everY
ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 58-61 #นิยายวาย
ทดลองอ่านเรื่อง ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2
ผู้เขียน : ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ (绿野千鹤)
แปลโดย : qMondae
ผลงานเรื่อง : 再少年 (Zai Shao Nian)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
Trigger Warning
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน
ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ
เนื้อหามีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับความรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจ
สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 58
ยั่วยวน
หมิงเยี่ยนหยุดมือ หันไปมองตัวการของเรื่อง
ลู่อวี๋ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กำลังเล่นเกม ‘หนึ่ง สอง สาม หยุด’ กับเด็กๆ เขายืนหันหลังอยู่นิ่งๆ แล้วลูกโป่งสองตัวก็เริ่มลอยมาข้างเขาจากฝั่งห้องนอน ใครแตะตัวลู่อวี๋ได้ก่อนก็จะชนะ ผู้ชนะจะได้รับเงินค่าขนมเป็นรางวัล
นัยน์ตาดิจิตอลของลู่ตงตงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาสนุกมาก ลอยไปพลางส่ายหางไม่หยุด
ลู่อวี๋หันหลังตะโกน “หนึ่ง สอง สาม…หยุด!” เขาพูดออกไปเร็วๆ แล้วก็หันขวับกลับมาอย่างเร็วแรง
ลูกโป่งเงือกหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมทันใด หางเงือกก็หยุดค้างไม่กระดิก จริงจังไม่น้อย
เสิ่นไป๋สุ่ยทำหน้าทำตาไม่มีความสุข คล้ายคิดว่าเกมนี้เด็กน้อยเกินไป แต่เพื่อเงินค่าขนม สุดท้ายก็เข้าร่วมอยู่ดี เขากลอกตาพร้อมลอยอยู่กลางอากาศ ใครจะคิดว่าประธานเสิ่นผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งในโลกตัวเองเมื่ออยู่ที่นี่จะเป็นแค่ลูกโป่งจนกรอบตัวหนึ่ง
“เจ้ารอง ตั้งใจหน่อยซี่ เดี๋ยวพี่ชายจับตัวปะป๊าได้ก่อนนายจะไม่เหลือค่าขนมไว้ใช้แล้วนะ” ลู่อวี๋พูดกระตุ้นลูกโป่งท่านประธานที่ขยับช้าเป็นเต่า
ได้ยินคำนี้ในที่สุดลูกโป่งท่านประธานก็จริงจังขึ้นมาและเริ่มเล่นเกมอย่างกระตือรือร้น “ฉันไม่เคยแพ้การเล่นเกม ไม่ว่าเกมไหนทั้งนั้น” เดิมทีในเรื่อง ‘เรือนทองคำ’ ของเขาก็เป็นเรื่องราวที่ต้องฝ่าฟันเกมทดสอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่งคั่งอยู่แล้ว ในฐานะผู้ชนะที่ยืนหยัดได้เป็นคนสุดท้าย เสิ่นไป๋สุ่ยไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองจะชนะเกมเด็กๆ นี่ไม่ได้
หมิงเยี่ยนมองด้วยความอึ้ง “สมองอัจฉริยะถึงกับสร้างความต้องการออกมาเองได้ด้วยเหรอ”
ลู่ต้าอวี๋คิดค้นวิธีการเลี้ยงลูกวิทยาศาสตร์ขึ้นมาเอง แล้วเลี้ยงเด็กสองคนนี้จนใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา มีอารมณ์ และมีความคิดของตัวเอง แต่ไม่มีความต้องการของตัวเอง ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ลูกโป่งสองลูก ไม่จำเป็นต้องกินดื่มถ่ายปัสสาวะ วิธีคงสภาพการอยู่รอดคือการชาร์จแบตฯ แต่ว่าพวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นระบบชาร์จแบตไร้สาย จะอยู่มุมไหนในห้องก็สามารถชาร์จแบตฯ ได้ตลอดเวลา เพราะงั้นจึงอยู่ในสถานะไม่มีความต้องการมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้กลับมาเล่นเกมเด็กน้อยกับลู่อวี๋เพื่อค่าขนม!
