ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 1-2 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 1-2 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 2

สมองอัจฉริยะ

 

ดีร้ายอย่างไรก็พูดไล่พ่อบ้านคอนโดฯ กลับไปได้ จากนั้นลู่อวี๋ก็มานั่งศึกษาสมองอัจฉริยะบนโซฟา เขาอยากรีบทำความเข้าใจข้อมูลในตอนนี้โดยเร็ว อินเตอร์เน็ตย่อมเป็นวิธีที่ไวที่สุด

พริบตาที่เขามองไป สมองอัจฉริยะก็ฉายหน้าจอออพติคอล* ขึ้นกลางอากาศ หน้าอินเตอร์เฟซ** เหมือนเป็นเดสก์ท็อปของมือถือที่ไว้โชว์แอพพลิเคชั่นต่างๆ

“ชัดแจ๋วขนาดนี้เชียว” ลู่อวี๋ตื่นตาตื่นใจมาก ขยับข้อมือซ้ายขวา หน้าจอออพติคอลก็ยังคงหันหาเขาในด้านตรงเสมอ ชัดอย่างกับเป็นหน้าจอเรติน่าของมือถือระดับท็อปเลย

ตอนเขามองหน้าจอออพติคอลของพ่อบ้านเมื่อกี้ไม่ได้ชัดขนาดนั้น มันเหมือนกับจอกึ่งโปร่งแสง คล้ายๆ กับสิ่งประดิษฐ์สุดเพี้ยนเมื่อสิบปีก่อน…อย่างโทรทัศน์จอใส โทรทัศน์แบบนั้นสามารถมองเห็นหน้าจอได้ทั้งสองฝั่ง ใสแบบมองทะลุและบางเบา แต่มองเห็นไม่ชัดเลยสักนิด ไร้ประโยชน์สุดๆ

“เวลาดูสมองอัจฉริยะของตัวเองกับของคนอื่นจะเห็นไม่เหมือนกันครับ” สมองอัจฉริยะคล้ายจะรู้ถึงความสงสัยของเขา จึงส่งเสียงตอบออกมาโดยตรง

ลู่อวี๋เข้าใจแล้ว เดาว่าอาจจะเป็นเทคโนโลยีโพลาไรซ์*** หรือไม่ก็ฝังอุปกรณ์รับสัญญาณในสมอง จากนั้นก็ต้องสะดุ้งตกใจขนหัวลุก “ระดับสติปัญญาของนายสูงเกินไปแล้วมั้ง”

ที่จริงแล้วคณะที่เขาเรียนก็เป็นด้านปัญญาประดิษฐ์นี่แหละ ถึงจะเพิ่งขึ้นปีสอง แต่ทฤษฎีพื้นฐานก็แน่นมาก อย่างพวกผู้ช่วยเสียง Siri เสี่ยวอ้าย**** เสี่ยวตู้***** ล้วนเป็นระบบตอบสนองแบบตั้งรับ หรือก็คือ ‘ถ้าคุณไม่ถามมันจะไม่ตอบ’

แต่พฤติกรรมของเจ้าสมองอัจฉริยะเมื่อครู่ชัดเจนว่าความสามารถของมันสูงเกินระดับนั้นไปแล้ว เขาไม่ได้ถาม มันกลับตอบออกมาแล้ว แถมยังทำการคาดเดาความคิดของเขาในระดับหนึ่งด้วย

หน้าปัดสีดำคล้ายมีริ้วแสงวาบผ่าน สมองอัจฉริยะเงียบไปสองวินาทีก่อนเอ่ยตอบ “ผมไม่เหมือนกับสมองอัจฉริยะตัวอื่น”

เอ๋?

ลู่อวี๋ได้ยินคำตอบนี้ก็ลิงโลดขึ้นมาทันที หรือว่านี่จะเป็นดัชนีทองคำสุดโกงของการข้ามเวลา? ระบบที่ล้ำหน้ายุคสมัย!

