บทที่ 5
ตั้งแต่เปลี่ยนเวลาทำงานให้ยืดหยุ่น ฟางเซี่ยงเฉียนก็ติดตั้งเครื่องตอกบัตรที่หน้าประตูห้องออกแบบเพื่อตรวจสอบเวลาทำงานของพนักงานว่าครบแปดชั่วโมงหรือไม่
เซียวเซียวเข้าไปที่บริษัทตั้งแต่เช้าเพราะต้องการแก้ข้อกล่าวหาที่เคยได้รับ ตอนที่ตอกบัตรเพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเท่านั้น
เว็บไซต์ที่ซย่าเหยียนแนะนำทำตามที่รับปากไว้ได้จริงๆ โดยส่งรายงานมาที่อีเมลของเธอ รายงานฉบับนี้มีความละเอียดมาก ครอบคลุมถึงไอพีของหน้าม้าแต่ละราย เส้นทางการส่งข้อความวิจารณ์ เปรียบเทียบคำวิจารณ์ ถือว่าเป็นหลักฐานที่แน่นหนา และสุดท้ายยังมีเอกสารที่แนบตัวอย่างการทำธุรกรรมของบริษัทต้าเจียงที่ติดต่อกับลูกค้าอีกสามราย ซึ่งมีรูปแบบเดียวกันกับการวิจารณ์ในแง่ลบครั้งนี้
รายงานทั้งหมดมีถึงยี่สิบหน้าจึงเสียเวลาพิมพ์อยู่ครู่ใหญ่
เงินสองร้อยหยวนนี้คุ้มค่ามากจริงๆ เซียวเซียวกดยืนยันรับสินค้าทันทีแล้วให้ห้าดาวพร้อมกับคำชมเชยอีกหลายประโยค
ตอนนี้ในห้องออกแบบมีเธออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เสียงเครื่องพิมพ์ดังก้องไปทั้งห้อง
เซียวเซียวนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แล้วมองดูโต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมงานแต่ละคน
โต๊ะทำงานของจ้าวเหอผิงรกที่สุด เศษผ้า ตัวอย่างผ้า ไม้บรรทัด ดินสอ วางมั่วกันไปหมด และสิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดก็คือแก้วน้ำที่เขาดื่มทิ้งไว้หลายวันแล้วยังไม่ได้ล้างสักที แก้วกระเบื้องซึ่งเต็มไปด้วยคราบชาสกปรกนั่น
ส่วนโต๊ะทำงานของฉินย่าหนานค่อนข้างเรียบร้อย บนโต๊ะเต็มไปด้วยของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เธอไปเสาะหามาจากที่ต่างๆ กระถางพลูด่าง กระปุกออมสินรูปหมี แอ็กเซสซอรี่ของแอลวาย ไม้บรรทัดรูปแบบต่างๆ… ฉินย่าหนานเป็นคนช่างพูด เปิดเผย เวลาไม่มีงานก็มักจะเดินไปคุยกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว สนิทกับทุกคนในแผนก เจอของที่ชอบก็ขอจากอีกฝ่าย นานวันเข้าของก็กองเต็มโต๊ะ
โต๊ะทำงานของหยางเซี่ยวช่างทำแพตเทิร์นแตกต่างจากคนอื่น โต๊ะของเขาปูด้วยผ้าสักหลาด มีชอล์กวางอยู่มากมาย ในห้องออกแบบห้องหนึ่งจะมีช่างทำแพตเทิร์นคนเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อทุกคนออกแบบเสร็จแล้วจะต้องส่งแบบให้หยางเซี่ยวทำแพตเทิร์นออกมา จะว่าไปคนที่ทำงานในตำแหน่งนี้น่าจะเป็นคนที่ทุกคนในห้องออกแบบจะต้องมาเอาอกเอาใจ ทว่านิสัยของหยางเซี่ยวเป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูดจาอะไรกับใคร จึงดูแปลกแยกไม่เข้ากับทุกคน
เมื่อพิมพ์รายงานเสร็จเรียบร้อยเซียวเซียวก็เย็บเอกสารเข้าด้วยกัน ยามนั้นเองเครื่องสแกนนิ้วของห้องออกแบบก็ดังขึ้น บอกให้รู้ว่ามีคนเข้ามาทำงานแล้ว
เมื่อฟางเซี่ยงเฉียนเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเซียวเซียว ทำให้เธอต้องเช็ดแว่นตาแล้วมองอีกครั้งราวกับกำลังเห็นสิ่งประหลาด
“อรุณสวัสดิ์ค่ะหัวหน้า” เซียวเซียวยิ้มทักทาย
“อรุณสวัสดิ์” ฟางเซี่ยงเฉียนตอบรับกลับไปแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง “ทำไมถึงมาเช้านักล่ะ” เธอต้องส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้าถึงได้มาทำงานเช้าทุกวัน แต่คนที่ไม่ได้มีภาระเช่นเซียวเซียวจะมาเช้าขนาดนี้ทำไม
“มีเรื่องที่จะต้องรายงาน วันนี้เลยมาเช้าหน่อยน่ะค่ะ” เซียวเซียวถือรายงานที่พิมพ์เสร็จใหม่ๆ เดินไปข้างๆ ฟางเซี่ยงเฉียน
ฟางเซี่ยงเฉียนตากระตุก ดวงตาภายใต้แว่นตาคู่นั้นมีประกายวาบขึ้นมาเพียงชั่วครู่แล้วก็จางหายไป เธอนั่งลงแล้วมองด้วยความสนใจ ก่อนจะยกแก้วน้ำชาที่เพิ่งชงขึ้นดื่มพร้อมพยักหน้าให้เซียวเซียว “นั่งลงก่อนแล้วค่อยพูด”