ทดลองอ่าน คน • สื่อ • วิญญาณ เล่ม 2 บทนำ-บทที่ 1 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน คน • สื่อ • วิญญาณ เล่ม 2 บทนำ-บทที่ 1 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

ชิงหมิง* ปีที่ 23 • เส้นสมรส

 

บทนำ

เธอมีรอยยิ้มบนใบหน้า ท่าทางที่นั่งอยู่บนโซฟาก็สุดแสนจะเรียบร้อย

มีเพียงสองมือที่วางซ้อนกันบนตักพร้อมอาการหมุนแหวนแต่งงานบนนิ้วนางไม่หยุดเท่านั้นที่เผยความกระสับกระส่ายเล็กน้อยออกมา เธอรับฟังผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างเธอพูดคุยด้วยสีหน้าที่พยายามจดจ่อ แต่ในใจกลับบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าเงยหน้าขึ้นไป แค่อย่าเงยหน้าขึ้นไปก็พอ

ทว่าการคิดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เธอสัมผัสได้ถึงสายตาทิ่มแทงที่จ้องมองมาที่ตนเองตั้งแต่บนลงล่าง เธอรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งกายแต่ก็ทำได้เพียงรับมือกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเท่านั้น

“จริงสิ ครั้งก่อนป้าพูดเรื่องนั้นกับเธอแล้วใช่มั้ย” ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเข้าใจความกังวลของเธอผิดไป จึงวางมือลงบนมือของเธออย่างสนิทสนมและพูดอย่างอ่อนโยน “เธอจำได้หรือเปล่า”

เจิ้งหมินซินใจเต้นขึ้นมาทันใดพร้อมพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ฝ่ามือของผู้หญิงที่กดลงบนมือของเธอเย็นเฉียบ แถมยังเหนียวเหนอะหนะเพราะความชื้นเหงื่อเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าสายตาเหนือศีรษะแข็งกร้าวยิ่งกว่าเดิม

“ป้าก็รู้ว่าทำให้เธอลำบากใจ เธอพยักหน้าเพื่อไม่ให้พวกเราสองแม่ลูกทะเลาะกัน ป้าเลยรู้สึกขอบใจเธอมาก ที่เธอยอมแต่งให้เจิ้งหวาก็ถือเป็นโชคดีของสกุลเซี่ยเราแล้ว ป้าเองก็ไม่อยากให้พวกเธอสองคนทะเลาะกันจนไม่มีความสุขเพราะความต้องการของป้า ดังนั้นวันหลังพวกเราอย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าเจิ้งหวาเลยนะ” หวงเหม่ยฉินหยิบทิชชูแผ่นหนึ่งมาเช็ดหางตาพลางมองสีหน้าของเจิ้งหมินซินด้วยความอ่อนโยน

เจิ้งหมินซินตกตะลึงก่อนจะถอนหายใจออกมา แต่เมื่อรู้สึกว่าความหมายในคำพูดของหวงเหม่ยฉินดูคลุมเครือ เธอก็ลังเลที่จะเอ่ยปากพูด “คุณป้า คุณป้าหมายความว่า…เรื่องนี้ให้แล้วกันไปเหรอคะ”

“อา…ป้าคิดดูแล้วนะ” หวงเหม่ยฉินตบมือเธออีกครั้งและพูดต่อ “ป้าคงดึงดันมากเกินไป ไม่ว่าจะพูดยังไงเจิ้งจงก็ไม่อยู่แล้ว ป้าก็ควรจะคิดเผื่อเจิ้งหวาไว้ก่อน ป้าไม่น่าพูดเรื่องนี้กับเธอจนทำให้เธอทะเลาะกับเจิ้งหวาเลย”

คราวนี้เจิ้งหมินซินโล่งอกได้แล้วจริงๆ ทันใดนั้นสายตาเหนือศีรษะก็ดูเหมือนจะหายไปเช่นกัน เธอขบขันในปฏิกิริยาตอบสนองทางประสาทของตัวเอง ก่อนจะเผยรอยยิ้มจริงใจกุมมือหวงเหม่ยฉินกลับพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณป้าอย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ มันไม่มีอะไรจริงๆ ตอนแรกฉันอยากบอกว่ามันเป็นแค่พิธีการเท่านั้น ขอแค่คุณป้ามีความสุขก็พอแล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าเจิ้งหวาจะคัดค้านขนาดนี้”