“ก็ว่าแล้วไง” ลู่อวี๋นั่งไขว่ห้างอย่างลำพอง “ในฐานะบิดา…ของเทพแห่งเจ็ดคาบสมุทร ประมุขแห่งเผ่าพันธุ์วิปลาส ฉันต้องได้รับความเอ็นดูจากสวรรค์แน่นอน”

สมองอัจฉริยะ “…ไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้หรือเปล่า”

ลู่อวี๋ไม่สนใจที่สมองอัจฉริยะเริ่มพูดจาไม่เคารพ เขานึกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นได้จึงถาม “จริงสิเจ้าระบบ ‘คุณผู้ชายของคุณ’ ที่พ่อบ้านพูดถึงหมายความว่าไง”

สมองอัจฉริยะ “ผมมีชื่อครับ คุณเรียกผมว่าตงตงก็ได้”

“ลู่ตงตงเหรอ” เขาคิดว่าด้วยความเจ๋งเท่ของเขา จะเอาชื่อตัวละครที่ตัวเองเขียนมาตั้งให้สมองอัจฉริยะก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ชื่อผู้รับของจากขนส่งเขาก็กรอกชื่อลู่ตงตงมาตลอด

“ใช่ครับ” สมองอัจฉริยะยืนยันคำตอบให้เขา จากนั้นอินเตอร์เฟซคล้ายหน้าเว็บไป่เคอ* ก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอออพติคอล “ ‘คุณผู้ชายของคุณ’ หมายถึงคู่สมรสอันถูกต้องตามกฎหมายของคุณ หมิงเยี่ยน ปัจจุบันเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของเฉินอวี๋เทคโนโลยี”

“…หา?”

คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย หมิงเยี่ยน เขาฟังเข้าใจทั้งสองอย่าง แต่พอเอามาวางไว้ด้วยกันแล้วสมองเขากลับขัดข้องตรงนั้นทันที หัวใจเริ่มเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งจนควบคุมไม่ได้

มะ…หมายความว่ายังไง

บนหน้าจอออพติคอลโชว์รูปปัจจุบันของหมิงเยี่ยนออกมาชุดหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นรูปที่ถูกถ่ายในชุดสูทขณะร่วมงานประชุมต่างๆ ถึงจะไม่ชัดมาก แต่ไม่สามารถปิดบังความสง่างามสูงศักดิ์และความงามเป็นเลิศที่ทะลุออกมานอกจอได้ ทำให้ลู่อวี๋ไม่มีทางจำผิดคนแน่นอน เป็นเทพบุตรของเขาจริงๆ!

โลกพลันเต็มไปด้วยแสงสว่าง เสียงนกขับขานหอมกลิ่นบุปผา เสียงร้องประสานเสียงโทนต่ำดังขึ้นข้างหูเขา “ฮาเลลูย่าห์…”

“เหมือนคุณจะเจอกับปัญหา จำชื่อผมและคู่สมรสตัวเองไม่ได้ สถานการณ์นี้ต้องการให้ผมทำการซิงค์กับคุณชายหมิงหรือไม่ครับ”

ลู่อวี๋ไม่ได้ฟังคำพูดประโยคท้ายของสมองอัจฉริยะสักนิด “เธอหมายความว่าฉันแต่งงานแล้ว และคู่ของฉันคือหมิงเยี่ยน?”

