บทที่ 1 มีชีวิตชีวา
ปี 2006 ณ กรุงปักกิ่ง
ฤดูร้อนมาเยือนเร็วเป็นพิเศษ อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากพ้นเดือนพฤษภาคม ดวงอาทิตย์เจิดจ้าแผดเผาพื้นดิน ร้อนอบอ้าวและแห้งแล้งในตอนกลางวัน กระทั่งเข้าสู่เวลากลางคืนถึงมีลมเย็นโชยเบาๆ เป็นลักษณะของช่วงต้นฤดูร้อน
เจียงเหม่ยซีลงจากรถ MPV ของบริษัท ย่ำรองเท้าส้นสูงสิบสองเซนติเมตรเดินโซซัดโซเซตรงไปยังเขตคอนโดมิเนียมของตนเอง
เธอดื่มเหล้าไปนิดหน่อยขณะที่กินอาหารเป็นเพื่อนเจ้านายและลูกค้า สำหรับคนปกติแล้วมันเป็นปริมาณที่นิดเดียวจริงๆ แต่กลับเธอผู้มีฉายาว่า ‘เจียงสามแก้ว’ ซึ่งนั่นหมายความว่าแค่สามแก้วก็ล้มแล้ว
เจียงเหม่ยซีจำไม่ได้แล้วว่าวันนี้ตัวเองดื่มไปกี่แก้ว แต่ก็ยังฝืนเดินจากประตูใหญ่ของเขตคอนโดฯ กลับห้องได้ แค่ต้องเปลืองแรงนิดหน่อย
เขตคอนโดฯ ที่เธอพักอยู่แม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โต แต่สถาปนิกก็ออกแบบสะพานเล็กๆ พร้อมกับสายน้ำไหลคดเคี้ยวลึกเข้าไปในบริเวณพื้นที่ที่ไม่ใหญ่โตนี้จึงไม่ค่อยเป็นมิตรกับรองเท้าส้นสูงของเธอสักเท่าไรนัก
เจียงเหม่ยซีเดินหนึ่งก้าวโยกสามทีโซซัดโซเซ อาศัยสติสัมปชัญญะสุดท้ายที่เหลืออยู่น้อยนิดคลำทางไปจนถึงหน้า ‘ประตูห้อง’ ภายใต้แสงไฟสลัวเธอกดรหัสปลดล็อกอย่างยากลำบาก ผลกลายเป็นว่ามันไม่ถูก!
ลองอีกครั้ง…ยังไม่ถูก!
ครั้งที่สาม…ไม่ถูกอีกแล้ว!!
เจียงเหม่ยซีมึนงงเล็กน้อยจึงหันกลับไปมองหมายเลขชั้นบนผนังอย่างช้าๆ ชั้นแปดไม่ผิด!
ครั้งนี้เธอท่องรหัสปลดล็อกออกมาดังๆ ท่องหนึ่งตัวกดหนึ่งที แต่ก็ยังผิดอยู่ดี
วันนี้มันเป็นอะไรเนี่ย ตอนบ่ายก็ทะเลาะกับเจ้านายเพราะเรื่องงาน ตอนกินเลี้ยงเมื่อกี้ยังถูกลูกค้าแทะโลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้แม้แต่ประตูไม่รักดีนี่ก็ยังหาเรื่องเธออีก!
ในตอนที่เจียงเหม่ยซีที่มึนเมากำลังจะอาละวาด ประตูบานนี้ก็เปิดออกเองอย่างคาดไม่ถึง
คนที่เปิดประตูให้เธอเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงผอม สวมเสื้อยืดผ้าฝ้ายสีขาวหลวมโพรก กางเกงขาสั้นสีดำยาวถึงเข่า และรองเท้าแตะคีบ แต่งตัวเหมือนอยู่บ้าน ผมของชายหนุ่มยาวเล็กน้อย และเพราะเขาหันหลังให้กับแสงไฟจึงทำให้เห็นใบหน้าไม่ชัดนัก แต่ก็ยังมองเห็นดวงตาอันลึกล้ำและรูปร่างเค้าโครงของเขาได้
เจียงเหม่ยซีมองเขาอย่างงงงันไปพักหนึ่งถึงได้สติคืนมา “คุณเป็นใครน่ะ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจียงเหม่ยซี?”
เจียงเหม่ยซีอึ้งเล็กน้อยไปก่อนจะหัวเราะออกมา เกือบไปแล้ว เธอคิดว่าตัวเองมาผิดห้อง แต่เขารู้จักว่าเธอเป็นใคร ดูท่าว่าจะไม่ผิด
เธอผลักเขาแล้วเดินซวนเซเข้าไปในห้อง เดินไปพลางเตะรองเท้าออกไปพลาง “ใครให้คุณเข้ามาเนี่ย คุณนายเจียงอีกแล้วเหรอ? เดี๋ยวนี้แม่ฉันอัพเกรดบังคับนัดบอดแล้วเหรอเนี่ย ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่อยากเจอ ยังจะยัดเยียดให้เข้ามาในห้องโต้งๆ อย่างนี้เลย เกินไปแล้วนะ!”
ขณะที่กำลังพูดจู่ๆ เกิดขาของเธอก็เกิดอ่อนแรงขึ้นมาอีกครั้งจนล้มลงไปบนโซฟาทั้งตัว
ภาพตรงหน้าหมุนไปชั่วขณะ เจียงเหม่ยซีหลับตาลงทันที แค่ขยับยังไม่อยากจะขยับ
เธอได้ยินเสียงปิดประตูดังจากไกลๆ ตามมาด้วยเสียงลากรองเท้าเสียดสีกับพื้นห้องไปๆ มาๆ สุดท้ายเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดลงที่ข้างตัวเธอ
“ลุกขึ้น”
เจียงเหม่ยซีพยายามเปิดเปลือกตา เธอหรี่ตามองคนพูด ตอนนี้ในมือเขากำลังถือน้ำอยู่แก้วหนึ่ง
“ดื่มน้ำ” เขาพูด