everY
ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 2 บทที่ 58-61 #นิยายวาย
บทที่ 59
วาไรตี้
รายการวาไรตี้นี้มีชื่อว่า ‘บันทึกตัวเอกมือใหม่ ซีซั่น 1 ตอน ฮวาเหวินหย่วน’
ชื่อนี้ได้มาจากภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง ‘บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่’ ในเรื่องนี้เล่าถึงสาวน้อยไฮสกูลธรรมดาที่จู่ๆ ก็ได้รู้ว่าตัวเองเป็นผู้สืบบัลลังก์เพียงหนึ่งเดียวของประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่ง แล้วถูกย่าที่เป็นจักรพรรดินีลากไปแปลงโฉมตัวเธอทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายก็เปลี่ยนจากเด็กสาวธรรมดาเป็นเจ้าหญิงที่ผ่านคุณสมบัติองค์หนึ่ง
ดังนั้น ‘บันทึกตัวเอกมือใหม่’ เลยหมายถึงการปรับแก้ตัวละครเอกนั่นเอง
พอเห็นหัวข้อรายการเขียนว่า ‘ซีซั่น’ แล้วลู่อวี๋ก็จุปาก “แพลตฟอร์มวิดีโอนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ”
หัวข้อรายการถูกตั้งไว้กว้างๆ และอ้อมค้อม มันเป็นการเผื่อทางไว้สำหรับซีซั่นสองและซีซั่นสาม ลิขสิทธิ์รายการเป็นของปาเจียววิดีโอ ถ้าซีซั่นหน้าเฉินอวี๋ไม่ร่วมงานกับปาเจียว ปาเจียวก็ยังสามารถหาเนื้อหาอื่นมาเติมแทนได้เพื่อไม่ให้กระแสของซีซั่นแรกต้องเสียเปล่า
ส่วนคำว่า ‘ตอน’ ข้างหลังยังพอไว้หน้าเฉินอวี๋เทคโนโลยีอยู่บ้าง เป็นกฎที่รู้กันในวงการอยู่แล้วว่ารายการวาไรตี้ปีหนึ่งจัดได้แค่หนึ่งซีซั่นเท่านั้น ถ้าหากว่าเฉินอวี๋เทคโนโลยีจะปรับแก้ผู้ช่วยสมองอัจฉริยะตัวที่สองในปีเดียวกันก็สามารถใช้ชื่อว่า ‘ซีซั่น 1 ตอน บลาๆๆ’ ได้เลย ทั้งไม่กระทบกับกฎที่รู้กันในวงการ และยังไม่กระทบต่อความคืบหน้ารายการด้วย
“เป็นวิธีการที่ฉลาดมาก ถ้าเกิดซีซั่นสองพวกเราไม่ร่วมงานกับพวกเขา คนที่จะเสียเปรียบก็คือพวกเรา” หมิงเยี่ยนก็มองลูกไม้ที่ซ่อนอยู่ในนั้นออก ยิ้มแล้วบีบแก้มลู่อวี๋ที่พองตุ่ยพลางเอ่ยปลอบ “ได้ยินว่าปาเจียวให้เงินเดือนสูงมาก แต่การแข่งขันก็สูงมากเหมือนกัน ทีมโปรดิวเซอร์ที่ได้ทำโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ล้วนต้องเป็นทีมที่เก่งกาจมาก”
หรือก็คือมีแนวโน้มสูงมากว่าจะทำออกมาได้ดี ตราบใดที่ทำออกมาได้ดี การได้ร่วมงานต่อก็จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ไม่นับว่าเป็นการเสียเปรียบ
ทั้งสองถูกห่ออยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน เตรียมดูว่าทีมโปรดิวเซอร์ระดับท็อปนี้จะตัดต่อออกมายังไง
รายการออกอาทิตย์ละหนึ่งตอน ลู่อวี๋เหลือบมองความยาวรายการ ตอนหนึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง “หนึ่งชั่วโมงเอง แบบนี้จะตัดต่อเนื้อหาที่ไลฟ์ยาวทั้งสัปดาห์ได้หมดเหรอ”
