“นี่เรียกว่าดื้อเหรอ เห็นแบบนั้นแล้วจะให้นั่งเขียนบทสวยๆ มีวิจารณญาณ ซ้อมบทเสร็จค่อยออกไปปรากฏตัวรึไงหา!”
“ไม่ใช่ยังงั้น ผมหมายถึงว่าควรวางแผนแก้แค้นให้ดีๆ ก่อนสิครับ โดนมาขนาดนี้ คิดว่าแค่การจิกทึ้งผม กรีดร้องจนพอใจจะทำให้อีแจชินทุกข์ร้อนได้สักกี่มากน้อยครับ ไม่แน่ผู้ชายหน้าด้านแบบนั้นอาจจะตอบว่ายังงี้ก็ดี เสร็จแล้วก็ทำท่าโล่งใจซะมากกว่า”
ความดึงดันของซงอาลดลงหนึ่งระดับ ฮยอนซึงพูดถูก พอจินตนาการถึงแจชินที่น่าจะเอ่ยปากว่ายังงี้ก็ดีแล้ว หรือไม่ก็หันไปอธิบายสถานการณ์ให้ฮโยจูฟังแค่ฝ่ายเดียว ซงอาก็รู้สึกสะพรึงจนปากสั่น เธอกัดปากย้ำๆ หลับตาลง ปรับลมหายใจ ก่อนจะลืมตาใหม่อีกหน แล้วจ้องแจชินผ่านบ่าฮยอนซึง
ไม่รู้แจชินมีความสุขอะไรนักหนาถึงได้ยิ้มไม่หุบ น้ำตาซงอาแทบร่วงพรูแต่ยังฝืนกลั้นเอาไว้อย่างยากลำบาก สายตามองที่แจชิน ปากก็ขยับถามฮยอนซึง
“งั้นให้ทำยังไง จะให้ฉันจัดการยังไงล่ะ”
“จะทำตามที่ผมบอกเหรอครับ”
“พูดมาก่อน”
“งั้น…”
ซงอาแหงนมองฮยอนซึงที่จงใจเว้นจังหวะ เขาสบตาเธอครู่หนึ่ง
“ใช้ผมสิครับ”
ซงอาขมวดคิ้ว จ้องหน้าชายหนุ่มเหมือนไม่เข้าใจความหมาย
“ใช้นายเนี่ยนะ” เธอเปิดปากถามในที่สุด
“ตอนนี้รุ่นพี่ยังไม่ถูกทิ้งก็ชิงทิ้งเขาก่อนสิครับ ไหนๆ ขายหน้าต่อหน้าผมไปแล้ว ต่อจากนี้ก็อย่าให้ดูน่าสมเพชอีกเลยครับ”
“พูดแค่เนื้อๆ พอ”
“บอกไปว่าคบซ้อนกับผมอยู่ แต่เหนื่อยกับการจับปลาสองมือแล้ว เลยอยากเป็นฝ่ายขอเลิกก่อน ทำเป็นไม่รู้ว่าอีแจชินมีโลกสองใบ”
“ทำไมต้องทำเป็นไม่รู้ด้วย”
“ก็ถ้ารุ่นพี่จะจับปลาสองมือเพราะรู้ว่าอีแจชินเองก็จับปลาสองมือ เขาจะคิดว่ารุ่นพี่ทำเพราะอยากแก้แค้น มันต้องไม่ใช่แบบนั้น เหตุผลคือรุ่นพี่หวั่นไหวเพราะเจอผู้ชายที่มีเสน่ห์กว่า แค่บอกว่าเลือกผู้ชายอีกคน เขาก็จะเสียหน้าอย่างรุนแรงจนแทบคลั่ง รุ่นพี่ก็รู้นี่ครับว่าอีแจชินเป็นคนรักศักดิ์ศรีจะตาย”
อย่างที่ฮยอนซึงบอก แจชินเป็นผู้ชายที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเป็นที่สุด เขาเกิดและเติบโตบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกาในฐานะลูกชายผู้บริหารสาขาประจำบริษัทของพวกเขา แจชินเล่าอยู่เสมอว่าเขาต้องกัดฟันเอาชนะการถูกเหยียดเชื้อชาติเพื่อไม่ให้กลายเป็นผู้แพ้
“วิธีนี้จะขยี้ศักดิ์ศรีของอีแจชินได้มากกว่าวิธีไหนๆ ครับ ถ้าเกิดรู้ว่าตัวเองเป็นแค่หนึ่งในปลาสองตัวคงได้โมโหจนแทบเสียสติ ยังไงเขาก็ไม่คิดถึงความผิดของตัวเองอยู่แล้วแม้แต่นิดเดียว”
การเอาคืนแจชินด้วยวิธีนี้ซงอาเองก็มองว่าไม่เลว ปัญหาคือในหัวเธอมีเพียงคำว่า ‘แต่’ เต็มไปหมด ความจริงแม้ได้เห็นภาพจะจะคาตาก็ยังไม่อยากเชื่อ เธอทิ้งความฝันและความหวังสุดท้ายไม่ลง ซงอารู้สึกละอายที่คิดแบบนี้จึงหลุบสายตาลงหลบเลี่ยงฮยอนซึง
“ไม่เอา ไม่อยากเป็นคนประเภทเดียวกัน”
“ไม่เห็นจะเหมือนกันตรงไหนเลย รุ่นพี่โกหกเพื่อปกป้องตัวเองแค่นั้น”
“ฉันไม่อยากโกหก”
“แล้วจะไปขอเลิกยังไงครับ บอกเขาว่ารู้ความจริงทั้งหมดแล้วเหรอ คงไม่ได้คิดว่าพูดแบบนั้นแล้วอีแจชินจะทิ้งผู้หญิงอีกคนมาเลือกรุ่นพี่ใช่มั้ยครับ”
ซงอาพูดไม่ออกอีกหนเพราะถูกแทงใจดำ ฮยอนซึงเสียงแข็งขึ้นเพราะรู้ทัน
“เห็นแบบนั้นแล้วก็ยังไม่ยอมเชื่อเหรอครับ คิดว่าตอนนี้อีแจชินไม่ได้มากับคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่มาช่วยน้องสาวเลือกชุดหรือไง ออกไปเช็กให้แน่ๆ สักครั้งมั้ยล่ะครับ”
ฮยอนซึงโมโหเพราะความหวังลมๆ แล้งๆ ของซงอา เขาคว้าข้อมือเธอตั้งท่าจะบุกออกไปเดี๋ยวนี้ ซงอาสะบัดมือชายหนุ่มออกอย่างแรงเพราะกลัวการเผชิญหน้ากับแจชินต่างจากทีแรก
“ปล่อยนะ! นายเป็นใคร มีสิทธิ์อะไร”
คำว่าสิทธิ์ทำให้ฮยอนซึงชะงัก มันคือความจริง ช่วยไม่ได้ที่หัวใจเขาจะเจ็บจี๊ด แต่นี่ไม่ใช่เวลาให้เขามาแสดงออกถึงความปวดร้าวส่วนตัว ฮยอนซึงคลายแรงบีบที่มือหลังจากรู้ว่าเผลอพลั้งไป พยายามสบตาเธออย่างเป็นปกติที่สุด