ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 7 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 7

เช้าวันรุ่งขึ้น หิมะที่ตกลงมาราวกับฟ้ารั่วก็หยุดตก นางในจึงพากันรวมตัวกวาดหิมะตามลานต่างๆ ในตำหนัก พอเสร็จงานพวกนางก็เข้ามาหลบหนาวที่ทเวซอนคันในสภาพที่หน้าและมือแดงก่ำ

“เวลาอย่างนี้ข้าอยากทำงานที่ทเวซอนคันนัก” นางในคนหนึ่งยื่นมือออกไปอังตรงช่องใส่ฟืนพลางกล่าว

ฉันได้แต่ยิ้ม ถ้าพ้นฤดูหนาวไปก็ไม่มีใครแวะมาที่นี่ถ้าไม่ได้ยกสำรับมา ตลอดระยะเวลาสั้นๆ ที่นางในพวกนี้เข้ามาคลายหนาวที่นี่นั้น มันก็ทำให้ชีวิตของฉันคลายเหงาขึ้นบ้าง

“ให้ตายสิ! พวกเจ้ามาทำอะไรกันตรงนี้ องค์ชายรัชทายาทเสด็จมา ยังไม่รีบไปเตรียมของว่างต้อนรับพระองค์อีก”

ทันทีที่จองซังกุงปรากฏตัว พวกนางในก็แตกกระเจิง

“องค์…องค์ชายรัชทายาทมาหรือเจ้าคะ!”

ดูเหมือนว่าฮนจะมาที่นี่ ความสัมพันธ์ของพระสนมอินบินกับฮนไม่ค่อยดีนัก เริ่มต้นมาตั้งแต่รุ่นแม่ มีข่าวลือว่าความจริงแล้วพระสนมกงบินแม่ของฮนไม่ได้เสียชีวิตจากการเจ็บป่วย แต่เป็นเพราะคำสาปแช่งของพระสนมอินบิน ซึ่งพระเจ้าซอนโจสั่งห้ามไม่ให้ใครพูดถึงข่าวลือนี้อีก และพอมาถึงรุ่นลูก ฮนกับองค์ชายชินซอง ลูกของพระสนมอินบินก็มาเป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งองค์ชายรัชทายาท

ดังนั้นแม้พระสนมกงบินจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างฮนกับพระสนมอินบินก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย และเหตุผลที่ทำให้ฮนมาปรากฏตัวที่ตำหนักของพระสนมอินบินแต่เช้าตรู่แบบนี้คืออะไรกัน

‘หลังจากนี้ถ้าข้าอยากพบเจ้า ข้าจะไปหาเจ้าที่ตำหนักพระสนมอินบิน’

คำพูดของฮนลอยเข้ามาในหัวฉัน หรือฮนมาที่นี่เพื่อเจอฉัน ถ้าเขามาพร้อมกับองค์ชายจองวอนก็พอเข้าใจได้อยู่ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นดีมาก แต่ดูเหมือนคราวนี้องค์ชายจองวอนจะไม่ได้มาด้วย ฉันที่อยู่แต่ที่นี่จึงไม่มีทางรู้เลยว่าข้างนอกเป็นยังไงกันบ้าง

งานทุกอย่างในวันนี้ของฉันสิ้นสุดลงเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉันต้องรอให้ไฟมอดดับจนหมดเสียก่อนจึงจะกลับที่พักได้ ช่างเป็นงานที่น่าเบื่อมาก จริงๆ แล้วแค่ราดน้ำลงไปไฟก็จะดับลงทันที แต่ช่วงนี้อากาศหนาวมาก หากดับไฟด้วยน้ำเย็น ช่องใส่ฟืนก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง แล้ววันรุ่งขึ้นจะติดไฟลำบาก ฉันจึงค่อยๆ ใช้ไม้เขี่ยถ่านที่มีไฟคุอยู่โดยพยายามจะไม่ใส่ใจใบหน้าที่เปื้อนเขม่าจนดำ

ขณะที่ความมืดมิดเริ่มมาเยือน จองซังกุงก็เปิดประตูเข้ามา ฉันจึงรีบลุกขึ้นเพื่อทำความเคารพ

“ท่านซังกุง”

แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นขันทีคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเขามาก

“นางเป็นคนสุดท้ายเจ้าค่ะ”

