ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 50-53 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 50-53 #นิยายวาย

บทที่ 51

เสิ่นอิง

 

ทันทีที่เสิ่นอิงปรากฏตัว ซับกระสุนก็เริ่มร่ำไห้หน้าหลุมศพ

 

[อาอิง อาอิงของฉัน ฮืออออ…]

[ตัวละครในดวงใจที่คะนึงหาในหมวดนิยายผู้ชายของฉัน คืนอาอิงมาให้ฉันนะ!]

[จับปลาบนดินแล้ง เจ้าปลาซันมะ*** ไร้หัวใจ ไม่นึกเลยว่าจะวาดอาอิงออกมาได้งดงามขนาดนี้ นายคงอยากเห็นฉันตายจริงๆ สินะ]

[แต่ถึงอย่างนั้นคนที่วาดอาอิงออกมาให้งดงามแบบนี้คือหมิงเยี่ยนนะ]

[ประธานหมิงเป็นสุดยอดคนงาม ยอดคนงามจะทำผิดได้ยังไง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเจ้าปลาซันมะ]

[ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน พวกนายร้องไห้กันทำไมอะ ตอนหลังเสิ่นอิงคนนี้จะตายเหรอ]

 

ทว่าแฟนนิยายทุกคนต่างรู้งานกันอย่างผิดปกติ ไม่มีใครสักคนที่หลุดสปอยล์ เพียงโฟกัสกับการร่ำไห้หน้าหลุมศพแล้วยังพากันส่งของขวัญไม่หยุดพลางขอให้ฝ่ายผู้จัดทำช่วยวาดเสื้อผ้าสวยๆ งามๆ ให้เสิ่นอิงสวมเยอะๆ

ที่ปฏิกิริยาของทุกคนร้อนแรงขนาดนี้เพราะว่าเสิ่นอิงเป็นตัวละครสำคัญของนิยายเรื่อง ‘ทะลวงหมาป่าสวรรค์’ ความเฉลียวฉลาดอยู่บนจุดสูงสุด เป็นผู้ช่วยที่แกร่งที่สุด ทว่ากลับสิ้นใจในตอนที่ฮวาเหวินหย่วนประกาศศักดาสำเร็จ จากไปก่อนจะทันได้เห็นรุ่งอรุณ

ตัวละครเสิ่นอิงได้รับความนิยมสูงมากในตอนที่ลู่อวี๋อัพโหลดรายตอน ช่วงสุดท้ายที่เขาตายก็ยิ่งระเบิดอารมณ์ทั้งหมดของเรื่องให้ขึ้นไปถึงจุดพีค

ตอนนั้นมีการโหวตตัวละครสมทบในดวงใจที่คะนึงหา เสิ่นอิงชนะแสงจันทร์ขาว* ในใจของทุกคน คะแนนทิ้งห่างจากที่สองสิบเท่า กลายเป็นแชมป์ของปีนั้นไป

หงอู่หยาง พี่ใหญ่ท็อปโดเนตผู้นี้เมื่อได้เห็นเสิ่นอิงพูดได้ขยับได้อยู่ไม่ไกลก็ขอบตาแดงก่ำ

ฝั่งฮวาเหวินหย่วนหันมามองด้วยสายตาเฉียบคม ลู่อวี๋จึงรีบเข้าไปบังได้ทันการณ์ แล้วโบกมือบอกฮวาเหวินหย่วนว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น

ฮวาเหวินหย่วนเห็นท่านอารองกำลังทำตัวแปลกๆ ก็ชินกับพฤติกรรมของเขาแล้วไม่สนใจอีก จากนั้นสายตาก็ย้ายมาทอดมองบัณฑิตหนุ่มตรงหน้า

ครั้นเห็นฮวาเหวินหย่วนไม่เอ่ยคำใดสักที เสิ่นอิงก็ยิ้มมากเล่ห์ “ข้าพูดผิดไป มิได้มาเข้าร่วมกบฏ หากแต่ละทิ้งความมืดมิด หันหน้าเข้าสู่ทางสว่าง”

ฮวาเหวินหย่วนมุมปากกระตุก “เสิ่นจวี่เหรินมากพรสวรรค์ ควรเข้าร่วมการสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิไม่ดีกว่าหรือ ไยจึงต้องร่วมการก่อกบฏด้วย” แม้ปากจะกำลังเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย แต่กลับไม่หลีกเลี่ยงคำว่า ‘ร่วมการก่อกบฏ’ ซ้ำยังยอมรับว่าตนกำลังจะกบฏจริงๆ