หมิงเยี่ยนพยักหน้า “คงต้องแบ่งเป็นสิบตอนขึ้นไป พวกเราไลฟ์แค่หนึ่งเดือน รายการน่าจะสามารถฉายได้สามเดือน” แบบนี้ก็จะดีมาก เพราะสามารถรักษาความนิยมไว้ได้พักหนึ่ง
ด้านล่างคลิปรายการตอนแรกยังมีคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ล้วนเป็นคลิปสั้นๆ ที่ถูกตัดออกมาเป็นไฮไลต์เอาไว้โปรโมตในภายหลัง ส่วนเวอร์ชั่นเต็มจะอยู่ในไลฟ์สตรีมย้อนหลัง ปาเจียววิดีโอนำไลฟ์เหล่านั้นมาตัดเป็นคลิปสั้นอย่างสร้างสรรค์ เนื้อหานิยายหนึ่งบทก็เอามาทำเป็นหนึ่งคลิป รวมกันเป็นรูปแบบซีรี่ส์คลิปสั้น
ลู่อวี๋เปิดเข้าหน้าอินเตอร์เฟซนั้น แล้วก็พบว่าปาเจียวหิวเงินมากจริงๆ เขาเล่นเก็บค่าเข้าชมทุกคลิป ถ้าไม่อยากจ่ายก็ต้องดูโฆษณาหรือไม่ก็สมัครสมาชิกปาเจียว
คลิปสั้นทั้งซีรี่ส์นี้รวมๆ กันแล้วสามารถโกยเงินได้เป็นถุงเป็นถังแน่นอน
ลู่อวี๋เห็นแล้วเดาะลิ้น “ผมไม่น่าแบ่งกำไรให้ตั้งสิบเปอร์เซ็นต์เลย เงินที่เขาทำได้จากตรงนี้แทบจะถลกหน้าดิน* อยู่แล้ว”
ในหัวเขาปรากฏภาพประธานเจียวถือแส้ฟาดพนักงานที่แข่งขันทำผลงานกันอย่างเอาเป็นเอาตาย พนักงานทั้งหลายแบกตะกร้าขึ้นหลัง มือถือเคียวเกี่ยวหญ้า เกี่ยวกระดาษทองบางๆ ที่หน้าดินออกมาโยนใส่ตะกร้าข้างหลัง
หมิงเยี่ยนเหลือบมองรายการที่ต้องจ่ายเงิน พูดเสียงไม่ช้าไม่เร็ว “ในสัญญาตอนนั้น คลิปย้อนหลังไลฟ์นี้จะมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์นิยายให้นายแยกต่างหาก”
คิ้วที่ขมวดแน่นของลู่อวี๋คลายออกทันที “งั้นก็ค่อยคุยกันได้หน่อย”
ประธานเจียวที่ถือแส้หิ้วทองที่เกี่ยวออกมาทั้งตะกร้าขึ้นมาโยนให้ลู่อวี๋ที่กำลังจะแสดงความไม่พอใจต่อนายทุน ลู่อวี๋รับมันมาอย่างยินดีแล้วก็เลือกที่จะปิดปาก
“ถ้าเป็นแพลตฟอร์มอีกเจ้าก็คงทำไม่ได้หลายอย่างขนาดนี้ ปาเจียวนับว่าใจกว้าง ค่าโฆษณาพวกเขาก็แบกทั้งหมด” หมิงเยี่ยนเม้มปากยิ้ม แตะปุ่มเริ่มดูรายการ
ไม่มีเพลงเปิดหรือโลโก้รายการอะไรทั้งนั้น รายการเปิดมาก็เริ่มด้วยการสัมภาษณ์ข่าวสุดวุ่นวายหนึ่งช่วง
หมิงเยี่ยนถูกกลุ่มคนล้อมอยู่หน้าบริษัท นักข่าวแย่งกันถามเสียงระงม
ลู่อวี๋ตกใจ “นี่มันอะไรวะ”
หมิงเยี่ยนพยายามวิเคราะห์รายละเอียด ขมวดคิ้วเบาๆ “นี่มันเรื่องตอนวันที่นายเพิ่ง…เอ่อ ข้ามเวลามา ทำไมถึงตัดส่วนนี้เข้าไปด้วยล่ะ”
ในภาพนั้นไมค์ของนักข่าวแทบจะทิ่มลูกตาหมิงเยี่ยนอยู่รอมร่อ “ได้ยินว่าคุณกับลู่อวี๋แต่งงานกันเพราะข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาด้านการถือลิขสิทธิ์ร่วม เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
หมิงเยี่ยนไม่ตอบ เดินขึ้นรถทันที เสี่ยวเจียงขวางนักข่าว ใบหน้ารักษารอยยิ้มแบบพิธีการ “ขออภัยครับทุกท่าน ประธานหมิงของพวกเรามีธุระด่วน…”
จากนั้นภาพก็มืดดับ อักษรน่ารักๆ ตัวโตเด้งขึ้นมาว่า ‘คู่รักปลอม? คู่รักจริง?’