“เธอเป็นเด็กดีจริงๆ เจิ้งจงของพวกเราเองที่ไม่มีโชค” หวงเหม่ยฉินหยิบทิชชูแผ่นที่สองออกมาเช็ดหางตาที่แดงระเรื่อ

เจิ้งหมินซินได้ยินเธอพูดแบบนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อยแต่ก็ยังปลอบโยนเธอ “คุณป้าอย่าเสียใจไปเลยค่ะ ฉันคิดว่า…พี่เจิ้งจงก็คงหวังให้คุณป้ามีความสุขเหมือนกัน”

“นั่นสิ เด็กคนนั้นรู้ใจป้าที่สุด” หวงเหม่ยฉินเงยหน้ามองรูปถ่ายบนผนัง ใบหน้าฉายแววห่อเหี่ยวและโศกเศร้า ท่าทางข่มกลั้นอารมณ์อย่างถึงที่สุดราวกับวินาทีต่อมาจะพุ่งเข้าไปปลดรูปถ่ายนั้นลงมากอดเอาไว้แน่น

เจิ้งหมินซินเงยหน้าชำเลืองมองเร็วๆ แวบหนึ่ง ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับคู่หมั้นของเธอมักจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ราวกับกำลังจ้องมองเธออยู่ไม่ว่าเธอจะเดินไปที่ไหนก็ตาม การชำเลืองมองในครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ ไปทั่วทั้งร่าง เหมือนเซี่ยเจิ้งจงจ้องมองมาที่เธอ

เธอรีบก้มหน้าลงไม่กล้ามองรูปถ่ายใบนั้นอีก โชคดีที่ในที่สุดหวงเหม่ยฉินก็เปลี่ยนใจ

หวงเหม่ยฉินมองไปยังรูปถ่ายใบนั้นก็คิดถึงลูกชายที่เสียชีวิตไปนานแล้วน้ำตาจึงไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เจิ้งหมินซินรีบหยิบทิชชูสองสามแผ่นออกมาอีกครั้งพร้อมปลอบเธอเสียงเบา จากนั้นหวงเหม่ยฉินเองก็ดูเหมือนจะผ่านเรื่องนี้ไปได้แล้วเช่นกันจึงเริ่มพูดคุยถึงการจัดการธุระใหญ่น้อยในงานแต่งงานที่จะจัดขึ้นในอีกสามเดือนให้หลัง

เจิ้งหมินซินรู้สึกว่าทั้งร่างผ่อนคลาย เธอดื่มชากินขนมกับหวงเหม่ยฉิน ทั้งแขกและเจ้าบ้านต่างก็พูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ที่จริงแล้วพูดตามตรงเลยว่าตั้งแต่เซี่ยเจิ้งหวาขอแต่งงานและพาเธอกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ เธอก็กังวลมาโดยตลอด เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของคู่หมั้นกับคนที่บ้านไม่ค่อยดี จึงเตรียมพร้อมรับการกลั่นแกล้งไว้แล้ว แต่หลังจากได้เจอหวงเหม่ยฉินเธอก็วางใจ

ว่าที่แม่สามีของเธอเป็นคนร่าเริงแจ่มใสและค่อนข้างเอาใจใส่ พอพูดถึงพิธีแต่งงานก็ตามใจเธอไปเสียทุกอย่าง แถมยังเป็นฝ่ายเอ่ยปากว่าจะช่วยพวกเธอจ่ายค่าบ้านหลังใหม่ ถามเธอว่าอยากจะซื้อบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านแม่หรือเปล่า ทั้งยังบอกเธอเป็นพิเศษอีกด้วยว่าต่อไปให้พวกเธอสองสามีภรรยากลับไปบ้านแม่ของเธอในช่วงปีใหม่เพราะพวกท่านทั้งสองเคยชินกับการไปเที่ยวต่างประเทศกันเอง ในวันที่สกุลเซี่ยมาสู่ขอเธอที่บ้าน บรรดาญาติสนิทมิตรสหายทั้งหมดจึงพากันอิจฉาเธอ งานแต่งเป็นที่เห็นพ้องต้องกันของญาติผู้ใหญ่ ทุกคนต่างพากันบอกว่าเธอโชคดีที่ได้เจอแม่สามีดี

