everY
ทดลองอ่าน คุณชายแซ่กู้กับเจ้าสุนัขลู่จอมดุ เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย
บทที่ 8
กู้ซวีเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อนและถามคนที่ยืนอยู่นอกลิฟต์ว่า “ไม่เข้าเหรอ”
ลู่เยี่ยนเลยรีบเดินตามเข้าไป กู้ซวีกดปุ่มในลิฟต์ จากนั้นปุ่มชั้นยี่สิบแปดก็มีไฟสว่างขึ้นมา
ส่วนลู่เยี่ยนยื่นมือไปกดปุ่มชั้นยี่สิบหก
พอถึงชั้นยี่สิบหกลู่เยี่ยนก็เดินออกจากลิฟต์แล้วหมุนตัวมาอีกครั้ง “ขอบคุณนะครับประธานกู้ ผมถึงแล้ว”
กู้ซวีตอบรับว่าอืม
ลู่เยี่ยนเดินมาที่หน้าประตู เตรียมใส่รหัส แต่จู่ๆ เขากลับรู้สึกว่าช่วงท้องปวดแปลบ ปวดไปจนถึงสมอง ทำให้ต้องหดมือที่ยื่นออกไปกลับมาโดยอัตโนมัติ ก่อนจะตัวงอลงไปนั่งยองๆ อยู่บนพื้น
เขาคุ้นเคยกับความเจ็บปวดดีมาก ความรู้สึกอยากอาเจียนที่ตามมาติดๆ นี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ชายหนุ่มได้สติทันทีว่า…โรคกระเพาะกำเริบอีกแล้ว
สมัยมัธยมปลายเขาดื่มหนักอยู่ร่วมสองสามเดือนจนกระเพาะของตัวเองพัง ต่อมาไม่ว่าจะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย
ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่หนึ่งหรือสอง แค่อดทนสักพักก็จะหาย แต่ครั้งนี้กลับปวดกว่าเมื่อก่อน ลู่เยี่ยนกัดฟัน โดยนั่งลงบนพื้นเพื่อรอให้หายปวดก่อนค่อยเข้าห้อง
“คุณเป็นอะไรไป”
ลู่เยี่ยนหันหน้าไปมองด้วยความยากลำบาก เขาพบว่าประตูลิฟต์ที่ปิดไปเมื่อกี้เปิดออกอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ส่วนกู้ซวีเดินออกมาจากลิฟต์และก้าวมาหาเขา
ลู่เยี่ยนสะกดกลั้นความปวดแล้วบอกสั้นๆ “ไม่มีอะไรครับ โรคกระเพาะน่ะ”
หัวคิ้วของกู้ซวีย่นเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า
พอรู้ว่ากู้ซวีกำลังจะทำอะไร ลู่เยี่ยนก็รีบห้าม “อย่าโทรหา 120* นะครับ เดี๋ยวมันก็หาย”
กู้ซวีไม่หยุดมือ “กันไว้ดีกว่าแก้”
ลู่เยี่ยนเห็นกู้ซวียกโทรศัพท์ไปข้างหู ถึงตัวเขาจะปวดจนลุกไม่ขึ้นแต่ก็ยังยื่นมือออกไป…ดึงขากางเกงของกู้ซวีตามสัญชาตญาณ
“…จริงๆ นะครับ โรคเก่าน่ะ เดี๋ยวก็หาย” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ “ถ้าผมเข้าโรงพยาบาลมันจะวุ่นวายมาก”
ลู่เยี่ยนปวดจนหน้าซีด เขางอสองขา นั่งอยู่บนพื้นขณะแหงนมองชายตรงหน้า
เหมือนลูกสุนัขตัวหนึ่ง
กู้ซวีหรี่ตาลงประสานสายตากับเขาสองสามวินาที จากนั้นก็ถอนหายใจเสียงเบาจนเกือบไม่ได้ยินแล้ววางสาย
“ลุกไหวไหม”
ลู่เยี่ยนลองอยู่สองครั้ง “…ดูเหมือนต้องรบกวนคุณให้ช่วยพยุงผมหน่อย”