สมองอัจฉริยะ “ใช่ครับ”

พริบตานั้นโคมม้าวิ่ง* ฉายภาพความทรงจำของชีวิตก็กะพริบวาบๆ ในหัวลู่อวี๋ ภาพของตอนอายุสิบแปดที่ต้องทนอยู่อย่างอึดอัดในตระกูลลู่ ความรู้สึกใจเต้นตึกตักเมื่อได้พบกับหมิงเยี่ยนเป็นครั้งแรก เจ้าเงือกอ้วนที่เขาส่งให้ก่อนจะข้ามเวลา…

ลู่อวี๋เงียบไปเนิ่นนาน ก่อนถอนหายใจล้มตัวนอนแหมะบนโซฟา “ชีวิตข้าพเจ้านั้นเกิดมาคุ้มแล้ว”

 

เฉินอวี๋เทคโนโลยี

“ประธานหมิง จะตอบกลับจดหมายสอบถามของชิงฉวีแคปิตอลยังไงดีครับ” เลขาฯ วางจดหมายสอบถามปั๊มโลโก้สีทองลงบนโต๊ะ

 

จดหมายสอบถามเกี่ยวกับหลักฐานยืนยันสถานะการสมรสของคุณหมิงเยี่ยนและคุณลู่อวี๋

 

หมิงเยี่ยนมองตัวอักษรสีดำตัวโตเตะตาบนนั้นแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ “เข้าใจแล้ว วางไว้เถอะ”

“ครับ” เลขาฯ ไม่กล้าถามมาก รับคำหนึ่งเสียงแล้วจึงออกไป

แผนการเปิดขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ถูกระงับ ทำได้แค่ต้องขอเงินอัดฉีดจากกลุ่มสถาบันการเงินขนาดใหญ่เพื่อให้ข้ามพ้นวิกฤตไปได้ เขากับลู่อวี๋ต่างเป็นผู้บริหารระดับสูงและเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ชัดเจนมากว่ากลุ่มสถาบันการเงินไม่ชอบการมี ‘ผู้ตัดสินใจร่วม’ สองคนแบบนี้ มันทำให้บริษัทยิ่งดูเหมือนกิจการครอบครัว

หมิงเยี่ยนหลุบตาลง นั่งเหม่ออยู่เนิ่นนาน ก่อนจะส่งข้อความให้ลู่อวี๋

 

เราหย่ากันเถอะ’

 

ลบๆ แก้ๆ สุดท้ายก็เขียนออกมาแค่สี่พยางค์นี้ ช่วงนี้สภาพลู่อวี๋ดูไม่ค่อยดี เจ้าตัวปฏิเสธที่จะคุยกับเขา เขาจึงต้องเลือกส่งข้อความ

ติ๊ง! ข้อความได้รับการตอบกลับในทันที

 

นี่คือสมองอัจฉริยะของลู่อวี๋ เมื่อครู่จู่ๆ ลู่อวี๋ก็ล้มหมดสติครับ ผมทำการเรียกรถพยาบาลแล้ว กำลังพยายามปลุกให้ตื่นครับ’

 

หมิงเยี่ยนผุดลุกขึ้นทันใด ก่อนจะสวมเสื้อสูทตัวนอกเดินออกไปข้างนอก เดินพลางออกคำสั่งกับสมองอัจฉริยะให้ส่งรหัสแบบใช้ครั้งเดียวกับพ่อบ้านประจำคอนโดฯ ให้ขึ้นไปยืนยันอาการของลู่อวี๋

 

“ประธานหมิง เกี่ยวกับเรื่องที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ คุณมีความคิดยังไงบ้าง”

“ไลฟ์สตรีมปรับแก้ผลิตภัณฑ์ใหม่ในอาทิตย์หน้าจะเป็นไปตามกำหนดการเดิมไหมคะ”

“ได้ยินว่าคุณกับลู่อวี๋แต่งงานกันเพราะข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาด้านการถือลิขสิทธิ์ร่วม เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ”

เพิ่งจะเดินออกจากบริษัทไม่ทันไร กลุ่มนักข่าวก็เข้ามารุมเกาะอย่างกับปลิงเห็นเลือด ไมค์สีดำตัวหนึ่งหวิดจะทิ่มเข้าเบ้าตาหมิงเยี่ยนอยู่รอมร่อ

หมิงเยี่ยนไม่หลบไม่หลีก ทำเพียงยืนพูดเสียงเย็นเยียบอยู่ที่เดิม “หลีกไป”

