everY
ทดลองอ่าน ฉันชอบแฟนนายมานานแล้ว บทที่ 5-6 #นิยายวาย
ทดลองอ่าน เรื่อง ฉันชอบแฟนนายมานานแล้ว
ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)
แปลโดย : qMondae
ผลงานเรื่อง : 我喜欢你男朋友很久了 (Wo Xi Huan Ni Nan Peng You Hen jiu Le)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 05
เผยหรานใจเต้นรัว แต่เขาแยกไม่ออกว่าเป็นเพราะหลัวชิงซานกำลังจูบกับคนอื่น หรือเพราะไอร้อนที่หลงเหลืออยู่บนเปลือกตา
“คิดจะทำยังไงต่อ” เหยียนจุ่นเอ่ยถามหลังจากดึงเขาเข้าไปชิดริมผนังด้านหนึ่งซึ่งเป็นมุมอับสายตาจากสองคนนั้น
ภายใต้แสงสลัว ใบหน้าของเผยหรานแดงจัด เขาผิวขาว ทันทีที่รู้สึกร้อนหรือตื่นเต้นก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
เผยหรานเอ่ยอย่างใจลอย “ฮะ?”
“จับชู้” เหยียนจุ่นกล่าว “หรือจะหนี?”
เผยหรานไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีวันที่ต้องเกี่ยวข้องกับคำว่า ‘จับชู้’ สองคำนี้
ในที่สุดเขาก็ดึงสติกลับมาได้ ปากอ้าๆ หุบๆ อยู่เนิ่นนานกว่าจะพูดออกไป “ช่างมัน…เราไปกันเถอะ”
วันนี้เป็นวันเกิดของหลัวชิงซานแล้วยังมีเพื่อนตั้งหลายคนอยู่ที่นี่ด้วย เผยหรานไม่อยากทำให้เหตุการณ์ดูแย่เกินไป
เหยียนจุ่นชะงัก “…ได้”
กลับมาถึงหน้าประตูห้องคาราโอเกะ เผยหรานก้มหน้ากำลังคิดจะเดินเข้าไป แต่เหยียนจุ่นพลันหันหน้ากลับมา “รอฉันตรงนี้ ฉันจะเข้าไปบอกหลินคังก่อน”
เผยหรานมองเขาอย่างมึนงง
เหยียนจุ่นถามอย่างเป็นธรรมชาติ “จะหนีกลับไม่ใช่เหรอ”
ด้วยเหตุนี้เผยหรานจึงยืนรอเงียบๆ อยู่นอกห้องครู่หนึ่ง เขาถึงกับวางแผนในหัวแล้วด้วยซ้ำว่าหากเจอหน้าหลัวชิงซานกับซูเนี่ยนขึ้นมา เขาควรจะพูดอะไรออกไปดี
แต่กระทั่งเหยียนจุ่นออกมาจากห้องคาราโอเกะอีกครั้งแล้ว หลัวชิงซานก็ยังไม่กลับมา
เหยียนจุ่นเดินออกมา ในมือถือเสื้อโค้ตของเขาด้วย “ไปกันเถอะ”
เมื่อเดินออกมาจาก KTV ก็ถูกลมหนาวยามราตรีพัดโหม เผยหรานถึงดึงสติกลับมาได้อย่างสมบูรณ์
เผยหรานก้มหน้า ขยุ้มผมตัวเองพลางถอนหายใจยาวเหยียด
จากมุมสายตาของเหยียนจุ่น เขากวาดมองสีหน้าของอีกฝ่ายแล้วเม้มปากย้ำๆ หลายครั้งกว่าจะถามออกมา “นายอยากร้องไห้หรือเปล่า”
เผยหรานกล่าว “ไม่อยาก”
“นายดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว”
เผยหรานไม่ได้อยากร้องไห้ แต่เป็นความจริงที่ในใจของเขาค่อนข้างสับสน
เขาพูด “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณนายมากที่ออกมาเป็นเพื่อน ฉันเลี้ยงชานมนายสักแก้วแล้วกันนะ”
ด้านข้างพวกเขามีร้านชานมร้านหนึ่งพอดี เผยหรานคิดไว้ว่าพอซื้อชานมให้อีกฝ่ายเสร็จ พวกเขาก็แยกย้ายกลับทางใครทางมัน เรื่องในคืนนี้มีแรงกระทบกระเทือนต่อเขาไม่น้อย เขาต้องการเวลาทำความเข้าใจอีกนิดหน่อย
