ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 8

ซีเหมิน

 

หน้าบริษัทเฉินอวี๋เทคโนโลยีมีนักข่าวกลุ่มหนึ่งมาดักรออยู่ดังคาด

พวกเขายืนเรียงแถวกันอยู่บนขั้นบันไดอย่างหนาแน่นคล้ายนกกระจอกที่ซุ่มเกาะอยู่บนสายไฟฟ้าแรงดันสูง แค่รอให้รถของหมิงเยี่ยนจอดสนิทพวกเขาก็จะกรูกันเข้าไปส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ‘แย่งอาหาร’ กันอย่างกับฝูงผึ้ง

“นกกระจอกนอกหน้าต่าง ส่งเสียงร้องจอแจบนสายไฟ*…” ลู่อวี๋ฮัมเพลงพลางมองเหล่านักข่าวที่ส่งเสียงวุ่นวายบนจัตุรัส “ตึกออฟฟิศนี่ไม่มีลานจอดรถใต้ดินเหรอ”

เฉินอวี๋เทคโนโลยีไม่ได้ดูกว้างขวางโอ่อ่าอย่างที่บริษัทเทคโนโลยีควรจะเป็น แต่เป็นตึกเตี้ยๆ ที่ออกจะซอมซ่อหน่อยๆ ด้านบนสุดของตึกแปะชื่อบริษัท แนบด้วยโลโก้รูปปลาอ้าปากซึ่งลำตัวครึ่งหนึ่งอยู่ในน้ำอันเรียบง่าย

ตึกนี้ไม่มีบริษัทอื่นอยู่ด้วย ถ้ามีลานจอดรถใต้ดินย่อมไม่ถูกสื่อมาเฝ้าตอรอกระต่ายตั้งแต่เช้า หมิงเยี่ยนไม่ตอบคำถามที่มีคำตอบชัดเจนอยู่แล้วนี้ เพียงเอ่ยกำชับ “รปภ. มารอหน้าประตูแล้ว นายลงจากรถแล้ววิ่งไปทางประตูใหญ่ได้เลย”

รถเพิ่งจะจอดสนิท นักข่าวก็กรูเข้าใส่ทันทีอย่างที่คิดไว้

“ประธานหมิง คุณคิดยังไงกับการที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่สำเร็จเหรอคะ”

“ได้ยินว่าเฉินอวี๋เทคโนโลยีกำลังเตรียมรับการระดมทุนจากชิงฉวีแคปิตอล เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ”

“มีข่าวว่าถ้าเฉินอวี๋เทคโนโลยีไม่รับการระดมทุนก็จะตกอยู่ในวิกฤตหนี้สิน คุณคงมีประสบการณ์กับการจัดการวิกฤตหนี้สินเป็นพิเศษเลยใช่ไหมคะ”

ฝูงชนเบียดอัดกัน ใบหน้าของนักข่าวแถวหน้าแทบจะแนบกับหน้าต่างรถจนบี้แบน หมิงเยี่ยนเปิดประตูรถไม่ได้ด้วยซ้ำ

ลู่อวี๋สวมหน้ากากอนามัยเดินลงจากฝั่งข้างคนขับ ก้าวฉับๆ เดินขึ้นบันไดก่อนดึงหน้ากากอนามัยลง “มีคำถามก็มาถามฉันนี่!”

กลุ่มคนเงียบกันไปหนึ่งวินาที จากนั้นก็พลันวุ่นวาย

“จับปลาบนดินแล้ง!”

“ลู่อวี๋!”

ฝูงนักข่าวเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมานานก็เลิกเซ้าซี้หมิงเยี่ยนแล้วพุ่งกรูใส่ลู่อวี๋ทันที

ข้างประตูรถที่ตอนแรกคนหนาแน่นจนน้ำแทรกผ่านไม่ได้ว่างเปล่าในพริบตา หมิงเยี่ยนลงจากรถ ขมวดคิ้วมองลู่อวี๋ที่ถูกเลนส์บ้องข้าวหลามของกล้องจ่อรอบทิศ

“ประธานหมิง รีบไปเถอะครับ” เลขาฯ พาบอดี้การ์ดเข้ามาคุ้มครองหมิงเยี่ยน

หมิงเยี่ยนบอกให้เลขาฯ ไปช่วยลู่อวี๋ ส่วนตนเดินเข้าล็อบบี้บริษัทจากประตูด้านข้าง

“ประธานลู่ คุณคิดยังไงกับการที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้คะ”

ไม่รู้นักข่าวสำนักไหน ทำไมถึงได้ยึดติดกับคำถามนี้นักนะ

ลู่อวี๋คว้าไมค์ตัวหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะมีฟังก์ชันเยอะ ก่อนจะกดเปิดโหมดขยายเสียง “บริษัทเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน แต่ก็ผ่านเกณฑ์ที่ใช้เข้าสู่ตลาดหุ้นได้ นี่คือความรักความห่วงใยของโลกธุรกิจ แม้ว่าผมจะประสบความสำเร็จแบบนี้ตั้งแต่อายุยี่สิบแปด แต่ผมจะไม่หลงละเลิงหรือใจร้อน จะพยายามต่อไปอย่างไม่ย่อท้อครับ!”

