ทดลองอ่าน คดีลับใต้หมู่ดาว เล่ม 2 บทที่ 65-66 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน คดีลับใต้หมู่ดาว เล่ม 2 บทที่ 65-66 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 66

ความรู้สึกขาดอากาศหายใจที่มาเยือนอย่างกะทันหันทำให้หลิงซูหายใจไม่ออก!

เขาเหวี่ยงขาเตะอีกฝ่ายโดยไม่ต้องคิด แต่เขาลืมไปว่าร่างกายท่อนล่างยังห่มผ้าอยู่ การเตะครั้งนี้จึงลดทอนแรงลงไปมาก

อีกฝ่ายเพิ่มแรงขึ้นอีกจนแทบจะโถมทั้งตัวลงมากดบนร่างของหลิงซู

เสี้ยววินาทีนั้น เขารู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้ามีดวงดาวสีทองพร่าพราย เกือบจะอ่อนปวกเปียกไปทั้งร่าง ทว่าสติสัมปชัญญะตึงเปรี๊ยะที่อยู่ลึกลงไปในสมองก็มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา

เขาดีดตัวเป็นร้อยเป็นพันครั้งราวกับปฏิกิริยาธรรมชาติของร่างกาย ปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้ฝึกฝนขึ้นจากการผ่านความเป็นความตายหลายต่อหลายครั้ง และมันก็เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้นับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน

หลิงซูใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางจิ้มเข้าไปที่ลิ้นปี่ของอีกฝ่าย!

ฉับพลันเหมือนกระแสไฟตรงเข้าจุดอ่อน!

ไม่ใช่ผี แต่เป็นคน

เงาตะคุ่มนั้นเจ็บปวด มันส่งเสียงร้องก่อนจะถอยไปข้างหลัง แรงที่ส่งมานั้นก็คลายลงด้วย

หลิงซูอาศัยโอกาสนี้เปิดขีดจำกัดพลังของตัวเองออก เขาดีดตัวขึ้นมาจากเตียงแล้วพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม

อีกฝ่ายถูกกระโจนเข้าใส่จนล้มลงไปทันที ทั้งคู่ลงจากเตียงมาอยู่ที่พื้น

เมื่อหลิงซูแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ผีแล้วย่อมไม่ต้องเกรงใจอีกต่อไป เขาเหวี่ยงหมัดออกไปโดยใช้แรงเก้าส่วน

แต่เมื่อหมัดพุ่งไปถึงกลางทางก็พลันหยุดชะงัก!

หลิงซูอาศัยแสงสลัวทำให้มองเห็นปืนกระบอกหนึ่ง ปากกระบอกปืนจ่ออยู่ที่หว่างคิ้วของเขา

ส่วนคนที่ถือปืนอยู่นั้น…

“เฉินเหวินต้ง!”

เดิมทีคนนี้เป็นคนขับรถที่เสิ่นสือชีส่งมาขับรถให้เหอโย่วอัน เขาไม่ได้เป็นเพียงคนขับรถเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่คอยช่วยเสิ่นสือชีทำงานสกปรกด้วย รายชื่อคนที่ต้องการลอบฆ่าซึ่งส่งให้เหอโย่วอันนั้นน่าจะไม่ใช่ฉบับแรก และคงจะไม่ใช่ฉบับสุดท้าย

หลิงซูยังจำได้อีกว่าเขาเคยคุยกับเยวี่ยติ้งถังเอาไว้ เรื่องที่เสิ่นสือชีเป็นคนค้าขายและยังเป็นถึงพวกลูกคนรวย หากรู้สึกขัดหูขัดตาใครก็แค่ให้สมุนในแก๊งไปจับคนนั้นใส่กระสอบถ่วงแม่น้ำหวงผู่ก็พอ เท่านี้ก็นับว่าเป็นการแก้แค้นที่รุนแรงที่สุดแล้ว การลงทุนไปให้พวกคนในวงการอันธพาลลอบฆ่านับว่าเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนเสียเปล่าๆ ไม่แน่ว่าหนึ่งในคนที่จะลอบฆ่าอาจมีเงาของคุณเฉิงคนนั้นพาดทับอยู่ก็เป็นได้

