ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 3-บทที่ 4 – หน้า 26 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 3-บทที่ 4

‘แล้วพระชายาของพระองค์ยุ่งอยู่กับการใช้เวลากับโอรสทั้งสองพระองค์หรือเพคะ ถึงแม้ว่าท่านชายจงจะเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดแต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยที่ต้องการความอบอุ่น การที่พ่อแม่ไม่ใช้เวลาร่วมกับลูกมันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะเพคะ!’

นี่เป็นเพราะที่ฉันพูดไปเมื่อวานงั้นเหรอ

แล้วสิ่งที่องค์ชายจองวอนพูดขึ้นต่อจากนั้นก็ยิ่งตอกย้ำข้อสันนิษฐานของฉัน

“ข้าเองก็คิดเหมือนกันว่าไม่ค่อยได้ใช้เวลากับจงสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นข้าจึงพยายามหาโอกาสให้มากขึ้น”

ฉันแน่ใจแล้วว่าฉันนี่แหละที่เป็นคนกระตุ้นเรื่องนี้กับองค์ชายจองวอน

 

จงดูสนุกสนานมาก คงไม่ได้ออกมาข้างนอกกับพ่อนานแล้ว ส่วนฉันเองที่นั่งเกี้ยวมากับจงก็เพิ่งได้ออกนอกวังครั้งแรกหลังจากมาโชซอนเหมือนกัน ส่วนองค์ชายจองวอนกำลังขี่ม้าตามหลังเกี้ยวของฉันกับจง

สงครามเพิ่งสิ้นสุดได้ไม่นาน ภายในเมืองหลวงจึงวุ่นวายมาก ทหารกระจายตัวอยู่ทุกหนทุกแห่งเพื่อคอยตรวจตราความปลอดภัย ฉันอยากเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกจึงเถียงกับจงเรื่องที่นั่ง เพราะถ้านั่งด้านขวาของเกี้ยวก็สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน จงกับฉันต่างก็ไม่ยอมให้แก่กัน สุดท้ายจงจึงตะโกนเรียกชื่อของฉันออกมาเสียงดังจนองค์ชายจองวอนที่ขี่ม้าอยู่ด้านหลังถึงกับขี่ม้ามาเทียบแล้วเอ่ยถาม

“เกิดเรื่องกระไรขึ้น”

พอเห็นองค์ชายจองวอน จงก็นั่งนิ่ง แม้ว่าจงจะรักองค์ชายจองวอนผู้เป็นพ่อมากแค่ไหนแต่ก็กลัวมากเหมือนกัน จงใช้นิ้วมือเล็กๆ ปิดปากแล้วทำเสียง ‘ชู่ว’ ใบหน้าน่ารักนั้นเหมือนจะบอกว่าห้ามบอกพ่อเด็ดขาด สุดท้ายฉันจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“เกิดเรื่องกระไรขึ้นกันแน่”

“ไม่มีอะไรเพคะ”

ทั้งที่บอกว่าไม่มีอะไร แต่ฉันก็ยังหัวเราะอยู่ จงจึงระเบิดเสียงหัวเราะตามไปด้วย องค์ชายจองวอนจึงไม่เซ้าซี้ถามต่อและบังคับม้ากลับที่เดิม ฉันจึงหันไปหยิกแก้มของจงด้วยความมันเขี้ยวแล้วกระซิบข้างหูเขา

“อยู่ทางซ้ายไปนะ ส่วนพี่จะอยู่ทางขวา”

สถานที่ที่องค์ชายบอกว่าเป็นที่ทำงานและพาพวกเรามานั้นคือพระราชวังชังด็อก แต่เป็นพระราชวังชังด็อกที่ถูกไฟไหม้และกำลังซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอยู่ เขาคงจะมาดูงานในฐานะเชื้อพระวงศ์ แน่นอนว่างานแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันก็ได้ เดินดูรอบๆ คอยสังเกตความคืบหน้า แต่นี่เป็นข้อแก้ตัวที่เหมาะเจาะสำหรับการหนีความสัมพันธ์อันแสนเย็นชาระหว่างสามีภรรยาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักอันคับแคบ

ระหว่างที่องค์ชายจองวอนพูดคุยกับข้าราชบริพารในหน่วยงานที่รับหน้าที่ก่อสร้างและซ่อมแซมพระราชวัง ฉันกลัวจงจะเบื่อ จึงขออนุญาตองค์ชายจองวอนเดินเล่นรอบๆ

“หม่อมฉันขออนุญาตไปเดินเล่นกับท่านชายจงนะเพคะ”

“ได้สิ”

ฉันทำความเคารพก่อนจะเดินออกมา ระหว่างนั้นมีข้าราชการคนหนึ่งเดินเข้าไปหาองค์ชายจองวอนพอดี ฉันจึงเงี่ยหูฟัง

“ยังจับแม่เสือของลูกเสือพวกนั้นไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

เสืองั้นเหรอ

พอลองรื้อฟื้นความทรงจำดู เคยได้ยินพ่อเล่าให้ฟังว่าหลังจากช่วงสงครามอิมจิน ก็มีเสือลงมาจากภูเขาทางเหนือกับภูเขาทางตะวันตก สุนัขของชาวบ้านจึงถูกเสือกินบ่อยๆ

“พี่สาว!” จงที่วิ่งไปทางสวนด้านหลังของพระราชวังชังด็อกหันมาโบกมือให้ฉัน เขาดูสนุกกับการวิ่งเล่นบนหิมะที่ยังไม่ละลาย

เด็กหนอเด็ก

แม้จะไม่ได้อยู่กับพ่อ แต่การได้อยู่ด้วยกันในที่ทำงานก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสักเท่าไหร่

“เจ้าเด็กน้อย! มาให้พี่จับซะดีๆ”

จงปาหิมะใส่ฉันแล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน ก่อนจะวิ่งหนีฉันเข้าไปในสวนลึกจนลับสายตาฉัน จงยังเด็กมาก แค่ห่างจากสายตาฉันนิดเดียว ฉันก็หัวเสียแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าจงคงแกล้งซ่อนตัวแล้วจะโผล่มาตะโกนเรียกฉัน แต่แล้วก็เงียบไป ฉันใจคอไม่ดี รีบขว้างหิมะในมือทิ้งแล้วเริ่มตะโกนเรียก

“จง! จง!”

ดูเหมือนคนงานจะรวมตัวกันอยู่ตรงจุดก่อสร้างสำคัญๆ และหน้าประตูพระราชวังเท่านั้น บริเวณสวนด้านหลังจึงเงียบเชียบมาก แม้จะเป็นตอนกลางวัน แต่อากาศเย็นยะเยือกกลับโอบล้อมรอบด้าน ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของจงเลย มีเพียงเสียงร้องของพวกนกบนท้องฟ้าที่บินผ่านมาพอดี

“จง!”

ฉันใจเสียมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องเสือที่ได้ยินมาจากข้าราชการคนเมื่อครู่พลันผุดขึ้นมาในหัว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com