วันนั้นคือวันที่เธอและแจชินตัดสินใจคบกัน แจชินเป็นฝ่ายสารภาพรักกับเธอก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ เธอตอบรับรักเขาด้วยของขวัญวันวาเลนไทน์ แล้วแบบนี้เขาจะไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นในวันนั้นได้อย่างไร
สติของซงอาเริ่มเลือนรางเพราะรู้สึกผิดคาด เหมือนถูกหักหลัง เธอหลับตาลงพิงไหล่ของฮยอนซึง
“หยุดดูเถอะครับถ้าไม่ไหว เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว”
“ไม่ ยังไม่พอเลยสักนิด”
ซงอาพิงไหล่เขา กล่าวพึมพำ เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งเธอก็มองผ่านกระจกไปที่แจชินแล้วย้ายสายตาไปหยุดที่ผู้หญิงคนนั้นซึ่งกำลังยืนตรงเพื่อวัดสัดส่วน น่าเจ็บใจที่ซงอาเองก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ชื่อโคฮโยจูใช่มั้ย”
“ครับ”
ผู้หญิงที่ชื่อโคฮโยจูเป็นนางแบบมืออาชีพ ช่วงฤดูหนาวปีที่แล้วคนที่มาเป็นนางแบบตัวรองให้นิตยสารแบรนด์กระเป๋าคอลเล็กชั่นสปริง/ซัมเมอร์ของบริษัทซงอาก็คือผู้หญิงคนนี้ เธอกับทีมแบรนด์ร่วมกันเลือกฮโยจูโดยตรง ทั้งยังเป็นฝ่ายดำเนินเรื่องการถ่ายทำอีก เธอจึงยิ่งรู้จักอีกฝ่ายดี กล่าวคือเธอเป็นคนประเคนผู้หญิงคนใหม่ให้แจชินด้วยมือของตัวเอง
“สองคนคบกันมานานเท่าไหร่แล้ว”
“ผมไม่รู้ลึกขนาดนั้นหรอกครับ แต่คำนวณดูแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่าหกเดือน อาจจะไม่ได้คุยเรื่องแต่งงานหลังจากคบกันในทันทีก็ได้ ถ้างั้น…อย่างน้อยๆ ก็น่าจะสักหนึ่งปีมั้งครับ”
แจชินนั้นใช่ว่าจะปรากฏตัวที่กองถ่ายเป็นประจำทุกครั้ง ยกเว้นกองถ่ายของซงอาที่เขาไปเยี่ยมไม่เคยขาด เป็นไปได้ว่าทั้งสองคนมีความรู้สึกบางอย่างต่อกันตั้งแต่สมัยถ่ายทำครั้งแรกเมื่อหนึ่งปีก่อน
เดี๋ยวนะ งั้นงานถ่ายทำหน้าร้อนครั้งโน้น เขาไม่ได้ไปหาฉัน แต่ไปหาผู้หญิงคนนั้นหรอกเหรอ
นางแบบโฆษณาคอลเล็กชั่นฟอล/วินเทอร์ในกองถ่ายฤดูร้อนที่ผ่านมาก็เป็นฮโยจู และตอนนั้นแจชินก็แวะมาที่กองถ่าย แต่ทันทีที่จบงานเขาบอกว่าเพื่อนขอนัดเจอด่วนเลยรีบกลับก่อน เพื่อนที่ว่านั่นคงเป็นฮโยจู หากใช่ตอนนั้นล่ะก็ ทั้งคู่น่าจะกำลังคบกันอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์
แจชินถือสัญชาติอเมริกัน เขาเล่าว่าตัวเองเรียนที่โน่นมาตลอดจนกระทั่งถึงระดับมหาวิทยาลัย เพื่อนส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนอก อีกทั้งบริษัทที่เคยทำงานส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ของเกาหลีด้วย เพื่อนๆ ที่บินมาเกาหลีเพราะเรื่องงานมักขอนัดเจอเขาแบบไม่บอกล่วงหน้า ซงอาจึงไม่เคยสงสัย เชื่อเขาทุกครั้งที่กล่าวอ้างว่าเพื่อนติดต่อมากะทันหัน เธอยิ่งไม่คิดมากเรื่องที่เขาไม่เคยแนะนำเพื่อนคนไหนให้ได้รู้จักเลยสักหนด้วยเหตุผลเดียวกัน ในเมื่อตารางเวลาไม่ตรงกันก็ยากที่จะเจอ เธอคิดเพียงว่าไว้คุยเรื่องแต่งงานจริงจังเมื่อไหร่ค่อยนัดกันอย่างเป็นทางการก็ได้
หรือว่าตอนครบรอบสองปี วาเลนไทน์ปีนี้ก็ด้วย
วันนั้นแจชินก็อ้างเพื่อน เพิ่งจะได้กินแค่ข้าวเย็นเขาก็รีบร้อนกลับ เป็นไปได้ว่าแจชินมีซัมธิงกับฮโยจู หรือไม่ก็คบกันแล้วเรียบร้อย ไม่ว่ามองอย่างไรเขาคงปันใจให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วแน่นอน เป็นอย่างที่ฮยอนซึงบอกไม่มีผิด เธอถูกแจชินหลอกมานานเหลือเกิน
“ฮะ…”
สิ่งที่แจชินพูดนั้นไม่รู้อะไรบ้างที่จริงและอะไรบ้างที่โกหก ความทรงจำที่มีร่วมกับเขาผุดขึ้นมาทีละเรื่องสองเรื่อง ซงอาได้แต่ถอนหายใจอย่างอดสู จู่ๆ ก็สับสนขึ้นมา ที่เขาบอกชอบเธอครั้งแรกเมื่อสามปีก่อนคล้ายเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
“ไอ้ชั่ว ถ้าจะทำแบบนี้ บอกเลิกกันซะยังดีกว่า”
เกือบปีมาแล้วที่เขาจับปลาสองมือ แต่ซงอากลับพูดไม่ออกเพราะไม่เห็นเค้าลางใดๆ ที่แจชินจะแยกทางกับเธอ เหนือไปกว่านั้นเหลือเวลาเพียงสองเดือนนิดๆ ก่อนที่เขาจะเข้าพิธีแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ทว่าเขายังคงไม่บอกอะไรเธอแม้แต่คำเดียว ที่ผ่านมาซงอาคิดว่าเธอได้รับความเอาใจใส่จากเขามากมาย ถึงตอนนี้จึงรู้ว่าไม่ใช่ เธอไม่ได้รับกระทั่งการเหลียวแลแม้สักนิดเลยต่างหาก ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่เขาเก็บเอาไว้หลอกเล่นจนสาแก่ใจ แล้วเฉดทิ้งเมื่อไม่ต้องการ
“ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง!”
ต้องไม่ใช่แบบนี้ เธอควรปรากฏตัวต่อหน้าแจชินเดี๋ยวนี้เลย อยากรู้นักว่าปากที่เพิ่งบอกรักเธอไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะพูดว่าอะไร อยากเห็นด้วยสองตาตัวเองด้วยว่าเขาจะมองหน้าผู้หญิงทั้งสองคนอย่างไร ซงอาพยายามผลักฮยอนซึงออก แต่เขากลับยิ่งกอดแน่นห้ามเธอไว้
“ทำไมดื้อขนาดนี้ครับ ออกไปแล้วจะทำยังไงต่อ”
เขาดุเธอ แต่ซงอาเองก็ไม่ยอมแพ้