เพียงพริบตาฝูงนกกระจอกที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวก็คล้ายกินยาเบื่อหนูเข้าไป ต่างเป็นใบ้ไปพร้อมกัน

มีคนหน้าหนาไม่รู้จักอายฟ้าดินขนาดนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ

นักข่าวแถวหน้าตอบสนองว่องไว “ในเมื่อคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากแล้ว ทำไมถึงยังพยายามเสาะหาช่องทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อีกล่ะ เพราะจะแก้ไขวิกฤตหนี้สินของเฉินอวี๋เทคโนโลยีด้วยวิธีที่เสี่ยงเหมือนดื่มยาพิษแก้กระหายใช่หรือเปล่า”

ลู่อวี๋เอ่ยตอบเสียงเกียจคร้าน “ทำไปเพื่อเปลี่ยนตึกออฟฟิศครับ ลานจอดรถที่นี่เป็นแบบกลางแจ้ง ถูกพวกนักข่าวรุมง่ายเกินไป”

ตอนนี้เองเหล่า รปภ. ก็เบียดเข้ามาได้สักที พร้อมลากตัวลู่อวี๋ไปได้ทุกเมื่อ

“โอเค การสัมภาษณ์วันนี้จบเท่านี้ ลำบากทุกท่านแล้ว!” ลู่อวี๋ยัดไมค์กลับใส่มือนักข่าวคนนั้นแล้วหมุนตัวเดินจากไป

จังหวะนี้เอง จู่ๆ ก็มีนักข่าวคนหนึ่งตะโกนลั่น “จับปลาบนดินแล้ง คุณเป็นเจียงหลางหมดสิ้นพรสวรรค์ถึงได้เปลี่ยนสายมาทำผู้ช่วยสมองอัจฉริยะ คุณเป็นพวกตัดช่องน้อยแต่พอตัว เป็นความอับอายของวงการนิยายเว็บ!”

“ตอนนี้เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ คงมานั่งนึกเสียใจทีหลังใช่ไหมล่ะ”

ลู่อวี๋ชะงักฝีเท้า หันขวับกลับไป “พวกนายจะไปเข้าใจกับแม่…ยายสิ”

เลขาฯ ตกใจหน้าถอดสี ยื่นมือไปหมายจะดึงตัวลู่อวี๋ไว้เพราะกลัวเขาจะไปทะเลาะกับฝั่งนั้นเข้า เมื่อก่อนลู่อวี๋เกลียดที่คนอื่นบอกว่าเขาเป็น ‘เจียงหลางหมดสิ้นพรสวรรค์’ ที่สุด ถ้าได้ยินจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ทว่ากลับผิดคาด ลู่อวี๋ไม่ได้โกรธ แถมย้อนถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าอุดมคติสูงสุดของนักเขียนคนหนึ่งคืออะไร”

ไม่รอให้ใครเข้าใจคำถาม ลู่อวี๋ก็ตอบเองด้วยน้ำเสียงฮึกเหิมเปี่ยมพลัง

“คือการทำให้ลูกๆ คนกระดาษเรียกตัวเองว่าพ่อแม่สักครั้งในบั้นปลายชีวิต!” ว่าจบเขาก็ยื่นแขนซ้ายออกไป เผยให้เห็นอุปกรณ์สมองอัจฉริยะตรงข้อมือ ก่อนตะโกนกร้าว “ตงตง!”

สมองอัจฉริยะตอบกลับทันที “ครับ ท่านพ่อ!”

“ในวงการนิยายเว็บ ลูกชายลูกสาวคนกระดาษของใครบ้างที่เรียกผมว่าพ่อได้ทุกเวลาเหมือนลู่ตงตงของผม นี่ก็คือเหตุผลที่ผมทุ่มเททุกอย่างที่ทำได้เพื่อสร้างผู้ช่วยสมองอัจฉริยะ เพื่อให้เด็กๆ ของผมบรรลุสู่จุดสูงสุดของโลกไซเบอร์!”

ลู่อวี๋ชูมือซ้ายขึ้นสูงประหนึ่งนักรบแห่งแสงที่กำลังจะแปลงร่าง แสงอรุณสาดลงบนร่างกายเขาอย่างเจิดจ้าและยิ่งใหญ่

ทุกคนต่างอึ้งทึ่งกับภาพนี้ ไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน มีแต่เสียงแฟลช ‘แชะๆๆ’ บันทึกภาพแห่งประวัติศาสตร์นี้ไว้

 

หัวข้อข่าวสดวันนี้

 

‘เป้าหมายสูงสุดของนิยายเว็บ คือการบรรลุสู่จุดสูงสุดของโลกไซเบอร์!’