เหยียนจุ่นกล่าว “หวานไป ไม่ดื่ม”
เผยหรานพยักหน้า “ถ้างั้นฉันขอตัว…”
“เปลี่ยนเป็นกาแฟเถอะ” เหยียนจุ่นกล่าว “ร้านฝั่งตรงข้ามเป็นกาแฟบดทำสด”
เหยียนจุ่นดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกับเจ้าของร้านกาแฟ ทั้งคู่นั่งคุยอยู่ที่บาร์ได้ครู่ใหญ่แล้ว
เผยหรานนั่งที่โต๊ะตามลำพัง ตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย กระทั่งเสียงแก้วกระทบโต๊ะเบาๆ ดึงความสนใจของเขากลับมา
“ฉันบอกเขาว่าไม่หวานมาก” เหยียนจุ่นนั่งลง
“ขอบคุณ” เผยหรานกล่าวจบก็พบว่าระยะนี้ตัวเองดูเหมือนจะพูดขอบคุณเหยียนจุ่นอยู่เรื่อย “นายรู้จักเจ้าของร้านเหรอ”
“อืม เป็นเพื่อนกัน แก่กว่าพวกเราสองสามรุ่น” เหยียนจุ่นพูด “รู้จักกันในเกม”
ไม่รู้ว่าเผยหรานตั้งใจฟังอยู่หรือเปล่า เขาเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น
เขาชิมกาแฟหนึ่งจิบ รสหวานที่อยู่ในความขมอร่อยกว่าชานมหวานเลี่ยนพวกนั้นเยอะเลย
ครู่หนึ่งเขาก็วางแก้วลงแล้วเอ่ย “นายรู้เรื่องนี้นานแค่ไหนแล้ว”
เหยียนจุ่นคนกาแฟในแก้ว “ไม่รู้ ฉันไม่ได้สนิทกับพวกเขา”
ไม่สนิทแต่มาร่วมงานวันเกิดเนี่ยนะ
เผยหรานเข้าใจเพียงว่าเป็นการช่วยปิดบังระหว่างกลุ่มเพื่อนสนิท เขากดมุมปาก “อืม”
เขาชำเลืองมองทิชชูข้างมือ เหยียนจุ่นเป็นคนหยิบมันมาพร้อมกับดันกาแฟมาให้เขาเมื่อกี้นี้ เผยหรานอดเอ่ยปากออกไปไม่ได้ “ฉันไม่ได้อยากร้องไห้จริงๆ”
“อืม” เหยียนจุ่นถาม “กาแฟขมหรือเปล่า”
เขาเปลี่ยนเรื่องเร็วมาก เผยหรานชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “นิดหน่อย แต่อร่อยมาก”
เหยียนจุ่นล้วงลูกอมเม็ดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ วางลงตรงหน้าเผยหราน
ลูกอมนมกระต่ายขาวเป็นลูกอมรสนมที่เผยหรานชอบกินที่สุด ข้างคอมพิวเตอร์ของเขามักจะมีทิ้งไว้หลายเม็ดเสมอ
“กระเป๋านายมีทุกอย่างเลยเหรอ” เผยหรานแกะเปลือกห่อก่อนเอาเข้าปาก ไม่ได้พูดขอบคุณอีก วินาทีที่ลูกอมรสนมสัมผัสตุ่มรับรส อารมณ์ของเผยหรานก็ผ่อนคลายขึ้นมาไม่น้อย
น่าเสียดายที่เขายังผ่อนคลายได้ไม่เท่าไหร่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากหลัวชิงซาน
เผยหรานก้มหน้ามองหลายวินาที จากนั้นจึงตัดสายทิ้ง แต่หลัวชิงซานไม่ยอมแพ้ โทรมาอีกสองสายติดๆ ทว่าเผยหรานก็ยังคงไม่รับสาย ในที่สุดหลังจากถูกเขาตัดสายเป็นครั้งที่ห้า หลัวชิงซานก็ไม่ได้โทรมาอีก
เผยหรานถึงได้ถอนหายใจโล่งอก แล้วหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นสายจากหลินคัง
เผยหรานลังเลแต่สุดท้ายก็กดรับสาย
“เผยหราน นายอยู่ไหน” เสียงจากฝั่งหลินคังดังมาก เขาคงยังอยู่ในห้องคาราโอเกะ “นี่! ปิดเพลงก่อนได้มั้ย ฉันกำลังคุยกับเผยหราน!”