หมิงเยี่ยนกังวลเล็กน้อย วิธีการเลี้ยงเด็กแบบนอกตำราของลู่อวี๋ ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงแหล่งสมองอัจฉริยะออกมาเป็นแบบไหนต่อ
เวลานี้เนื่องด้วยเสิ่นไป๋สุ่ยร้อนรนอยากคว้าชัยชนะที่อยู่ตรงหน้า เขาจึงรีบลอยเกินไปจนเบรกไม่อยู่ ตอนที่ลู่อวี๋หันหน้ามาเขาก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้า
ลู่อวี๋ป่าวประกาศอย่างไม่ปรานี “เจ้ารองออก!”
ประธานเสิ่นกอดอกโมโหพองลม “ลูกโป่งนี่ควบคุมยากเกินไปแล้ว เวลาเล่นเกมแบบนี้กับพวกนายมันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด”
“ฉันใช้วิธีนี้ฝึกทักษะการประสานการเคลื่อนไหวร่างกายของนายไง” ลู่อวี๋พูดโม้ไปเรื่อย คว้าตัวลูกโป่งท่านประธานมา “แพ้แล้วต้องให้ปะป๊าจุ๊บๆ ด้วย!” เขาว่าพลางไล่จุ๊บหน้ากลมบ๊อกอย่างรุนแรงท่ามกลางแววตาตื่นตกใจของลูกโป่งท่านประธาน
เสิ่นไป๋สุ่ยกรีดร้อง “นายไม่เห็นบอกเลยนี่ว่าแพ้แล้วจะมีบทลงโทษ!”
ลู่อวี๋ถูกลูกโป่งท่านประธานดันคางออก เขาเลิกคิ้ว “อันนี้คือบทลงโทษเหรอ นี่คือกำลังใจจากปะป๊าต่างหาก มั้วะๆๆ!” เขาเอาหน้าแหวกแขนสั้นกุดสองข้างออก จุ๊บอีกสามฟอดแล้วถึงยอมปล่อย
ประธานเสิ่นหลุดออกจากพันธนาการ ลอยตัวสั่นเทิ้มอยู่กลางอากาศครู่ใหญ่
หมิงเยี่ยนมองลูกโป่งท่านประธานที่ดูท่าทางเหมือนไฟรั่วด้วยความกังวลใจ “เขาเป็นอะไรไป”
ลูกโป่งสมองอัจฉริยะควานหาคำคุณศัพท์ในคลังบทพูดของเขามาบรรยายความรู้สึกในเวลานี้ น้ำเสียงแสนเจ็บปวด “ฉันสกปรกแล้ว”
หมิงเยี่ยน “…” อันนี้เหมือนจะไม่ใช่บทพูดของประธานบริษัทนะ
เสิ่นไป๋สุ่ยได้สติกลับมาก็พุ่งเข้าไปฟ้องหมิงเยี่ยน “ดูแลผู้ชายของคุณด้วยสิ รีบเช็ดให้ผมเดี๋ยวนี้! น้ำลายมันกัดกร่อนผิวของผมได้ เงามืดในจิตใจจากการถูกผู้ชายหอมแก้มทำร้ายจิตวิญญาณของผม ถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปจะกระทบกับโชคลาภด้านการเงินของผม!”
หมิงเยี่ยนอับจนปัญญา หยิบทิชชูมาเช็ดปลอบใจเด็กน้อยสองทีก่อนหันไปถามลู่อวี๋ “นายเลี้ยงเขาแบบนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม”
“มีปัญหาอะไรเหรอ” ลู่อวี๋เห็นหมิงเยี่ยนเอานิ้วจิ้มขมับ ปลายนิ้วหมุนวนเร็วๆ แล้วก็เข้าใจในฉับพลัน “กลัวระดับชีวิตของพวกเขาจะสูงเกินไปแล้วกลายเป็นมนุษย์พื้นฐานซิลิคอนใช่หรือเปล่า”
เขาครุ่นคิด ถ้าหากลู่ตงตงกับเสิ่นไป๋สุ่ยมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ตอนที่เขากับหมิงเยี่ยนตายไป แหล่งสมองอัจฉริยะที่ไร้การผูกมัดจากเจ้าของจะเรียนรู้ด้วยตัวเองต่อไปด้วยสติปัญญาระดับสูงลิ่ว และเข้าควบคุมผู้ช่วยสมองอัจฉริยะทุกหน่วยที่กระจายอยู่