เหล่านักข่าวเงียบกริบในพริบตา เลขาฯ กับ รปภ. เพิ่งจะไล่ตามทัน รีบเข้าไปแยกฝูงชนออกทันที “ขออภัยครับทุกท่าน ประธานหมิงของพวกเรามีธุระด่วน…”

ไม่รอให้เลขาฯ อธิบายจบ หมิงเยี่ยนก็เดินก้าวฉับๆ ผ่านทางแคบๆ ที่ถูกแหวกขึ้นรถไป แล้วขับฉิวออกไปไม่เห็นฝุ่น

 

“ฮิๆๆ” ลู่อวี๋ชูทะเบียนสมรสของทั้งคู่พลางกลิ้งไปมาบนโซฟา ส่งเสียงหัวเราะโง่ๆ แถมน่าเกลียดออกมา “อันที่จริงข้ามเวลามาแบบนี้ก็ไม่เลวเลย ข้ามความลำบากทุกอย่างขึ้นมาเป็น CEO แต่งงานกับมิสเตอร์เพอร์เฟ็กต์ อยู่บนจุดสูงสุดของชีวิต ฮิๆๆ…”

“ท่านพ่อ ขออนุญาตเตือนหนึ่งประโยค แม้พ่อบ้านจะยืนยันแล้วว่าคุณไม่ได้หมดสติ แต่คุณหมิงยังรีบเดินทางกลับมาอยู่” สมองอัจฉริยะเอ่ยแจ้ง

ลู่อวี๋สะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที แล้วพุ่งตัวเข้าห้องอาบน้ำปานไฟลนก้น เขาจะเจอเทพบุตรของเขาในสภาพนี้ไม่ได้

หลังผ่านสงครามการอาบน้ำเสร็จอย่างรวดเร็วแล้ว ลู่อวี๋ก็เดินไปเลือกเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวที่พวกเขาสองคนใช้ร่วมกัน

ห้องชุดนี้มีมาสเตอร์เบดรูมสองห้อง ตรงกลางเชื่อมกันด้วยห้องแต่งตัวที่เปิดโล่ง ในห้องแต่งตัวแขวนเสื้อผ้าต่างๆ อย่างละสองไซส์ ถึงหมิงเยี่ยนจะรูปร่างสูงแต่โครงกระดูกเล็ก จึงสวมเสื้อผ้าเล็กกว่าลู่อวี๋หนึ่งไซส์

ลู่อวี๋จับแขนเสื้อชุดนอนไซส์เล็กกว่าตัวหนึ่งขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีแมวกำลังข่วนหัวใจ มันคันยุบยิบนุบนิบ เขามองซ้ายแลขวาประหนึ่งหัวขโมย อดดึงแขนเสื้อมาจ่อใกล้ๆ จมูกแล้วสูดดมไม่ได้ กลิ่นหอมหวานสดชื่นจางๆ ของต้นไม้และหญ้าผสมกับกลิ่นไม้จันทน์อ่อนๆ ไม่ใช่แค่ขจัดความคันยุบยิบในใจไม่ได้ แต่กลับยิ่งทำให้ลู่อวี๋เสพติด สูดหายใจติดกันอีกสองรอบอย่างไม่อาจควบคุม

“คุณมีเวลาอีกแค่ประมาณห้านาที” สมองอัจฉริยะแจ้งเตือน

“แค่ก” ลู่อวี๋กระแอมเบาๆ หนึ่งที ฝืนใจหันไปมองหาฝั่งที่แขวนชุดสูท

เขาหยิบสูทลายตารางออกมาชุดหนึ่ง เอาทาบกับตัว นึกภาพตัวเองสวมสูทแล้วคาบดอกกุหลาบแดง โคลงแก้วไวน์แดงในมือ เรียกหมิงเยี่ยนเสียงทุ้มแผ่วว่า ‘ที่รัก’ ตอนที่เจ้าตัวเดินเข้ามาในห้อง อีกฝ่ายต้องหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแน่