การตายของสาวใช้เฉียนเป็นจุดเปลี่ยนจุดหนึ่ง

เหอโย่วอันเริ่มสงสัยเฉินเหวินต้ง เธอเอาข้อสงสัยนั้นมาบอกพวกหลิงซู จากนั้นก็ยังส่งคำเตือนมาอีก บอกให้พวกหลิงซูระวังเฉินเหวินต้ง

เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยๆ เหมือนจะยืนยันคำพูดของเธอ เหอโย่วอันได้รับบาดเจ็บ เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด และวันนั้นจุดตรงใต้คานที่พังลงมาก็เป็นตำแหน่งที่คุณเฉิงยืนอยู่ก่อนหน้านั้นพอดี หลังจากนั้นเฉินเหวินต้งก็เหมือนไอน้ำลอยหายไปในฝูงชน ไม่มีร่องรอยแม้แต่น้อย

ตอนนี้เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

ไม่ได้ไปหาเหอโย่วอัน แต่ปรากฏตัวขึ้นในห้องพักผู้ป่วยของหลิงซู

“อย่าขยับ อย่าส่งเสียง ไม่อย่างนั้นฉันยิงแน่!”

น้ำเสียงโหดเหี้ยมที่จงใจกดให้เบาลงนั้นฟังดูน่ากลัวในค่ำคืนมืดมิดอันสงบเงียบ มันฟังดูคล้ายสัตว์ป่าจนตรอกตัวหนึ่ง

“ฉันไม่ขยับก็ได้” หลิงซูถอนหายใจ “แต่นายกับฉันไม่ได้มีเรื่องแค้นเคืองกัน นายฆ่าฉันแล้วจะมีประโยชน์อะไร”

“ตอนนี้ฉันโดนไล่ฆ่า!” เฉินเหวินต้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหด “มันเป็นเพราะแกทั้งนั้น!”

“พี่เฉิน นายก็มาโทษฉันเสียได้ เรื่องนี้น่ะคุณเหอไหว้วานให้ฉันตามสืบแท้ๆ เลยนะ ฉันได้รับการไหว้วาน เป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อคนอื่น แล้วฉันจะไม่ทำอย่างสุดความสามารถได้ยังไงกันล่ะ ความแค้นมีคนก่อ ทำไมนายไม่ไปหาคุณเหอแต่กลับมาหาฉันได้เล่า”

คืนนี้ไม่มีลม หลังเมฆมีพระจันทร์ นอกหน้าต่างมีแสงไฟ

แสงส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา หลิงซูเห็นว่ามือของอีกฝ่ายที่ถือปืนอยู่นั้นกำลังสั่น ไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เพราะความประหม่า

ตอนนี้เฉินเหวินต้งกำลังประหม่าอย่างมาก เนื่องจากที่หน้าผากของเขามีเหงื่อออกเล็กน้อย แม้แต่ปลายจมูกก็ยังไม่เว้น ฝ่ามือคงจะชุ่มเหงื่อจนลื่นแน่นอน

เขากำลังประหม่าเรื่องอะไร

หลิงซูคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากฆ่าเขาหรอก ไม่อย่างนั้นก็คงจะยิงเขาแต่แรกแล้ว

ไม่อยากฆ่า หมายความว่าเฉินเหวินต้งยังไม่ได้ขาดสติไปเสียทีเดียว ยังพอเหลือพื้นที่ให้ต่อรองได้บ้าง

หลิงซูไม่อยากเสี่ยงกับฝีมือการยิงปืนของอีกฝ่าย

เวลานี้เฉินเหวินต้งกำลังถอยหลังไปทีละนิด สองคนห่างกันในระยะปลอดภัย เพียงพอจะให้หลิงซูกระโจนเข้าไปโจมตีแล้วถูกอีกฝ่ายยิงตายได้

ดูจากวิธีที่เฉินเหวินต้งจับปืน อีกฝ่ายก็น่าจะเป็นมืออาชีพด้านการใช้ปืนคนหนึ่ง เมื่อครู่การใช้มือของเขาไม่เลวเลย ยิ่งพิสูจน์ได้ดีว่าเขาไม่ได้เป็นแค่คนขับรถธรรมดา

