everY
ทดลองอ่าน ค่ำคืนของนักล่า (อสูร) คิมมูฮึน เล่ม 3 บทที่ 15 – 3 ถึง 16 – 1 #นิยายวาย
ทดลองอ่านเรื่อง ค่ำคืนของนักล่า (อสูร) คิมมูฮึน เล่ม 3
ผู้เขียน : Oneulbom
แปลโดย : Kitti B.
ผลงานเรื่อง : ค่ำคืนของนักล่า (อสูร) คิมมูฮึน
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
15-3
“อือ…”
เรียวนิ้วเริ่มชักรูดแก่นกายที่แข็งตัวขึ้นลงอย่างเบามือ มูฮึนค่อยๆ สัมผัสมันราวกับกำลังหยอกล้อพลางเฝ้ารอเวลาที่ลมหายใจของซึงจูจะกลับมาเป็นปกติอย่างใจเย็น
“ผ่อนคลายเข้าไว้…เนอะ?”
“แฮก…ฮะ…อึก…”
ต้องขอบคุณความรู้สึกดีตรงส่วนหน้าที่ทำให้ตั้งแต่ช่วงเอวลงไปเริ่มคลายความเกร็ง หลังจากที่เมื่อครู่ต้องหยุดสานต่อไปอย่างน่าหงุดหงิด มูฮึนก็ไม่พลาดปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปและเริ่มสอดใส่ส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเข้าไปอีกครั้ง ก่อนที่ส่วนปลายของแก่นกายจะชำแรกเข้าไปลึกในคราวเดียวราวกับถูกดูดเข้าไป
“อ๊ะ…อ๊า…!”
ความรู้สึกที่เติมเต็มเข้ามาจนอัดแน่นในช่องท้องทำเอาซึงจูถึงกับเกร็งช่องทางด้านหลังโดยไม่รู้ตัว มูฮึนหลับตาทั้งสองข้างแน่นพร้อมขบกรามเสียงดัง ในขณะเดียวกันแก่นกายที่สอดใส่เข้าไปก่อนหน้านี้ก็ยังคงคาอยู่ที่เดิม
“แฮก…”
ลมหายใจที่หอบกระเส่าคือเครื่องยืนยันว่าความอดทนอดกลั้นของอีกฝ่ายได้เดินทางมาถึงขีดสุดแล้ว แม้จะรู้สึกเหมือนได้ยินถ้อยคำสบถดังออกมาจากปากมูฮึน แต่ซึงจูก็คิดว่าตัวเองคงหูฝาด เพราะคนอย่างคิมมูฮึนไม่มีทางพูดหยาบคายออกมาต่อหน้าเขา แล้วมูฮึนที่อยู่นิ่งไม่ไหวติงมาครู่ใหญ่ก็ได้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงข่มอารมณ์
“จำที่พี่บอกไปเมื่อกี้ได้ใช่ไหม”
“…?”
ชั่ววินาทีนั้นซึงจูฟังไม่รู้เรื่องแล้วด้วยซ้ำว่ามูฮึนพูดว่าอะไร ภายในหัวพลันแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีขาวโพลน เพราะความรู้สึกที่สัมผัสได้จากช่องทางด้านหลังได้ฉีกกระชากสติสัมปชัญญะเขาไปจนหมดสิ้น แต่แล้วซึงจูก็ขยับริมฝีปากตอบไปตามความทรงจำที่ผุดขึ้นมา
“กำปั้น…ไม่สิ พี่บอกให้ผมกัดพี่แรงๆ จนเลือดออก…”
“…”
มูฮึนยิ้มตาหยีอย่างอ่อนโยนราวกับจะบอกว่ามันคือคำตอบที่ถูกต้อง แต่แล้วดวงตาสีดำสนิทที่หยีลงราวกับพระจันทร์เสี้ยวก็กลับฉายแววน่ากลัวในชั่วพริบตา ก่อนที่มูฮึนจะโถมกายกระแทกเอวสอบเข้ามาลึกในคราวเดียวโดยไม่ให้สัญญาณใดๆ ส่งผลให้ความรู้สึกหวั่นกลัวก่อตัวขึ้นมาฉับพลัน
“ฮึก…!”
ส่วนนั้นของมูฮึนสอดลึกเข้ามาถึงด้านในช่องทางจนซึงจูถึงกับคู้ตัวพลางหลุดครางออกมาเสียงดังให้กับความรู้สึกที่เติมเต็มเข้ามาภายในช่องท้อง แม้เขาจะคว้าไหล่มูฮึนไว้โดยอัตโนมัติแล้ว แต่มูฮึนก็ยังคงกระแทกเข้ามาไม่หยุดโดยไม่ปล่อยให้เขาได้หายใจหายคอ
“ฮึก…อ๊า…”
แค่ใส่เข้ามาได้ก็เกินทนแล้ว พอมูฮึนเริ่มขยับ ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ยิ่งมูฮึนขยับกายเข้าออกโดยไม่ถอนส่วนนั้นออกไปราวกับตั้งใจจะขยับขยายช่องทางที่คับแคบ ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว หลังขยับเข้าออกช้าๆ ครู่หนึ่ง มูฮึนก็กระแทกส่วนนั้นเข้าไปลึกขึ้นอีกนิด
“ฮึก…!”
ซึงจูตกใจจนตัวสั่นระริกพลางรั้งมูฮึนเข้ามากอดไว้แน่น ทั้งที่อุตส่าห์คิดว่ามันสอดใส่เข้ามาหมดแล้ว แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น เมื่อรู้สึกราวกับว่ามันสอดใส่ลึกเข้ามาถึงลิ้นปี่ ซึงจูก็ซุกหน้าผากลงกับบ่าของมูฮึนพร้อมกับรีบพูดออกไป
“มะ…อึก…มันจะลึกเข้ามาถึงตรงไหน…”
แม้จะเคยสัมผัสและเห็นมากับตา แต่พอได้รองรับมันเข้ามาในกายจริงๆ ความรู้สึกกลับต่างกันลิบลับ เขาแค่รู้สึกแปลก ไม่ได้รู้สึกเจ็บ และแค่รู้สึกเหมือนคิดผิดไปเล็กน้อย ทว่าไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด ด้วยความที่ตอนนี้เขาได้แต่นอนตัวสั่นระริกเป็นลูกนก จู่ๆ เขาก็เลยนึกอยากทำตัวงอแงทั้งที่ปกติไม่มีทางทำ
“อืม…ใส่เข้าไปเกือบหมดแล้วล่ะ”
มูฮึนกอดซึงจูที่ตัวสั่นระริกไว้ในอ้อมอกพลางประทับริมฝีปากลงไปบนผม มือที่เคยจับต้นขาย้ายมาประคองต้นคอของซึงจูโดยเท้ามืออีกข้างไว้กับเตียง จากนั้นมูฮึนก็พูดเสียงนุ่มราวกับจะบอกให้ซึงจูวางใจ
“ยังไงก็คงจะใส่เข้าไปจนสุดไม่ได้หรอก”
“…”
ยังใส่เข้ามาไม่สุดอีกเหรอ
เสี้ยววินาทีที่ซึงจูคิดจะพูดออกไปแบบนั้น มูฮึนก็ควงเอวสอบไปมาช้าๆ แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด แต่จุดที่มูฮึนกระแทกโดนกลับต่างไปจากเดิม
“เฮือก!”