“จากนั้นเขาก็จะหลอกล่อให้มนุษย์สร้างเครือข่ายระหว่างดวงดาว ได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาล กลายเป็นมือมืดที่ควบคุมเศรษฐกิจและการเมืองโลกอยู่หลังม่าน หรือไม่ก็บังคับมนุษย์ให้สร้างหุ่นฐานซิลิคอนเลียนแบบร่างมนุษย์ออกมาเพื่อเอาชนะเกมหนึ่ง สอง สาม หยุด แล้วกลายเป็นเทพเจ้าที่ไม่มีวันดับสิ้น สุดท้ายการมีชีวิตยืนยาวนับพันนับหมื่นปีก็ทำให้พวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย และตัดสินใจที่จะทำลายล้างหมู่มวลมนุษย์…” ลู่อวี๋ทำการคาดคะเนอย่างสมเหตุสมผล แต่งจุดจบของแหล่งสมองอัจฉริยะออกมาหนึ่งตอน
หมิงเยี่ยนขมับกระตุกตุบๆ “อย่าพูดไปเรื่อย” เดี๋ยวเจ้าเด็กซื่อบื้อสองคนนี้คิดจริงขึ้นมาจะทำยังไง
ลู่ตงตงตั้งใจฟังมาก “ปะป๊า ถ้างั้นทำไมถึงต้องกำจัดหมู่มวลมนุษย์ด้วยล่ะครับ”
ลู่อวี๋ถูกพี่เยี่ยนมองตาเขียวทันที เขากระแอมแล้วรีบเอ่ยเสริม “ปะป๊าพูดไปเรื่อย ลู่ตงตงเป็นเทพผู้คุ้มครองมนุษย์ เขาชอบมนุษย์ จริงไหม เนอะ”
ลู่ตงตงเขย่าหัวไปหน้าหลังเป็นการ ‘พยักหน้า’
เสิ่นไป๋สุ่ยเอ่ยดูแคลน “เพราะว่าอีกพันปีข้างหน้าพวกเขาสองคนก็จากไปนานแล้ว ลูกแหง่ติดพ่ออย่างนายต้องเป็นบ้าแน่นอน”
ลูกโป่งเงือกกะพริบตาปริบๆ ไม่พูดตอบ ไม่รู้ด้วยว่ากำลังคิดอะไร
ลู่อวี๋คิดว่าถ้ายังคุยเรื่องนี้ต่อไปคงอันตรายนิดหน่อย ดีไม่ดีเขาอาจได้กลายเป็นตัวร้ายสติคลั่งที่ทำให้โลกมอดไหม้ เขาปรบมือ “โอเค ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว เรามาเล่นกันต่อเถอะ พี่เยี่ยนมาสิ มาเล่นแทนเจ้าคนรอง”
หมิงเยี่ยนมองเขาแสยะยิ้มร้ายเหมือนแมวในเรื่องทอมแอนด์เจอร์รีออกมาก็รู้แล้วว่าหมอนี่ไม่ได้มีเจตนาดี “ฉันไม่เล่น”
ลู่อวี๋ยกมือข้างหนึ่งเท้าเอว ชี้ลูกโป่งเงือกที่ยังลอยนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน “ทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมครอบครัว พี่ทนมองลูกๆ ไม่มีค่าขนมไว้ใช้ได้ลงคอเหรอ”
หมิงเยี่ยนจนปัญญา ลุกขึ้นเดินไปข้างๆ ลู่ตงตง
ลู่อวี๋หันหลังไปอย่างพึงพอใจ เขาไม่ได้เรียนรู้ความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้จากคนตระกูลลู่มา แต่การบีบบังคับด้วยศีลธรรมน่ะเขาเรียนรู้มานิดๆ หน่อยๆ สามารถจัดการกับคุณชายหมิงผู้สำรวมที่ใจจริงก็อยากเล่นอยู่นิดๆ แต่ไม่กล้ามาเข้าร่วมวงได้อยู่หมัดสบายๆ
“หนึ่ง สอง สามมม”
เขาลากเสียงสามยาวๆ ลู่ตงตงรีบลอยอย่างเร็ว หมิงเยี่ยนขยับแค่หนึ่งก้าว จนลู่อวี๋พูดคำว่า “หยุด” แล้วหันกลับมา ลู่ตงตงก็อยู่ห่างกับเขาแค่หนึ่งกำปั้นแล้ว
ลู่อวี๋ยิ้ม รีบหันกลับไปท่องด้วยความรวดเร็ว “หนึ่ง สอง สา…” ยังไม่ทันท่องจบตรีศูลน้อยในมือลูกโป่งเงือกก็ลอยมาทิ่มหลังลู่อวี๋
“ผมชนะแล้ว” ลู่ตงตงยังคงถือตรีศูลทิ่มหลังลู่อวี๋ เอ่ยเสียงเรียบออกไป ทำทรงมาดเข้ม
“ตงตงเก่งกาจจริงๆ” ลู่อวี๋ชมเป็นพิธี แล้วโอนเงินให้บัญชีย่อยของลู่ตงตงห้าไคว่ แน่นอนว่ามันก็ยังอยู่ในชื่อบัญชีของลู่อวี๋อยู่ เพียงแค่เปิดใช้งานบัตรเสมือนแยกออกมาหนึ่งใบ เก็บเงินค่าขนมไว้ในนั้น อนุญาตให้ลู่ตงตงใช้ได้ตลอดเวลา
พอได้รับค่าขนมมา เทพแห่งเจ็ดคาบสมุทรก็ร้องไชโยทันที “เย่ๆ! มีค่าขนมแล้ว!”