เผยหรานไม่ตอบแต่ถามกลับ “มีอะไรหรือเปล่า”
หลินคังชะงัก “อ่า มีๆ…หลัวชิงซานเมาแล้ว เขาเรียกหานายตลอดเลย”
อีกฝั่งหนึ่ง หลัวชิงซานที่เอนพิงโซฟาจวนเจียนจะหลับสะดุ้งจนหลังเหยียดตรงอย่างฉับพลัน เขาโผเข้าไปหาหลินคัง “เผยหราน? ที่รักของฉันเหรอ เผยหรานอยู่ไหน ทำไม…เผยหรานถึงไม่รับสายฉันล่ะ”
หลินคังแค่นหัวเราะพลางสบถคำหยาบ “อยู่นี่ๆ เอาโทรศัพท์ไปคุยเอง”
เผยหรานจึงต้องคุยโทรศัพท์กับหลัวชิงซานโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“ที่รัก? ที่รัก?” หลัวชิงซานเรียกเขาสองเสียง จากนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นหรี่ตามองให้แน่ใจว่ายังอยู่ในสาย “เผยหราน สนใจฉันหน่อยสิ”
หลัวชิงซานคออ่อนมาแต่ไหนแต่ไร ฟังจากน้ำเสียงเขาคิดว่าคงจะเมามากๆ แล้ว
กับคนเมาคุยอะไรด้วยก็ไม่รู้เรื่องหรอก เผยหรานถอนหายใจแผ่ว “นายเมา”
“ฉันรู้…” หลัวชิงซานพูดเสียงอู้อี้ “ฉันรู้ ฉันเมาแล้ว นายไม่ชอบสินะ ครั้งหน้าฉันไม่ดื่มแล้ว…ที่รัก พาฉันกลับไปทีสิ”
ในเสียงที่อยู่ข้างหลัง เผยหรานได้ยินเสียงผู้คนรอบๆ หลัวชิงซานพากันหัวเราะครืน หลินคังยังตะโกนบอกให้อัดคลิปสภาพเมาเละของหลัวชิงซานไว้
เผยหรานอดกลั้นอารมณ์ “ฉันไม่กลับไปแล้ว เอาโทรศัพท์ให้หลินคังที”
“ทำไมล่ะ” คำพูดของหลัวชิงซานยานคางด้วยความเมา “ไม่เอา ถ้านายไม่กลับมาฉันก็จะคลั่งตาย”
เสียงเบื้องหลังเอะอะขึ้นทุกที เผยหรานได้ยินแล้วก็ปวดหัว
เขาไม่อยากให้คนอื่นเห็นเรื่องน่าขันพวกนี้อีก ได้แต่พูดเสียงอ่อนลง “นายเชื่อฟังหรือเปล่า”
สองมือเหยียนจุ่นล้วงกระเป๋ากางเกง พิงเก้าอี้มองเขา
หลัวชิงซานคิดเล็กน้อย “เชื่อฟัง”
“งั้นเอาโทรศัพท์ให้หลินคังนะ” เผยหรานกล่าว “เด็กดี”
ในที่สุดหลินคังก็ได้โทรศัพท์กลับมา เผยหรานอธิบายกับเขาว่าคืนนี้ตัวเองไม่กลับไปแล้ว และหวังว่าหลินคังจะช่วยพาอีกฝ่ายไปส่งที่หอแทน
ตอนที่วางสาย เขายังคงได้ยินหลัวชิงซานตะโกนเรียกชื่อของเขา
“เด็กดี?” เหยียนจุ่นกระตุกมุมปากอย่างถากถาง “นายคุยกับเด็กน้อยอยู่เหรอ”
เผยหรานกล่าว “คนเมาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยหรอก”
“ต่างมากเลยล่ะ” เหยียนจุ่นเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “เด็กน้อยนอกใจไม่เป็น”
เผยหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า เขาสัมผัสได้ว่าหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ น้ำเสียงของเหยียนจุ่นก็เปลี่ยนไป