 

หมิงเยี่ยนที่อยู่ในล็อบบี้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมหน้า บอกให้บอดี้การ์ดไปดู ส่วนตัวเองก็หันหลังเดินเข้าลิฟต์ไป

อับอายขายหน้าเกินทนจริงๆ คนคนนี้

พอไล่พวกนักข่าวไปได้ ลู่อวี๋ที่เดินเข้าไปในล็อบบี้ของเฉินอวี๋เทคโนโลยีอย่างอิ่มอกอิ่มใจก็ปะทะเข้ากับหน้าผากเงาวับสะท้อนแสง

“เหล่าลู่ เมื่อกี้นายเท่มากจริงๆ!” ผู้มาใหม่กอดลู่อวี๋ รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง

“เหล่าหยาง?” ลู่อวี๋มองชายตรงหน้าอึ้งๆ แม้จะเปลี่ยนไปมาก แต่หยางเฉินรูมเมตหัวรังนกของเขาคนนั้นก็ไม่หนีไปไหน “เชี่ย ไม่เจอกันตั้ง…ไม่กี่วัน ทำไมนายหัวล้านแบบนี้แล้วเนี่ย”

ความดกหนาบนหัวนั้น ตอนนี้ได้โรยราไปหมดสิ้น

หยางเฉินชกเขาหนึ่งหมัด “ไอ้เชี่ยนี่ ไม่พูดถึงมันได้ไหม ฉันเป็นแบบนี้เพราะใครกันล่ะ”

สมัยเรียนมหาวิทยาลัย สิ่งที่หยางเฉินแสนภาคภูมิใจคือเส้นผมที่เหมือนฝอยขัดหม้อ แต่สายอาชีพของพวกเขาถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องเป็นชาวนาฟาร์มโค้ด* ผมของเขาต้องล้านกว่าคนทั่วไปแน่นอน

ทว่าหลังจากเรียนจบ หยางเฉินถูกบริษัทใหญ่รับเข้าทำงาน ไม่ใช่แค่ต้องทำงานแบบ 996** แต่ยังถูกหัวหน้ากลั่นแกล้งรังแก เขาที่กลัดกลุ้มและไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตสักทีรู้สึกแสนเหนื่อยล้า ผมจึงค่อยๆ ร่วงเป็นหย่อมๆ ตอนนั้นเองลู่อวี๋ที่ทำตามเป้าหมายเล็กๆ ได้แล้วมาหาเขา บอกว่า ‘งั้นนายออกมาทำงานข้างนอกกับฉันดีกว่าไหม’

เหล่าหยางตามไปช่วยลู่อวี๋เปิดบริษัทเฉินอวี๋เทคโนโลยีโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองที่ทำงานเก่า แล้วก็ทำสำเร็จจริงๆ แต่เพราะว่าเป็นธุรกิจของตัวเองจึงไม่ต้องให้ใครมาคอยเร่ง เขาทำงานแบบ 007*** อย่างไม่รู้ตัวโดยอัตโนมัติ ฉะนั้นไม่ใช่แค่ไม่อาจรั้งเส้นผมของตัวเองไว้ได้ แต่กลับล้านเร็วยิ่งกว่าเดิม ยังไม่ทันเข้าสามสิบก็ล้านจนไม่เหลือให้ล้านแล้ว

“ในที่สุดนายก็มาได้สักที ฉันปรับแต่งเครื่องจำลองเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอให้นายมาทดสอบอยู่นี่แหละ” หยางเฉินเห็นลู่อวี๋ที่ไม่เข้าบริษัทหลายวันก็ดีใจมาก ลากเขามาบ่นไม่ยอมหยุดปาก “อาทิตย์หน้าจะต้องขึ้นไลฟ์เปิดตัวสินค้าใหม่กันแล้ว ยังไงนายก็ควรไปลองทดสอบดูก่อน ไม่อย่างนั้นกลับมาต้องยุ่งมือเป็นระวิงแน่ๆ เจ้านี่มันสุดยอดมากจริงๆ นะ ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมนายถึงยอมทุ่มเงินเพื่อมันขนาดนี้…จะว่าไปนายไหวไหมเนี่ย เขียนแผนโปรเจ็กต์ถึงไหนแล้ว” พูดไปครึ่งวันแต่ลู่อวี๋ก็ยังไม่มีการตอบสนอง หยางเฉินจึงถองศอกใส่เขาไปที

