตแบบนี้ “นายอย่าเพิ่งทำท่าไม่เชื่อ สิ่งที่สวี่เคอพูดมีเหตุผลจริงๆ เพราะคำพูดของเขา ฉันเลยตัดสินใจพยายามเป็นสองเท่าของคนปกติ คนอื่นใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ฉันก็จะใช้เวลาสองชั่วโมง”

ติงเซี่ยนคนนี้นับว่ามีความอดทนเต็มร้อยจริงๆ เธอตัดสินใจทำอะไรแล้ว แม้ว่าจะชนกำแพง เธอก็ไม่หันหลังกลับ

แต่ปรากฏว่าโจวซือเยวี่ยพูดให้เธอหมดกำลังใจอย่างไม่ทันตั้งตัว “เพราะงั้นก็เลยอ่านหนังสือถึงตีสอง? เลขก็สอบได้คะแนนแค่นี้?”

น้ำเสียงเปิดเผยตรงไปตรงมาจนทำให้เธออยากจะหาหลุมมุดหนี เธอจึงพูดเบาๆ “ก็ไม่ได้ถึงตีสองทุกวัน บางครั้งง่วงเร็วก็นอนเร็ว ถ้ามีแรงก็นอนดึกหน่อย” เหมือนเห็นเขายิ้มเล็กน้อย ติงเซี่ยนก็พึมพำไม่หยุด เสริมไปอีก “นายคิดว่าทุกคนเขาเหมือนกับนายเหรอ อ่านรอบเดียวก็รู้เรื่อง”

โจวซือเยวี่ยมองติงเซี่ยนอย่างขบขัน ขณะที่มือทั้งสองยังล้วงกระเป๋าอยู่ “เธอเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับไอคิวมนุษย์หรือเปล่า หรือเธอคิดว่าไอคิวฉันสูงกว่าปกติ จะมีก็แค่บางคนที่ไอคิวสูงกว่ามาตรฐานคนทั่วไป ที่เหลือส่วนใหญ่ไอคิวจะอยู่ในระดับมาตรฐานทั้งนั้น ไม่แตกต่างกันมาก เธอเรียนได้ไม่ดีแบบนี้ ฉันบอกได้แค่ว่าเพราะเธอยังไม่พบวิธีเรียนที่ถูกต้อง”

ดูสิ คนอัจฉริยะคนนี้พูดซะจริงจัง ถ่อมตัวเหลือเกิน

โจวซือเยวี่ยพูดจบก็โน้มตัวยื่นมือไปหยิบสมุดจดบนโต๊ะเธอที่จดไว้เต็มหน้ากระดาษ จากนั้นก็โยนลงบนโต๊ะเธออีกครั้งแล้วเก็บมือกลับไป

“บอกเธอหลายครั้งแล้ว จดบันทึกต้องเลือกจดเฉพาะที่สำคัญ จดแบบนี้สอบได้ก็แปลกแล้ว”

ติงเซี่ยนจ้องอีกฝ่ายอยู่นานราวกับกำลังทบทวนคำพูดของเขา

โจวซือเยวี่ยถูกสายตาว่างเปล่าของเธอจ้องจนขนลุก “ทำไม”

ติงเซี่ยนคิดดูแล้วก็เม้มปาก จากนั้นก็ทำท่าคำนับเขา “จากนี้ไปต้องรบกวนให้นายช่วยแนะนำหน่อยนะ”

โจวซือเยวี่ยยิ้มส่งๆ อดไม่ได้ที่จะพูดจาทำร้ายจิตใจเธอ “แต่ไอคิวเธอต่ำกว่ามาตรฐานคนทั่วไปจริงๆ พระเจ้าใจร้ายกับเธอมากอยู่นะ ปิดประตูไม่พอ ยังไม่เหลือไว้แม้แต่หน้าต่าง”

ติงเซี่ยนมองเขาอย่างงงๆ “นายหมายความว่ายังไง”

โจวซือเยวี่ยเลิกคิ้ว กลับไปทำโจทย์ต่อ หันท้ายทอยให้เธอ ปล่อยให้เธอเข้าใจความหมายเอาเอง

พระอาทิตย์ใกล้ตก ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดโชย

ผมหนาดกดำบนศีรษะส่องประกายท่ามกลางแสงอาทิตย์อันอบอุ่นที่สาดส่องเข้ามา ใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่มหล่อเหลาน่ามอง

ไม่รู้ว่าในจังหวะนั้นติงเซี่ยนไปเอาความกล้ามาจากไหน เธอยื่นมือออกไปผลักศีรษะเขาพลางกัดฟันกรอด

“นายน่ะสิที่ทั้งน่าเกลียดทั้งโง่!”

เธอแค่ต้องการจะลูบศีรษะเขาเท่านั้น เหมือนที่คาดไว้ ผมเขานุ่มดีจริงๆ

คุณชายโจวโมโห “จะเอาใช่มั้ย”

ติงเซี่ยนหดศีรษะหลบไปที่มุมผนัง เอาหนังสือบังหน้าไว้และรีบซุกเข้าไปอย่างรวดเร็ว “ไม่กล้า”

ในใจราวกับมีคนตัวเล็กๆ ถือธงโบกไปมาและตะโกนเชียร์ว่าเอาเลยๆ

อารมณ์ความรู้สึกในเวลานั้นบริสุทธิ์จริงๆ ความรักโลภโกรธหลงในตอนนั้นเป็นความรู้สึกที่แท้จริงทั้งหมด รวมถึงความมั่นใจและความรู้สึกต่ำต้อยล้วนแล้วแต่มีอยู่จริงทั้งสิ้น

เวลาเดินผ่านไป พวกเราไม่สามารถย้อนกลับไปได้ เวลาบอกกับเราว่าพวกเธอนั่นแหละที่เป็นเทพแห่งอนาคต

ติงเซี่ยนในเวลานั้นยอมรับแล้วว่าโจวซือเยวี่ยเป็นเทพ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Our Secret รักในความลับ

  • Our Secret รักในความลับ

    ทดลองอ่าน Our Secret รักในความลับ บทที่ 2

    By

    บทที่ 2 เพื่อนร่วมโต๊ะน้ำค้างนำพาให้เกิดน้ำท่วมภูเขา  การแอบรักคือการคุยเรื่องไม่มีสาระสำคัญอะไรกับเธอ แต่คุยเรื่องของเธอกับสายลมที่พัดผ่าน ...

  • Our Secret รักในความลับ

    ทดลองอ่าน Our Secret รักในความลับ บทที่ 1

    By

    บทนำ เดือนกันยายน ปี 2550 ที่แดดร้อนระอุ นักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยชิงหวา* เริ่มเข้าเรียน เมืองทั้งเมืองเวลานี้เหมือนโถเซรามิกที่อากาศไม่สามารถ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟัง...

community.jamsai.com