เธอเองก็คิดว่าตัวเองโชคดีมาก ไม่เหมือนบรรดาเพื่อนฝูงที่หากไม่ต้องฟังแม่สามีจู้จี้ขี้บ่นตั้งแต่เช้ายันเย็น ก็เป็นเรื่องทำนองว่าต้องกลับไปบ้านแม่สามีเพื่อฟังถ้อยคำเจ็บแสบของแม่สามีและคอยดูแลบรรดาญาติผู้หญิงของสามีแม้แต่ในวันหยุดที่หาได้ยาก นอกจากเรื่องเซี่ยเจิ้งจงที่หวงเหม่ยฉินเคยพูดกับเธอแล้ว เธอก็รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรจู้จี้จุกจิกมากนัก และตอนนี้แม้แต่เรื่องดังกล่าวเองหวงเหม่ยฉินก็ยังสามารถปล่อยวางได้แล้ว เธอจึงรู้สึกอารมณ์ดีมาก

“จริงสิ ครั้งก่อนตอนไปสู่ขอ ลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงที่บ้านแม่เธอมีแฟนหรือยังล่ะ”

หวงเหม่ยฉินหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาปอกเปลือกด้วยมีดเล่มเล็ก หมุนไปเรื่อยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่ขาด ทุกครั้งที่เจิ้งหมินซินเห็นเช่นนี้ก็จะรู้สึกประหลาดใจเหลือเกิน เธอตอบไปส่งๆ “ไม่มีค่ะ เธอเพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจ ในโรงเรียนมีการดูแลอย่างเข้มงวด การฝึกซ้อมก็เยอะด้วย เธอไม่มีเวลาไปหาแฟนหรอกค่ะ”

“เด็กผู้หญิงที่สวยขนาดนั้น ในอนาคตอยากเป็นตำรวจเหรอเนี่ย” หวงเหม่ยฉินถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

เจิ้งหมินซินกล่าวยิ้มๆ “เธอกระโดกกระเดกมาตั้งแต่เล็กแล้วล่ะค่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าเธอจะไปเรียนที่โรงเรียนกีฬาด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าจะไปเรียนโรงเรียนตำรวจโดยไม่บอกกล่าวกันสักนิด คุณป้าของฉันน่ะกังวลมากเลย”

“ร่าเริงแจ่มใสหน่อยก็ดี เป็นตำรวจจะได้สร้างบุญกุศลด้วย” หวงเหม่ยฉินพูดเสียงเบา ระหว่างนั้นก็หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นเล็กๆ วางเอาไว้ในจานตรงหน้าเธอ ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดมือพร้อมกล่าวอย่างอ่อนโยน “นี่เป็นแอปเปิ้ลน้ำผึ้งนำเข้า รสชาติหวานมาก รีบชิมเข้าสิ”

“ขอบคุณค่ะคุณป้า” เจิ้งหมินซินหยิบส้อมคันเล็กมาจิ้มแอปเปิ้ลกินไปสองชิ้นเป็นมารยาท เมื่อเงยหน้าเห็นใบหน้ายิ้มแย้มแฝงความอ่อนโยนของหวงเหม่ยฉินกำลังจ้องมองมา เธอก็วางส้อมลงและรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย คราวก่อนหลังจากที่หวงเหม่ยฉินยิ้มให้เธอแบบนี้โดยไม่พูดอะไร อีกฝ่ายก็ขอร้องเธออย่างหนึ่งจนทำให้เธอต้องตกตะลึงไปหลายวัน กระทั่งคู่หมั้นเห็นว่าเธอเหม่อลอยจึงได้ถามว่ามีอะไรในใจหรือเปล่า เธอจึงอ้ำๆ อึ้งๆ บอกเขาไป สุดท้ายเขาโกรธจนหน้าเขียวแล้วพุ่งตรงกลับบ้านไปทะเลาะกับหวงเหม่ยฉินทันที ส่วนเธอก็ตามหลังไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนทำอะไรไม่ถูก

“คุณป้า?” เจิ้งหมินซินส่งเสียงเรียกอย่างระมัดระวัง

หวงเหม่ยฉินโน้มตัวเข้ามาใกล้อีกครั้งและเอื้อมมือมากุมมือเธอเอาไว้ สีหน้าอ่อนโยนเจือแววอาดูรนั่นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอีกครา

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนเลือดทั่วทั้งร่างพลันเย็นเฉียบ สายตาทิ่มแทงเหนือศีรษะกำลังวนเวียนอยู่รอบตัว เธอมองไปทางหวงเหม่ยฉินที่กำลังเอ่ยปากพูดพร้อมดวงตาแดงก่ำและมีน้ำตาไหลออกมาราวกับเป็นเหยื่อที่ตกลงไปในกับดัก

“ถือว่าป้าขอร้องเธอแล้วกัน ลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของเธอคนนั้น…”

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com