คนขับรถของดาราภาพยนตร์คนหนึ่ง มีฝีไม้ลายมือเก่งกาจเด็ดขาดขนาดนี้ ก็นับว่าตัวตนของเขาแปลกประหลาดพออยู่แล้ว

พักนี้หลิงซูนอนโรงพยาบาลหลายครั้งเข้า เขาก็ไม่อยากจะเห็นเข็มน้ำเกลือและไม่อยากดมกลิ่นยาฆ่าเชื้ออีกต่อไปแล้ว ต่อให้นางพยาบาลสวยแค่ไหนก็ไม่ไหวหรอก

ที่น่ากลัวที่สุดก็คืออีกไม่นานหลิงเหยาพี่สาวของเขาก็จะกลับมาแล้ว ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บอะไรอีกล่ะก็ คงจะต้องเจอกับคำบ่นผสมอาการร้องไห้สะอึกสะอื้นของหลิงเหยาอีกแน่ๆ

“มีอะไรก็นั่งลงพูดจากันดีๆ ดีกว่า ฉันพอจะช่วยอะไรนายได้บ้างไหมล่ะ”

หลิงซูพยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงเพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นอีกฝ่าย

“นายดูสิ ฉันยังไข้ขึ้นนอนโรงพยาบาลอยู่เลยนะ ให้ฉันใส่เสื้อทับอีกชั้นก่อนได้ไหม”

เฉินเหวินต้งไม่ขยับเขยื้อน

หลิงซูได้แต่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเรามาคุยกันก่อน ใครจะฆ่านาย เหอโย่วอันงั้นเหรอ ฉันขอคิดก่อนนะ เธอไม่น่าจะมีอิทธิพลขนาดนั้นนี่นา เสิ่นสือชีก็ตายไปแล้ว อย่างนั้นก็เหลือแค่คุณเฉิง เขาส่งคนมาฆ่านายเหรอ ทำไมล่ะ”

เขาเห็นเฉินเหวินต้งยังคงไม่ส่งเสียงเช่นเดิม แต่เขาก็พูดต่อไป

“ฉันว่านะ นายมาหาฉันกลางดึกอย่างนี้ น่าจะไม่ได้มาเพื่อเอาปืนจ่อฉันแล้วก็ยิงทิ้งในนัดเดียวหรอกใช่ไหม ชีวิตต่ำต้อยของฉันมันคงไม่ได้สำคัญสักเท่าไหร่ แต่ในใจนายมีความโกรธที่ไม่สามารถสงบลงได้ มีแต่ความเคียดแค้นอยู่เต็มอก อย่างนี้ก็คงจะหาทางออกไม่ได้แล้วล่ะ”

“…”

“คุณเฉิงเป็นคนที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่ง ถ้าเขาสั่งให้คนมาไล่ฆ่านาย อย่างนี้เรื่องก็คงไม่ง่ายแล้ว เว้นเสียแต่ว่านายจะอธิบายความเข้าใจผิดนี้ให้ชัด…”

พูดมาถึงตรงนี้หลิงซูก็พลันมีความคิดวาบขึ้นในสมอง

“เพราะฉะนั้นที่นายมาถึงโรงพยาบาลก็ไม่ได้จะมาหาฉัน แต่ว่านายจะมาหาเหอโย่วอันต่างหาก หรือว่ามาหาคุณเฉิงล่ะ คุณเหอออกจากโรงพยาบาลแล้วงั้นเหรอ นายถึงหาเธอไม่เจอแล้วมาหาฉันที่นี่แทน!”

ในที่สุดชื่อเหอโย่วอันก็ทำให้เฉินเหวินต้งมีปฏิกิริยาขึ้นมา

“ที่วันนี้ฉันร่วงลงมาถึงจุดนี้ได้ เป็นเพราะเหอโย่วอันคนเดียว! ฉันไม่ได้มีเรื่องอะไรกับคุณเฉิง แล้วก็ไม่เคยวางแผนลอบฆ่าอะไรนั่นด้วย เหอโย่วอันต่างหากที่ทำแล้วก็โยนทุกอย่างมาให้ฉัน ให้คุณเฉิงเชื่อว่าฉันเป็นหนอนบ่อนไส้คนนั้น!”