เสิ่นอิงส่ายหน้า วางกล่องตำราหนักอึ้งลง “สอบจ้วงหยวนได้แล้วอย่างไร ในเมื่อแผ่นดินนี้จะอยู่ไม่ถึงวันที่ข้าได้ขึ้นเป็นเสนาบดี ไยจึงต้องสิ้นเปลืองแรงด้วย”

เสียงสูดลมหายใจมากมายพลันดังลอดออกมาจากกระโจม

เหล่าทหารที่ตามฮวาเหวินหย่วนมาก่อกบฏแบบไม่รู้เรื่องอะไรนัก ไม่เคยพิจารณาอย่างถี่ถ้วนมาก่อนเลยว่าเหตุใดเขาต้องทำการกบฏ เพียงแค่รู้สึกว่าเดินตามเขาย่อมมีอนาคตกว่าเดินตามฮ่องเต้ บัดนี้แม้แต่จวี่เหรินที่เมื่อก่อนพวกเขาได้แต่เงยหน้าชื่นชมยังหันมาสวามิภักดิ์ มิหนำซ้ำยังประกาศชัดว่าแผ่นดินต้าโจวจะล่มสลาย ได้ยินเช่นนี้ใครเล่าจะไม่ตกตะลึง อีกฝ่ายเป็นถึงบัณฑิต เหตุใดถึงได้มีบัณฑิตที่ใจกล้าเพียงนี้

ขณะเดียวกันคนเหล่านี้รวมทั้งเหล่าช่างตีเหล็กก็ล้วนสบายใจแล้ว เมื่อมีท่านจวี่เหริน ก็แปลว่าการเข้าร่วมก่อกบฏกับแม่ทัพฮวานั้นถูกต้อง

ฮวาเหวินหย่วนก็กำลังพิจารณาจ้วงหยวนในอนาคตท่านนี้ ปกติแล้วบัณฑิตนั้นยึดมั่นในคุณธรรมถึงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบัณฑิตแห่งต้าโจว ในยุคที่ลัทธิหรู** รุ่งเรืองถึงที่สุด เหล่าบัณฑิตล้วนศรัทธาในคำกล่าวที่ว่า ‘อดตายเป็นเรื่องเล็ก การสูญเสียคุณธรรมนั้นเป็นเรื่องใหญ่’ ในฐานะที่เสิ่นอิงเป็นถึงยอดบัณฑิต จะบอกเข้าร่วมการก่อกบฏก็เข้าร่วมได้อย่างไร

มิหนำซ้ำไยเสิ่นอิงจึงรู้ได้ว่าเขาหันหลังให้ราชสำนักแล้ว

ครั้นมองออกถึงความแคลงใจของฮวาเหวินหย่วน เสิ่นอิงไม่ตอบหากแต่ถามกลับ “แม่ทัพฮวา เดิมทียามนี้ท่านควรจะนำทัพไปยังเมืองหานเฉิง เหตุใดจึงมารุกรานช่างตีเหล็กเพียงหยิบมือ ยึดเอาเมืองเล็กเพียงตารางชุ่น* อยู่ที่นี่กันเล่า”

ฮวาเหวินหย่วนเลิกคิ้ว สายตาคมกริบขึ้นมาทันใด

“คนชัดเจนมิกล่าววาจาอ้อมค้อม ท่านแม่ทัพ ท่านดูสิ่งนี้ก่อน นี่คือบทประพันธ์ที่ข้าน้อยเขียนระหว่างทาง” เสิ่นอิงล้วงกระดาษเซวียนจื่อ** บางๆ แผ่นหนึ่งออกมาจากกล่องตำรา บนนั้นเขียนตัวอักษรเล็กๆ อัดกันหนาแน่น “หากท่านแม่ทัพได้อ่านสิ่งนี้แล้วยังคิดว่าข้าน้อยไร้ประโยชน์ เช่นนั้นข้าน้อยก็จะออกเดินทางเพื่อไปสอบจ้วงหยวนให้ได้ก่อนจึงจะกลับมา”

ฮวาเหวินหย่วนรับกระดาษแผ่นนั้นมาไล่อ่านอย่างละเอียด รูม่านตาพลันหดเล็กทันที สิ่งที่เขียนบนกระดาษมิใช่บทประพันธ์ชั้นเลิศอะไร ทว่าเป็นบันทึกรายชื่อชุดหนึ่ง มีชื่อแซ่ ชาติกำเนิด และความสามารถของคนในแถบเจียงโจวที่สามารถใช้งานได้ บางคนเป็นมหาปราชญ์ที่ชื่อเสียงขจรกว้างไกล บางคนตอนนี้ยังดูธรรมดาไม่โดดเด่น บางคนถึงขั้นที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

ฮวาเหวินหย่วนเงยหน้ามองเสิ่นอิงอีกครั้ง อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มเป็นมิตรต่อคนและสัตว์ออกมา

ฮวาเหวินหย่วนเข้าใจแล้ว คนผู้นี้ก็เกิดใหม่!