ภาพเบื้องหน้าพลันอาบย้อมไปด้วยสีขาวโพลน ความเสียวซ่านที่แล่นปราดขึ้นมาตามแนวกระดูกสันหลังทำให้ซึงจูขนลุกซู่ไปทั่วทั้งกาย หลังจากที่มูฮึนกระแทกเข้ามาโดนจุดเดิมซ้ำอีกครั้ง ซึงจูก็เบิกตาโตพลางเกร็งจนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะอ้าปากอ้อนวอนมูฮึน
“พี่…พี่ครับ ดะ…เดี๋ยวก่อน…!”
ทั้งที่ซึงจูกำลังขอร้องให้หยุดสักครู่ แต่น่าเศร้าที่ดูเหมือนคำพูดนั้นจะส่งไปไม่ถึง เพราะมูฮึนยังคงโถมกายเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยที่ยังกอดซึงจูไว้ในอกแน่น
“ดะ…ฮึก…อะ อ๊า…!”
ความรู้สึกที่เคยคิดว่ามันเกินกว่าที่กำลังจะรับไหวเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกอื่น ช่องทางของซึงจูตอดรัดแน่นทุกครั้งที่มูฮึนกระแทกโดนจุดประหลาดนั้น ซึงจูทำอะไรไม่ได้นอกจากโอบกอดมูฮึนไว้แน่น แต่ถึงจะทำอย่างนั้นมันก็ไม่ช่วยให้เขาทนต่อความรู้สึกเสียวซ่านที่ตีรวนอยู่ในช่องท้องได้อยู่ดี
“อ๊า!”
ซึงจูขยับศีรษะไปด้านหลังพร้อมทั้งครางลั่น เขาเผลอเกร็งมือที่จับบ่าของมูฮึนไว้แน่นพลางจิกเล็บลงไป ทั้งที่มันน่าจะเจ็บไม่น้อย แต่มูฮึนกลับหัวเราะก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ
“บอกแล้วไงว่าแค่นั้นไม่พอหรอก…”
ส่วนนั้นที่เติมเต็มอยู่ในช่องทางค่อยๆ ถอนออกไปอย่างช้าๆ ซึงจูเผลอเกร็งต้นขาไปโดยอัตโนมัติเพราะความรู้สึกวูบโหวงภายในช่องท้อง เขามีโอกาสได้หายใจหายคออยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วจู่ๆ มูฮึนก็โถมกายกระแทกเข้ามาอย่างแรงอีกครั้ง
“อ๊ะ…!”
ซึงจูจิกนิ้วเท้าเกร็งไปพร้อมกับความรู้สึกเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา เอวของเขายกแอ่นขึ้นสูง ในขณะที่มือก็สั่นระริกไปหมด เขาครางร้องเรียกมูฮึนอย่างน่าสงสารท่ามกลางความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย
“พี่…ฮึก…พี่ครับ…”
“อืม…พี่จ๋าอยู่นี่ไง”
ถ้อยคำที่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนนั้นฟังดูเร่าร้อนต่างไปจากทุกที แม้เขาจะขานตอบเหมือนเวลาปกติ ทว่ามันกลับฟังดูเหมือนสติสัมปชัญญะของเขาได้หลุดลอยหายไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นซึงจูเองก็ไม่ได้เรียกเขาเพราะต้องการคำตอบเหมือนกัน
“ฮึก…ไม่ไหวแล้ว…”
ซึงจูไม่รู้ว่าจะนิยามความรู้สึกนี้ว่าอะไรดี ถ้าเผลอปล่อยให้สติหลุดลอยไปอีกนิด เขาคงได้เสียสติแน่ในระหว่างที่มูฮึนยังคงไม่หยุดพัก ตอนนี้ภายในหัวว่างเปล่าจนแม้แต่คำพูดยังไม่สามารถปะติดปะต่อกันได้
“เกินไปแล้ว…ฮึก…”
“อยากให้พี่ผ่อนแรงลงไหม”
“อืม…เบาๆ…”
ซึงจูพยักหน้ารับทันทีกับคำถามของมูฮึน มันเป็นคำตอบโดยอัตโนมัติเพราะเขาคิดว่าถ้าทำเบาๆ ก็คงจะไม่เป็นอะไร
“อา…อือ…”
ทว่าในวินาทีมูฮึนเริ่มขยับเอวสอบช้าๆ ซึงจูก็ตระหนักได้ว่าตัวเองคิดผิดมหันต์ เพราะตอนนี้ความเสียวซ่านที่ทุเลาลงไปก่อนหน้านี้กำลังทวีขึ้นทีละนิดจนเหมือนจะระเบิดอยู่รอมร่อ ต่อให้ส่วนนั้นที่บดเบียดอยู่กับผนังด้านในจะขยับเล็กน้อย แต่มันก็เสียดสีจุดที่ซึงจูอ่อนไหวที่สุด
“มะ…ไม่เอาแบบนี้…”
“แบบนี้ก็ไม่ชอบเหรอ”
“อื้อ…ไม่เอา…”
ท่าทางที่ส่ายศีรษะไปมาอย่างน่ารักทำให้มูฮึนอดที่จะคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้จนต้องยอมวางซึงจูลง ซึงจูคิดว่ามูฮึนจะหงุดหงิดที่ตัวเองเอาแต่บอกว่าไม่เอานั่นไม่เอานี่ ทว่าคำพูดที่ดังออกมาจากปากมูฮึนกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย
“นายรู้สึกดีจากข้างหลังขนาดนั้นเลยเหรอ”
ขณะที่กำลังนอนหอบหายใจ ซึงจูก็ฝืนลืมตาขึ้นเพราะเปลือกตาปรือลงจนแทบมองอีกฝ่ายไม่เห็น เขาสบตามูฮึนผ่านนัยน์ตาที่มองเห็นเลือนๆ ก่อนจะพูดอย่างยากลำบาก
“คะ…อึก…คงเพราะพี่ทำเรื่องแบบนี้เก่งล่ะมั้งครับ…”
คงเป็นเพราะคิมมูฮึนเก่งเรื่องแบบนี้ ไม่น่าจะเป็นเพราะเขารู้สึกดีหรอก ต่อให้นอนกับผู้ชายคนไหนก็คงไม่มีทางที่เขาจะรู้สึกไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
“ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกก็เถอะ…ฮึก…”
มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะเขาไม่เคยมีอะไรกับคนอื่นมาก่อน จะรู้เรื่องแบบนั้นได้อย่างไร ซึงจูตั้งใจจะพูดเสริมออกไป แต่วินาทีนั้นมูฮึนกลับดึงซึงจูเข้าไปกอดไว้แน่น
“ซึงจูยา ขอร้องล่ะ…”
ราวกับเลือดกำลังเดือดพล่านไปทุกส่วนที่ร่างกายสัมผัสกัน เริ่มตั้งแต่ฝ่ามือ หน้าอก ไปจนถึงส่วนนั้นที่น่าอายเกินกว่าจะพูดเป็นคำออกมา
“พี่รู้สึกผิดจริงๆ นะ…”
แม้จะไม่รู้ว่าเขารู้สึกผิดอะไรขนาดนั้น แต่ซึงจูก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผิดในน้ำเสียงได้อย่างชัดเจน ซึงจูผ่อนคลายลมหายใจที่หอบถี่แทนที่จะตอบอะไรกลับไป แต่ความพยายามนั้นก็ไร้ค่าไปทันทีเมื่อจู่ๆ มูฮึนก็กดจูบลงมา
“อุบ…”
ลมหายใจของพวกเขาสอดประสานกันทันทีที่ริมฝีปากประกบกันสนิท พอซึงจูเปิดปากออกอย่างลืมตัว มูฮึนก็สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากอย่างช่ำชอง แม้พลังวิญญาณจะเย็นเยียบ ทว่าลมหายใจกลับอุ่นร้อนจนภายในหัวราวกับจะถูกหลอมละลายไปจนหมด
