สิ่งที่เขาชอบไม่ใช่อาหารระดับสูง แต่เป็นเพียงแค่ไข่ต้มธรรมดา ซึ่งที่บ้านฉันมีไข่อยู่แผงหนึ่งที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดเมื่อวานเย็น แล้วตอนนั้นเอง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงราวกับหมดเรี่ยวแรง
“ท่านแม่ของข้าจากไปตั้งแต่ข้ายังเด็กมาก สิ่งที่ข้าจำได้เกี่ยวกับท่านแม่มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้น ท่านแม่ป้อนไข่ต้มให้ข้ากิน”
ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ไม่มีแม่ แต่เขาก็ยังจำเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ได้ ส่วนฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่เลยสักนิด นั่นเพราะวันที่ฉันเกิดคือวันที่แม่จากไป
“ก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะ ฉันคงทำรสชาติเดียวกับคุณแม่ของนายไม่ได้หรอก ฉันก็คือฉัน”
“ข้ารู้” น้ำเสียงของเขายิ่งอ่อนแรงลง
“แต่ฉันจะทำไข่ต้มแบบที่นายไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในโชซอนให้กินเอง”
“ไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อนในโชซอนรึ” เขาทำสีหน้าสงสัย
“ใช่ เตรียมตัวรอได้เลย”
ฉันหยิบไข่สี่ฟองออกมาจากตู้เย็น ตั้งน้ำ แล้วเตรียมกระดาษหนาๆ ตะเกียบ และหนังยางสองเส้น ระหว่างนั้นในใจก็กังวลว่าเขาอาจจะงุนงงเมื่อเห็นเตาแก๊ส จึงชำเลืองไปมองทางโต๊ะอาหาร เขายังจ้องมองป้ายหยกที่อยู่ในมือ เขาคงจะกำลังนึกถึงแม่ที่จากไปอยู่ก็ได้
ฉันเริ่มสงสารเขาเข้าแล้ว แต่ไม่อาจอยู่ดูแลเขาจนถึงตอนที่พ่อกลับมาได้ เพราะฉันต้องไปโรงเรียนกวดวิชาทว่าการทิ้งเขาไว้คนเดียวก็ไม่ต่างไปจากระเบิดเวลา
พอไข่ต้มสุกได้ที่ ฉันปอกเปลือกแล้วใช้ตะเกียบกดลงตรงกลางไข่ จากนั้นหั่นครึ่งก็จะได้เป็น ‘ไข่ต้มรูปหัวใจ’ อันแสนพิเศษจนเขาถึงกับตกตะลึง เอาแต่จ้องมองอยู่นานสองนาน ฉันรอคอยคำวิจารณ์ของเขาผู้มาจากโชซอน แต่ก่อนที่จะได้ฟังคำวิจารณ์ เขากลับใช้ตะเกียบคีบไข่ต้มใส่ปากทันที
“เป็นไง ไข่รูปร่างแบบนี้กินแล้วอร่อยกว่าใช่มั้ยล่ะ”
เขาคีบไข่ต้มเพิ่ม แล้วเงยหน้ามองมาทางฉัน
“รสชาติไม่เหมือนของท่านแม่เลย”
ใบหน้าของเขาช่างดูเฉยเมย ฉันเดาว่ามันคือความผิดหวัง
“ก็ฉันบอกแล้วไง รสชาติใครก็รสชาติมัน จะให้ทำเหมือนใครคงไม่ได้หรอก”
เขายิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยขึ้น “รูปร่างเช่นนี้เหมือนชุดสีขาวราวหิมะของหญิงสาวผู้งดงาม”
ดวงตาของฉันเบิกกว้างกับคำชมในแบบของโชซอน แน่นอนว่ายิ้มอ่อนโยนของเขานั้นทำให้ฉันถึงกับหน้าแดงบวกกับใบหน้าอันหล่อเหลาเกินมนุษย์ ยิ่งทำให้ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว
“ไม่ต้องพูดจาให้มันซับซ้อนหรอกน่า ดีก็ว่าดี ถ้างั้นๆ ก็บอกว่างั้นๆ”
“ไม่ใช่ ข้าว่ารสชาติดี ถ้ามีเกลืออีกนิดยิ่งดีกว่านี้ แต่…เกลือเป็นของหายาก…”
ฉันหยิบกระปุกเกลือที่วางอยู่ด้านในของโต๊ะอาหารขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เขาทำตาโตมองดูเกลือเต็มกระปุกด้วยความประหลาดใจ
“ที่นี่มีเกลือด้วยรึ”
“ที่นี่มีเกลือเพียบเลย ราคาก็ถูกด้วยนะ”
“ราคาถูก หมายความว่าใครๆ ก็หาได้อย่างง่ายดายอย่างนั้นรึ”
“ใช่แล้ว แต่นายต้องมีเงินซื้อนะ ฉันบอกแล้วไงว่าที่นี่คือโลกแห่งท้องฟ้า บนโลกแห่งท้องฟ้าน่ะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
“ก็ใช่…”
เขาเลื่อนจานมาขอเกลือ แล้วกินไข่ต้มอย่างเอร็ดอร่อย หลังกินเสร็จ เขาก็เดินไปดูภาพถ่ายที่ติดอยู่บนผนังของห้องนั่งเล่น ส่วนฉันก็ส่งข้อความหายูจิน รุ่นน้องที่เรียนห้องเดียวกันที่โรงเรียนกวดวิชาสอบเทียบวุฒิการศึกษา
[วันนี้พี่มีธุระ คงไปไม่ได้ ฝากบอกอาจารย์ด้วยนะ]
แล้วคำตอบก็ถูกส่งกลับมาในทันที
[พี่ลืมแล้วเหรอคะว่าวันนี้เป็นวันทดลองสอบเทียบวุฒิโดยใช้ผลรวมของทุกคน ครั้งนี้ใช้ผลคะแนนสอบของทุกคนรวมกันแล้วหารกัน ถ้าพี่ไม่มาสอบ คะแนนรวมของห้องเราคงออกมาน้อยแน่นอนเลยค่ะ]