ภาพตัดสลับไปยังล็อบบี้เตรียมตัว ลู่อวี๋ที่สวมชุดผ้าเนื้อหยาบสีน้ำตาลเดินวนรอบตัวหมิงเยี่ยนประหนึ่งลูกหมา “พี่เยี่ยน ดูดิ ผมสไลด์ได้ด้วย”
เดินกลางอากาศได้หนึ่งรอบ ลู่อวี๋ก็เริ่มบ่น “ผมอย่างกับเสี่ยวเอ้อร์วิ่งเสิร์ฟชาเลยอะ”
ลู่อวี๋เอียงหัว “พี่เยี่ยน เดี๋ยวเราจับมือกันไว้ จะได้ไม่หลงกัน”
ลู่อวี๋ขยับหน้าเข้าใกล้กล้อง “พี่เยี่ยน?”
พี่เยี่ยน พี่เยี่ยน พี่เยี่ยน…
ในบับเบิลคำพูดแบบในการ์ตูนแบบต่างๆ ล้วนเขียนคำว่าพี่เยี่ยน ประกอบกับเอฟเฟ็กต์ล้างสมองสุดฮา เสียงลู่อวี๋ตะโกนเรียก ‘พี่เยี่ยน’ นับครั้งไม่ถ้วน ไม่นานก็ถมหน้าจอจนเต็ม จากนั้นก็ล้มครืนหายไปราวกับโดมิโน เหลือเพียงหมิงเยี่ยนที่กำลังยืนหลุบตาปรับแต่งพารามิเตอร์ของพู่กันอยู่ที่เดิม ทำเอฟเฟ็กต์จุดไข่ปลาหกจุดเหมือนติดสถานะหมดคำพูด ประกอบกับเสียงเอฟเฟ็กต์ ‘ต๊องๆๆ’ หกเสียงอย่างเชื่องช้า สุดท้ายก็มีเสียงกบ ‘อ๊บๆ’ ดังขึ้นมาโดดๆ
ซับกระสุนขึ้นโชว์ว่าตอนนี้ผู้ชมทั้งหลายกำลังหัวเราะลั่น
[555555 นี่มันไทป์หมาเด็กขี้วอแวกับพี่คนสวยขาภูเขาน้ำแข็งนี่?]
[เอฟเฟ็กต์ตัดต่อได้ดีมากอะ ตลกกว่าในไลฟ์อีก]
[ดูแล้วพวกเขาสนิทกันดีนะ ต่อให้ไม่ใช่ความรัก ก็ยังเป็นความสัมพันธ์พี่น้องที่ดีมากๆ อยู่ดี]
[แต่งงานกับพี่น้องคนสนิทเพื่อธุรกิจ ทำไมฉันว่ามันยิ่งน่าชิปกว่าเดิมอีกล่ะเนี่ย!]
ลู่อวี๋ “…ผมเรียกพี่เยี่ยนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ผมน่ารำคาญขนาดนั้นเชียว”
หมิงเยี่ยนหัวเราะในลำคอ “เปล่า รายการวาไรตี้ก็เป็นแบบนี้”
ไม่พูดไม่ได้ว่าพอตัดออกมาแบบนี้แล้วก็ตลกจริงๆ นั่นแหละ
ลู่อวี๋เบะปาก “หึ แบบนี้มันทำลายภาพลักษณ์ผมนี่ ผมเสียหายนะ! ผมต้องได้จุ๊บๆ เป็นการชดเชย”
หมิงเยี่ยนมองอีกฝ่ายด้วยหางตา เจ้าคนนี้ทั้งๆ ที่ตากำลังยิ้ม แต่ปากกลับเบะเป็นเป็ดน้อยเลย ดูแล้วทั้งตลกทั้งน่ารัก เขากระเถิบเข้าไปหอมแก้มลู่อวี๋แบบแกล้งๆ หนึ่งที
พริบตาที่พี่เยี่ยนหอมแก้มเขา ลู่อวี๋ก็จงใจหันหน้าไป จูบนั้นจึงประทับลงมาบนริมฝีปากของเขา “โอ๊ะ นี่เตงจุ๊บปากเค้าเลยเหยอ เจ้าเล่ห์อ่า!”
