ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 54-57 #นิยายวาย – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 54-57 #นิยายวาย

บทที่ 56

หิมะตก

 

ลู่อวี๋คิดว่านี่เทียบได้กับตอนที่เขาแต่งนิยายเสร็จหนึ่งเรื่องแล้วให้สำนักพิมพ์ตีพิมพ์และวางขาย แต่สำนักพิมพ์กลับไม่ยอมให้เงินเขา เขาทำได้แค่จ้องมองคนเขาวางขายงานตัวเองในร้านหนังสือ แต่กลับไม่มีแม้แต่ขนสักเส้นที่เกี่ยวข้องกับเขา แม้แต่หนังสืออภินันทนาการยังไม่ให้ ถ้าอยากได้ก็ต้องควักเงินซื้อเอง มีอย่างนี้ที่ไหนกัน!

แค่คิดก็โมโหจนจะกระอักเลือด

หมิงเยี่ยนพยักหน้า แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พึงพอใจกับการตัดสินใจของลู่อวี๋มาก

อารมณ์ละเอียดอ่อนของผู้สร้างสรรค์ผลงานแบบนี้ คงมีแต่ลู่อวี๋ที่เข้าใจ

ลู่อวี๋ลากหมิงเยี่ยนออกจากร้าน RZ ท่ามกลางสายตาสับสนของพนักงาน ตรงไปยังร้านฝั่งตรงข้ามร้าน RZ ซื้อผ้าพันคอแคชเมียร์สองผืน ผืนหนึ่งสีน้ำเงิน ผืนหนึ่งสีแดง สีน้ำเงินเรียบหรูงามโดดเด่นเหนือธรรมดา ผืนนี้ของหมิงเยี่ยน สีแดงสดใสเปี่ยมความมีชีวิตชีวา ผืนนี้ของเขาเอง

“ทำไมไม่ซื้อสีเหลืองแปะก๊วยผืนนั้นล่ะ เข้ากับเสื้อสีเขียววันนี้ของนายมากกว่านะ” หมิงเยี่ยนมองลู่อวี๋แมตช์ชุดเขียวแดงอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ลู่อวี๋พึงพอใจกับการแมตช์ชุดของตัวเองมาก เพราะว่า ‘แดงน้ำเงินนั้นอยู่คู่กันมาแต่โบราณ เราสองคนเป็นคู่กัน คนหนึ่งควรจะสวมสีน้ำเงิน ส่วนอีกคนสวมสีแดง’

หมิงเยี่ยนถูกกระตุกต่อมหัวเราะอีกครั้ง ยื่นมือออกไปจัดผ้าพันคอให้เขาแล้วพันเป็นปมอย่างสวยงาม ผ้าพันคอนี้ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ สีแดงนี้ก็เลือกเฉดกำลังดี ทั้งสวยงามแล้วยังหรูหรา ช่วยขับใบหน้าหล่อเหลาขาวผ่องแบบที่ไม่โดนแดดมานานของลู่อวี๋ให้ดูเหมือนกับตุ๊กตาหิมะตัวจ้อย

ตุ๊กตาหิมะตัวนี้จู่ๆ ก็โผล่ออกมาในช่วงต้นฤดูหนาว หลังพันผ้าพันคอผืนนี้เขาก็กลายเป็นตุ๊กตาหิมะที่มีคนรับเลี้ยงแล้ว

เมื่อหมิงเยี่ยนคิดถึงตรงนี้ สีหน้าพลันหม่นหมองลงเล็กน้อย

ลู่อวี๋เอียงคอมองเขา “เป็นอะไรไป ผมใส่แล้วน่าเกลียดเหรอ”

หมิงเยี่ยนส่ายหน้า “ดูดีมาก ฉันถึงกับขอให้ฤดูใบไม้ผลิไม่ต้องรีบมาถึงเลยล่ะ”

ลู่อวี๋รู้สึกอิ่มเอมกับประโยคนี้มาก “พี่เยี่ยน พี่ควรไปเป็นกวีนะ”

ร้านแบรนด์เนมร้านนี้อยู่ใกล้กับประตูห้าง จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคนพูด “หิมะตกแล้ว ว้าว รีบออกไปถ่ายรูปข้างหน้าเร็ว!”