“ฮิๆ นี่แหละสิทธิพิเศษของชายชาตรีที่สุกงอมเต็มที่”

ขณะกำลังแต่งหล่อ ลู่อวี๋พลันเห็นว่าท่อนบนของตัวเองในกระจกไม่หลงเหลือกล้ามหน้าท้องแถมผิวยังขาวซีดก็ยิ้มไม่ออก

สมองอัจฉริยะเอ่ยออกความเห็นอย่างถูกเวลา “พูดตามตรง มันเฉิ่มมากเลยครับ”

“หุบปาก” ลู่อวี๋โยนสูททิ้งอย่างฉุนเฉียว ก่อนเลือกชุดนอนผ้าไหมสีดำมาสวม ไม่รู้ว่าตัวเองในโลกอนาคตคิดอะไรอยู่ พอแต่งงานแล้วถึงได้ละทิ้งการดูแลร่างกาย ใช้ชีวิตอย่างกับพวกชายแท้มอมๆ น่าขายหน้าจริงๆ

ดีนะที่เขาไหล่กว้าง ถึงพยุงเสื้อผ้าไหมที่ทิ้งน้ำหนักดีสุดๆ ได้ พอยืนตัวตรงก็พอพรางหุ่นได้อยู่ เข้ายิมออกกำลังกาย อาบแดด ต้องเอาลิสต์พวกนี้เข้ากิจวัตรประจำวันด่วน

ลู่อวี๋ละเมียดละไมโกนหนวดเครา ตัดแต่งขนคิ้วรุงรัง หยิบแวกซ์มาจัดผมตัวเอง ถึงดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง เสียดายที่เขาแต่งหน้าไม่เป็น ยังไงซะใบหน้าในวัยหนุ่มของเขาก็ไม่มีตำหนิเลยสักนิด เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเบ้าตาคล้ำแถมนัยน์ตามีเส้นเลือดฝอยนี้ดี

“นี่ตงตง เธอรู้วิธีกลบใต้ตาดำหรือเปล่า” ลู่อวี๋ขอความช่วยเหลือกับสมองอัจฉริยะสารพัดประโยชน์

สมองอัจฉริยะน้ำเสียงสดใส “แนะนำให้คุณนำผมไปติดตั้งในลูกโป่ง ผมสามารถช่วยคุณหาแว่นกรองแสงที่เหมาะกับคุณได้”

ลู่อวี๋ทำตามที่สมองอัจฉริยะแนะนำ เมื่อเจอหุ่นลูกโป่งรูปร่างมนุษย์เงือกวางอยู่บนตู้โชว์เขาก็สูดลมหายใจเย็นเยียบ “นี่มัน…”

นั่นเป็นตุ๊กตาเงือกขนาดเท่าแมวโตเต็มวัยตัวหนึ่ง เหมือนกับรูปลู่ตงตงเวอร์ชั่นจิบิที่เพิ่งได้รับก่อนจะข้ามเวลามาเป๊ะๆ อย่างกับเคาะออกมาจากรูปวาด ทำให้เขารู้สึกไม่ถูกต้องอย่างกับว่าโลกสองมิติกลายเป็นโลกจริงเลยอย่างไรอย่างนั้น

ลู่อวี๋อดอุ้มเงือกตัวนั้นขึ้นมาไม่ได้ ความยืดหยุ่นของผิวสัมผัสนั้นยอดเยี่ยม เป็นวัสดุที่ไม่เคยเจอมาก่อนเลย ทั้งตัวตุ๊กตาเบาหวิว แทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนักเลยสักนิด ถ้าไม่ผูกเชือกถ่วงน้ำหนักไว้คงจะลอยหายไปด้วยซ้ำ อย่างกับเป็นร่างลูกโป่งที่อัดพวกก๊าซฮีเลียมเข้าไปเลย