เขาจีบปากจีบคอ ใช้เสียงเสแสร้งแกล้งตกใจแบบโอเวอร์แอ็กติ้ง จากนั้นก็เอาหัวมุดหน้าอกหมิงเยี่ยน
หมิงเยี่ยนถูกหมียักษ์ถูไถจั๊กจี้จนล้มตัวจมไปกับพนักโซฟา เขากอดเจ้าตัวป่วนที่ขยับเคลียเคล้าอย่างเอือมระอา ปรับความหนืดของพนักพิงโซฟาให้มากขึ้นเล็กน้อย แล้วให้อีกฝ่ายเอนพิงอ้อมแขนตัวเอง “โอเค อย่าขยับซี้ซั้ว ตั้งใจดูรายการ”
ลู่อวี๋ที่ถูกกอดในที่สุดก็ยอมอยู่นิ่ง เขาทิ้งตัวพิงบนตัวพี่เยี่ยนประหนึ่งไร้กระดูก ไถลตัวลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้บังสายตาพี่เยี่ยน หลังจากมัวเคลิบเคลิ้มกับความสุขใจพักหนึ่งเขาก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มขยับยุกยิกอีกครั้ง แหงนหน้าขึ้นใช้จมูกคลอเคลียคางหมิงเยี่ยน “ทีมตัดต่อดูมีของอยู่นะเนี่ย อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังตัดออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้ แถมยังมีจุดพลิกผันขึ้นๆ ลงๆ หักมุมไปมาด้วย”
“ตัดต่อแบบนี้แล้วดึงดูดคนดูได้ ดีกว่าเปิดมาแล้วเข้าเนื้อเรื่องเลย” หมิงเยี่ยนถูกซุกไซ้จนจั๊กจี้ ทำได้แค่เงยคางขึ้นหลบ เหมือนหลบลูกแมวซุกซนที่ยื่นอุ้งเท้าตะปบไปมา
ลู่อวี๋พอไซ้ไม่โดนก็ไม่สร้างความรำคาญให้เขาต่อ หันไปสั่งลูกชายที่นั่งพิงพนักโซฟาดูรายการอย่างเพลิดเพลิน “เฉียนเฉียน หยิบมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบให้ปะป๊าห่อนึงสิ เอารสเนื้อย่างอันนั้นนะ”
ประธานเสิ่นที่กำลังรับชมอย่างเพลิดเพลินพลันตัวพอง “บอกแล้วไงว่าห้ามเรียกฉันว่าเฉียนเฉียน แล้วมีสิทธิ์อะไรมาใช้ฉัน ทำไมไม่ใช้ลู่ตงตงลูกคนโตแสนดีของนายล่ะ”
ลู่อวี๋สูดลมด้วยความหงุดหงิด เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่แค่เริ่มมีความต้องการ แต่ยังเริ่มดื้อรั้นอีกต่างหาก “พี่ชายเธอมีแค่แขนข้างเดียวนี่ เธอเป็นเสาหลักของบ้านเรา ต้องดูแลพี่ชายกับปะป๊าที่ใช้ชีวิตไม่สะดวก”
ลู่ตงตงที่นั่งอยู่ข้างๆ ชูตรีศูลขึ้นอย่างให้ความร่วมมือ เป็นการโชว์ว่าเป็นเรื่องจริงที่ตนขยับแขนได้แค่ข้างเดียว
เสิ่นไป๋สุ่ยได้ยินคำว่า ‘เสาหลักของบ้าน’ ก็แค่นเสียงหึ แล้วลอยไปกอดซองขนมเข้ามาโยนใส่หัวลู่อวี๋
“เดี๋ยวนะ” ลูกโป่งท่านประธานฉุกคิดได้ ชี้ลู่ตงตง แล้วชี้ลู่อวี๋ “เขามีแขนเดียว แล้วนายไม่สะดวกยังไง”
ลู่อวี๋สองแขนโอบเอวหมิงเยี่ยนทั้งที่ห่อขนมอยู่บนหัว “ฉันต้องกอดปะป๊านายไง ไม่มีสักมือเดียวเลย”
ประธานเสิ่น “…”
ลู่ตงตงใช้ตรีศูลชี้ที่ข้างๆ “น้องรอง มานั่งนี่ อย่าวุ่นวายกับปะป๊า”
ลูกโป่งท่านประธานถลึงตาใส่ลูกโป่งเงือก ดวงตาดิจิตอลของลูกโป่งเงือกกะพริบปริบๆ ก่อนกลายเป็นตัวจับเวลา ขึ้นนับถอยหลังว่ายังเหลือเวลา ‘ต้องเคารพพี่ใหญ่’ อีกสิบสองชั่วโมง เสิ่นไป๋สุ่ยเงียบไปนานแล้วถึงลอยกลับไปนั่งข้างๆ พี่ใหญ่อย่างว่าง่าย นั่งลงอย่างกรุ่นโกรธ