ลู่อวี๋หันไปมอง เห็นเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าแล้วตกลงบนเกล็ดหิมะจำลองขนาดใหญ่หน้าประตูห้าง โรยเกล็ดน้ำตาลหนึ่งชั้นให้กับเกล็ดหิมะจำลองนั้น ยิ่งทำให้มันดูละมุนละไมยิ่งกว่าเดิม

เขาสังเกตเห็นว่ามีคนกำลังสแกนสมองอัจฉริยะตรงลูกบอลจิ๋วหน้าเกล็ดหิมะยักษ์ จากนั้นก็ไปยืนโพสท่ากับเพื่อนๆ หน้าเกล็ดหิมะ ลู่อวี๋เข้าใจทันที ลูกบอลนั่นคือกล้องถ่ายรูปจิ๋ว แค่เชื่อมต่อกับสมองอัจฉริยะก็สามารถถ่ายรูปแล้วส่งรูปตรงเข้าสมองอัจฉริยะได้เลย

ลู่อวี๋ดึงมือหมิงเยี่ยน “พวกเราไปถ่ายรูปกันเถอะ”

เช็กอิน ถ่ายรูป เป็นโปรแกรมที่ต้องทำเวลาไปเดต ทั้งคู่ไปถ่ายรูปคู่กับเกล็ดหิมะยักษ์อย่างกับคู่รักวัยรุ่นเมื่อหลายปีที่แล้ว

ลู่อวี๋สแกนลูกบอลจิ๋วนั่นอย่างกระดี๊กระด๊า แล้วลากหมิงเยี่ยนไปยืนหน้าเกล็ดหิมะจำลอง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงถ่ายรูป เสียงลู่ตงตงบนข้อมือแจ้งเตือน “พ่อครับ จะถ่ายรูปเหรอ”

ลู่อวี๋ “ใช่สิ ทำไมเธอถึงช้ากว่าสมองอัจฉริยะธรรมดาๆ ของคนอื่นเขาอีกเนี่ย”

ลู่ตงตงจนปัญญา “ต้องกดยืนยันบนสมองอัจฉริยะด้วยครับ ช่างเถอะ เดี๋ยวผมช่วยตั้งค่าเอง”

ด้วยเหตุนี้ลู่อวี๋จึงไม่ต้องทำแม้แต่ขั้นตอนการยืนยัน สุดยอดผู้ช่วยสมองอัจฉริยะลู่ตงตงก็ช่วยเขาปรับพารามิเตอร์* การถ่ายรูปให้เรียบร้อย ยืนยันการเชื่อมต่อกับกล้องภายนอกโดยอัตโนมัติ และปิดการโพสต์รูปอัตโนมัติกับโปรแกรมที่เป็นไปได้ที่จะถูกแอบดูดข้อมูลส่วนตัว แล้วจึงเอ่ยแจ้ง “พ่อครับ พวกคุณช่วยขยับไปทางซ้ายยี่สิบเซนติเมตรหน่อยครับ มุมนี้แสงสวย”

มีคนใช้สมองอัจฉริยะเยอะแยะมากมาย แต่มีเพียงลู่อวี๋ที่ทำให้สมองอัจฉริยะทำทุกอย่างอย่างอัตโนมัติได้จริงๆ

ลู่อวี๋โอบเอวหมิงเยี่ยนขยับไปทางซ้ายครึ่งก้าว ชูมือซ้ายทำท่าหัวใจกับพี่เยี่ยนอย่างมีความสุข ทว่าจังหวะที่ลู่ตงตงตะโกน “หนึ่ง สอง สาม” หมิงเยี่ยนพลันขยับเข้าไปหอมแก้มลู่อวี๋

แชะ! ภาพถูกแช่ไว้ที่โมเมนต์นั้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่นึกฝันทำให้ลู่อวี๋ในภาพชูแขนค้อมตัว เบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่ปากยิ้มแหยอย่างคนโง่ ดูเหมือนอุรังอุตังสติคลั่งกำลังจะปากล้วยใส่คน

ลู่อวี๋ถ่ายเสร็จก็ไม่แม้แต่จะสนใจเช็กรูปของตัวเอง เขาหันมองหมิงเยี่ยนด้วยสายตาอึ้งๆ มือไม้ปัดไปมาพูดจาไม่เป็นประโยค “พี่เยี่ยน พี่จุ๊บผม? เมื่อกี้…พี่จุ๊บผม!”

