The Spanish Love Deception แผนลวงสู่ห้วงรักแบบฉบับสเปน
ทดลองอ่าน The Spanish Love Deception แผนลวงสู่ห้วงรักแบบฉบับสเปน บทที่ 3
บทที่ 3
ฉันไม่ได้วาดภาพช่วงค่ำของตัวเองไว้แบบนี้เลย
ดึกแล้ว สำนักงานใหญ่ของอินเทคแทบว่างเปล่า ฉันยังมีงานที่ต้องทำซึ่งอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกสี่หรือห้าชั่วโมง และท้องไส้ฉันก็คำรามเสียงดังจนฉันชักสงสัยว่ามันกำลังจะเริ่มกินตัวเองแล้ว
“ฉิบหายแล้ว” ฉันกระซิบเมื่อตระหนักว่าจริงๆ แล้วฉันซวยมากขนาดไหน
หนึ่ง เพราะสิ่งสุดท้ายที่ฉันกินเข้าไปคือสลัดผักใบเขียวเหี่ยวๆ ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ แม้ตอนนั้นมันจะดูเป็นความคิดที่มีเหตุผลที่สุดก็ตาม เพราะงานแต่งกำลังจะมีขึ้นในอีกแค่สี่สัปดาห์เท่านั้น สอง ฉันไม่มีขนมติดตัวอยู่เลยและไม่มีเหรียญไว้หยอดตู้ข้างล่างด้วย และสาม สไลด์พาวเวอร์พ้อยต์บนหน้าจอแล็ปท็อปของฉันยังคงกะพริบใส่ฉันในสภาพกึ่งว่างเปล่า
ฉันวางมือลงบนแป้นพิมพ์ ลังเลอยู่เหนือปุ่มอยู่หนึ่งนาทีเต็ม
ข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ดึงความสนใจของฉันไป ชื่อของโรซีกะพริบวาบอยู่บนหน้าจอ ฉันปลดล็อก แล้วภาพหนึ่งก็แสดงขึ้นมาทันที
มันเป็นภาพกาแฟแฟลตไวท์นุ่มๆ ด้านบนราดด้วยฟองนมที่ทำเป็นลวดลายดอกกุหลาบสวยงาม ข้างๆ กันมีบราวนี่ทริปเปิ้ลช็อกโกแลตแวววาวอวดอยู่ใต้แสงไฟอย่างออกนอกหน้า
โรซี : มาไหม
เธอไม่จำเป็นต้องบอกชัดเจนหรือส่งที่อยู่ให้ฉันเลย ขนมเลิศรสนั่นต้องเป็นของร้านอะราวนด์เดอะคอร์เนอร์อย่างแน่นอน ร้านกาแฟสุดโปรดของเราในเมือง ฉันเริ่มน้ำลายสอทันทีที่นึกภาพตัวเองไปอยู่ในที่หลบภัยซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยกาเฟอีนบนถนนเมดิสันอเวนิวแห่งนั้น
ฉันกลั้นเสียงครางและตอบกลับไป
ลิน่า : ก็อยากนะ แต่ฉันติดงานอยู่
จุดสามจุดปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ
โรซี : แน่ใจนะ ฉันจองที่ไว้ให้แล้ว
ก่อนที่ฉันจะทันได้พิมพ์ตอบ ก็มีอีกข้อความโผล่ขึ้นมา
โรซี : ฉันได้บราวนี่ชิ้นสุดท้ายมา แต่จะแบ่งให้ ตราบใดที่เธอรีบมาด่วนจี๋ ใจฉันไม่ได้แกร่งดั่งหินผาขนาดนั้น
ฉันถอนหายใจ ก็ยังดีกว่าความเป็นจริงที่ต้องนั่งทำงานล่วงเวลาในคืนวันพุธอย่างแน่นอน แต่…
ลิน่า : ฉันไปไม่ได้ ฉันกำลังจัดการเรื่องงานวันเปิดบ้านที่ฉันบอกเธอไง ว่าแต่ฉันจะลบรูปนั้นแล้วนะ ยั่วเกิน
