ในห้องผู้อำนวยการ ฟางเซี่ยงเฉียนกำลังระบายความอัดอั้น
“ฉันไม่อาจจัดการพนักงานตัวเล็กๆ คนนี้ได้แล้ว มาทำงานสายทุกวันยังพอทน นี่ยังไม่ตั้งใจทำงาน ให้ทำงานอะไรก็โอ้เอ้ชักช้า”
ผู้อำนวยการหลัวอวี้นั่งฟังโดยไม่แสดงสีหน้าอะไร กำลังจะพูดอะไรต่อก็ได้รับโทรศัพท์จากเลขาฯ จึงเอ่ยขอตัวเพื่อลุกออกไปด้านนอก “คุณรออยู่ที่นี่ก่อน ผมขอตัวครู่หนึ่ง”
“ได้ค่ะ” ฟางเซี่ยงเฉียนรีบลุกขึ้นยืนส่งผู้อำนวยการเดินออกไป
เมื่อฟางเซี่ยงเฉียนไม่อยู่ในห้องออกแบบ บรรยากาศในห้องก็ผ่อนคลายขึ้นมาทันที
“นี่ เซียวเซียว ดูพาวเวอร์พ้อยต์จบหรือยัง” ฉินย่าหนานถือสมุดออกแบบเดินเข้ามาหา “มีตรงไหนไม่เข้าใจไหม”
“ภาพรวมก็เข้าใจนะ แต่สำหรับคำว่า ‘ชีวิตใหม่’ ของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ไม่ได้บอกความหมายที่ชัดเจนใช่ไหม” เซียวเซียวเปิดสมุดออกแบบของตัวเอง ขมวดคิ้วขณะมองใบเหอฮวนกับดอกซานซู่
ฉินย่าหนานยื่นหน้าเข้าไปดู เห็นว่ามีเพียงรูปเดิมสองรูปเท่านั้นจึงไม่ได้สนใจจะดูต่อ “ไม่ได้บอกอะไร คำว่า ‘ชีวิตใหม่’ สามารถตีความได้หลายอย่าง ไม่ได้หมายถึงสีชมพูดูเนียนละเอียดอ่อนแบบนั้นเหรอ อิงไปแนววัยรุ่นที่ดูสนุกสนานมีพลังล้นเหลือก็น่าจะได้นะ”
เซียวเซียวส่ายหน้า ชี้นิ้วไปที่รูปทั้งสอง “ใบเหอฮวนมีความหมายถึงการลาจาก ส่วนดอกซานซู่กลับมีความหมายถึงการเกิดใหม่ ดังนั้นคำว่า ‘ชีวิตใหม่’ น่าจะมีความหมายเกี่ยวกับการรับรู้ของชีวิตถึงจะถูก”
“การรับรู้ของชีวิต…” ฉินย่าหนานขบคิด รีบจดคำนี้ลงไปในสมุดออกแบบของตนเอง แล้วมองเซียวเซียวที่ดูเหมือนยังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะขัดจังหวะด้วยเสียงต่ำๆ “นี่แกรู้หรือเปล่า กฎเกณฑ์การให้โบนัสของพวกเราเปลี่ยนไปแล้วนะ”
“เอ๋?” เมื่อความคิดบางอย่างที่ผุดขึ้นมาถูกขัดจังหวะ เซียวเซียวก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจ พยายามคิดกลับไปถึงเรื่องเมื่อครู่ก็คิดไม่ออก จึงได้แต่ถลึงตาใส่ฉินย่าหนาน “เปลี่ยนก็เปลี่ยนสิ”
“ฉันได้ยินว่าเปลี่ยนแปลงโดยดูจากการประเมิน เหมือนกับที่ทางรัฐวิสาหกิจของอเมริกันจะให้หัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานเป็นคนให้คะแนน แกเพิ่งจะทำให้ยายแม่มดแก่นั่นโกรธ เงินโบนัสครึ่งปีนี้จะทำยังไง” ฉินย่าหนานพูดขึ้นมาอย่างกังวลใจ
“ถึงเปลี่ยนก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ทันที จะว่าไปขอให้ทำผลงานออกมาได้ดี ยายนั่นก็ไม่กล้าให้คะแนนต่ำมากหรอก ฉันไม่กลัว”
เซียวเซียวพยายามดันฉินย่าหนานให้กลับไปที่โต๊ะของตัวเอง เธอจะได้เริ่มทำงานเสียที
ฉินย่าหนานยังไม่ยอมกลับไป เพราะยังนินทาไม่จบเลยไม่มีแก่ใจจะทำงาน ดังนั้นจึงเดินไปหาจ้าวเหอผิงแล้วพูดเรื่องเงินโบนัสต่อ
ความคิดที่หายไปไม่อาจจะดึงกลับมาได้ เซียวเซียวจึงรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง เธอหันมองดูอีเมล บรรดาผู้บริหารระดับสูงในบริษัทไม่ได้ตอบอีเมลกลับมา เธอจึงไม่รู้ว่าพวกเขาเห็นหรือเปล่า แต่อย่างไรเสียอีเมลก็ส่งออกไปแล้ว ไม่อาจจะเรียกคืนมาได้ คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ เซียวเซียวจึงเลิกสนใจ กดเปิดโทรศัพท์ตั้งใจจะเอารูปสเก็ตช์ที่ทำไว้เมื่อวานถ่ายโอนเข้าไปในคอมพิวเตอร์