เฉินเหวินต้งมีสีหน้าเคียดแค้น ราวกับตรงหน้าของเขาคือเหอโย่วอัน

หลิงซูสังเกตได้ว่าท่าทางของเขาดูทรุดโทรมราวกับเพิ่งรอดตายมาจากสมรภูมิ อาการตื่นตระหนกยังไม่คลายลง จิตวิญญาณยังยากจะสงบได้

“ถ้าอย่างนั้นคนที่คิดจะฆ่าฉันก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่นายน่ะสิ”

เฉินเหวินต้งสะดุ้ง

“เสิ่นสือชี เขาให้ฉันทำ!”

หลิงซูว่า “ทำไมเสิ่นสือชีถึงคิดจะฆ่าฉัน”

“นายไปล่วงเกินเขาในงานเลี้ยง เขาก็เกลียดนายเข้ากระดูกดำแต่แรกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมีสกุลเยวี่ยขวางอยู่เขาก็คงฆ่านายไปนานแล้ว!”

หลิงซูไล่ถามไม่เลิกรา “แล้วเฉินโหย่วหวากับเซียวจวิ้นล่ะ สองคนนี้คนหนึ่งเป็นพนักงานบริษัทหนังสือพิมพ์ อีกคนหนึ่งเป็นช่างตัดเสื้อ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับเสิ่นสือชีสักนิด ทำไมเขาต้องฆ่าสองคนนั้นด้วย”

เฉินเหวินต้งหอบหายใจแรง แต่ไม่พูดอะไร

หลิงซูพูดต่อ “พี่เฉิน ตอนนี้คนของคุณเฉิงตามหาตัวนายให้ทั่วไปหมด เขาคงไม่ฟังนายอธิบายหรอก อีกไม่นานคุณเหอก็จะตามเขาไปไกลแล้ว อย่าว่าแต่จะไปหาเลย แม้แต่จะพูดอะไรสักคำนายก็อาจจะไม่ทันได้พูดด้วย มีแต่จะตายด้วยปืนของคนที่คุณเฉิงส่งมานั่นแหละ ถ้าตอนนี้นายยังอยากจะมีชีวิตอยู่ วิธีเดียวคือต้องบอกทุกเรื่องให้ฉันฟัง เบื้องหลังฉันมีสกุลเยวี่ย มีกรมตำรวจประจำนคร ไม่ว่ายังไงก็ยังพอจะคานกับทางคุณเฉิงได้ รักษาชีวิตนายเอาไว้ได้อยู่นะ”

หลิงซูย่อมไม่ได้มีกรมตำรวจประจำนครเป็นหลักให้พึ่งพิงอยู่แล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเยวี่ยติ้งถังจะยื่นมือมาช่วยหรือไม่ แต่เวลานี้วินาทีนี้เขาได้แต่พูดโม้ไปให้น่าเชื่อถือ ถ้าจะดึงหนังเสือมาทำธงผืนใหญ่ก็ต้องทำให้อีกฝ่ายนิ่งเสียก่อน

แต่ใครจะรู้ว่าเฉินเหวินต้งกลับไม่ซาบซึ้งกับคำพูดของเขาสักนิด

“ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้! พวกนายคานอำนาจคุณเฉิงไม่ได้หรอก! อิทธิพลของเขาไม่ใช่สิ่งที่นายจะจินตนาการได้เลย!”

หลิงซูสงสัย เขาพูดไปตามที่อีกฝ่ายพูด “ไม่หรอกมั้ง ต่อให้คุณเฉิงเส้นสายใหญ่โตแค่ไหน ยังไงก็คงมีอิทธิพลอย่างคนค้าขายคนหนึ่ง อย่างมากก็คงพอจะมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกทหารญี่ปุ่นอยู่บ้าง จะไปมีอิทธิพลคับฟ้าขนาดนั้นได้ยังไง อย่าบอกนะว่าเขาเป็นอาคนเล็กของคุณเจี่ยง เขาไม่ได้สกุลซ่ง เสียหน่อย!”

เฉินเหวินต้งหัวเราะเสียงเย็น “คุณเจี่ยงแล้วยังไง เขาไม่ได้แซ่เฉิงด้วยซ้ำ! เขาแซ่เฉิงเถียน ชื่อจริงคือเฉิงเถียนกง!”

โปรดติดตามตอนต่อไป

ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 24 มี.. 65

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com