everY
ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 46-49 #นิยายวาย
ทดลองอ่านเรื่อง ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2
ผู้เขียน : ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ (绿野千鹤)
แปลโดย : qMondae
ผลงานเรื่อง : 再少年 (Zai Shao Nian)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
Trigger Warning
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน
ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ
เนื้อหามีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับความรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจ
สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 46
ฮีโร่
ทนายความถือใบรายการที่แก้ใหม่แล้วเดินจากไปด้วยหัวใจหนักอึ้ง
หยางเฉินโยนลู่อวี๋ที่ไม่น่าไว้วางใจเข้าแคปซูลเกมมิ่ง พอไลฟ์เริ่มเขาก็ไปนั่งจับตามองความคืบหน้าของทีมข้อมูลอยู่ด้านหลัง ไลฟ์หลายวันที่ผ่านมาเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว คนในทีมข้อมูลค่อยๆ คุ้นชินกับงาน ไม่จำเป็นต้องให้เขาเข้าไปคุมด้วยตัวเอง เหล่าหยางลูบศีรษะมันโล้น ในที่สุดก็ผ่อนคลายลงมาได้บ้าง
“ประธานหยาง คุณได้ยินเรื่องหลี่เชาหรือยังครับ” พนักงานคนหนึ่งในทีมข้อมูลเห็นเขาว่างๆ เลยแอบกระเถิบเข้ามาหา
หยางเฉินเงยหน้าจากหน้าจอไลฟ์สตรีม เลิกคิ้วเล็กน้อย “ว่าไง”
วันนั้นที่ลู่อวี๋ลากเขาไปจัดการหลี่เชาตอนกำลังเมาได้ที่ ถึงตอนทำจะรู้สึกดีมากก็เถอะ แต่พอสร่างเมาแล้วเขาค่อนข้างกลัวไม่น้อย ถ้าเกิดหลี่เชาแจ้งความแล้วสืบรู้ว่าเป็นฝีมือพวกเขาสองคนล่ะก็ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่
สองวันมานี้เขาพยายามควบคุมตัวเองไม่ไปสอบถามสถานการณ์ของหลี่เชา เพราะกลัวว่าจะขุดหลุมฝังตัวเองเข้า
“ฮี่ๆๆ คุณคงไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ‘พันธมิตรปราบปรามหลี่เชา’ สินะ ไอ้เวรนั่นโดนต่อยครับ!” ตอนที่หยางเฉินลาออกมาทำบริษัทเอง เพื่อนร่วมงานไม่น้อยได้ตามเขามาด้วย พนักงานคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าของเขาและเคยถูกรังแกด้วยน้ำมือของหลี่เชาเหมือนกัน