หมิงเยี่ยนทำเพียงตอบ “อืม” ด้วยสีหน้าราบเรียบ ราวกับมันเป็นแค่เรื่องปกติธรรมดาทั่วไป

ลู่อวี๋ยกมือขึ้นหมายจะลูบจุดที่ถูกจุ๊บ แต่ก็ไม่อยากทำลายร่องรอยความอุ่นที่ยังคงเหลือติดอยู่ “งะ…งั้นผม…สะ…สอบผ่านแล้วใช่หรือเปล่า”

หมิงเยี่ยนแหงนหน้า มองหิมะที่โปรยปรายลงจากม่านฟ้าอย่างสบายอกสบายใจพลางยิ้มบางๆ “ฉันแค่คิดว่านายพูดได้มีเหตุผล”

ลู่อวี๋ไล่สรุปรวบยอดเรื่องราวทั้งหมดที่ทำในวันนี้ในหัวหนึ่งรอบด้วยความเร็วว่าตรงไหนกันแน่ที่ทำให้คนงามชอบใจ พลันปิ๊งไอเดีย “เพราะงี้คนอ่อนไหวสองคนถึงควรอยู่ด้วยกันใช่ไหมครับ”

หมิงเยี่ยนถอนสายตาที่จ้องมองหิมะกลับมาแล้วหันไปมองลู่อวี๋ ความเจ้าเล่ห์เผยออกมาทางแววตาหลายส่วน เขาเอ่ยพลางยิ้มถือดี “ต้องรีบใช้เวลาเพลิดเพลินกับหนุ่มมหา’ลัยแล้ว”

“หา?” ลู่อวี๋เลิกคิ้วข้างหนึ่ง ขยับเข้าไปใช้ปลายจมูกจ่อปลายจมูกอีกฝ่าย “งั้นพี่อยากลองเพลิดเพลินกับส่วนอื่นของหนุ่มมหา’ลัยไหมล่ะครับ” ปลายจมูกหมิงเยี่ยนเย็นเฉียบด้วยความหนาว เกล็ดหิมะน้อยๆ ตกลงมาบนนั้น แล้วละลายไปในพริบตาที่ลู่อวี๋สัมผัส

“ไม่เอา” หมิงเยี่ยนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย หมุนตัวเดินหนี

ลู่อวี๋ก้าวตามทันในสองก้าว กอดเอวเขา “ฮิๆ จับได้แล้ว ให้ผมจุ๊บทีนึงสิ หนุ่มมหา’ลัยคนนี้ขอเรียกร้องความยุติธรรมนะคร้าบ ทำมาก็ต้องทำกลับ!”

หมิงเยี่ยนหัวเราะพลางเบี่ยงตัวหลบ “ไม่เล่น มีคนมองตั้งเยอะแยะ”

“งั้นให้ผมจุ๊บทีนึงจะไม่กวนแล้ว”

“ฮ่าๆๆๆๆ…”

หลังจากถ่ายรูปเช็กอินเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ขับรถไปสถานีถัดไปของการเดต

ลู่อวี๋นั่งเบาะข้างคนขับ มองรูปที่ถ่ายเมื่อกี้อย่างสุขสันต์ ถึงแม้จะถ่ายเขาออกมาได้ดูโง่มาก แต่หน้าด้านข้างของหมิงเยี่ยนกลับออกมาสมบูรณ์แบบ โครงหน้าสง่างามชัดเจน แพขนตายาวมีเกล็ดหิมะเกาะ ดวงตาคู่งามกับหางตาชี้ขึ้นพอเหมาะพอดี งดงามจนไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง

“ไอ้หยา ตอนเค้าถ่ายรูป จู่ๆ ไม่รู้ใครที่ไหนเข้ามาจุ๊บเค้าแหละ” ลู่อวี๋เลียนแบบน้ำเสียงน่ารักๆ ของแม่ยาย “สวยจังเลยเนอะ ต้องเป็นนางฟ้าแน่ๆ เลย!”

คำพูดนั้นหวานเลี่ยนเกินทน หมิงเยี่ยนมุมปากกระตุก ทำเป็นไม่ได้ยิน

ลู่อวี๋ยังคงหัวเราะคิกคักไม่หยุด เขาตั้งรูปนั้นเป็นวอลล์เปเปอร์หน้าจอของสมองอัจฉริยะ แต่กลัวว่าจะไม่มากพอ เลยเปลี่ยนภาพพื้นหลังทุกที่ที่เปลี่ยนได้ให้เป็นภาพนี้ จากนั้นส่งรูปให้เหล่าหยาง

 

สุนัขลู่ : เหล่าหยางดูนี่ หิมะตกแล้ว!