เพิ่งพูดจบกู้ซวีก็ก้มตัวลงมาใช้สองมือหิ้วปีกลู่เยี่ยน ออกแรงครั้งเดียวลู่เยี่ยนก็ถูกเขาดึงขึ้นมาทั้งตัว
ลู่เยี่ยนปวดจนตาลายแต่ยังอดนึกชมอยู่ในใจไม่ได้ว่า แม่ง แรงเยอะชะมัด
ลู่เยี่ยนพิงตัวกู้ซวี ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนเขาได้กลิ่นบนตัวของกู้ซวี
กลิ่นโคโลญ หอมจัง
กู้ซวีหิ้วปีกลู่เยี่ยนยืนอยู่สักพัก ในที่สุดก็พูดอย่างอดรนทนไม่ไหว “รหัส”
ลู่เยี่ยนถึงได้สติและบอกออกไปอย่างว่าง่าย “หนึ่งเก้าเก้าศูนย์หนึ่งหนึ่งครับ”
กู้ซวีใส่รหัส ก่อนจะเปิดประตูแล้วหิ้วปีกลู่เยี่ยนไปที่โซฟา
โซฟาสีเทาอ่อน กู้ซวีเคยเห็น…ในห้องไลฟ์สด
เขากวาดตามองภายในห้องหนึ่งรอบ การที่เขาไม่รู้ว่าห้องนี้อยู่ในคอนโดฯ ตึกเดียวกับเขาเป็นเรื่องปกติ เพราะเขาซื้อห้องที่ชั้นยี่สิบแปดกับยี่สิบเก้า ออกแบบให้เป็นแบบดูเพล็กซ์ โครงสร้างภายในห้องจึงแตกต่างจากห้องของลู่เยี่ยนอย่างสิ้นเชิง
ลู่เยี่ยนนั่งลงบนโซฟาทั้งที่มือยังกุมท้อง เริ่มมีเหงื่อเย็นๆ ไหลซึมออกมา
“มียาไหม” ในเมื่อเป็นโรคเก่าก็น่าจะเตรียมยาไว้ตลอด
ลู่เยี่ยนผงกศีรษะ “ตรงชั้นวางโทรทัศน์ครับ”
กู้ซวีเปิดชั้นแล้วเห็นกล่องยาทันที เขาหยิบยาออกมาตามปริมาณที่เขียนไว้บนกล่อง แล้วยัดยาให้ลู่เยี่ยนสองเม็ด
ลู่เยี่ยนกินยาแล้วหยิบมือถือ ตั้งใจจะสั่งอาหารดีลิเวอรี่ แต่เขารู้สึกปวดจนมือสั่น แม้จะปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือไปหลายครั้งแล้วก็ยังปลดล็อกไม่ได้
กู้ซวีช่วยเติมน้ำให้เขาอีกหนึ่งแก้ว พอเห็นลู่เยี่ยนหยิบมือถือมาก็เอ่ยถาม “ปวดกระเพาะแล้วยังจะเล่นมือถืออีกเหรอ”
ลู่เยี่ยนกระตุกมุมปาก “นี่น่าจะเป็นเพราะดื่มเหล้าตอนท้องว่าง ผมเลยตั้งใจจะสั่งดีลิเวอรี่”
กู้ซวีเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อเปิดดู
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป…บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป…บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
กับไข่ไก่สองสามฟอง
“ปกติคุณกินอาหารพวกนี้เหรอ”
“…เปล่าครับ ปกติผมสั่งดีลิเวอรี่เอา” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพวกนี้ถูกเก็บมาอย่างน้อยครึ่งปีกว่าแล้วมั้ง
เพิ่งพูดจบกู้ซวีก็เดินมาตรงหน้าลู่เยี่ยนเพื่อหยิบมือถือของเขา หน้าจอมือถือหยุดอยู่ที่หน้าสั่งอาหารดีลิเวอรี่
กู้ซวีเดินไปที่ประตู แล้ววางมือถือไว้บนตู้เก็บรองเท้า เขาหันหน้ากลับมามองลู่เยี่ยนแวบหนึ่ง พอมั่นใจว่าสภาพของลู่เยี่ยนในตอนนี้ไม่สามารถจับมือถือได้ก็หมุนตัวเดินออกไป
ลู่เยี่ยน “…???”