เสิ่นอิงไม่เคยลืมสิ่งที่ผ่านตา หากเขาเกิดใหม่ ย่อมสามารถจดจำรายละเอียดทุกอย่างได้แจ่มชัด ด้วยเหตุนี้จึงมองออกถึงความผิดปกติของฮวาเหวินหย่วนจากวิถีที่เขาเคลื่อนทัพซึ่งต่างไปจากชาติก่อนอย่างสิ้นเชิง หลังคอยสังเกตอยู่ไกลๆ ก็เข้าใจว่าฮวาเหวินหย่วนเกิดใหม่และแปรพักตร์เป็นกบฏแล้ว

ฮวาเหวินหย่วนพับรายชื่อนั้นเก็บไว้ในอกอย่างถนอมและให้ความสำคัญ

มันมีประโยชน์กับเขามากเหลือเกิน! เขาที่เป็นแม่ทัพคนหนึ่งรู้สึกมืดแปดด้านกับการรับมือขุนนางฝ่ายบุ๋น ซ้ำชาติก่อนเขายังรีบไปด่านชายแดนจึงไม่รู้ข่าวคราวในราชสำนักเท่าไหร่นัก ไม่แน่ใจว่าผู้ใดดี ผู้ใดร้าย ผู้ใดมากพรสวรรค์ ผู้ใดเป็นตัวปลอมในกลุ่มคนมีความสามารถ ส่วนเสิ่นอิงผู้นี้หากเกิดใหม่จริง อีกฝ่ายได้เป็นถึงบัณฑิตจ้วงหยวนอายุน้อย เคยกราบเป็นศิษย์ของมหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ เคยเป็นขุนนางใกล้ชิดโอรสสวรรค์ เคยออกตรวจราชการตามเมืองต่างๆ ไม่มีใครเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีไปกว่าเสิ่นอิงแล้ว

นี่หรือ ‘โปร’ ที่ท่านอารองกล่าวถึง

ฮวาเหวินหย่วนถอยก้าวหนึ่ง คำนับเสิ่นอิงอย่างตั้งใจหนึ่งครั้ง “คุณชายยินดีช่วยเหลือผู้แซ่ฮวา นับเป็นโชคดีของผู้แซ่ฮวาอย่างยิ่ง โปรดรับการคำนับจากเหวินหย่วนผู้นี้ด้วยเถิด”

เหล่าทหารองครักษ์ที่ยืนอยู่สองฝั่งต่างงงงวย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านแม่ทัพของตนจึงได้เปลี่ยนท่าทีรวดเร็วเช่นนี้ ซ้ำยังก้มหัวโค้งคำนับบัณฑิตน้อยผู้นี้ด้วย

เสิ่นอิงไม่หลบ รับการคำนับนี้อย่างสงบนิ่ง

ฮวาเหวินหย่วนผายมือเป็นการเชิญให้เสิ่นอิงนั่ง เรียกพลทหารเข้ามาแบกกล่องตำราที่ถูกโยนส่งๆ ลงบนพื้นไปวางไว้บนพรมหนังเสือ

เสิ่นอิงไปนั่งฝั่งซ้ายของที่นั่งประธานอย่างเป็นธรรมชาติ คว้าเอกสารราชการบนโต๊ะมาอ่าน งานธุรการซับซ้อนจับต้นชนปลายไม่ถูกเหล่านั้นถูกเสิ่นอิงจัดระเบียบเรียบเรียงภายในทีสองที ก่อนยกพู่กันตวัดเขียนด้วยความรวดเร็ว

ฮวาเหวินหย่วนถามลองเชิง “ก่อนหน้านี้คุณชายเคยทำเรื่องพวกนี้มาหรือ”

เสิ่นอิงไม่แม้แต่จะเงยหน้า จรดทิ้งอักษรเสี่ยวข่าย* ของจ้วงหยวนอันสุดแสนงดงามลงบนกระดาษ “ทำมาสิบปี ลำบากจนมิอาจพรรณนาเป็นคำพูด”