เสิ่นไป๋สุ่ยเอ่ยเสียงดูแคลน “ทำทรงเท่ได้ไม่เกินสามวิจริงๆ”
ลู่ตงตงหันไปมองน้องชาย โบกตรีศูล “เจ้าน้องรองไร้มารยาท ถ้ารักษาความเคารพที่มีต่อพี่ใหญ่อย่างข้าได้ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ข้าจะโอนแบ่งให้เจ้าสองจุดห้าไคว่”
ประธานเสิ่นแค่นหัวเราะ “นายพูดเองนะ เรามาเซ็นสัญญากัน”
ลู่อวี๋ไม่มีอำนาจจัดการการแลกเปลี่ยนส่วนตัวของเด็กสองคนนี้ เขาหัวเราะฮี่ๆ แล้วก้าวฉับๆ ไปจับตัวหมิงเยี่ยน “พี่เยี่ยนแพ้แล้ว ต้องถูกผู้คุมจุ๊บๆ นะ” ว่าพลางกุมแก้มหมิงเยี่ยน แล้วจุ๊บพวงแก้มที่ผิวโคตรเนียนนุ่มนั่นอย่างแรง “จุ๊บๆๆ”
หมิงเยี่ยนกลั้นขำ ปล่อยให้เขาจุ๊บแก้ม “พรุ่งนี้นายจะทำอะไร” พรุ่งนี้ยังมีวันหยุดอีกหนึ่งวัน
ลู่อวี๋ครุ่นคิด เหมือนว่าจะไม่ได้มีธุระอะไรเป็นพิเศษ จึงส่ายหน้าตอบ “ยังคิดไม่ออก อาจจะหมกตัวเขียนนิยายอยู่บ้าน”
เขียนอะไร อัลฟ่าแต่งเข้าเหรอ หมิงเยี่ยนมุมปากกระตุก สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ถามดีกว่า “งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปดูที่โรงงาน นายก็อยู่บ้านดีๆ อย่าเที่ยวสร้างความวุ่นวายไปทั่วล่ะ”
ลู่อวี๋เอียงคอ ส่งเสียงในจมูกแปลกๆ ออกมา “หื้ม? คำพูดของพี่ฟังดูแล้วเหมือนผมเป็นคุณภรรยาตัวน้อยที่ถูกประธานหมิงอุปถัมภ์เลยอ่า โอเคครับ ผมจะทำอาหารรอพี่กลับมานะ”
หมิงเยี่ยนพึงพอใจกับความรู้จักวางตัวของนายหญิงหมิงมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น
หมิงเยี่ยนที่กินมื้อเช้าเสร็จแล้วนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มด่ำกับช่วงเวลาอ่านหนังสือหลังมื้ออาหาร จนเริ่มสายแล้วถึงเตรียมจะออกจากบ้าน ทว่ากลับเหลือบไปเห็นลู่อวี๋ที่แต่งตัวแฟชั่นจัดเต็มกำลังหนีบสเก็ตบอร์ดไปหน้าประตู เขาเรียกอีกฝ่ายไว้ทันที “นายจะไปไหนน่ะ”
ลู่อวี๋เกาหัวแกรกๆ “ผมว่าจะไปคุยกับเจ้าหนูลู่ถิงเจ๋อนั่นสักหน่อย เมื่อวานเห็นเขาแล้วเพิ่งนึกคำพูดเอาไว้หลอกถามออก ตอนนี้พฤติกรรมของตระกูลลู่ผิดปกติ ผมอยากรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไร แต่ก็ไปหาพวกจิ้งจอกเฒ่าพวกนั้นตรงๆ ไม่ได้”