นี่แปลว่าอะไร
ลู่เยี่ยนกัดฟัน ตั้งใจจะลุกไปหยิบมือถือ ผลคือแค่ขยับก้นก็ต้องยอมแพ้ ได้แต่กลับไปขดตัวบนโซฟาด้วยอาการหน้าม่อยคอตกอีกครั้ง
ปวดฉิบหาย การดื่มเหล้ามันไม่ดีเลย!
ผ่านไปแค่สองสามนาทีก็มีเสียงใส่รหัสปลดล็อกประตูดังขึ้น
ลู่เยี่ยนยื่นหน้าจากโซฟาออกไปอย่างมึนงง เห็นกู้ซวีย้อนกลับมาด้วยสีหน้านิ่งสนิท ในมือถือถุงพลาสติกใบใหญ่หนึ่งใบ ไม่รู้ว่าใส่อะไรไว้ถึงได้ตุงขนาดนั้น
“ครัวใช้ได้ใช่ไหม” กู้ซวีเอาถุงไปวางในห้องครัวแล้วถอดเสื้อโค้ตของสูทกับนาฬิกาข้อมือออก ต่อด้วยพับแขนเสื้อขึ้น
ลู่เยี่ยนกำลังงง “ใช้ได้ครับ”
ผ่านไปอีกพักใหญ่โจ๊กร้อนๆ ขึ้นควันฉุยหนึ่งชามก็ถูกวางลงตรงหน้าลู่เยี่ยน
ลู่เยี่ยนมองโจ๊กตรงหน้ากับกู้ซวีที่ยืนหน้านิ่งอยู่ด้านข้างด้วยความรู้สึกว่าเขาอาจปวดท้องจนเห็นภาพหลอน
กู้ซวีต้มโจ๊กให้เขา
กู้ซวีกำลังหยิบกระดาษมาเช็ดมือ เมื่อเห็นลู่เยี่ยนยังคงมองจ้องเขาอยู่ก็พูดเสียงเรียบ “เดี๋ยวก็เย็นหรอก”
ลู่เยี่ยนเลยได้สติ เขากล่าวขอบคุณเสียงเบาแล้วหยิบช้อนมาตักโจ๊กชิมหนึ่งคำ
บอสใหญ่อย่างกู้ซวีทำอาหารเป็นด้วยเหรอ ประเด็นสำคัญคือ…รสชาติดีอีกต่างหาก…
ท่ากินของลู่เยี่ยนไม่ถือว่าน่ามอง แต่ละคำกินคำใหญ่จนแก้มป่อง
เหมือนลูกสุนัขจริงๆ
มุมปากของกู้ซวีโค้งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มหยิบเสื้อโค้ตที่แขวนอยู่ด้านข้างแล้วเดินออกจากห้องไป
ตอนนี้ลู่เยี่ยนอาการดีขึ้นแล้ว ท้องก็ไม่ได้ปวดมาก เขาเลยรีบตามไป แล้วจึงพบว่ากู้ซวีกำลังยืนรอลิฟต์อยู่
“กู้ซวี!” ความรีบทำให้ลู่เยี่ยนเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปตรงๆ พอเห็นกู้ซวีหันมา ลู่เยี่ยนก็ส่งยิ้มให้และโบกมือ “…ไว้วันหลังผมจะเลี้ยงข้าวคุณนะครับ”
ใครต่อใครต่างบอกว่าเหล้าช่วยคลายทุกข์ได้ดีที่สุด เมื่อก่อนลู่เยี่ยนก็รู้สึกแบบนี้ สมัยวัยรุ่นเขาเลยกรอกเหล้าใส่ปากแบบขวดต่อขวด
แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าเหล้ายังสู้โจ๊กเปล่าหนึ่งชามไม่ได้ เพราะต่อให้เขาดื่มเหล้าไปมากมายก็ยังไม่รู้สึกสบายเท่าตอนอิ่มท้องเหมือนตอนนี้
ลิฟต์มาถึงพอดี กู้ซวีจึงเดินเข้าไป ประตูลิฟต์ปิดลงอย่างแช่มช้า
“โอเค”
ตอนแรกลู่เยี่ยนคิดว่าตัวเองมีวันหยุดสี่วันย่อมหาเวลาสักวันไปเลี้ยงข้าวกู้ซวีได้