คำพูดนี้เป็นการยอมรับแล้ว

เสิ่นอิงเกิดใหม่จริงๆ ซ้ำชาติก่อนยังตายช้ากว่าฮวาเหวินหย่วน เขาได้เห็นชาติบ้านเมืองล่มจมกับสองตา ไร้กำลังพลิกฟ้าเปลี่ยนสถานการณ์ คำกล่าวที่ว่าลำบากจนมิอาจพรรณนาเป็นคำพูดก็ไม่รู้ว่าหมายถึงลำบากกับการเป็นขุนนาง หรือว่าลำบากกับการเฝ้ารักษาแผ่นดินที่ร่วงโรยเป็นแน่

ฮวาเหวินหย่วนนั่งลงข้างกายเสิ่นอิง ยิ้มขมขื่น “มิอาจพรรณนาเป็นคำพูด ฮ่าๆ เชิญท่านสั่งสอนข้าได้เลย”

พลทหาร ก หงอู่หยางย้ายกล่องตำราไม้ไผ่อย่างยินดีปรีดา วางลงเบาๆ ก่อนแอบลูบสองทีอย่างหวงแหน แล้วรินชาหนึ่งถ้วยให้เสิ่นอิงอย่างกระตือรือร้นหลังจากได้รับการอนุญาตจากลู่อวี๋ เขาได้รับเสียงเอ่ยขอบคุณแผ่วเบาจากเสิ่นอิงที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง แต่พี่ใหญ่ท่านนี้ก็ดีใจจนเนื้อเต้น หอบหายใจหนักแทบจะเป็นลมอยู่รอมร่อ

ลู่อวี๋รีบลากพี่ใหญ่ที่ดี๊ด๊าจนเกินเหตุออกจากกระโจม “อยู่มาตั้งนานเพิ่งจะรู้ว่านายเป็นแฟนคลับเสิ่นอิงนี่เอง ฉันนึกว่านายจะเป็นแฟนคลับฮวาเหวินหย่วนซะอีก”

พี่ใหญ่กล่าว “ใช่แล้ว ฉันคือแม่แท้ๆ ของตัวละครประกอบ! นี่ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลยนะ อุ๊บ…”

ลู่อวี๋อุดปากพลทหาร ก เอ่ยเตือนเสียงเบา “ห้ามสปอยล์นะเฟ้ย”

ถึงแฟนนิยายที่มาดูไลฟ์จะเยอะ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยอ่านฉบับนิยายมาก่อน ถ้าไม่สปอยล์คนจะได้อยากรู้แล้วไปอ่านฉบับนิยาย แล้วกดติดตามเป็นการสนับสนุนเขา เขาจะได้มีค่าต้นฉบับสูงขึ้น

ถึงยุงจะตัวเล็กแต่ก็เป็นเนื้อ!

พี่ใหญ่พยักหน้า “ได้ ลงไลฟ์แล้วค่อยว่ากัน”

จนไลฟ์จบแล้ว หงอู่หยางเดินออกมาจากแคปซูลเกมมิ่ง กระโดดโลดเต้นหนึ่งรอบฉลองที่ตัวเองได้เจอเสิ่นอิง จากนั้นก็จ้องลู่อวี๋ตาปริบๆ “รอบนี้นายช่วยไว้ชีวิตเสิ่นอิงหน่อยได้เปล่า คีย์บอร์ดนั่นของนายแก้ฉากในเนื้อเรื่องได้ไม่ใช่เหรอ”

ลู่อวี๋ทำทรงตอบแบบเท่ๆ “ไม่ได้”

“ทำไมล่ะ นายมีเงื่อนไขอะไรว่ามาเลย” หงอู่หยางยื่นต้นขาออกมาเป็นการบอกว่าพี่ชายมีเงินเยอะแยะ เชิญปอกลอกได้ตามสบาย

“เฮ้ นี่ไม่ใช่เรื่องของเงินนะ” ลู่อวี๋ส่ายหน้าถอนหายใจ หมุนตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้หมิงเยี่ยน ซุกหน้ากับอีกฝ่ายแล้วแอบยิ้ม

หมิงเยี่ยนตีเขาหนึ่งที ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยโน้มน้าว “ทุกตัวละครล้วนถูกกำหนดชะตาชีวิตไว้แล้ว ถ้าเสิ่นอิงไม่ตาย คุณก็คงไม่รักเขาขนาดนั้น ไม่ถูกเหรอ”

“ไม่ใช่เลย เขาไม่ตายผมก็รักเขาน่า” หงอู่หยางกำหมัดแน่น “เขาทำเพื่อฮวาเหวินหย่วนตั้งขนาดนั้น ทำไมต้องให้เขาตายด้วย เขาควรจะได้ขึ้นเป็นอัครเสนาบดี มีอำนาจล้นฟ้าสิ!”