“อื้อ…อือ…”
หลังหยุดเคลื่อนไหวช่วงล่างมาพักหนึ่งมูฮึนก็เริ่มขยับอีกครั้งพร้อมเรียวลิ้นที่เริ่มกวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก ซึงจูหลุดเสียงครางออกมาไม่หยุดปากเมื่อมูฮึนถอนส่วนนั้นออกไปเกือบสุดแล้วกระแทกมันกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งอย่างเน้นย้ำ
“ฮึก…อือ…”
ยิ่งมูฮึนกระแทกเข้ามา ช่องทางด้านหลังที่มูฮึนป้ายน้ำรักไว้จนฉ่ำเยิ้มก็ยิ่งคลายมากขึ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะซึงจูเริ่มผ่อนคลายความเกร็งแล้ว และอีกส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะน้ำหล่อลื่นที่หลั่งออกมาจากแก่นกายของมูฮึน พอผนังด้านในที่เคยตอดรัดแน่นเริ่มผ่อนคลายลง มูฮึนก็หลุดเสียงครางในลำคอออกมา
“อึก…”
ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นความสุขสมก็ก่อตัวขึ้นภายในท้อง ซึงจูรู้สึกพึงพอใจที่มูฮึนเองก็กำลังรู้สึกเช่นเดียวกับเขา เพราะแบบนั้นเขาจึงเกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นให้แรงขึ้นอีกนิด ทว่ามูฮึนกลับขมวดคิ้วแล้วถอนริมฝีปากออกไป
“…”
“…”
น้ำลายไหลยืดเป็นสายเชื่อมระหว่างริมฝีปากที่ผละออกมาจากกัน แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดมิด แต่ซึงจูก็รับรู้ได้ว่าสายตาของมูฮึนสงบลงแล้ว เมื่อครู่เขารู้สึกเหมือนจะถูกกลืนกินได้ทุกเมื่อ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนถูกผลักไสแล้วกักขังเอาไว้ทั้งอย่างนั้น
“ทำไมเหรอครับ”
มันเป็นคำถามที่แฝงความสงสัยมากมายว่าทำไมถึงมองแบบนั้น และทำไมจู่ๆ ถึงหยุดอีกแล้ว ซึงจูได้แต่สงสัยแบบนั้นในขณะที่ช่วงเอวยังคงเกร็งกระตุกอย่างไม่อาจควบคุม ไม่นานนักมูฮึนก็ถอนหายใจสั้นๆ
“เฮ้อ…”
เสียงนั้นฟังดูเหมือนเส้นความอดทนบางอย่างขาดผึง เมื่อเขาหลับตาแล้วลืมขึ้นใหม่อีกครั้ง ภาพเบื้องหน้าก็สลักลึกในสมอง เมื่อแก่นกายที่เคยถอนออกไปช้าๆ กระแทกเข้ามาจนสุดในคราวเดียว
“…!”
ซึงจูถึงกับครางไม่ออก ความเสียวซ่านที่สั่งสมมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้พลุ่งพล่านอยู่ในหัวจนแทบจะระเบิด เขาใช้ขากอดรัดเอวสอบของมูฮึนไว้แน่น ก่อนจะเสร็จสมพร้อมทั้งเงยศีรษะไปด้านหลัง
“อ๊ะๆ อึก…!”
น้ำรักที่หลั่งออกมาเลอะเป็นทางอยู่บนหน้าท้อง ลักษณะของมันที่ไหลออกมาดูเหลวและใสกว่าตอนที่มูฮึนช่วยเอาออกให้เล็กน้อย ระหว่างที่ซึงจูกำลังสติหลุดลอยเพราะถึงจุดสุดยอด มูฮึนก็ชิงใช้โอกาสนั้นเร่งเครื่องพลางกอดรัดซึงจูแน่น
“อ๊า! ฮึก…!”
การเคลื่อนไหวของช่วงเอวที่กระแทกกระทั้นเข้ามาดังพลั่กๆ นั้นไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด ซึงจูเริ่มรู้สึกเหมือนความเสียวกระสันกำลังจะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่ยังหลั่งออกมาไม่ทันเสร็จ เขารีบส่ายหน้าพลางเปิดปากพูดเพราะรู้สึกร้าวไปทั้งร่างกายเมื่อได้สัมผัสความเร่าร้อนที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดพัก
“พะ…พี่…ผมเพิ่งจะ…อึก…ผมเพิ่งจะเสร็จ…อ๊า…!”
ทว่ามูฮึนกลับไม่สนใจสถานการณ์ของซึงจู เขาใช้สองแขนกอดรัดซึงจูแน่นจนซึงจูไม่อาจขยับหนีไปไหนได้ เสียงคำรามทุ้มต่ำที่ดังออกจากลำคอฟังดูเปี่ยมไปด้วยความต้องการที่เหมือนกำลังจะระเบิดออก
“เฮือก!”
พลั่ก!
ส่วนนั้นที่กระแทกกระทั้นอย่างไร้ความปรานีสอดใส่เข้ามาแน่นเต็มช่องทาง มูฮึนกระแทกเข้ามาลึกกว่าก่อนหน้านี้จนส่วนปลายชนเข้ากับจุดที่อ่อนไหวมากขึ้นของซึงจู ในวินาทีที่จุดนั้นถูกกระตุ้น ซึงจูก็ถึงกับน้ำตาคลอ
“เร็วไปแล้ว…ฮึก…อ๊า…!”
ถ้าไม่ใช่ร่างกายก็คงต้องเป็นสมอง ซึงจูมั่นใจว่าต้องมีอะไรผิดพลาดไปสักอย่างแน่ๆ เพราะร่างกายของเขามีแต่จะร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ควรจะสงบลงหลังจากเพิ่งจะเสร็จสมไป
“พี่ครับ พี่มูฮึน ฮึก…คิมมูฮึน…”
“แฮก…ซึงจูยา”
ชื่อที่ดังลอดออกมาจากปากไม่ใช่การขานรับเสียงเรียกของซึงจู มันฟังดูใกล้เคียงกับการพูดคนเดียว หรือไม่ก็อาจเป็นเพียงแค่การครางชื่อเท่านั้น ในจังหวะที่ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นอีกขั้น มูฮึนก็ฝังแก่นกายเข้าไปลึกกว่าเดิมในคราวเดียวเต็มแรง
“ฮึม…”
มูฮึนคำรามในลำคอพลางขบกรามแน่น ซึงจูสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่กำลังกระตุกอยู่ในช่องทาง และวินาทีที่ซึงจูสัมผัสได้ถึงแรงกอดจากท่อนแขนของมูฮึนที่มีมากขึ้นกว่าเดิม มูฮึนก็เสร็จสมในตัวของซึงจูในที่สุด
“อืม…”
ส่วนที่ใหญ่โตของมูฮึนกระตุกทุกครั้งที่ส่วนหัวหลั่งน้ำรักออกมา ซึงจูเผลอเกร็งขมิบช่องทางตอดรัดแน่นพลางส่งเสียงครางสะอื้นออกมาอย่างน่าสงสารกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยนั้น
“ฮะ…อึก…”
น้ำตาที่เอ่อคลอไหลอาบลงมาที่ขมับ ซึงจูตัวสั่นระริกอยู่ในอ้อมกอดของมูฮึนเพราะความเสียวซ่านที่ยังคงไม่จางหายไป เมื่อฉากร่วมรักแสนเร่าร้อนจบลง ความเงียบก็ดำเนินอยู่ครู่หนึ่ง
ในที่สุดก็ได้เวลาพักหายใจสักที
ทว่าในขณะที่ซึงจูคิดเช่นนั้นพลางคลายความเกร็งของร่างกาย…
“อ๊ะ!”