ผลคือเขาลืมไปว่ากู้ซวีเป็นบุคคลสำคัญที่มีงานยุ่งมากกว่าเขา
เนื่องจากลู่เยี่ยนไม่ชอบติดค้างน้ำใจคนอื่น วันต่อมาเขาเลยไปที่ชั้นยี่สิบแปด แต่กดกริ่งประตูอยู่นานก็ไม่มีคนตอบรับ เมื่อวานเขาเลยไปอีกหนแต่ก็ยังไม่มีคนเหมือนเดิม
ลู่เยี่ยนคิดว่าต่อให้เขาไม่ได้เลี้ยงข้าวกู้ซวีก็ไม่เป็นไร ไว้ค่อยหาโอกาสวันหลังก็ได้
สถานที่ถ่ายทำช่วงแรกอยู่ต่างเมือง พาหนะที่เสี่ยวหลิวจองไว้จึงเป็นเครื่องบินไฟลต์เก้าโมงเช้า ทันทีที่เขาตื่นนอนในวันพรุ่งนี้ก็ต้องออกจากบ้านทันที
ลู่เยี่ยนเก็บสัมภาระเสร็จแล้วก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ตอนสระผมชายหนุ่มหรี่ตาลงพลางคลำหาก๊อกแล้วดันขึ้น
ไม่มีการตอบสนอง
ลู่เยี่ยนชะงักแล้วเปิดซ้ำๆ อีกหลายครั้ง…แต่ยังคงไม่มีการตอบสนอง
น้ำล่ะ!
ชายหนุ่มหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดฟองตรงตาออกแล้วโทรหานิติฯ ทั้งที่ยังมีแชมพูเต็มศีรษะ
นิติฯ ดำเนินการตรวจสอบทันทีแล้วบอกเขาว่า “ไอ้หยา คุณลู่ครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ท่อประปาห้องคุณแตก”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วต้องใช้เวลาซ่อมนานแค่ไหนเหรอครับ”
นิติฯ ลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนพูดเสียงเบา “วันนี้ช่างติดธุระพอดี ขอลางานหนึ่งวัน…”
“…”
ทางนั้นรีบพูดมาอีกว่า “ไม่เป็นไรครับคุณลู่ ท่อน้ำเส้นนี้มีแค่สองชั้น คุณไปขอใช้น้ำจากชั้นยี่สิบแปดหรือชั้นยี่สิบสี่ก็ได้…”
อีกฝ่ายขอโทษขอโพยอยู่นานมากจนลู่เยี่ยนไม่สะดวกใจที่จะสร้างความลำบากใจให้แก่เขาอีก
พอวางสายเขาก็สวมชุดคลุมอาบน้ำมายืนลังเลอยู่หน้าลิฟต์
จะไปขอใช้น้ำที่ไหน ชั้นยี่สิบแปดเหรอ ดูจากประสบการณ์ในช่วงสองวันนี้ของเขา กู้ซวีอาจไม่อยู่บ้าน…ส่วนชั้นยี่สิบสี่ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร
หลังใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งลู่เยี่ยนก็กดปุ่มไปที่ชั้นยี่สิบแปด เขาตัดสินใจลองเสี่ยงดวงดู
เขาเป็นบุคคลสาธารณะ การไปหาคนรู้จักย่อมดีกว่าการไปหาคนแปลกหน้า
พอมาถึงชั้นยี่สิบแปดลู่เยี่ยนก็กดกริ่งประตูสองครั้ง
ไม่มีคนตอบรับ
เขาเลยกดอีกสองครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับเหมือนเดิม
ชายหนุ่มถอนหายใจ เตรียมตัวลงไปที่ชั้นยี่สิบสี่อย่างยอมรับชะตากรรม
แต่เพิ่งหมุนตัวก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก ประตูบานใหญ่ด้านหลังเปิดออกแล้ว
กู้ซวีก็สวมชุดคลุมอาบน้ำเช่นกัน เขากำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม ใบหน้ามีความเหนื่อยล้าเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนตัวยังมีกลิ่นครีมอาบน้ำ พอเห็นลู่เยี่ยนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็แสดงความประหลาดใจเล็กน้อย
เขามองฟองสีขาวบนศีรษะของลู่เยี่ยนแล้วถามว่า “เป็นอะไรไปเหรอ”
ลู่เยี่ยนคิดไม่ถึงว่ากู้ซวีจะอยู่บ้าน “…ผมอยากขอใช้น้ำบ้านคุณหน่อยน่ะครับ”
กู้ซวีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ พอลู่เยี่ยนเดินเข้าไปในห้องน้ำจึงพบว่าอากาศข้างในยังอุ่น มีไอน้ำลอยฟุ้ง
ลู่เยี่ยนคิดว่าในเมื่ออุตส่าห์มาแล้วก็อาบน้ำอีกรอบเลยแล้วกัน ไหนๆ ตัวก็เปียกแล้ว ถ้าจะสระผมอย่างเดียวก็รู้สึกไม่โอเคนัก
หลังอาบน้ำเสร็จลู่เยี่ยนเดินออกมาด้วยความรู้สึกสบายตัวขึ้นไม่น้อย เขาเตรียมไปบอกขอบคุณกู้ซวีแล้วค่อยจากไป ผลคือพอกวาดตามองไปรอบๆ กลับไม่เห็นกู้ซวี
ขนาดลู่เยี่ยนครอบครองพื้นที่หนึ่งชั้นคนเดียวยังรู้สึกว่ามันใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้องแบบดูเพล็กซ์สองชั้นเชื่อมถึงกันของกู้ซวี เพราะมันเหมือนคฤหาสน์ขนาดเล็กจำนวนสองชั้นดีๆ นี่เอง
ลู่เยี่ยนตามหาตัวกู้ซวีพบที่ห้องหนังสือ ประตูไม่ได้ปิดสนิทเลยมองเห็นว่าไฟในห้องสว่าง
กู้ซวียังคงสวมชุดคลุมอาบน้ำ กำลังอ่านเอกสารในมือโดยนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่
ลู่เยี่ยนกลัวว่าจะรบกวนอีกฝ่ายเลยพูดเสียงเบา “กู้ซวี ผมไปก่อนนะ รบกวนคุณแล้ว”
กู้ซวีช้อนตาขึ้นมอง เห็นเส้นผมที่เปียกชื้นของลู่เยี่ยนถูกเจ้าตัวใช้ผ้าขนหนูขยี้จนยุ่ง ด้วยความที่เมื่อกี้เขาอาบน้ำร้อน ริมฝีปากเลยแดงก่ำ ใบหน้าซับสีชมพูระเรื่อ
ลูกกระเดือกของกู้ซวีขยับเบาๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิทว่า “ไม่เป็นไร”
ประตูถูกปิดลง แล้วก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