“เกิดอะไรขึ้น” หยางเฉินไม่ได้หันหน้าไป ทำเป็นกำลังดูไลฟ์สตรีม ทักษะการแสดงเขาไม่ดีเท่าลู่อวี๋ กลัวควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วจะหลุดพิรุธ คราวหน้าเดี๋ยวต้องเรียนรู้การจัดการสีหน้ากับทนายคนนั้นสักหน่อยแล้ว รายนั้นน่ะเรียกได้ว่าถึงภูเขาไท่ซานถล่มลงตรงหน้าใบหน้าคงไม่เปลี่ยนสีของจริง
พนักงานคนนั้นหัวเราะชั่วร้าย ส่งคลิปหนึ่งให้หยางเฉิน “ไม่กี่วันก่อนหลี่เชาโดนใครไม่รู้ต่อย วันต่อมาไม่ได้ไปทำงาน แต่เย็นวันนั้นมีคนไปเจอเขาแล้วถ่ายคลิปมา”
หยางเฉินลอบสะพรึงในใจ รีบกดเปิดดูคลิป แล้วก็โล่งอก คลิปนั้นถูกถ่ายในลานจอดรถใต้ดิน หลี่เชาที่หน้าช้ำดำเขียวเดินประคองเอวกะเผลกๆ ไปทางรถตัวเองอย่างไว มี รปภ. คนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีเลยเข้าไปสอบถามอาการ “ซี้ด ประธานหลี่ ไปทำอะไรมาครับเนี่ย ทำไมกลิ่น…นี่มันกลิ่นอะไรครับ” ด้านหลี่เชาพูดอ้อมแอ้มว่า “เมื่อกี้ล้มในห้องน้ำ” แล้วก็รีบมุดเข้ารถตัวเอง
คลิปตัดจบตรงนี้ พนักงานคนนั้นหัวเราะคิกคัก “ได้ยินว่าบนตัวหลี่เชามีแต่กลิ่นเหม็นตุๆ คนที่ไปต่อยเขาไม่ได้แค่ต่อยอย่างเดียวแต่ยังฉี่ใส่เขาด้วย ฮ่าๆๆๆ สุดยอดอัจฉริยะ สะใจผมสุดๆ เลย! ผมอยากทำอย่างนี้มานานแล้ว ไม่รู้ผู้กล้าคนนั้นเป็นใครมาจากไหน จากนี้ไปเขาจะเป็นไอดอลของผม”
พนักงานไม่รู้ว่าไอดอลของเขาคือคนตรงหน้า แถมยังยื่นประวัติการแชตในกลุ่มให้เหล่าหยางอ่านด้วย
หลี่เชาคนนี้เป็นญาติผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัท ความสัมพันธ์คอนเน็กชั่นแน่นแฟ้นมาก เขาทำตัวกร่างในบริษัทแห่งนั้นมานานปี แต่ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ‘กลุ่มปราบปราม’ นั่นล้วนเป็นคนใต้บังคับบัญชาหลี่เชาทั้งสิ้น ทั้งคนที่ลาออกมาแล้วและยังไม่ได้ลาออกก็อยู่ในนั้นหมด ตอนนี้ทุกคนต่างกำลังคุยกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
จากรายงานของพนักงานที่ยังทำงานในบริษัทนั้น หมอนี่ไม่ได้ไปแจ้งความ ถึงขึ้นไม่กล้าทำให้เรื่องราวใหญ่โตด้วยซ้ำไป แค่ทำเรื่องขอลาหยุดยาวประจำปี
หยางเฉินผ่อนลมหายใจ ฟังพนักงานคนนั้นพูดจ้อไม่หยุดปากอยู่ข้างหูพลางอดมีความสุขไม่ได้ เขาปัดมือบอกให้พนักงานไปทำงานต่อ ส่วนตัวเองนำกำปั้นขวาทุบอกซ้ายให้ลู่อวี๋ที่อยู่ในจอไลฟ์สตรีม ถ้าไม่ใช่เพราะลู่อวี๋พาเขาไป ทั้งชีวิตนี้เขาคงไม่มีความกล้าทำแบบนี้แน่ๆ เพื่อนรักของเขา ฮีโร่ตัวจริง!