จู่ๆ มูฮึนก็โถมกายเข้ามาในช่องทางอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจะหลั่งเสร็จไป ซึงจูผวาตกใจจนเผลอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของมูฮึน
“พะ…พี่…”
ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีได้หรือเปล่า คราวนี้ดูเหมือนมูฮึนจะยอมฟัง เขาปล่อยซึงจูออกจากอ้อมอกแล้วก้มลงขบกัดใบหูของซึงจูเบาๆ ราวกับจะบอกให้ซึงจูพูดออกมาได้เลย ซึงจูจึงปรับลมหายใจที่กำลังหอบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเปิดปากอย่างอึกอัก
“มะ…เมื่อกี้พี่เพิ่งเสร็จไปไม่ใช่เหรอ…”
“อืม…เพิ่งเสร็จไปเมื่อกี้”
“แล้วทำไมถึง…อึก…”
ในเมื่อเสร็จไปแล้วก็ต้องพักสักหน่อยสิ ต่อให้บอกว่าเพิ่งเสร็จไปรอบแรก แต่คนเราก็ต้องเหนื่อยกันบ้างไม่มากก็น้อย
“เฮ้อ…”
ทว่ามูฮึนกลับถอนหายใจยาวราวกับเป็นการถามว่าทำไมซึงจูถึงได้ถามเรื่องที่น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว จากนั้นก็คลอเคลียข้างใบหูของซึงจูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“พี่บอกแล้วนี่นาว่าเดี๋ยวจะลุกเดินไปไหนไม่ไหวเอานะ”
แม้จะเป็นสิ่งที่มูฮึนเพิ่งพูดไปก่อนหน้านี้ แต่น้ำหนักของคำพูดที่ซึงจูสัมผัสได้ในคราวนี้กลับต่างออกไป วินาทีที่ได้ฟังซึงจูรู้สึกราวกับหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ แต่ยังไม่ทันจะได้โต้แย้งอะไรกลับไป มูฮึนก็เริ่มบดเอวสอบเข้าหาช่องทางของซึงจูช้าๆ อีกครั้ง
“แค่ครั้งเดียวเอง…คิดว่าพอหรือไง”
“แต่ผม…ฮึก…ผมไม่ได้เพิ่งเสร็จไปแค่ครั้งเดียวสักหน่อย…”
ไม่มีทางที่มูฮึนจะไม่รู้ว่าซึงจูเสร็จไปแล้วสองครั้ง แต่ไม่ว่าซึงจูจะส่ายหน้าปฏิเสธแค่ไหนก็ไม่ได้ผล มูฮึนเอาแต่ส่งเสียง ‘อืม’ ในลำคอโดยที่ซึงจูไม่อาจรู้เลยว่ามันคือการตอบรับหรือเป็นแค่เสียงครางกันแน่ จากนั้นมูฮึนก็ขบเม้มติ่งหูของซึงจูเบาๆ
“อือ…”
ทุกครั้งที่มูฮึนกระแทกแก่นกายเข้ามาแล้วถอนออกไป ของเหลวที่คั่งค้างอยู่ภายในช่องทางก็ไหลตามออกมา คงต้องขอบคุณน้ำรักที่มูฮึนฝากฝังไว้ข้างในที่ทำให้การเคลื่อนไหวเข้าออกเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากกว่าก่อนหน้านี้เป็นเท่าตัว ทันทีที่ผนังด้านในอ่อนนุ่มตอดรัดท่อนลำใหญ่โตเอาไว้แน่น มูฮึนก็ซุกใบหน้าลงบนต้นคอของซึงจู
“ซึงจูยา…”
“แฮก…ฮึก…”
“ข้างหลังของนายนี่มัน…”
ซึงจูไม่ได้ยินถ้อยคำหลังจากนั้น เพราะน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเสียงหอบกระเส่ามากกว่าเสียงพูดนั้นได้ถูกความต้องการเข้าครอบงำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสติสัมปชัญญะของเขาเองก็ไม่ได้ครบถ้วนดีพอที่จะจดจ่อกับคำพูดนั้นได้
“ฮึก…”
ซึงจูไม่ได้รู้สึกเจ็บตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และตอนนี้แม้แต่ความรู้สึกฝืดที่สัมผัสได้ในตอนแรกก็ยังหายไปจนหมด สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในตอนนี้จึงมีแต่ความเร่าร้อน และซึงจูก็มองไม่เห็นทีท่าว่ามันจะดับมอดลงเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันความต้องการมีแต่จะพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันจะไปจบลงที่ตรงไหน
“พี่ครับ ผะ…ผมไม่ไหว…”
เพราะแบบนั้นซึงจูจึงได้แต่ซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอของมูฮึนพลางกอดก่ายอีกฝ่ายเอาไว้แน่น มูฮึนขบกัดใบหูของซึงจูครู่หนึ่งก่อนจะลูบไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นหลังของซึงจูเบาๆ ทุกจุดที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัสร้อนผ่าวไปหมดจนถึงขนาดที่ซึงจูต้องอ้าปากหอบหายใจแล้วพูดออกมา
“ไม่ไหวแล้ว ฮึก…หนักเกินไปแล้ว…”
“หืม…พี่ตัวหนักเหรอ”
มูฮึนถามกลับอย่างไม่สะทกสะท้านพลางลูบหลังปลอบซึงจู ตรงข้ามกับเอวสอบที่ยังคงขยับเข้าออกอย่างช้าๆ โดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุด คงต้องโทษที่มูฮึนกอดเขาแน่นมากจนขยับไม่ได้ เขาจึงรู้สึกถึงน้ำหนักกายที่ทาบทับลงมาได้อย่างชัดเจน
“ร้อน…หายใจ…แฮก…มะ…ไม่ออก…”
“อา…หายใจไม่ออกนี่เอง”
มูฮึนยิ้มให้กับคำพูดที่กระท่อนกระแท่นจนแทบไม่เป็นประโยคของซึงจู เขาจูบแก้มและใบหูของซึงจูสองครั้ง ก่อนจะผ่อนแรงแขนที่กอดซึงจูเอาไว้ เมื่อมีช่องว่างระหว่างกายให้ขยับและหายใจหายคอได้ มูฮึนก็จัดแจงประคองแผ่นหลังของซึงจูให้ลุกขึ้นนั่ง
“เฮือก…!”
ทิศทางของแก่นกายที่อยู่ด้านในช่องทางพลันเปลี่ยนไป ซึงจูเผลอจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังของมูฮึนอย่างลืมตัวเมื่อรู้สึกว่ามันสอดลึกเข้ามาในช่องท้องมากกว่าเดิม เล็บคมที่ข่วนไปตามแนวสันหลังทิ้งรอยยาวเอาไว้
“แค่ทำแบบนี้…แฮก…ก็ไม่หนักแล้วใช่ไหม”
มูฮึนทำเหมือนไม่รู้สึกถึงรอยข่วนนั้นเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าเจ็บแต่เมินเฉย แต่ดูเหมือนเขาไม่สะทกสะท้านเสียมากกว่า หลังจากใช้แรงยกซึงจูขึ้นมานั่งประจันหน้ากันบนตัก เขาก็พรมจูบไปทั่วลำคอของซึงจู
“อึก…ฮึก…แฮก…”
แม้จะไม่ได้รู้สึกหนักแล้ว แต่ซึงจูกลับรู้สึกไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้เสียอีก เขาสังหรณ์ใจว่าตัวเองต้องแย่แน่ถ้าปล่อยมือที่เกาะอยู่บนไหล่ของมูฮึนออก เขาจึงเกาะไหล่มูฮึนไว้แน่นเหมือนลูกโคอาลาเพราะรู้สึกไม่วางใจ
“พี่…พี่ครับ…”
“พี่หมดความอดทนแล้ว ซึงจูยา”
มูฮึนพูดโดยที่ริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอ เป็นผลให้ภายในอกของซึงจูรู้สึกวูบโหวงไปหมดกับสัมผัสและลมหายใจนั้น มูฮึนฝังปลายจมูกตรงบริเวณที่มีชีพจรกำลังเต้นอยู่ ก่อนจะซุกไซ้ไปทั่วซอกคอขาวแล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็ว
“ฮึก…อ๊า…!”