“ไม่ๆๆ” ลู่อวี๋เขย่านิ้ว “อู่ต้าเกอ นายไม่เข้าใจ นี่เรียกว่าศิลปะ เขาต้องตายเท่านั้น เส้นทางสู่บัลลังก์ฮ่องเต้ของฮวาเหวินหย่วนถึงจะสมบูรณ์ได้”

“อย่าเรียกฉันว่าอู่ต้าเกอนะ ฟังดูน่าเกลียดแปลกๆ ถ้าจะเรียกก็เรียกอู่เอ้อร์เกอ* เถอะ ในบ้านฉันเป็นพี่รอง” หงอู่หยางบ่นพึมพำ แต่ระบบความคิดยังคงชัดเจน “จะสมบูรณ์บ้าบออะไร เป็นฮ่องเต้ไม่จำเป็นต้องมีขุนนางผู้ภักดีกับแม่ทัพยอดฝีมือหรือไง”

ลู่อวี๋เงยหน้าขึ้นมองกล้องไลฟ์ที่อยู่นอกกระจกกั้น กล้องฝั่งนั้นไม่ได้ยินเสียงของฝั่งนี้ แต่สามารถมองเห็นภาพภายในห้องปฏิบัติการได้ เขาหยิบหมอนข้างฮวาเหวินหย่วนขึ้นมาอย่างครุ่นคิดใคร่ครวญ ยัดใส่มืออู่เอ้อร์เกอ เอ่ยเสียงโศกเศร้า “มีแต่ต้องทำแบบนี้ เขาถึงจะเป็นฮ่องเต้ผู้สมบูรณ์แบบ ต้องประกาศศักดาสืบทอดต่อไปพันปี แบกรับความโดดเดี่ยวหมื่นชั่วอายุคน”

หงอู่หยางกอดหมอนข้างฮวาเหวินหย่วนอึ้งๆ แล้วแววตาค่อยๆ หนักแน่นมั่นคง “พูดมาเลยเหอะ จะเอาเท่าไหร่”

 

*** ปลาซันมะ อยู่ในตระกูลปลาแม็กเคอเรล มีคำกล่าวที่ว่า ‘ปลาซันมะไม่มีวันหมดอายุ’ หมายถึงความรู้สึกรักไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรือหมดไป แต่ในที่นี้ต้องการบอกถึงความรู้สึกที่ตรงกันข้าม

* แสงจันทร์ขาว อุปมาถึงคนในดวงใจที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

** ลัทธิหรู หมายถึงลัทธิขงจื๊อ

* ชุ่น เป็นหน่วยมาตราวัดของจีนสมัยโบราณ เทียบได้กับความยาวประมาณ 1 นิ้ว ระยะ 10 ชุ่นเป็น 1 ฉื่อ

** กระดาษเซวียนจื่อ คือกระดาษคุณภาพสูง เนื้อกระดาษนุ่มเหนียว ยับและขาดยาก ดูดซึมหมึกได้ดี ใช้สำหรับการเขียนตัวอักษรจีนและวาดภาพในสมัยโบราณ

* อักษรเสี่ยวข่าย หรืออักษรบรรจงเล็ก เป็นแบบอักษรจีนมาตรฐานที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เริ่มพัฒนามาตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์ฮั่น ลักษณะเส้นออกแบบให้สมดุลอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยม ลายเส้นบรรจงหลุดพ้นจากอักษรภาพในยุคโบราณอย่างสมบูรณ์

* อู่เอ้อร์เกอ แปลว่าพี่รองอู่ ออกเสียงคล้ายชื่อ ‘อู่เอ้อร์หลาง’ หรืออู่ซง ฉายาอู่ซงผู้ล้มเสือ ตัวละครในวรรณกรรมจีนเรื่องซ้องกั๋ง เป็นอันดับสิบสี่ของ 108 ผู้กล้าเขาเหลียงซาน ส่วน ‘อู่ต้าเกอ’ แปลว่าพี่ใหญ่อู่ ออกเสียงคล้ายกับชื่อ ‘อู่ต้าหลาง’ พี่ชายของอู่เอ้อร์หลาง มีรูปลักษณ์น่าเกลียด ตัวแคระแกร็น ในตอนท้ายถูกภรรยาและชู้รวมหัวกันสังหาร

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com