โรซี : โอ ไม่นะ เธอบอกฉันแค่ว่าเธอหนีมันไม่พ้นแล้ว งานจัดเมื่อไร
ลิน่า : ทันทีที่ฉันกลับมาจากสเปน *อีโมจิเจ้าสาว* *อีโมจิกะโหลก*
โรซี : ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเธอต้องทำด้วย งานเธอไม่ได้ท่วมหัวอยู่แล้วหรือไง
ใช่เลย นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันควรจะทำ งานที่ฉันถูกจ้างมาให้ทำไง ไม่ใช่มาจัดงานเปิดบ้านต้อนรับที่จะใช้เป็นข้ออ้างอวดกับคนใส่สูทเป็นโขยงที่ฉันต้องคอยป้อนอาหาร ดูแล และทำตัวเป็นมิตรด้วยเป็นพิเศษ ไม่ว่านั่นจะหมายความว่าอย่างไรก็ตาม แต่การบ่นก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันคืบหน้าไปไหน
ลิน่า : *อีโมจิไม่ขำ* มันก็อย่างงี้ล่ะนะ
โรซี : เออ ก็นะ ตอนนี้ฉันชักไม่ชอบเจฟฟ์ขนาดนั้นแล้วล่ะ
ลิน่า : นึกว่าเธอบอกว่าเขาเป็นพ่อหมาป่าเฒ่าเสียอีก *อีโมจิยิ้มกริ่ม*
โรซี : ฉันพูดแบบกลางๆ ย่ะ แต่เขาก็ดูดีสำหรับคนวัยห้าสิบแล้วก็ยังเป็นไอ้ทุเรศได้ เธอก็รู้ว่าฉันจะมองว่าพวกนั้นน่าหลงใหลเป็นพิเศษ
ลิน่า : เธอก็เป็นงั้นจริง โรซี เท็ดนั่นน่ะเป็นไอ้หน้าตูดของแท้ ดีใจที่พวกเธอสองคนไม่ได้คบกันแล้ว
โรซี : *อีโมจิอุนจิ*
ไร้ซึ่งการส่งข้อความเข้ามาเป็นระยะเวลานานพอที่ฉันจะคิดว่าบทสนทนาของเราจบลงแล้ว ก็ดี ฉันต้องลงมือทำงานงี่เง่านี้…
โทรศัพท์ฉันส่งเสียงอีกครั้ง
โรซี : โทษที สามีเจ้าของร้านเพิ่งโผล่มา ฉันเลยเสียสมาธิ #จะเป็นลม
โรซี : เขาหล่อจัง เขาเอาดอกไม้มาให้ภรรยาสัปดาห์ละครั้งด้วยนะ *อีโมจิหน้าร้องไห้*
ลิน่า : โรซาลิน ฉันกำลังพยายามทำงานอยู่นะ ถ่ายรูปมาให้ฉันดูพรุ่งนี้
โรซี : โทษที ว่าแต่เธอได้คุยกับแอรอนหรือยัง *อีโมจิหน้าครุ่นคิด* เขายังรออยู่หรือเปล่า
ฉันไม่ได้รู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อยที่จะต้องยอมรับว่าท้องไส้ของฉันทิ้งดิ่งเมื่อเธอเอ่ยถึงอะไรบางอย่างที่ฉันยังไม่ยอมให้ตัวเองได้คิดถึงอย่างไม่คาดฝันแบบนี้
คนโกหก ช่วงสองวันมานี้ให้ความรู้สึกเหมือนฉันกำลังรอคอยให้ระเบิดทิ้งโครมลงมาในตอนที่ฉันไม่ทันตั้งตัวอย่างถึงที่สุดอย่างไรอย่างนั้น
ไม่…แอรอนไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะเป็นคู่เดตไปงานแต่งไร้สาระอะไรนั่นเลยตั้งแต่วันจันทร์ โรซีก็ไม่ได้พูดเช่นกันเพราะเราแทบไม่ได้เจอกันเลยจากตารางที่แน่นเอี้ยดของเราสองคน
ลิน่า : ฉันไม่รู้เลยว่าเธอหมายถึงอะไร เขากำลังรออะไรอยู่งั้นเรอะ
