“ที่นี่เป็นของนายจริงเหรอ ทำสองอาชีพรึไง”
ห้องประธานว่างเปล่า ซงอาหันซ้ายหันขวา อ่านป้ายชื่อบนโต๊ะ
“อะไรน่ะ ประธานชื่อแชจีซึงต่างหาก”
เธอเพิ่งคิดได้ว่าท่านประธานของฮาราเป็นผู้หญิง ด้วยความที่ทำงานให้ทีมโฆษณา ซงอาจึงรู้ข้อมูลในวงการแฟชั่นมากพอตัว
“ว่าแต่ เดี๋ยวนะ…แชจีซึง แชฮยอนซึง?”
ซงอามองป้ายชื่อสลับกับหน้าฮยอนซึงพลางเบิกตาโต
“เป็นอะไรกัน หรือว่าคนในครอบครัว?”
“ใช่จะไม่มีไหวพริบนี่นา แล้วทำไมเรื่องอื่นถึงได้หัวช้าขนาดนั้นล่ะครับ”
“หา? หัวช้า?”
ครั้นฮยอนซึงมองมาอย่างสงสารอีกหน ซงอาก็อารมณ์ขุ่นมัวหนักกว่าเก่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเอ้อระเหยซักไซ้ว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่เสียด้วยสิ เธอสะบัดมือชายหนุ่มออกเป็นอันดับแรก
“อะไรของนาย พูดจาประหลาดๆ แล้วที่ลากฉันมานี่ยิ่งประหลาดเข้าไปใหญ่”
“พามาเพราะมีอะไรจะให้ดูครับ”
“แล้วมันคืออะไรล่ะ ทำงานก็ดี แก้ปัญหาให้คนอื่นก็เก่ง แต่ดันพูดจาให้คนฟังต้องอึดอัดแทบตาย”
“เพราะผมไม่อยากให้เจ็บปวด ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อจะสร้างบาดแผลให้รุ่นพี่นะครับ”
ฮยอนซึงตอบทันที สายตาที่เคยมองอย่างสงสารเปลี่ยนเป็นเศร้าลึก คำพูดในวันนี้วิ่งผ่านสมองซงอาตามลำดับ เธอหวั่นใจขึ้นมาอีกหน
‘ถูกเทแล้วแน่นอนครับ รุ่นพี่ แม้จะเทียบไม่ได้เลยกับการถูกเทในอนาคตก็ตาม’
‘ระหว่างทางคิดถึงเรื่องมีความสุขเอาไว้ก็ดีนะครับ เพราะช่วงเวลาแบบนั้นอาจจะหายไปเลยสักพักใหญ่ๆ’
‘ผมแค่อยากรู้ว่าเขาชั่วขนาดไหนน่ะครับ ถ้าเคยคุยว่าจะแต่งงานกับทั้งสองฝ่ายก็ต้องถือว่าชั่วล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นปน’
หรือว่า…
ลางสังหรณ์ทำให้ซงอาเผลอกำกระเป๋าแน่น
อยากหนี!
ซงอาหันไปทางประตูทันที
“ไม่ได้นะครับ”
ฮยอนซึงรีบยืนขวางหน้า ตอนนั้นเองเสียงก๊อกๆ ก็ดังขึ้น ผู้จัดการร้านเดินเข้ามาพร้อมแซนด์วิชและน้ำผลไม้
“วางไว้บนโต๊ะเลยครับ”
ทันทีที่ผู้จัดการร้านกลับออกไป ฮยอนซึงก็ดึงข้อมือซงอาพาไปที่โต๊ะ
“กินรองท้องไว้เถอะครับ อีกเดี๋ยวรุ่นพี่อาจจะกินไม่ลงแล้ว”
ซงอาไม่ยอมนั่ง ไม่หยิบอะไรบนโต๊ะขึ้นมาทั้งนั้น เธอหลุบตามองของกินครู่หนึ่งก่อนจ้องหน้าเขา
“ฉันไม่ดู ไม่อยากเห็น”
ซงอารู้ตัวในที่สุด แต่ฮยอนซึงยังถอยไม่ได้ในตอนนี้
“ผมรู้ครับว่ามันยากและโหดร้าย แต่ยังไงก็จำเป็นต้องดูครับ ต่อให้รุ่นพี่เห็นแล้วพยายามทำใจไม่เชื่อก็ต้องดู เมื่อตาจดจำ ใจก็จะปฏิเสธท่าเดียวไม่ได้อีก”
สองคนจ้องหน้ากันอยู่เช่นนั้นประหนึ่งเล่นสงครามประสาท คงเป็นเรื่องยากเกินรับไหวเพราะแววตาของซงอาเริ่มสั่นระริกอย่างไม่อาจควบคุม เห็นดังนั้นฮยอนซึงเลยมองเธอด้วยสายตาเด็ดขาดยิ่งขึ้น
เสียงเอะอะคล้ายดังแว่วมาจากด้านนอก ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูห้องท่านประธาน
“ครับผม”
พอฮยอนซึงขานรับ ผู้จัดการร้านก็เดินเข้ามาส่งสัญญาณทางสายตา ฮยอนซึงพยักหน้าแทนคำตอบ พอผู้จัดการร้านออกจากห้อง เขาก็ดึงข้อมือหญิงสาวเบาๆ พาไปตรงผนังกรุกระจกที่ติดมู่ลี่บังสายตาไว้ จากตรงนี้สามารถมองผ่านช่องว่างระหว่างมู่ลี่ออกไปเห็นใครก็ตามที่กำลังวัดตัวและลองชุดที่ด้านนอกได้อย่างทั่วถึง
หัวหน้า…!