ถึงเหยียนจุ่นจะไม่ได้พูดอะไรผิด แต่ในตอนนี้ คำพูดแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการกรีดปากแผลของเผยหราน
เผยหรานยกยิ้มมุมปาก “นั่นสินะ”
โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะพลันสั่นครืด หลัวชิงซานส่งข้อความเสียงมา
เผยหรานกดฟังข้อความเสียง ทว่าเขาเอาแนบหูไม่ทัน คำพูดที่ส่งมาจึงดังออกทางลำโพงไปแล้วกว่าครึ่งประโยค* ทั้งหมดล้วนเป็นคำพูดไร้สาระฟังไม่ได้ศัพท์
ที่สำคัญคือเสียงด้านหลังของหลัวชิงซานยังมีเสียงของซูเนี่ยนแทรกมาด้วย ทุกเสียงเรียก ‘พี่’ ทั้งดูสนิทสนมทั้งหวานล้ำ ฟังดูแล้วเหมือนทั้งคู่จะอยู่ใกล้กันมาก
“ตอนนี้คืออะไรอีกล่ะ” เหยียนจุ่นเอ่ย “เด็กน้อยหาของเล่นไม่เจอ?”
คนที่ถูกนอกใจหลายคนล้วนชอบระบายเรื่องของตัวเองให้เพื่อนที่อยู่ข้างๆ ฟัง กระหายที่จะได้ยินเพื่อนช่วยแขวะและช่วยตัวเองเรียกร้องความเป็นธรรม
แต่ไม่ใช่กับเผยหราน เขาไม่ชอบเปิดแผลของตัวเองให้ใครดู เขาชินกับการทำความเข้าใจสถานการณ์และระบายออกมาคนเดียว
และในคำอุปมาของเหยียนจุ่น เขาก็คือของเล่นที่ว่า แม้ว่าเหยียนจุ่นอาจจะเผลอปากไว ถ้าเป็นตอนปกติเขาก็คงคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ยังไงเผยหรานก็รู้สึกต่อต้านเล็กน้อย
เขาถึงเพิ่งฉุกคิดขึ้นได้ว่าตนเองกับเหยียนจุ่นไม่ได้สนิทกันเลยสักนิด แม้แต่เพื่อนทั่วไปก็ยังไม่ถือว่าใช่ด้วยซ้ำ
“คงอย่างนั้น” เผยหรานเก็บโทรศัพท์และลุกขึ้นยืน “ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อน แล้วคุยกันวันหลังนะ ขอบคุณที่คืนนี้นายช่วยฉันไว้”
เผยหรานไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ครั้นเจ้าของร้านยื่นใบเสร็จให้ก็ยัดใส่กระเป๋าเสื้อ
เขาผลักประตูร้านออกไป เพิ่งเดินได้สองก้าวก็ได้ยินเสียงกระดิ่งลมบนประตูร้านกาแฟดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นแขนของเขาก็ถูกใครบางคนดึงรั้ง
ฝ่ามือของเหยียนจุ่นร้อนมาก เผยหรานชะงักไปเพราะถูกเขาดึงแขน
“ขอโทษ” ใบหน้าของเหยียนจุ่นยังคงเรียบเฉยแต่กลับพูดด้วยความสำนึกผิด “ฉันพูดผิดไปแล้ว”
เผยหรานกะพริบตา ท่าทีของอีกฝ่ายทำเอาเขามึนงงเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษ…”
เหยียนจุ่นล้วงลูกอมนมกระต่ายขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อกำใหญ่ วางทั้งหมดนั้นลงบนฝ่ามือเผยหราน
“ให้หมดนี่เลย” เขากล่าว “อย่าโกรธเลยนะ”