เหล่าหยาง : …หิมะตกจริงๆ นั่นแหละ มิน่าล่ะฉันถึงได้ยินเสียงชามข้าวหมาดังก๊องแก๊งๆ

 

ลู่อวี๋จุปาก อารมณ์ขันของเหล่าหยางพัฒนาขึ้นเยอะเลย ไม่เลวๆ จากนั้นเขาส่งรูปต่อให้คนอื่น คราวนี้ส่งให้กระเทียมเยอะแยะ

 

[จับปลาบนดินแล้ง V : เจ้ากระเทียม หิมะตกแล้ว!]

[กระเทียมเยอะแยะ : ฉันพิมพ์งานยันตีสี่กว่าจะได้นอน เพิ่งตื่นไม่ทันไรก็ต้องเห็นรูปนี้น่ะนะ ฉันตายแบบเฉียบพลันได้เลยนะเว้ย! เจ้าดินแล้ง นายอยากฆ่าชิงบัลลังก์ฉันใช่ไหมหา?]

 

ลู่อวี๋พึงพอใจกับปฏิกิริยาของเพื่อนเกย์มาก เขาลูบคาง จากนั้นส่งให้พี่ใหญ่ท็อปโดเนต

 

ลู่อวี๋ : ขอบคุณพี่ใหญ่ที่สนับสนุนค่าผ้าพันคอ ผมใช้ค่าของขวัญที่พี่ใหญ่ให้ซื้อล่ะ

พี่ใหญ่ท็อปโดเนต : นายนี่ขี้ตืดจริงๆ ให้แสนนึงนายเอาไปซื้อผ้าพันคอสองผืนเนี่ยนะ? ทำไมคนอย่างนายถึงมีเมียได้วะเนี่ย

 

ลู่อวี๋อยากตอบว่า ‘นั่นก็ต้องเป็นเพราะว่าฉันหน้าตาดีน่ะสิ’ แต่อีกฝ่ายเป็นถึงพี่ใหญ่ท็อปโดเนต เขาควรรักษาความเคารพต่ออีกฝ่ายไว้ดีกว่า เลยส่งแค่สติกเกอร์หน้าแมวลำพองใจกลับไป แล้วเงียบปาก

เขาครุ่นคิด สุดท้ายก็กดส่งให้ประธานซีเหมินที่ไม่ได้ติดต่อนานหลายวัน เพราะว่าไลฟ์สตรีมของเขาดังทะลุปรอท ท่าทีของฝั่งชิงฉวีแคปิตอลจึงดีขึ้นชัดเจน ประธานซีเหมินไม่มาวางท่ายุแยงถึงที่อีก ทำให้ลู่อวี๋รู้สึกเหงาไม่น้อย

 

ลู่อวี๋ : เหมินชิง หิมะตกแล้ว! เอารูปบรรยากาศมาให้ดู!

 

แชตฝั่งประธานซีเหมินขึ้นว่ากำลังพิมพ์ กำลังพิมพ์อยู่ครึ่งค่อนวันแล้วสุดท้ายก็ไม่ตอบอะไรกลับมา

ลู่อวี๋จ้องอยู่ครู่ใหญ่ “โถๆๆ คงไม่ได้ร้องไห้หรอกมั้งเนี่ย”

ถึงอวดรูปกับหลายคนแล้วแต่ลู่อวี๋ก็ยังรู้สึกไม่พอใจ อยากส่งรูปลงกรุ๊ปบริษัทให้พนักงานทุกคนเห็น แต่คิดได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พวกพนักงานคงไม่อยากเห็นข้อความจากเถ้าแก่เท่าไหร่ งั้นช่างมันแล้วกัน

“เฮ้อ ผมมีคนรู้จักน้อยจัง ช่วงเวลาดีงามแบบนี้กลับเงียบสงบเหมือนหิมะโปรย” ลู่อวี๋มองหิมะนอกหน้าต่าง วิญญาณกวีเข้าสิงอย่างอดไม่ได้ “ตำนานกล่าวว่าจักได้พบรักแท้ยามหิมะแรกโปรยปราย เพราะหิมะขาวพรายฝังกลบโลกหม่นหมอง เหลือเพียงสีขาวผุดผ่องกับความรักจากใจผม หิมะเอย เจ้าช่างขาวนัก พี่เยี่ยนเอย ผมอยากทำกับพี่…แค่ก”

หมิงเยี่ยนเหลือบมองเขา “ทำไมไม่คล้องจองแล้วล่ะ”

ลู่อวี๋ร้อนรนมองไปรอบๆ ดวงตาพลันส่องประกาย “มันเผา! พี่เยี่ยน จอดรถก่อน ผมขอลงไปซื้อมันเผาหน่อย มันเผาหน้าโรงเรียนมอปลายผมอร่อยที่สุดแล้ว”