ซึงจูรู้สึกราวกับถูกไฟฟ้าช็อตไปทั่วทั้งร่างยามที่แก่นกายใหญ่กระแทกกระทั้นเข้ามาลึก ตอนนี้ไม่ว่ามูฮึนจะกระแทกเข้ามาตรงจุดไหน ซึงจูก็รู้สึกไวต่อสัมผัสนั้นไปหมด หลังถูหน้าผากกับไหล่ของมูฮึนพลางร้องครางอยู่พักหนึ่ง ซึงจูก็จำต้องเงยศีรษะไปด้านหลังเพื่อหอบหายใจ
“อ๊า…อึก…อ๊า!”
มูฮึนโถมกายกระแทกเข้ามาเต็มแรงพร้อมพรมจูบที่ไหล่ของซึงจู ขณะที่มือหนึ่งลูบไล้ไปตามแนวสะบักก่อนจะเคลื่อนไปที่กระดูกสันหลัง ขณะที่อีกมือหนึ่งโอบกอดเอวของซึงจูเอาไว้แน่น และหลังจากไล่ขบกัดกระดูกไหปลาร้าช้าๆ ราวกับสำรวจทุกส่วนบนร่างกายท่อนบน มูฮึนก็ค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากลงไปด้านล่าง
“อื้อ…!”
จุดหมายของริมฝีปากนั้นคือยอดอกที่เขาเพิ่งดูดและขบกัดจนหนำใจไปก่อนหน้านี้ เขาตั้งหน้าตั้งตาโลมเลียยอดอกด้วยลิ้นโดยไม่ยอมละริมฝีปากออกห่างจากอกซึงจูเลยแม้แต่น้อย ขณะแก่นกายที่สอดใส่เข้ามาลึกถึงในช่องท้องเสียดสีไปกับทุกส่วนของผนังช่องทางจนร้อนผ่าว
“แฮก…ฮึก…”
ทั้งที่สอดใส่เข้ามาจนช่องทางรองรับมันได้พอดีแล้วแท้ๆ แต่ซึงจูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงยังไม่ชินกับมันสักที เดิมทีเขาก็ครองสติไว้แทบไม่ได้อยู่แล้ว พอมูฮึนมาเล่นกับยอดอกแบบนี้เขาก็แทบจะเสียสติ
“ตรงนั้น…ฮึก…ไม่เอาตรงนั้น…”
แม้ซึงจูจะพยายามทึ้งผมเขาด้วยใจที่ว้าวุ่น แต่แทนที่จะผละริมฝีปากออก เขากลับดูดยอดอกซึงจูอย่างแรง ขณะเดียวกันมือที่เคยโอบกอดเอวก็เคลื่อนลงไปด้านล่างแล้วบีบขยำแก้มก้นเนียนอย่างมันเขี้ยวจนเกิดรอยมือ ก่อนจะเคลื่อนกลับขึ้นมาลูบไล้ตรงช่วงเอว
แต่แล้วในระหว่างนั้นจู่ๆ มูฮึนก็ใช้ฟันขบกัดยอดอกที่กำลังดูดอยู่อย่างแรง ความเจ็บแปลบและแสบร้อนทำให้ซึงจูถึงกับครางลั่นออกมาอย่างลืมตัว
“อ๊า!”
“…”
มูฮึนได้สติขึ้นมาฉับพลัน จึงยอมผละริมฝีปากออกไป หยาดน้ำลายย้อยเป็นทางจากยอดอกที่แฉะเยิ้มจนเลอะเทอะไปหมด ขณะกำลังอ้าปากหอบหายใจ ซึงจูก็รีบส่ายหน้าเป็นพัลวันโดยที่มือยังคงไม่ปล่อยจากเส้นผมของมูฮึน
“ฮึก…อย่ากัด…”
ความจริงเขาไม่ได้เจ็บขนาดนั้น แต่ถ้าขืนยังขบกัดแบบนี้ต่อไปอีกสักหน่อยก็คงจะได้แผล เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ใส่ใจเรื่องแผลเท่าไหร่ แต่มูฮึนต้องใส่ใจมันมากกว่าเขาแน่ๆ
“อา…”
มูฮึนจ้องมองหน้าอกที่เต็มไปด้วยรอยฟันก่อนจะยู่หน้าอย่างที่ซึงจูคิดไว้จริงๆ เขากระซิบคำขอโทษแผ่วเบาพลางพรมจูบตรงรอยฟันอย่างอ่อนโยน สำหรับมูฮึนที่กลัวว่าซึงจูจะเจ็บยิ่งกว่าความตายของตัวเองแล้ว คงคิดว่าร่องรอยพวกนี้คือรอยแผลประเภทหนึ่ง
“พี่ขอโทษ เจ็บแย่เลยสิ”
“อื้อ…อืม…”
ซึงจูส่ายหน้าเหมือนเด็กน้อยพลางผ่อนแรงมือที่กำเส้นผมของมูฮึนเอาไว้ ก่อนจะเคลื่อนมือผ่านต้นคอลงไปที่ไหล่แกร่ง ซึงจูคิดจะยึดจับมันไว้เพื่อพยุงกาย แต่ยังไม่ทันได้ทำแบบนั้นมูฮึนก็กระแทกเอวสอบขึ้นมาอย่างแรง
“อ๊า! ฮึก…!”
ซึงจูรู้ว่าเล็บคมของตัวเองต้องทิ้งรอยแผลเอาไว้แน่ๆ และครั้งนี้รอยแผลก็คงจะปรากฏขึ้นเป็นทางยาวจากไหล่ลงไปถึงแผ่นหลังที่เขากรีดเล็บลงไปเมื่อครู่ แต่ต่อให้จะหลงเหลือรอยแผลบนร่างกายของตัวเอง แต่มูฮึนไม่มีทางยอมให้เกิดร่องรอยใดๆ บนร่างกายของซึงจูแน่ แม้จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
“อ๊า…!”