พอจองซังกุงพูดจบ ขันทีก็มองฉันแล้วอมยิ้ม “นางในคนนี้เป็นคนสุดท้ายแล้วสินะ”

เมื่อได้ฟังเสียง ฉันก็จำได้ว่าเขาคือใคร เขาคือขันทีคนที่ให้ฉันเหยียบหลังขึ้นไปนั่งบนหลังม้าในวันที่ฉันกับฮนได้พบกันอีกครั้ง เขาเป็นขันทีของตำหนักองค์ชายรัชทายาท ฉันรู้สึกกลัวมาก ไม่อยากให้เขาจำฉันได้ อีกทั้งยังรู้สึกผิดที่เหยียบหลังของเขาด้วย

แล้วขันทีก็ยื่นอะไรบางอย่างให้ฉัน แม้ตอนนี้จะมืดแล้ว แต่มองแค่ปราดเดียวฉันก็รู้ว่ามันคือฮวังคัม

“องค์ชายรัชทายาทรับสั่งให้นำมาแจกนางในทุกคนของตำหนักนี้คนละผล”

ฮนเนี่ยนะแจกฮวังคัมแก่พวกนางในของตำหนักพระสนมอินบิน พอเห็นฉันลังเลที่จะรับ จองซังกุงก็อธิบายเพิ่มเติม

“เมื่อตอนเช้าองค์ชายรัชทายาทเสด็จมาประทานฮวังคัมให้แก่นางในทุกคนเพื่อตอบแทนที่ดูแลพระสนมอินบินเป็นอย่างดีน่ะ เจ้ารีบรับไปสิ”

องค์รัชทายาทประทานฮวังคัมให้เป็นรางวัลแก่พวกนางในของตำหนักพระสนมอินบิน มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก แต่คงมีข้ออ้างนี้เพียงข้อเดียวที่เขาจะสามารถนำฮวังคัมมาให้ฉันได้ เขาใส่ใจกับคำขอร้องของฉันถึงขนาดนี้เชียวเหรอ และนอกจากฉันจะได้กินฮวังคัมแล้ว นางในทุกคนในตำหนักนี้ยังได้กินฮวังคัมกันถ้วนหน้าอีกด้วย เขาช่างมีน้ำใจดีจริงๆ

จองซังกุงคงเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ยอมยื่นมือออกมารับจึงกล่าวขึ้นว่า “ดูท่าทางนางคงไม่ชอบฮวังคัมนะเจ้าคะ เอามาให้ข้าก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะเอาไปให้นางในคนอื่นแทน”

ฉันจึงรีบตั้งสติ “ข้าชอบฮวังคัมเจ้าค่ะ! ชอบมากเลยด้วย”

จองซังกุงมองฉันอย่างหมั่นไส้ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป ฉันมองฮวังคัมที่ฮนส่งมาให้ด้วยความพอใจ แม้จะมีแค่ลูกเดียว แต่แค่นี้ก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว

พอแน่ใจว่าจองซังกุงเดินพ้นไปแล้ว ขันทีก็หันไปมองรอบๆ ก่อนจะยื่นถุงผ้าสีขาวให้ฉัน “รีบรับนี่ไปด้วย”

ฉันรับถุงผ้าที่หนักอึ้งใบนั้นมาอย่างงุนงง

“จากองค์ชายรัชทายาท”

“อะไรหรือเจ้าคะ”

“ก็ฮวังคัมอย่างไรเล่า”

“ฮวังคัมหรือเจ้าคะ”

“องค์รัชทายาทรับสั่งให้แจกฮวังคัมแก่นางในของตำหนักนี้คนละหนึ่งผล แต่พระองค์รับสั่งว่าสำหรับเจ้าแล้วผลเดียวคงไม่พอ”

หน้าของฉันร้อนผ่าว เขาช่างเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นจริงๆ ที่ที่พักของฉันยังมีอุนจีและมียองที่แวะเวียนมาหาบ่อยๆ ส้มลูกเดียวคงไม่พอสำหรับคนสามคนแน่ๆ

“ข้าขอตัวก่อน”

พอขันทีจากไปแล้ว ฉันก็มองดูถุงฮวังคัมอยู่เนิ่นนานด้วยความซาบซึ้งใจ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com