โรซี : …
ลิน่า : อะไรอย่างการปลูกถ่ายหัวใจหรือไง ฉันได้ยินมาว่าเขาไม่มีนะ
โรซี : ฮ่า ตลกมาก เธอน่าจะเก็บมุกนี้ไว้เล่นตอนเธอสองคนคุยกันนะ
ลิน่า : เราจะไม่คุยกัน
โรซี : ใช่เลย เธอสองคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจ้องกันและกันอย่างเร่าร้อน *อีโมจิไฟลุก*
สีระเรื่อแผ่ขึ้นมาที่แก้มของฉันโดยที่ฉันไม่ต้องการ
ลิน่า : หมายความว่ายังไงยะ
โรซี : เธอก็รู้ว่าหมายความว่ายังไง
ลิน่า : ว่าฉันอยากจุดไฟเผาเขาบนกองฟืนเหมือนแม่มดงั้นเรอะ ถ้างั้นก็โอเค
โรซี : เขาก็อาจจะอยู่ทำงานดึกเหมือนกันนะ
ลิน่า : แล้วไง
โรซี : แล้ว…เธอก็อาจจะไปที่ห้องทำงานของเขาแล้วถลึงตาจ้องเขาในแบบที่ฉันแน่ใจว่าเขาชอบสุดๆ ได้ตลอดน่ะสิ
เดี๋ยวๆ นี่มันบ้าอะไรเนี่ย
ฉันขยับตัวบนเก้าอี้อย่างอึดอัดขณะจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความพรั่นพรึง
ลิน่า : เธอกำลังพูดบ้าอะไรอยู่ไม่ทราบ นี่กินช็อกโกแลตเยอะไปอีกแล้วใช่ไหม เธอก็รู้ว่ามันทำให้เธอหลอน *อีโมจิช็อก*
โรซี : เชิญบ่ายเบี่ยงไปเถอะ
ลิน่า : ไม่ได้บ่ายเบี่ยง ตอนนี้แค่เป็นห่วงสุขภาพเธอจริงๆ
โรซี : *อีโมจิกลอกตา*
นี่ถือเป็นเรื่องใหม่แฮะ เพื่อนฉันไม่เคยพูดตรงๆ ถึงเรื่องไร้สาระอะไรก็ตามที่เธอคิดว่าตัวเองเห็นเลย แต่เธอก็ยังคงหย่อนความเห็นไว้ตรงโน้นตรงนี้บ้างนานๆ ที
‘บรรยากาศดุดันร้อนฉ่า’ เธอเคยพูดแบบนั้นหนหนึ่ง ซึ่งฉันก็พ่นลมหายใจแรงๆ จนน้ำพุ่งออกมาจากจมูกนิดหน่อย
ฉันคิดว่าการสังเกตการณ์ของเธอมันน่าขันขนาดนั้นเลยล่ะ
ในความเห็นอันถ่อมตัวของฉัน ละครน้ำเน่าทั้งหลายแหล่ที่เธอดูนั้นเริ่มจะทำให้การรับรู้ความเป็นจริงของเธอเลอะเลือนแล้ว ให้ตาย แล้วในหมู่พวกเราสองคนซึ่งฉันก็เป็นคนสเปนด้วยนะ ฉันนั่งดูละครน้ำเน่ากับคุณยายของฉันมาตั้งแต่เล็ก แต่ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในละครพรรค์นั้นแน่นอน ไม่มีบรรยากาศดุดันร้อนฉ่าอะไรระหว่างแอรอน แบล็กฟอร์ดกับฉันทั้งนั้น ฉันไม่ได้ถลึงตาจ้องเขาในแบบที่เขาชอบสุดๆ แอรอนไม่ได้ชอบอะไรทั้งนั้น เขาทำแบบนั้นไม่ได้ตราบใดที่เขาไม่มีหัวใจ
ลิน่า : เอาล่ะ ฉันมีงานต้องทำ เพราะงั้นฉันจะปล่อยให้เธอกลับไปจิบกาแฟล่ะ แล้วก็หยุดปล้นเคาน์เตอร์ขนมซะทีนะ ฉันเป็นห่วง
โรซี : โอเค โอเค ฉันจะหยุด…ไปก่อนตอนนี้ *อีโมจิหัวใจ* โชคดีนะ!
ลิน่า : *อีโมจิหัวใจ* *อีโมจิไฟลุก*