ทว่าวินาทีต่อมาเพื่อนรักฮีโร่ตัวจริงของเขาได้นั่งยองแอบฟังลูกชายคนที่สามของตัวเองอยู่ตรงฐานกำแพง
เหล่าหยาง “…”
ถึงจะเป็นฮีโร่ แต่กิริยาถ่อยชะมัด
ในไลฟ์ ฮวาเหวินหย่วนจัดระเบียบทหารองครักษ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว กำลังพาพวกเขาไปยังค่ายใหญ่เจียงโจว
เรื่องเอาตำลึงเงินไปทำหน้าไม้นั้น เขามอบหมายให้องครักษ์คนหนึ่งไปจัดการแล้ว ส่วนตนก็พาท่านอารอง อาสะใภ้รอง และญาติผู้น้องขี่ม้าเร็วมุ่งหน้าไปยังเจียงโจว
ที่เจียงโจวนั้นยังนับว่าอุดมสมบูรณ์ ในปลายราชวงศ์ที่เกิดภัยพิบัติขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านที่นี่ยังคงพอประทังชีวิตอยู่ได้และยังไม่ลุกฮือชูท่อนไม้ก่อกบฏ ค่ายรักษาการณ์ใหญ่เจียงโจวที่ไร้ซึ่งความตระหนักถึงภัยอันตรายแห่งนี้เละเทะไร้ความเป็นระเบียบ กลางวันไม่ฝึกซ้อม กลางคืนไม่เฝ้ายาม อย่าว่าแต่จะนำทัพไปปกป้องชายแดนเลย แค่จะปราบปรามกลุ่มคนก่อกบฏก็ยังไม่ไหว เดินไปได้ครึ่งทางก็ต้องกระเจิงหายกันหมด
ฮวาเหวินหย่วนกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ก่อนพบว่าไร่นาของกองทัพแทบทั้งหมดถูกครอบครองโดยหัวหน้ากองพันสี่นาย ครอบครัวกองทัพล้วนตกต่ำกลายเป็นเพียงชาวนาเช่าที่ดิน ซึ่งหลายปีมานี้บ้างตายตก บ้างหนีหาย จนเหลือประชากรทหารจริงๆ ไม่ถึงครึ่งที่บันทึกไว้ในทะเบียนเรือน ส่วนทหารที่ประจำการมากกว่าครึ่งกลับเป็นชาวบ้านผู้กล้าที่ถูกเกณฑ์กำลังมาจากท้องถิ่น
“เหลวไหลสิ้นดี” เซี่ยฉงอวิ๋นถึงจะไม่ค่อยชอบใช้สมองนัก แต่อย่างไรก็เกิดในตระกูลบัณฑิต ถูกบังคับให้อ่านหนังสือ เขาจึงรู้ว่าการที่ทะเบียนเรือนมีประชากรไม่ถึงครึ่งมีความร้ายแรงอย่างไร
ด้วยได้ยินว่าราชสำนักจะส่งแม่ทัพเข้ามาควบคุม เพื่อเสริมกำลังทหารให้เพียงพอ เหล่าหัวหน้ากองพันจึงเรียกระดมชาวบ้านมาเป็นทหาร คนหนุ่มในชนบทแถบนี้ที่หาเลี้ยงชีพไม่ได้จึงมาสมัครเป็นทหารเพื่อหวังอาศัยข้าวกิน ทว่าเงินเดือนทหารมักจะถูกค้างจ่าย พวกเขาจึงยังคงอดอยาก นานวันเข้าคนเหล่านี้ก็หนีหายกันไปหมด
“เป็นเช่นนี้แล้ว จะมิถึงคราวล่มจมได้อย่างไร” ฮวาเหวินหย่วนรู้สึกชิงชังยิ่ง เขามองทะเบียนเรือนเหล่านั้นแล้วปวดหัวจะระเบิด หันไปมองหมิงเยี่ยนด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ “ท่านอาสะใภ้รองเปี่ยมด้วยวิชาความรู้ ท่านช่วยหลานคนนี้ดูบัญชีได้หรือไม่”