เขาลังเลสองสามวินาที แล้วตัดสินใจพูดความจริงออกไป เขาพบว่าลู่ต้าอวี๋พูดคุยกับหมิงเยี่ยนน้อยมากๆ ถึงได้เกิดความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ ซึ่งดูเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่เมื่อสะสมเข้ามากๆ ก็จะทำให้เกิดความระแวงต่อกันและอยู่ร่วมกันลำบาก ลู่อวี๋ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจากนี้จะต้องรายงานทุกอย่างไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่
หมิงเยี่ยนขมวดคิ้ว “นายจะรู้ได้ไงว่าลู่ถิงเจ๋ออยู่ที่ไหน”
“ผมเจอแอ็กโซเชียลมีเดียเขาแล้ว เช้านี้เขามีนัดเล่นสเก็ตบอร์ด พี่ชายอย่างผมเลยเตรียมจะไปสอนเทคนิคล้มหัวทิ่มดีๆ ให้เขาสักหน่อย” ลู่อวี๋พูดอย่างลำพอง สำหรับเขาที่มีประสบการณ์ตามจิกตัวตนแอนตี้แฟนมาอย่างล้นหลามแล้ว การจะสืบหาแอ็กเคานต์ของลู่ถิงเจ๋อนั้นง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ ขอแค่เขาเจอแอ็กเคานต์ของลู่เจินนี ค้นในส่วนผู้ติดตามที่ติดตามกันและกันก็เจอแล้ว
เขาหนีบสเก็ตบอร์ดประหนึ่งอัศวินถือดาบยักษ์ เตรียมออกไปต่อสู้ชี้ชะตากับมังกรชั่ว
หมิงเยี่ยนเงียบไม่พูดจา
ลู่อวี๋รีบเอ่ยเสริม “วางใจได้ แป๊บเดียวครับผม ผมรับรองว่าจะกลับมาทันทำมื้อเที่ยงแน่นอน”
หมิงเยี่ยนวางหนังสือในมือลง “วันนี้รายการวาไรตี้ที่ตัดต่อมาจากไลฟ์จะเริ่มออนแอร์แล้ว พวกเราอยู่ดูที่บ้านเถอะ” เขานั่งหลังพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย แขนเรียวยาวข้างหนึ่งยกขึ้นวางบนพนักพิงแบบสบายๆ ส่วนมืออีกข้างตบที่ว่างข้างๆ ปุๆ
ลู่อวี๋นิ่งค้าง
พี่เยี่ยนจะหมกตัวดูวาไรตี้อยู่บ้านกับเขา!
เมื่อกี้ตอนกินข้าวคนคนนี้ยังวางแผนจะออกไปดูโรงงานอยู่เลยนี่ ตอนนี้กลับเปลี่ยนแผนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วยังยั่วเขาโต้งๆ แบบนี้อีก!
นี่มันผิดกฎหมายชัดๆ!
ลู่อวี๋กำสเก็ตบอร์ดในมือแน่นอย่างร้อนรน บัดซบ! ไม่นึกเลยว่าจะใช้วิธีแบบนี้ทำลายอัศวินที่กำลังจะกรีธาทัพ คิดว่าลู่เสี่ยวอวี๋คนนี้เป็นคนโลเลไร้ปณิธานอย่างนั้นเหรอ
ใช่
ลู่อวี๋วางสเก็ตบอร์ด ถอดเสื้อคลุมแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนโซฟาอย่างว่องไว ซุกเข้าไปในวงแขนพี่เยี่ยนที่อ้ารับ ดึงผ้าห่มผืนน้อยลายเหรียญทองบนโซฟามาคลุมตัวทั้งคู่
ชีวิตที่ได้นอนซุกดูรายการทีวีกับคนรักช่างเป็นชีวิตที่งดงาม เขาไม่ออกไปหรอก
อัศวินถือดาบกรีธาทัพ บัดนี้ได้วางดาบลงแล้วกลับไปอยู่ในผ้าห่มผืนน้อยแสนอบอุ่น คว้าขนมกับเครื่องดื่มมาฝังตัวเอง ปล่อยเจ้ามังกรชั่วร้ายไว้นอกประตูชั่วคราว
บ้านเกิดอันอบอุ่น คือหลุมศพของวีรชนน่ะสิ
Comments



