‘อาบัง แม่สวดภาวนาให้ลูกพบความสงบในจิตใจทุกวัน ดูแลตัวเองดีๆ และอย่าลืมสวดภาวนานะ ลึกๆ ในใจแม่รู้ว่าอัลลอฮ์ให้อภัยลูกแล้ว เพราะฉะนั้นลูกต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเองด้วยนะบัง ลูกแม่ ถึงเวลาปล่อยมันไปแล้ว’
มันเป็นช่วงหน้าร้อนปี 2005 พวกเขาเป็นนักศึกษาปีสองอยู่ที่คอร์เนล และพอลชวนริเวอร์ให้ไปซานฟรานซิสโกด้วยกัน ขอร้องเหรอ บังคับให้ไปด้วยเลยต่างหาก น้องสาวคนเดียวของพอลเพิ่งเริ่มเรียนทันตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในซานฟรานซิสโก และแม่ของพวกเขาก็มาส่งน้องด้วย ทั้งยังยืนกรานให้พอลมาเจอเธอกับน้องสาวที่ซานฟรานซิสโกให้ได้ ‘แล้วก็นะพอล แม่อยากแนะนำใครคนหนึ่งให้รู้จัก’
‘ใครเหรอแม่’
‘ลูกสาวเพื่อนแม่จากบ้านซีมาตูปัง เธอเรียนที่นี่เหมือนกัน สวย ฉลาด ลูกชอบแน่นอน’
พอลไม่ชอบเลยเวลาแม่เขาทำตัวเป็นแม่สื่อ แถมเขากำลังคบหากับสาวชาวอเมริกันจากซีแอตเทิลที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอยู่แล้วด้วย แต่เขาปฏิเสธแม่ไม่ได้ ไม่มีใครปฏิเสธคุณแม่ชาวบาตัก* ได้
‘เงียบทำไม ตอบสิว่าลูกจะมา จองตั๋วเครื่องบินเลย ลูกต้องมาถึงภายในวันมะรืนนี้ เข้าใจไหม’ แม่เขาสั่ง
‘ก็ได้ แม่ ไปก็ไป’
พอลไม่อยากติดอยู่ที่นั่นคนเดียว เลยอ้อนวอนให้ริเวอร์ไปด้วยกัน
‘ฉันไม่เคยขออะไรนายมาก่อนเลยใช่ไหมล่ะ ฉันเป็นเพื่อนสนิทนายนะ ไปเถอะน่า’ พอลหงาย ‘การ์ดเพื่อนรัก’
‘ขอร้องล่ะ ริฟ ฉันไม่อยากติดอยู่ที่นั่น ต้องกระอักกระอ่วนแน่เลยว่ะ นายต้องไปเป็นผู้ช่วยฉันนะ ริฟ ไปเถอะพวก’
‘นายรู้ไหมว่าอะไรที่น่ากระอักกระอ่วน การที่ฉันโผล่ไปด้วยไง อุล นี่มันเรื่องในครอบครัว ใครเขาไปนัดหาคู่พร้อมผู้ช่วยกัน’
‘อ้อ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ฉันบอกแม่แล้วว่าจะพาเพื่อนไปด้วย โอเคนะ’
ริเวอร์ยอมไปตามคำขอของพอลจนได้ สองวันต่อมาทั้งคู่ก็บินไปซานฟรานซิสโก นาทีที่เครื่องลงจอดในบ่ายวันศุกร์ฟ้าใสวันนั้น พวกเขาตรงไปยังโรงแรมที่แม่พอลพักอยู่ทันทีตามที่แม่ต้องการ
‘ไปกินข้าวกลางวันกันก่อนดีกว่า’
ทั้งสองมาถึงร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยข้างในโรงแรม พวกเขาเจอแม่กับน้องสาวของพอลที่นั่น รวมถึงหญิงสาวที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวของพอล พอลจูบมือแม่และกอดน้องสาว ตอนเขาหันไปทางผู้หญิงคนนั้น เขาดูแปลกใจพอเห็นว่าเธอเป็นใคร ‘อ้าว เธอเองเหรอ อันดารา! โตขึ้นเยอะเลยนะ ยังจำตอนเธอวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่นกับน้องสาวฉันได้อยู่เลย มาเรียนที่นี่เหมือนกันเหรอ’
อันดาราหัวเราะ ‘ใช่ค่ะ เรียนคณะเดียวกับทิอาน่าเลย’ เธอบอก พูดถึงน้องสาวของพอล
‘ริฟ มาเจอทุกคนสิ นี่แม่ฉัน น้องสาวฉัน แล้วก็เพื่อนน้องสาวฉัน’
‘ชื่ออะไรล่ะพ่อหนุ่ม’ แม่พอลถามเขาด้วยสำเนียงบาตักชัดเจน
‘ผมชื่อริเวอร์ครับ คุณป้า’
‘ชื่อเพราะดีนะ แถมทั้งหล่อทั้งสูง เป็นอะไรเนี่ย’
ริเวอร์ไม่รู้จะตอบคำถามนั้นยังไง
‘คือแม่ฉันจะถามว่านายเป็นคนชาติพันธุ์อะไรน่ะ’ พอลอธิบาย
‘อ๋อ ผมเป็นคนปาเล็มบัง** ครับ คุณป้า’
‘อ้อ น่าเสียดาย’
ริเวอร์งงอีกรอบ
‘ถ้าเธอเป็นคนบาตักเหมือนเรา ป้าคงให้แต่งกับลูกสาวป้าแล้ว’
‘แม่ ขอล่ะ’ ทิอาน่าพูด รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา ส่วนพี่ชายเธอกลับมองแล้วหัวเราะ
‘นี่ อย่ามัวแต่หัวเราะ มานั่งตรงนี้แล้วอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวว่าที่เจ้าสาวแกก็มาแล้ว’
คราวนี้ริเวอร์เป็นฝ่ายกลั้นขำขณะมองพอลนั่งลงอย่างว่าง่ายตามที่แม่สั่ง
‘สั่งอะไรมากินสิ ป้าเลี้ยงเอง ป้ารู้ว่าเด็กมหา’ลัยอย่างพวกเธอไม่มีเงินหรอก จะสั่งอะไรก็สั่งเลย’
นี่เป็นครั้งแรกที่ริเวอร์ได้เจอครอบครัวของพอล และยังเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความใจดีซึ่งเป็นธรรมชาติของแม่ชาวบาตัก แม้พวกเธอจะขึ้นชื่อเรื่องพูดจาขวานผ่าซากจนน่าตกใจก็ตาม
‘อ้าว นั่นไง มานี่สิยัยหนู มานั่งนี่’ แม่พอลลุกขึ้นแล้วโบกมือไปทางประตูร้านที่มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ พอลกระซิบริเวอร์ทันที ‘สวยใช้ได้เหมือนกันนะ แม่ฉันเทสต์ดีนะเนี่ย คิดว่าไง ริฟ ฉันจะเอายังไงกับแม่สาวอเมริกันของฉันดี’
ริเวอร์เพียงแค่หัวเราะพลางตบไหล่พอล