ชาติก่อนเขาแต่งงานอย่างราบรื่นและนำบัณฑิตสองคนของสกุลเฉิงมาช่วยงานที่เจียงโจวด้วย บัดนี้เขายกเลิกงานแต่งไปแล้ว ย่อมไม่มีคนจากสกุลเฉิงมาช่วยงานเขา เขาจึงให้ความสนใจไปยังหมิงเยี่ยนที่ดูเหมือนจะเก่งด้านบัญชี
หมิงเยี่ยนกำลังจะตอบตกลง แต่ถูกลู่อวี๋ปรามก่อน
ลู่อวี๋โบกมือปัด “เจ้าจงไปหาบัณฑิตสักสองสามคนมาทำบัญชี แล้วนำสรุปบัญชีมาให้อาสะใภ้รองดูก็พอ เราต้องรู้ภาพรวมก่อน รีบรวบรวมคนที่คิดว่าใช้งานได้มาสักสองพันคน แล้วเรื่องไปปราบกบฏค่อยว่ากันทีหลัง”
ฮวาเหวินหย่วนพยักหน้า ทว่ายังคงขมวดคิ้ว
ลู่อวี๋ตบไหล่เขา เอ่ยให้กำลังใจ “อย่าบึ้งตึงไปเลยน่า เดี๋ยวผู้ช่วยใช้โปร* ของเจ้าก็จะมาถึงแล้ว”
ฮวาเหวินหย่วนมองอย่างงุนงง “ใช้โปรคืออะไร”
ลู่อวี๋ชี้แจงให้เขาฟังว่าโปรคืออะไร พออธิบายเสร็จฮวาเหวินหย่วนกลับงงหนักยิ่งกว่าเดิม ถามเขาว่ารู้ได้อย่างไรว่าจะมีคนใช้โปรมา
ลู่อวี๋ลูบหนวดเคราที่ไม่มีอยู่จริง ทำหน้าตาประหนึ่งหมอดูกำมะลอ “แค่ข้านับนิ้วก็คำนวณออกมาได้แล้ว”
ฮวาเหวินหย่วนถามแล้วไม่ได้อะไรกลับมาจึงไม่เซ้าซี้อีก ยกดาบขึ้นแล้วเดินออกไป ตั้งใจจะฆ่าหัวหน้ากองร้อยนั้นเพื่อขู่ผู้คนสักหน่อย รอให้รายการบัญชีเรียบร้อยแล้วค่อยไปประหารหัวหน้ากองพันทั้งสี่นายให้เหี้ยน
ซับกระสุน
[หนึ่งบทเพลงมิรู้กี่แพรแดง : สุนัขลู่ ห้ามสปอยล์ ไม่อนุญาตให้สปอยล์ข้อมูลกับฮวาเหวินหย่วน ยกเว้นแต่จะพาฉันไปด้วย!]
[หนึ่งบทเพลงมิรู้กี่แพรแดง ส่งของขวัญ –––– เรือยอชต์ปาเจียวระดับซูเปอร์วีไอพี x 300]
ฮวาเหวินหย่วนพุ่งออกไปด้วยจิตสังหารเดือดพล่าน ไม่นานนักทหารสิบกว่านายในค่ายก็ร่วงกราว เข่นฆ่าจนย้อมพื้นศิลาเขียวของลานฝึกให้กลายเป็นสีดำแดง ในที่สุดพลทหารที่ยืนโย้เย้ไม่เป็นระเบียบก็ตั้งสติกันได้
กลางดึก ลู่อวี๋ลากหมิงเยี่ยนไปนั่งยองอยู่ใต้หน้าต่างห้องนอนฮวาเหวินหย่วน
หมิงเยี่ยนฟังเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้อง ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น “นี่น่ะเหรอโปรที่นายว่า”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว” ลู่อวี๋ส่ายหัว “กว่าโปรจะมายังอีกตั้งหลายบท อย่างน้อยต้องรอให้เขาประกาศก่อกบฏก่อนถึงจะมาครับ” ในห้องนี้มีอิสตรีที่ถูกหนึ่งในหัวหน้ากองพันส่งตัวมา
หมิงเยี่ยนกลอกตา หยัดกายลุกขึ้นหมายจะเดินออกไป แต่ถูกลู่อวี๋โอบตัวไม่ให้ขยับไปไหน