เผยหรานกลับมาถึงหอพัก เอาลูกอมรสนมทั้งหมดในกระเป๋าออกมาวางข้างคอมพิวเตอร์
รูมเมตได้ยินเสียงก็หันมามอง เอ่ยกลั้วหัวเราะ “กระต่ายขาวตกต่ำจนขายแยกเม็ดแล้วเหรอ”
“เปล่า มีคนให้มา”
รูมเมตร้องอ๋อยาวเหยียด “หลัวชิงซานขี้งกซื้อให้นายแค่นี้เนี่ยนะ”
เผยหรานไม่ใช่พวกกระตือรือร้นอยากอวดแฟน ปกติเวลารูมเมตพูดถึงหลัวชิงซานก็กังวลว่าจะเอาแต่คุยเรื่องนี้จนยืดยาวหาทางลงไม่ได้ เขาจึงอืมๆ อาๆ ตอบอย่างขอไปทีทุกครั้ง
เขาหยิบชุดนอนเดินไปห้องอาบน้ำแล้วอธิบาย “ไม่ใช่เขา เพื่อนอีกคนนึงให้มา”
“งั้นเหรอ จริงสิ คืนนี้ฉันออกไปค้างข้างนอกนะ” รูมเมตยิ้มปากแทบจะฉีกถึงหู “วันนี้วันเกิดหลัวชิงซาน ฉันนึกว่านายจะไม่กลับมาซะอีก”
เผยหรานแค่นยิ้มไม่พูดอะไรอีก
เมื่ออาบน้ำเสร็จออกมารูมเมตของเขาก็ออกไปแล้ว เผยหรานนอนลงบนเตียงก่อนพบว่ามีแจ้งเตือนข้อความเด้งขึ้นเต็มหน้าจอ
หลัวชิงซานส่งข้อความเสียงให้เขานับไม่ถ้วน มีทั้งข้อความสั้นข้อความยาว ซ้ำยังมีสติ๊กเกอร์อีกหลายอัน
หลัวชิงซานเวลาเมาเหล้าจะไม่เป็นเหมือนคนอื่น คนอื่นๆ หัวถึงหมอนก็หลับ แต่เขากลับคึกขึ้นทุกที
เผยหรานเลื่อนหน้าจอผ่านๆ ไม่กดฟังข้อความเสียงสักอันเดียว
ไม่อยากได้ยินเสียงหลัวชิงซาน แล้วก็ไม่อยากได้ยินเสียงซูเนี่ยนด้วย คืนนี้เขายังอยากนอนหลับด้วยใจที่สงบนิ่งอยู่
เผยหรานกดออกจากช่องแชต กำลังจะกดปิดวีแชตก็เหลือบเห็นไอคอนเลข ‘1’ ตัวใหญ่ๆ ปรากฏอยู่ที่เมนูรายชื่อเพื่อน
[จุ่นเลอ* ขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อน ข้อความเพิ่มเติม : เหยียนจุ่น]
รอบตัวล้วนเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน เผยหรานจึงไม่ได้สืบสาวว่าเขาเอาไอดีวีแชตของตนเองมาจากไหน กดยอมรับและถือโอกาสแก้ชื่อของเขาด้วย
เหยียนจุ่น [ข้อความเสียง]
หน้าจอโทรศัพท์ส่องแสงวาบ เผยหรานเม้มปากแล้วกดฟังข้อความเสียงสองวินาทีนี้
“อย่าโกรธเลย รีบนอนล่ะ”
เหยียนจุ่นเสียงทั้งทุ้มทั้งต่ำ แล้วยังมีเสียงน้ำแทรกมาด้วยเล็กน้อย เขาน่าจะกำลังอาบน้ำอยู่
จู่ๆ เผยหรานก็รู้สึกขบขัน ทั้งๆ ที่หลัวชิงซานเป็นคนนอกใจ แต่ทำไมถึงเป็นเหยียนจุ่นที่ยอมรับผิดอยู่ตลอด
จะว่าไป…จริงๆ แล้วเหยียนจุ่นก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
เผยหราน ฉันไม่ได้โกรธ นายเองก็รีบนอนเถอะ
อีกด้านหนึ่งเหยียนจุ่นยืนอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำ อ่านข้อความนี้ซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า