ในจังหวะที่มูฮึนกระแทกสวนขึ้นมาอีกครั้ง ซึงจูก็เกร็งกระตุกไปทั้งร่าง ก่อนอารมณ์จะพุ่งสูงขึ้นจนแตะจุดสุดยอดไปอีกครั้ง เขาใช้เรียวขากอดรัดเอวสอบของมูฮึนเอาไว้มั่นในขณะที่ช่องทางตอดรัดแก่นกายใหญ่เอาไว้แน่น
“อึก…”
และตอนนั้นเองมูฮึนก็ปลดปล่อยเข้ามาเต็มช่องทาง ซึงจูสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่กระตุกอยู่ภายใน หรือบางทีอาจเป็นผนังช่องทางด้านในของเขาเองที่กระตุกตอดรัดแก่นกายนั้น
“แฮก…แฮก…”
หลังถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งที่สาม ซึงจูก็เอนกายพิงร่างของมูฮึนอย่างหมดแรง และด้วยความที่กลัวว่ามูฮึนจะเริ่มอีกยกจึงถูไถใบหน้ากับอกของมูฮึนเพื่อต้องการสื่อว่าทำต่อไปไม่ไหวแล้ว มูฮึนจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวกับเอ็นดู
“กำลังอ้อนสินะ”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
อ้อนอะไรกัน เราไม่มีทางทำอะไรน่าอายแบบนั้นหรอก แค่…เหนื่อยก็เลยอยากพักสักหน่อยเท่านั้นเอง
“อ้าว ไม่ได้อ้อนเหรอ”
ทว่ามูฮึนกลับเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับเอ็นดูในคำตอบ เสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่ดังแผ่วราวกับลมหายใจทำให้ภายในอกของซึงจูร้อนวูบวาบขึ้นมาแปลกๆ
“ซึงจูยา นายเสร็จจากทางด้านหลังตั้งสองรอบแน่ะ”
ขณะที่พูดแบบนั้นมูฮึนก็เอื้อมมือไปกำแก่นกายของซึงจูที่ยังไม่อ่อนตัวลง ซึงจูจึงสะดุ้งโดยอัตโนมัติพร้อมเกร็งท้องน้อยแล้วซุกหน้าลงไป
“ก็พี่…อึก…ทำเก่งนี่ครับ…”
คงต้องโทษความรู้สึกสุขสมที่ยังไม่จางหายไป เมื่อฝ่ามือใหญ่เริ่มชักรูดแก่นกาย ตั้งแต่ช่วงเอวของซึงจูลงไปก็พลันเกร็งกระตุกไปตามการสัมผัสของฝ่ามือนั้น
“อึก…”
จากนั้นเรียวนิ้วซุกซนก็ค่อยๆ ลูบไล้จากแก่นกายผ่านพื้นที่ว่างระหว่างช่องทางลงไป ก่อนจะถูวนรอบปากช่องทางที่คับแคบ ความต้องการที่มอดดับลงไปแล้วจึงถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่พร้อมเอวสอบที่เริ่มกระแทกสวนขึ้นมาอีกครั้ง
“เฮือก!”
ผ่อนคลายได้ไม่ทันไร จุดที่ไวต่อสัมผัสที่สุดก็ถูกแก่นกายที่กระแทกเข้ามากระตุ้นอย่างรุนแรง ซึงจูพยายามลุกหนีด้วยความตกใจ แต่มูฮึนก็ไม่ปล่อยให้ซึงจูได้ทำแบบนั้น และจงใจกระแทกใส่จุดเดิมซ้ำๆ อย่างแรง
“ดะ…เดี๋ยว…อ๊า…!”
“แฮก…อืม…เด็กดี…”
“ตรงนั้น…ฮึก…มันแปลกๆ…เดี๋ยว…”
มูฮึนเล้าโลมด้วยขั้นตอนแบบเดิม แต่หนนี้กลับให้ความรู้สึกบางอย่างที่ต่างไป ทั้งเรียวนิ้วที่สัมผัสส่วนหน้า ทั้งความร้อนผ่าวที่รู้สึกได้จากช่องทางด้านหลัง ทุกสัมผัสล้วนกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ ที่ต่างไปจากความรู้สึกก่อนหน้านี้ ภายในช่องทางรู้สึกเสียวซ่านไปหมด พร้อมกันนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนจะหลั่งบางอย่างออกมา
“ไม่…อึก…ไม่เอาแบบนี้…อ๊า…!”
ซึงจูรู้สึกเหมือนจะปัสสาวะออกมา ทุกครั้งที่มูฮึนขยับเอวและใช้นิ้วถูวนรอบส่วนหัว บางสิ่งที่จะปล่อยให้หลั่งออกมาตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาดก็เหมือนจะพวยพุ่งออกมาจากส่วนปลาย
“มะ…ไม่…ฮึก…ไม่เอานะครับ…พี่…”
“ไม่เป็นไรน่า…นะ?”
ทั้งที่ซึงจูร้องขออย่างจริงจัง แต่มูฮึนกลับไม่สนใจเลยสักนิด ตรงกันข้ามมูฮึนกลับใช้ฝ่ามือกำรอบส่วนหัวแล้วถูวนไปมาเพื่อปลุกเร้าแก่นกายของซึงจูพร้อมกับกระแทกเอวสวนขึ้นมาอย่างรุนแรง วินาทีที่ความเสียวซ่านรุนแรงแล่นปราดไปทั่วกายราวกับไฟฟ้าสถิต บางสิ่งก็พวยพุ่งออกมาจากแก่นกายที่แข็งขืนไปทุกส่วน
“ฮึก…!”
ของเหลวที่พุ่งกระเซ็นออกมาอย่างแรงไม่ใช่น้ำรัก แต่กลับเป็นบางสิ่งที่ใสและเหลวกว่านั้น หลังจากที่ของเหลวนั้นพุ่งออกมาอาบเลอะไปทั่วร่างกายท่อนบนของมูฮึน มันก็ยังคงไหลออกมาจากส่วนปลายแก่นกายไม่หยุด
“แฮก…”
ซึงจูอยากร้องไห้ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็ทำได้แต่กัดฟันแน่นกล้ำกลืนเสียงสะอื้น ระหว่างนั้นก็เหมือนจะหลุดคำสบถออกมาสั้นๆ เขาอุตส่าห์บอกแล้วว่าไม่เอาแบบนี้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุดจนเขาทำเรื่องน่าอายบนเตียงนี้จนได้ ทั้งที่อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว
“ดูจากพื้นดวงซึงจูของพี่แล้ว ธาตุน้ำในกายค่อนข้างเยอะ…”
ขณะที่ซึงจูได้แต่ก้มหน้างุดเพราะความอับอายที่ถาโถมเข้ามา มูฮึนก็พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มพลางชักรูดแก่นกายที่เลอะไปด้วยของเหลว ก่อนจะกระซิบอย่างหยอกล้อ
“แต่ดูเหมือนตรงนี้จะเยอะเป็นพิเศษ”
“…”
ซึงจูถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาอยากจะโวยวายว่าพูดล้อเล่นบ้าอะไร แต่สิ่งที่ดังออกมาจากปากกลับเป็นคำแก้ตัวที่แฝงไปด้วยความขุ่นเคือง
“กะ…ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่เอา…”
ระหว่างที่ซึงจูกำลังงอแง มูฮึนก็ยังไม่หยุดมือที่กำลังซุกซน ทุกครั้งที่เขาแกล้งชักรูดอย่างนึกสนุก ซึงจูก็ได้แต่ตัวเกร็งกระตุกพลางนิ่วหน้า หลังจากที่ผ่อนคลายลงแล้ว แก่นกายของซึงจูก็อ่อนยวบยาบต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะเสร็จไปถึงสามครั้ง
“โอ๊ย พี่ก็เลิกจับมันสักที…”