“กรุณานำอุปกรณ์เสริมสมองอัจฉริยะใส่ลงในสล็อต” หน้าจอออพติคอลของสมองอัจฉริยะแสดงภาพเคลื่อนไหวให้คำแนะนำ

ลู่อวี๋แกะหน้าปัดสีดำออกมาเสียบลงไปในสล็อต พริบตาสีของหน้าปัดก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสีโดยรอบ จากนั้นดวงตาของลูกโป่งเงือกก็ส่องแสง ดวงตากลมโตเป็นหน้าจอดิจิตอลสองจอ มันปรับสีหน้าเล็กน้อย แล้วหางปลาก็เริ่มขยับดุกดิก

“ตงตง” ลู่อวี๋อุ้มลูกโป่งเงือกที่ส่ายหางเบาๆ ขึ้นมาด้วยสีหน้าแทบเรียกได้ว่าหลงใหล ทั้งลูบๆ ผมและบีบหาง ไม่พอยังดึงตรีศูลเป่าลมในมือเล็กกลมเบาๆ อีกหนึ่งที “ความคิดดีเลยนี่ ทำให้ตัวละครที่ชอบขยับได้ แถมยังให้สมองอัจฉริยะสวมบทตัวละครได้ด้วย โลกสิบปีข้างหน้าคือสวรรค์ของโอตาคุจริงๆ!”

เงือกกะพริบตาปริบๆ ผละออกจากการควบคุมของลู่อวี๋ แกว่งหางเบาๆ แล้วลอยตัวหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศได้ด้วยตัวเอง ใช้เสียงเคร่งขรึมของเด็กหนุ่มพูด “ไม่ใช่การสวมบท”

น้ำเสียงนี้ บทพูดนี้ พูดจาเหมือนลู่ตงตงใน ‘เงือกจอมราชัน’ ฉบับหนังสือเสียงเปี๊ยบเลย มันให้ฟีลครั่นคร้ามน่ากลัว แล้วก็มีความฮึกเหิมของราชาหนุ่มอยู่หลายส่วน

ลู่อวี๋ตะลึง จู่ๆ ความคิดไร้สาระก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ไม่รอให้เขาคิดออกก็ได้ยินเงือกสมองอัจฉริยะเอ่ยปาก

“ผมก็คือลู่ตงตง”

 

* หน้าจอออพติคอล (Optical Screening) คือหน้าจอที่มีการแสดงภาพอย่างมีประสิทธิภาพและคมชัด

** อินเตอร์เฟซ (Interface) คือภาพกราฟิกของหน้าจอมอนิเตอร์ที่แสดงต่อผู้ใช้งาน

*** เทคโนโลยีโพลาไรซ์ (Polarized Technology) คือเทคนิคที่ใช้การควบคุมทิศทางของแสงโพลาไรซ์ เพื่อลดแสงสะท้อน ปรับปรุงคุณภาพของภาพ หรือเพิ่มความคมชัด

**** เสี่ยวอ้าย คือผู้ช่วยเสียงจาก xiaomi (小米)บริษัทเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีน

***** เสี่ยวตู้ คือผู้ช่วยเสียงจาก Baidu (百度)เสิร์ชเอ็นจิ้นของประเทศจีน

* ไป่เคอ หรือไป่ตู้ไปเคอ เป็นสารานุกรมออนไลน์ที่ร่วมกันเขียนในภาษาจีน จัดทำโดยไป่ตู้ คล้ายเว็บไซต์วิกิพีเดีย

* โคมม้าวิ่ง คือโคมไฟสวยงามชนิดหนึ่ง ตกแต่งด้วยกระดาษตัดเป็นรูปม้าหรือรูปอื่นๆ เมื่อจุดไฟด้านในโคมจะหมุน เกิดเป็นภาพเคลื่อนไหว

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com