ลู่อวี๋บ่นอุบเสียงเบา “พี่ใจร้ายอ่า ความบริสุทธิ์ของลูกชายจะแปดเปื้อนอยู่แล้ว พี่กลับจะหนีซะงั้น”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าจะไม่สำเร็จ” หมิงเยี่ยนก็เคยอ่านต้นฉบับมาแล้ว พูดถึงตรงนี้เขาสงสัยเล็กน้อย “เรื่องนี้เป็นแนวต่อสู้แย่งชิงอำนาจเพื่อความเป็นหนึ่งในใต้หล้า ตามหลักการแล้วพระเอกน่าจะได้ครอบครองนางสนมแสนงามในวังหลังสามพันคนสิ ทำไมนายถึงเขียนให้ฮวาเหวินหย่วนรักษาตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยกขนาดนี้ล่ะ”
นิยายประเภทนี้ต่อให้ไม่เขียนฉากเลิฟซีนก็ไม่เป็นไร ยังไงเรื่องความรักใคร่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักอยู่แล้ว แต่ฮวาเหวินหย่วนกลับบริสุทธิ์ผุดผ่องตลอดทั้งเรื่อง นี่มันแปลกจากพิสัยทั่วไป ด้วยเหตุนี้จับปลาบนดินแล้งจึงถูกกลุ่มนักอ่านชายด่าไม่เลี้ยงไปไม่น้อย
ถามจบหมิงเยี่ยนก็พลันรู้สึกว่าไม่เหมาะนัก ลู่เสี่ยวอวี๋ไม่ได้เป็นคนแต่งนิยายเรื่องนี้ แต่เป็นลู่ต้าอวี๋ต่างหาก
ทว่าคำถามนี้ทำอะไรลู่อวี๋ไม่ได้ เขาส่งเสียงเย็นเยียบในลำคอ “ผมที่เป็นพ่อของเขายังไม่มีเมีย เรื่องอะไรเขาต้องมีล่ะ”
เวลานั้นเองจู่ๆ ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากในห้อง ฮวาเหวินหย่วนตะโกนลั่น “ออกไป!”
ตามมาด้วยเสียงร้องห่มร้องไห้ของหญิงสาว นางกล่าว “ข้าน้อยไม่มีหนทางอื่นเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ ได้โปรดช่วยข้าน้อยเถิดเจ้าค่ะ หากข้าน้อยออกไปทั้งอย่างนี้คงไม่เหลือทางใช้ชีวิตแล้วเจ้าค่ะ”
“จะมาแล้ว จะมาแล้ว” ลู่อวี๋ตื่นเต้นระริกระรี้ เห็นเงาร่างหนึ่งวิ่งหนีออกมาจากในห้อง เขากดหมิงเยี่ยนเข้าอ้อมแขนของตัวเองอย่างมือไวตาไว ไม่ให้อีกฝ่ายดู “ไม่เหมาะสมกับเด็กเล็ก พี่เยี่ยนอย่าดูนะ”
หมิงเยี่ยนผลักเขา “ฉันเป็นคนวาดเอง มีตรงไหนที่มองไม่ได้ล่ะ” คนคนนี้ลากเขามามุงดูความครึกครื้น แต่พอถึงจุดสำคัญดันไม่ให้เขาดูเสียอย่างนั้น
ลู่อวี๋มองฮวาเหวินหย่วนที่สวมกางเกงตัวในวิ่งออกมาแล้วงงเต้ก “เอ๊ะ ทำไมเขาถึงสวมกางเกงตัวในออกมาล่ะ ในต้นฉบับไม่ได้เป็นแบบนี้นี่”
หมิงเยี่ยนดิ้นจนหลุด เอ่ยอย่างหน่ายใจ “ถ้าไม่สวมเสื้อผ้าเลยเดี๋ยวไลฟ์จะโดนแบน”
ลู่อวี๋ค่อนข้างเสียดาย “จิ๊ๆ อดเห็นเขาเปลือยก้นเลยอะ งี้ก็ไม่มีจุดอ่อนไว้มาขู่ให้เขาเชื่อฟังแล้วสิ”
“เปลือยก้นอะไร” ฮวาเหวินหย่วนที่สวมกางเกงตัวในหันมาถามพร้อมมองท่านอารองที่นั่งยองอยู่ใต้หน้าต่างด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
* โปร มาจากคำว่า ‘โปรแกรมช่วยเล่น’ หมายถึงการใช้โปรแกรมโกงในเกม
Comments