ซึงจูแสดงท่าทีหงุดหงิดออกไป แต่แทนที่จะยอมปล่อยมือออก มูฮึนกลับก้มลงจูบซึงจู ก่อนน้ำเสียงที่อ่อนโยนจะดังออกมาจากริมฝีปากที่ผละออกจากกัน
“ไม่เป็นไรนะ นายไม่ได้ฉี่สักหน่อย”
เห็นเราเป็นคนโง่หรือไง สิ่งที่ออกมาจากตรงนั้นได้ นอกจากฉี่กับน้ำไอ้นั่นแล้วมันจะมีอะไรอีก
“ไม่ใช่ฉี่แล้วมันจะเป็นอะไรได้ล่ะ”
พอคิดได้แบบนั้นซึงจูก็โวยวายอย่างขุ่นเคือง ทว่ามูฮึนกลับเอาแต่หัวเราะโดยไม่พูดอะไรก่อนก้มลงหมายจะจูบ แต่ซึงจูสะบัดหน้าหนีเสียก่อน ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจแล้วเปลี่ยนไปจูบแก้มของซึงจูแทน
“พี่บอกแล้วไงว่านายไม่ได้ฉี่”
“…”
พอเห็นมูฮึนยืนกรานแบบนั้นซึงจูก็เริ่มลังเลใจ เพราะมูฮึนไม่ใช่คนที่จะโกหกไปเรื่อยเปื่อย และต่อให้เขาจะปัสสาวะออกมาจริงๆ มูฮึนก็คงจะแค่บอกว่า ‘ไม่เห็นเป็นไรเลย’ เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“ไม่รู้ล่ะ พี่จัดการเลย…”
เพราะไม่อยากคิดอะไรให้ยุ่งยากน่ารำคาญ ซึงจูจึงพูดตัดบทด้วยน้ำเสียงไม่รู้ไม่ชี้ เขาคิดว่าถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง พอมูฮึนหลุดหัวเราะพลางลูบแก้มก้นที่เนียนละเอียด ซึงจูก็ซุกหน้าผากลงบนไหล่ของมูฮึนอย่างหมดแรง
“ตรงนั้นแฉะหมดเลย…”
“อืม เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้น่า”
“เดี๋ยวสิ…อึก…นอกจากผมแล้ว ผ้าห่มพวกนี้…”
“อืม…เรื่องนั้นเดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะจัดการเอง”
มูฮึนปลอบโยนแล้วจุ๊บซึงจูที่กำลังงอแง จากนั้นก็กดริมฝีปากย้ำๆ ราวกับถูกผีที่ขาดใจตายจากการไม่ได้จูบเข้าสิง
เดี๋ยวนะ ผีบ้าที่ไหนจะมาเข้าสิงคิมมูฮึนกันล่ะ…
“คิดเรื่องอะไรอยู่เหรอ”
มูฮึนเอ่ยถามด้วยท่าทีออดอ้อนก่อนจะจูบซึงจูอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว
ก็คิดเรื่องพี่อยู่นั่นแหละ…
ซึงจูไม่มีโอกาสได้ตอบกลับไปแบบนั้น เพราะหลังจากขบเม้มริมฝีปากล่างของซึงจูเบาๆ มูฮึนก็ประคองแผ่นหลังซึงจูให้นอนราบลงกับเตียงทันที
“อืม…”
เนื่องจากเลยเวลานอนมานานแล้ว พออยู่ในท่าทางที่สบายขึ้น ซึงจูก็กะพริบตาปรือปรอย หลังออกกำลังกันหลายยก ตอนนี้ช่องทางของเขาก็เริ่มคุ้นชินกับแก่นกายใหญ่ที่สอดอยู่ด้านในแล้ว แต่ขณะที่เปลือกตาค่อยๆ ปรือปิดลง มูฮึนก็ขยับเอวสอบไปมาเบาๆ
“ฮึก…อื้อ…”
เสียงครางที่ดังออกมาถูกริมฝีปากมูฮึนกลืนกินไปจนหมด หลังหยอกล้อผนังช่องทางที่ตอดรัดแน่นอยู่ครู่หนึ่ง มูฮึนก็ถอนแก่นกายออกช้าๆ ซึงจูอุตส่าห์คิดว่าทุกอย่างคงจะจบลงแล้ว ทว่าท่อนลำที่ถอนออกไปจนเหลือคาไว้แค่ส่วนหัวกลับกระแทกกลับเข้ามาในช่องทางอีกครั้ง
“อ๊า…!”
ซึงจูถึงกับหายใจสะดุดไปชั่วขณะหนึ่งกับสัมผัสที่จุกแน่นภายในท้อง พอเห็นซึงจูส่ายหน้าเพราะหายใจไม่ออก มูฮึนก็ยอมผละริมฝีปากออกแล้วนั่งตัวตรง ก่อนที่ซึงจูจะรีบคว้าข้อมือของมูฮึนไว้ทันทีที่มูฮึนจับเรียวขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน
“นะ…ฮึก…นี่พี่ยังจะทำต่ออีกเหรอ”
ทำไมไอ้พี่คนนี้ถึงไม่รู้จักเหนื่อยบ้างเลยนะ
ความง่วงงุนเมื่อครู่พลันหายวับไปในชั่วพริบตา คราวนี้พอซึงจูส่งสายตาสะลึมสะลือไปให้ มูฮึนก็จับสะโพกของซึงจูไว้ก่อนจะเอ่ยถาม
“ง่วงแล้วเหรอ”
“อื้อ…อ๊า…”
“ถ้าง่วงก็นอนได้เลยนะ”
แม้ปากจะพูดอย่างใจกว้าง ทว่าการกระทำกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น มูฮึนเริ่มขยับเอวช้าๆ ดูท่าคำพูดที่บอกว่า ‘นอนได้เลยนะ’ ของเขาจะสื่อความหมายชัดแล้วว่าไม่คิดจะหยุด
“อ๊ะ…อึก…”
มือที่จับสะโพกของซึงจูไว้ในตอนแรกเริ่มเคลื่อนขึ้นมาที่หน้าท้อง มูฮึนลูบไล้หน้าท้องของซึงจูไปมาราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยที่รู้สึกไม่สบายท้องเบาๆ ก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้าไปในช่องทางลึกขึ้นอีกนิดพร้อมใช้ฝ่ามือกดตรงท้องน้อย
“ฮึก…อ๊ะ!…เดี๋ยว…!”
ทั้งที่คิดมาตลอดว่าเขาใส่เข้ามาจนสุดแล้ว แต่คราวนี้จุดที่แก่นกายของเขากระแทกเข้ามาโดนกลับดูเหมือนจะอยู่ลึกขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ความรู้สึกเหมือนจะปัสสาวะออกมาได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วร่าง และทันทีที่ซึงจูรั้งแขนเขาเอาไว้ มูฮึนก็หยุดชะงักไปแล้วโน้มตัวลงตามแรงดึงของซึงจู
“ตะ…อึก…ตรงนั้น…ไม่ไหว…”
ทั้งที่ไม่ทันรู้ว่ามูฮึนกำลังจะทำอะไร แต่ซึงจูก็กอดคอมูฮึนเอาไว้แน่น เพราะก่อนหน้านี้เขาบอกว่าใส่จนสุดไม่ได้ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเขาตั้งใจจะใส่เข้ามาจนสุดจริงๆ ถึงแม้จะไม่เจ็บ แต่ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี
“อืม…พี่ไม่ทำอะไรน่ากลัวหรอก ไม่เป็นไรนะ”
โชคดีที่มูฮึนฝังใบหน้าลงบนไหล่ของซึงจูแทนที่จะสอดใส่ให้ลึกกว่าเดิม ท่าทางที่ถูไถหน้าผากบนไหล่ดูเหมือนกำลังออดอ้อนและอดทนกับอะไรบางอย่าง ระหว่างนั้นมูฮึนผ่อนลมหายใจออกมาพลางขยับเอวช้าๆ
“อา…”
ร่างกายที่สงบลงได้ครู่หนึ่งเริ่มร้อนผ่าว ดูเหมือนมูฮึนจะฝังใจเรื่องที่ซึงจูว่าเขาตัวหนักจนหายใจไม่ออก มูฮึนจึงเท้าแขนทั้งสองข้างลงกับเตียงเพื่อไม่ให้น้ำหนักกดทับลงไปหาซึงจู ก่อนจะถอนแก่นกายที่สอดลึกอยู่ในช่องทางออกแล้วโถมกายกระแทกกลับเข้าไปใหม่
“ฮึก…!”
