ฉันแยกจากจงได้สามวันแล้ว ไม่รู้ว่าองค์ชายจองวอนใช้วิธีไหนถึงทำให้ฉันสามารถอยู่ในวังต่อไปได้ ฉันได้กินข้าวครบสามมื้อโดยไม่ต้องทำงาน ยูซังกุงจึงแสดงท่าทางไม่พอใจใส่ฉันอยู่ตลอดเวลา
แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจกับสถานะของตัวเองที่ยังไม่ถูกกำหนด ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ไม่สบายใจก็คือมันทำให้โอกาสที่ฉันจะได้พบกับองค์ชายควังแฮถูกเลื่อนออกไปอีก ฉันจะต้องเจอเขาแล้วแน่ใจด้วยตัวเองว่าเขายังจำฉันได้หรือลืมฉันไปแล้ว
แต่ตอนนี้องค์ชายควังแฮไม่ได้อยู่ในวัง ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าจึงจะครบกำหนดการไว้ทุกข์ให้พระนางอึยอินแล้วเขาก็จะได้กลับมา โดยในระหว่างนี้เขาไปๆ มาๆ เป็นครั้งคราว ซึ่งฉันที่อยู่ในสถานะที่ระบุไม่ได้นี้ไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะมาเมื่อไหร่
“คิมซังกุง เจ้าอยู่ข้างในหรือไม่”
เสียงของยูซังกุงทำให้ฉันรีบลุกขึ้นแล้วขานรับ “เจ้าค่ะ”
“ข้าจะเข้าไปนะ”
ยูซังกุงเดินเข้ามาแล้วมองฉันที่กำลังยืนทำความเคารพอย่างนอบน้อม ตอนที่เป็นซังกุงพระพี่เลี้ยงของจง เวลายูซังกุงเดินเข้ามา ฉันไม่เคยลุกขึ้นเพื่อทำความเคารพนางเลย ด้วยเหตุผลที่ว่าฉันกำลังยุ่งอยู่กับการดูแลจง แต่ตอนนี้ฉันอยู่ในสถานะที่ยังระบุไม่ได้ ฉันยังคงต้องพึ่งพาคนอื่น ดังนั้นฉันจึงต้องทำตัวสุภาพนอบน้อมเข้าไว้ ซึ่งนั่นทำให้ยูซังกุงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“ตามข้ามา”
“จะไปที่ใดหรือเจ้าคะ”
“ตำหนักของพระสนมอินบิน”
พระสนมอินบินแห่งตระกูลคิมก็คือแม่แท้ๆ ขององค์ชายจองวอนนั่นเอง
“มัวทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบตามมาอีก”
ยูซังกุงหันมาเร่ง ฉันจึงรีบเดินตามยูซังกุงไป
ทางฝั่งตะวันออกของพระราชวังชั่วคราวแห่งนี้เป็นที่ตั้งของตำหนักของเหล่าองค์ชายรวมถึงองค์ชายรัชทายาท ส่วนทางฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่ของพวกสตรี ตำหนักของพระมเหสีและพระสนมทั้งหลายจึงตั้งอยู่ที่นี่ซึ่งตำหนักของพระสนมอินบินนั้นตั้งอยู่ข้างๆ พระตำหนักของพระมเหสี
“พระสนมเพคะ ยูซังกุงมาแล้วเพคะ”
“เข้ามาได้”
น้ำเสียงอันน่าเกรงขามดังออกมาจากด้านใน เมื่อประตูถูกเปิดออก ยูซังกุงก็เดินนำหน้าเข้าไปข้างในทันที
สตรีนางหนึ่งนั่งอยู่ด้านในสุด สวมวิกผมที่มีขนาดใหญ่กว่าใบหน้าของตัวเองถึงสี่เท่า ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเครื่องประดับที่สวมใส่นั้นมีราคาแพงมาก ฉันจึงแน่ใจว่านางต้องเป็นพระสนมอินบินอย่างแน่นอน
“ถวายพระพรพระสนมเพคะ”
พอยูซังกุงทำความเคารพ ฉันก็ทำตาม
“นั่งสิ”
“เพคะพระสนม”
ยูซังกุงนั่งลง แต่ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องนั่งด้านหลังหรือด้านข้างของยูซังกุง จนยูซังกุงต้องหันมากระซิบเบาๆ ว่าให้นั่งด้านหลังตัวเอง
“น่าแปลกจริงนะ เจ้าดูเหมือนไม่รู้มารยาทในวังเอาเสียเลย”
“ขออภัยด้วยเพคะ คือว่า…นางมาจากนอกวังเพคะ…”
ฉันไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้เอาซะเลย จึงได้แต่มองพระสนมกับยูซังกุงสลับกันไปมา แล้วทันใดนั้นเอง
“ใครอนุญาตให้เจ้ามอง!”
เสียงตวาดของพระสนมทำให้ฉันรีบก้มหัวลงด้วยความตกใจ แต่ดูเหมือนคนที่ตกใจยิ่งกว่าฉันจะเป็นยูซังกุง นางก้มหมอบจนหน้าแนบกับพื้นพร้อมรีบกล่าวขอโทษขอโพย
“ขอประทานอภัยเพคะ! เจ้ามัวทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบขออภัยพระสนมอีก!”
ฉันก้มหมอบตามคำสั่งของยูซังกุง แต่ทันใดนั้นน้ำเสียงของพระสนมก็เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานอีกครั้งอย่างน่ามหัศจรรย์
“ถ้าเจ้าอยากอยู่ในวังนี้ต่อไป เจ้าจะต้องมีมารยาทและปฏิบัติตามกฎ ยูซังกุง เจ้าออกไปรอข้างนอกก่อน ข้ามีเรื่องต้องพูดกับนางผู้นี้”
“เพคะพระสนม”
ยูซังกุงออกไปแล้ว ฉันจึงต้องเผชิญหน้ากับพระสนมเพียงลำพัง แต่จะเรียกว่าเผชิญหน้าก็ไม่ถูกนัก เพราะตอนนี้ฉันกำลังก้มหมอบต่ำจนหน้าแทบจะแนบไปกับพื้นอยู่แล้ว
“องค์ชายจองวอนเป็นโอรสของข้าก็จริง แต่เขามักจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพียงลำพังและไม่เผยความในใจให้ผู้อื่นล่วงรู้ เขาปกครองทุกคนได้เป็นอย่างดีโดยมีทั้งให้รางวัลและให้บทลงโทษ แต่เขากลับชื่นชมเจ้าเป็นอย่างมาก เขาบอกว่าที่จงทำตัวเรียบร้อยมากขึ้นก็เป็นเพราะเจ้า เขาขอร้องให้เจ้าอยู่ในวังนี้ต่อทั้งที่ชายาของเขาได้ไล่เจ้าออกไปจากวังแล้ว ข้าจึงแปลกใจยิ่งนัก”
หลังจากที่พระสนมกงบินซึ่งเป็นพระมารดาแท้ๆ ขององค์ชายควังแฮเสียชีวิตไป พระสนมอินบินก็กลายเป็นพระสนมที่พระเจ้าซอนโจโปรดปรานมากที่สุด และมีอำนาจมากที่สุดเหนือพระสนมองค์ใด