ลู่อวี๋ที่ได้รับการปรนนิบัติโดยไม่ต้องลงแรงใดๆ เคี้ยวแผ่นมันฝรั่งทอดกรอบกรุบๆ
ปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนถูกนำมาใช้เป็นบทนำ จากนั้นก็เป็นเพลงธีมรายการ นี่ถึงนับว่ารายการเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เพลงธีมรายการเป็นแนวน่ารักร่าเริง ทว่าพาร์ตคอรัสของเพลงกลับเป็นเสียงกังวานทรงพลังของการทำศึกในสนามรบ ดนตรีสองแนวที่ไม่มีความเหมือนกันเลยแม้แต่น้อยถูกยำรวมกัน กลับออกมาเพราะเกินคาด
พาร์ตที่เป็นแนวน่ารักสดใส พื้นหลังเป็นการมีปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ระหว่างลู่อวี๋กับหมิงเยี่ยน ส่วนท่อนคอรัสกลับเป็นฮวาเหวินหย่วนกายอาบเลือดกำราบศัตรู โก่งคันธนูยิงศรด้วยท่วงท่าอันคล่องแคล่ว
หลังจบเพลงธีมก็เป็นชื่อรายการ กล้องตัดสลับ แล้วก็เป็นการเปิดเรื่อง
หิมะขาวโพลนทอดยาว ฮวาเหวินหย่วนปกป้องเมืองร้าง
ในไลฟ์ตอนนั้นผลลัพธ์ก็ออกมาดีอยู่แล้ว พอรายการใส่เสียงเอฟเฟ็กต์เข้าไปมากขึ้น แถมยังมีซาวนด์แทร็กอีก บรรยากาศนี้ก็ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น
ฮวาเหวินหย่วนยืนตระหง่านบนประตูเมือง ใบหน้าหล่อเหลาถูกลมหิมะพัดโบก ธงข้างกายสะบัดส่งเสียงดังออกมา ประกอบกับเพลงท่วงทำนองจากด่านชายแดนที่มีโทนหม่นหมอง เสียงผีผาและขลุ่ยเซิงเซียวดังขึ้น ฝั่งซ้ายปรากฏตัวอักษรแนวตั้งหนึ่งแถว ทำเป็นแอนิเมชั่นเขียนช้าๆ เป็นตัวอักษรพู่กันจีนสีทองหม่น
‘แต่ไหนแต่ไรมาแขกผู้มาเยือนแคว้นโยวและปิ้งล้วนแก่ชรากลางผืนทรายเหลือง’
หมิงเยี่ยนถอนหายใจเบาๆ “ทำออกมาได้ดีมากเลย” ดูแล้วเขายังรู้สึกหดหู่ไปด้วย
ลู่อวี๋เคี้ยวกรุบๆ ต่อไป “กลอนที่เอามาประกอบไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ฮวาเหวินหย่วนก็ไม่ใช่คนจี้โจว ควรจะใช้กลอน ‘ห้าสายทัพแยกจากกัน ทหารโดดเดี่ยวรบร้อยศึก’ มากกว่า”
หมิงเยี่ยนส่ายหน้า “เขาก็แค่เอาไว้สื่อบรรยากาศออกมา ถ้าใช้กลอนที่นายว่าก็สปอยล์สิ”
ขณะทั้งสองกำลังถกกัน ตัวอักษรพิเศษบนหน้าจอก็ขึ้นว่า
‘ถ้าอย่างนั้นผู้ปรับแก้ทั้งสองท่านของเราไปไหนแล้วล่ะ?’
กล้องตัดสลับ จ่อไปยังยอดเขาที่ไกลออกไป ซูมไปยังพวกเขาทั้งสองคนที่ห่อตัวด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีดำ
เอฟเฟ็กต์แปะภาพอินทรีภูเขาตัวเบ้อเริ่ม จากนั้นก็ซูมใบหน้าทั้งสองที่ซ้อนบนล่างแบบโคลสอัพ
“พรืด แค่กๆๆๆ!” ลู่อวี๋พ่นมันฝรั่งทอดกรอบในปากออกมา
* ถลกหน้าดิน อุปมาถึงเจ้าหน้าที่ใจคดที่พยายามรีดไถเงินจากประชาชน
Comments