ลู่เยี่ยนยื่นหน้าเข้ามาอีกหน “ขอช่องทางติดต่อคุณให้ผมหน่อยสิ สองสามวันนี้ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณมาตลอดแต่คุณไม่อยู่บ้านเลย”
กู้ซวีชะงักก่อนจะฉีกกระดาษขาวหนึ่งแผ่นมาเขียนตัวเลขชุดหนึ่งลงไป เขาลุกขึ้นเดินมาที่ประตูเพื่อส่งกระดาษแผ่นนั้นให้ลู่เยี่ยน “สองสามวันมานี้ผมงานยุ่งนิดหน่อยน่ะ”
ลู่เยี่ยนรับกระดาษขาวแผ่นนั้นมา ก่อนจะพูดยิ้มๆ “อันที่จริงไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้ก็ได้ คุณเอานามบัตรให้ผมสักใบก็พอ”
กู้ซวีมองลู่เยี่ยนด้วยดวงตาที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น “นี่เป็นเบอร์ส่วนตัว”
เมื่อลู่เยี่ยนกลับถึงห้องก็บันทึกเบอร์โทรศัพท์เข้าไปในรายชื่อติดต่อ
เพิ่งบันทึกเสร็จ วีแชต* ก็ดังติ๊งเพราะมีคำขอเป็นเพื่อนเข้ามา
[SQ ขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อน ข้อความเพิ่มเติม : ฉันซือฉิงนะ]
ลู่เยี่ยนไม่แปลกใจที่ได้เห็นข้อความดังกล่าว เนื่องจากพวกเขากำลังจะร่วมงานกัน การที่อีกฝ่ายจะมีช่องทางติดต่อเขาย่อมเป็นเรื่องธรรมดามาก และแอ็กเคานต์วีแชตของเขาก็คือเบอร์โทรศัพท์ของเขาเอง
พอเขาตอบรับคำขอเป็นเพื่อน มือถือก็ดังขึ้นทันที
ซือฉิง คุณน้อง
ลู่เยี่ยนตอบกลับอย่างสุภาพ
ลู่เยี่ยน สวัสดีครับ พี่ฉิง
ซือฉิง ห้ามเรียกพี่ฉิง เรียกซะแก่เชียว!
ก็คุณเรียกผมว่าน้องก่อนไม่ใช่เหรอ
ลู่เยี่ยนส่งจุดไข่ปลาไปให้
ซือฉิง เข้าเรื่องสำคัญเลยดีกว่า
ซือฉิง นายก็รู้ใช่ไหมว่าเราต้องถ่ายงานกันประมาณสามเดือน
ลู่เยี่ยน ครับ
ซือฉิง นายเข้าวงการมาหลายปี ถ่ายซีรี่ส์มาก็เยอะ ดังนั้นฉันจะไม่อ้อมค้อมกับนายนะ
ลู่เยี่ยนเป่าผมพลางรอประโยคต่อไป ด้านบนหน้าต่างแชตแสดงว่าอีกฝ่ายกำลัง ‘อยู่ระหว่างการสนทนา’ แต่ไม่มีข้อความส่งมาเสียที
คงไม่ส่งคลิปเสียงยาวหนึ่งนาทีมาให้เขาหรอกใช่ไหม
ผ่านไปสามนาทีในที่สุดก็มีข้อความส่งมา แต่ไม่ใช่คลิปเสียง
ซือฉิง ในสามเดือนนี้เรามาเติมเต็มความต้องการทางกายให้กันหน่อยไหม
* 120 เป็นหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินในประเทศจีน สำหรับเรียกศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน
* วีแชต (WeChat) เป็นหนึ่งในโซเชียลเน็ตเวิร์กยอดนิยมของประเทศจีน ผลิตโดยบริษัทเทนเซ็นต์
โปรดติดตามตอนต่อไป…