พวกเขาขับมาถึงหน้าโรงเรียนมัธยมปลายของลู่อวี๋พอดี

ตอนสอบเข้ามัธยมปลายเขาสอบไม่ติดโรงเรียนที่ดีที่สุด เลยเข้าโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆ บ้านแทน

ไม่นึกเลยว่าคุณลุงที่ขายมันเผาจะยังเป็นคนเดิมอยู่ เพียงแต่ตอนนี้เส้นผมเปลี่ยนเป็นสีขาวล้วนไปแล้ว

บนรถสามล้อตั้งเตาอบดินเหลืองแบบโบราณ ด้านบนครอบด้วยโถกระเบื้องเคลือบเก่าๆ วางมันเผาที่เผาเรียบร้อยแล้วไว้รอบๆ ส่งกลิ่นหอมและมีน้ำตาลของมันไหลเยิ้มออกมา หน้าแผงตั้งเครื่องจ่ายเงินสมองอัจฉริยะ และยังมีจอดิจิตอลที่ทำแบบเรียบง่าย เขียนข้อความไว้ว่า ‘มันเผาเจ้าเก่า’ วันนี้วันเสาร์ เด็กนักเรียนหยุดเรียนกลับบ้านกัน คุณปู่จึงเปิดเพลงร็อกแอนด์โรลเรียกลูกค้าอย่างไม่กลัวเสียงดังรบกวน พั้งก์ร็อกสุดๆ

ลู่อวี๋เข้าไปเลือกมันเผาที่เปลือกมีน้ำตาลไหม้เกาะอยู่หนึ่งหัว “ปู่ ยังอินเทรนด์เหมือนเดิมเลย!”

“เอ็งเองเรอะ ไม่ได้เห็นนานแล้วนะเนี่ย!” คุณปู่จำลูกค้าประจำที่กลับมาอุดหนุนบ่อยๆ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้ เขาหัวเราะ “เราก็ต้องตามยุคสมัยให้ทันไม่ใช่รึ อย่างน้อยก็อย่าให้เด็กรุ่นใหม่ดูถูกเราได้”

ลู่อวี๋ประคองมันเผาร้อนๆ ขณะกำลังจะกลับขึ้นรถ จู่ๆ ก็เหลือบเห็นแผ่นหลังคุ้นเคยของคนสองคน

คุณพ่อลู่ที่สวมสูทกับรองเท้าหนังกับคุณแม่ลู่ที่แต่งตัวหรูหราเลอค่า พวกเขาเดินลงจากรถเพื่อการพาณิชย์สีดำ คุณพ่อลู่โบกมือให้กับกลุ่มนักเรียนที่เพิ่งเลิกเรียน เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดสิบแปดสวมชุดนักเรียนเดินหน้าเหม็นเบื่อออกมา เมื่อเห็นคุณแม่ลู่ ถึงสีหน้าจะยังคงบูดบึ้งเหมือนเดิม แต่กลับวิ่งเข้าไปหาอย่างกับลูกนก กระโจนเข้าสู่อ้อมแขนมารดา

คิดดูแล้ว นั่นคงเป็นลู่ถิงเจ๋อที่โตแล้วสินะ

คุณพ่อลู่ยิ้มพลางรับกระเป๋าหนังสือในมือลูกชายมาถือ

ลู่อวี๋มองภาพตรงหน้าอึ้งๆ มันเป็นภาพพ่อแม่มารับลูกหลังเลิกเรียนที่แสนปกติธรรมดา แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าเด็กมัธยมปลายก็สามารถมารับส่งเช่นนี้ได้

มือเรียวยาวอบอุ่นข้างหนึ่งยื่นเข้ามาปิดดวงตาของลู่อวี๋

เสียงไพเราะอ่อนโยนของหมิงเยี่ยนดังขึ้นข้างหู พร้อมเสียงหายใจราวกับจะกล่อมให้หลับฝันดี “อย่ามอง”

ลู่อวี๋กุมมือข้างที่ปิดดวงตาเขา ค่อยๆ ดึงมันลง แล้วจูบหนักๆ อย่างลุ่มลึกบนฝ่ามือ ก่อนหันไปโผเข้าใส่อ้อมแขนของหมิงเยี่ยน “ไม่เป็นไร ผมไม่รู้สึกเศร้าหรอก ผมก็มีบ้านเหมือนกัน”

 

 

* พารามิเตอร์ (Parameter) คือตัวแปรที่ใส่เข้าไปในฟังก์ชันหรือโปรแกรมเพื่อให้แสดงผลตามที่ต้องการ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com