ความเสียวซ่านรุนแรงจู่โจมเข้ามาตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงปลายเท้า วินาทีนั้นซึงจูเกร็งไปทั้งตัวโดยที่ก่อนหน้านี้เรี่ยวแรงเหือดหายไปจนเกือบหมด มูฮึนอาศัยจังหวะที่ซึงจูกำลังประมาทกระแทกกายเข้าหาอย่างแรงจนซึงจูถึงกับจุก
“พี่ครับ…ผะ…อื้อ…!”
“แฮก…”
“ผม…เหนื่อย…ฮึก…”
ซึงจูพยายามสื่อสารให้ฟังดูเป็นประโยคที่สุด ด้วยหวังว่าพูดออกไปแบบนี้แล้วมูฮึนคงจะรับฟังกันบ้าง
“แฮก…เหนื่อยแล้วเหรอ”
ทว่ามูฮึนกลับถามกลับมาแบบนั้นโดยไม่ได้ใส่ใจคำอ้อนวอนของซึงจูเลยสักนิด แม้ฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังจะอ่อนโยนแค่ไหน แต่ความเร็วตรงส่วนล่างกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย ทำเอาซึงจูรู้สึกขนลุกไปทั่วกายทุกครั้งที่เขาโหมกระแทกเข้ามาจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกัน
“ฮึก…ฮือ…”
“อืม ไม่เป็นไร…”
พอลองคิดดูแล้ว แม้แต่คำตอบนั้นก็ฟังดูคล้ายคนไร้สติ ทุกถ้อยคำที่พูดออกมาอย่างอ่อนโยนดูเหมือนจะมาจากสามัญสำนึกสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่อย่างเลือนราง ก่อนหน้านี้เวลาซึงจูพูดขอร้องอะไร มูฮึนก็เหมือนจะรับฟัง แต่ซึงจูไม่รู้เลยว่ามันกลายมาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“อ๊ะ อ๊า…ฮึก!”
ความรู้สึกยามที่อีกฝ่ายกระแทกกายเข้ามาอย่างไม่ยั้งทำให้หยาดน้ำตาเริ่มเอ่อคลอ เมื่อคิดว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ซึงจูก็กอดคอมูฮึนแน่น ทันทีที่ซึงจูกัดบริเวณรอยสักรูปกล้วยไม้ มูฮึนก็หยุดการเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง
“…”
“ฮือ…พอที…เบาหน่อย…”
เดี๋ยวก็ขอให้หยุด เดี๋ยวก็ขอให้ทำเบาๆ ตอนนี้ซึงจูพูดออกไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอย่างไหนกันแน่ มูฮึนเองก็คงจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปจนหมดสิ้นแล้วเช่นกัน แล้วตอนนั้นเองร่างกายที่สอดประสานกันอยู่ก็เริ่มขยับอีกครั้ง
“อืม…ฮึก…อา…”
ถ้าได้กัดอีกสักครั้งก็คงจะดี พอคิดแบบนั้นซึงจูก็ออกแรงกัดตรงจุดที่เคยกัดให้แรงขึ้นจนเสียงครางในลำคอดังลอดออกมาตามไรฟัน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลังเลว่าจะกัดให้แรงกว่านี้ดีไหม
จะกัดยังไงดีนะ บอกให้กัดจนเลือดออกเนี่ยนะ พูดอะไรไม่เข้าท่าเลยสักนิด
ทั้งที่เขาก็ไม่อยากให้มูฮึนต้องเจ็บตัวเหมือนที่มูฮึนไม่อยากให้เขาเจ็บตัวเหมือนกัน มันจึงน่าน้อยใจที่มูฮึนกลับเอาแต่รังแกเขาจนเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
“อา…อุบ…”
แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเหนื่อยก็ส่วนเหนื่อย สุดท้ายซึงจูก็เลือกที่จะดูดผิวเนื้อของมูฮึนอย่างแรงแทนที่จะกัดให้รู้สึกเจ็บ ไม่เพียงเท่านั้น ซึงจูยังใช้ฟันหน้าขบกัดเบาๆ จนทำให้มูฮึนชะงักไปอีกครั้ง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“คันฟันหรือไง”
“…”
ทั้งที่ไม่ใช่คำพูดพิเศษอะไร แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ฟังดูอ่อนโยนขนาดนั้น แม้มูฮึนจะไม่ได้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม แต่ซึงจูก็สัมผัสได้ว่ามูฮึนเอ็นดูเขามากแค่ไหน
“พี่ครับ ผมขอดูดตรงนี้ด้วยได้ไหม…”
มูฮึนประคองศีรษะของซึงจูเอาไว้ก่อนจะก้มลงไปหา แม้จะเป็นการกระทำที่ดูไร้ยางอายสุดๆ แต่ซึงจูก็ไม่อาจต่อต้านการกระทำที่ดูเหมือนจะเชื้อเชิญของมูฮึนได้ ทันทีที่ซึงจูประทับริมฝีปากลงบนต้นคอ มูฮึนก็กระซิบข้างหูซึงจูเสียงแผ่วเบา
“ดูดให้แรงกว่านี้หน่อยสิ”
ดูจากการเริ่มขยับริมฝีปากราวกับต้องมนตร์สะกดจากคำพูดนั้นแล้ว ดูท่าคนที่โดนผีสิงน่าจะไม่ใช่มูฮึน แต่เป็นซึงจู
“…”
แม้ท่าทางจะดูเงอะงะไปหน่อย แต่ซึงจูก็ดูดคอของมูฮึนด้วยแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะขบกัดเนื้อบริเวณต้นคอที่ถูกดูดเข้าในปากเพื่อทิ้งร่องรอยของตัวเองเอาไว้ตามสัญชาตญาณ ขณะที่ซึงจูกำลังตื่นเต้นกับความสุขสมที่ไม่คุ้นเคย มูฮึนก็แสดงปฏิกิริยาตอบรับกับสัมผัสนั้นไม่ต่างจากเขา
“อึก…ซึงจูยา…”
มูฮึนครางอย่างสุขสมพลางเอ่ยเรียกซึงจู ดูเหมือนว่ามือที่ประคองศีรษะของซึงจูจะเกร็งขึ้นเล็กน้อย แม้บรรยากาศจะพาไปจนไม่อาจคุมแรงได้ แต่เขาก็ลดมือลงแล้วโอบกอดซึงจูไว้
“ฮ้า…”
มูฮึนผ่อนลมหายใจก่อนจะเริ่มสานต่อกิจกรรมที่ค้างเอาไว้ เขากดแก่นกายเข้าไปในช่องทางอย่างใจเย็น ก่อนจะถอนออกอีกครั้งในจังหวะที่ซึงจูครางเสียงแผ่วออกมา
“ฮึก…!”
กิจกรรมที่สานต่ออีกครั้งในคราวนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนซึงจูเริ่มคิดหนักว่าจะต่อยมูฮึนดีไหม และในที่สุดแสงอาทิตย์แรกของวันก็ส่องสว่างไปทั่วห้อง พวกเขาใช้เวลาในยามค่ำคืนร่วมกันจนกระทั่งต้นคอของมูฮึนขึ้นสีแดงจัด และลำคอของซึงจูที่ส่งเสียงครางออกมาไม่หยุดปากก็แหบแห้งไปหมด
กว่ามูฮึนจะเห็นเลือดที่ไหลซิบอยู่บนไหล่ของตัวเองก็หลังจากที่ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
Comments