ลู่อวี๋ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาพูดอะไร แต่ก็ยังตอบรับอย่างตั้งอกตั้งใจ “วางใจเถอะ เดี๋ยวฉันไปดูแล้วค่อยว่ากัน”

หยางเฉินพยักหน้า ไม่ถามอะไรมาก ลากลู่อวี๋ขึ้นลิฟต์แล้วบอกให้พวกเลขาฯ ไปขึ้นลิฟต์อีกตัว

“มีอะไร ทำตัวลับๆ ล่อๆ” ลู่อวี๋ขยับออกหนึ่งก้าว รักษาระยะห่างกับหยางเฉิน “ฉันเป็นคนมีครอบครัวแล้วนะ”

“ไปไกลๆ เลย” หยางเฉินด่าเขาอย่างรังเกียจ “ไอ้เจ้าซีเหมินชิงนั่นมาอีกแล้ว นายต้องระวังๆ ไว้ล่ะ อย่าให้มันเข้าใกล้หมิงเยี่ยน”

“ซีเหมินชิ่ง**** อะไร” ลู่อวี๋หูผึ่ง ชื่อนี้แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา

“จิ๊ ก็ประธานจ้าวเยียนชิงของชิงฉวีแคปิตอลนั่นไง นายตั้งฉายาให้ว่าซีเหมินชิงเอง ลืมได้ไง” เหล่าหยางพูดอย่างโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจ “ประชุมหารือเรื่องเงินทุนวันนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาด้วย”

 

ห้องประชุมเล็กชั้นบน

จ้าวเยียนชิงที่สวมชุดสูทสีเทาอมฟ้าเข้าชุดนั่งฝั่งตรงข้ามกับหมิงเยี่ยน เขาดันจดหมายสอบถามที่มีโลโก้ปั๊มฟอยล์ทองไปตรงหน้าช้าๆ “ตอนนั้นผมขอให้คุณระดมทุนด้วยการเสนอขายแบบเจาะจง คุณไม่ทำ แต่ดันไปทำผู้ช่วยสมองอัจฉริยะอะไรนั่นกับคนแซ่ลู่ ตอนนี้เป็นไง คนที่มาระดมทุนกับผมตอนนี้ในมือได้จัดการเงินทุนเป็นแสนล้านแล้ว แต่คุณยังต้องมานั่งกลุ้มกับเงินระดมทุนแค่หมื่นล้านอยู่ คุณบอกมาหน่อยสิว่าแบบนี้คุณคุ้มตรงไหน”

การ์ดแข็งในซองจดหมายสอบถามแตะโดนปลายนิ้วของหมิงเยี่ยนที่วางบนโต๊ะแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่หยุดดันไปข้างหน้าต่อ

หมิงเยี่ยนงอนิ้วกำหมัด ก่อนเก็บมือลงใต้โต๊ะ ไม่รับการ์ดใบนั้น “จดหมายนี้เมื่อวานคุณเคยส่งมาแล้วหนึ่งฉบับ ทำไมประธานจ้าวถึงมาส่งเองกับมืออีกฉบับล่ะครับ รีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ ดูไม่ใช่แนวของชิงฉวีแคปิตอลเลยนะครับ กระบวนการตรวจสอบและสอบถามก็ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์”

จ้าวเยียนชิงยิ้มเอ่ย “ผมไม่ได้ใจร้อนหรอกครับ แต่เมื่อวานไม่ได้รับจดหมายตอบกลับ กลัวว่าคุณจะไม่รู้ถึงความตั้งใจของผม…บริษัทของเราก็เลยมาหาด้วยตัวเอง”

หมิงเยี่ยนเหลือบสายตาขึ้น สายตาคมกริบขึ้นมาในฉับพลัน

ปัง!

ประตูห้องประชุมพลันถูกกระแทกเปิดอย่างแรงจนกระแทกผนังแล้วก็เด้งกลับมา ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแสบหู

ทั้งคู่หันไป แล้วก็เห็นลู่อวี๋เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร เขามองสถานการณ์ภายในห้องแล้วเปลี่ยนไปมีท่าทีสบายๆ

ลู่อวี๋เดินมาหยุดตรงด้านหลังหมิงเยี่ยน สองแขนคร่อมอีกฝ่ายแล้วยันมือกับโต๊ะประชุม ดูเหมือนจะวางคางตัวเองกลางหัวหมิงเยี่ยนอย่างไรอย่างนั้น เขายิ้มตาหยีพลางพูด “วันนี้เป็นวันประชุมภายในของพวกเรา รบกวนประธานซีเหมินย้ายไปนั่งรอที่ห้องรับรองข้างๆ สักครู่นะครับ”

“เหอะๆ” จ้าวเยียนชิงปรายตามองลู่อวี๋ ก่อนลุกขึ้นยิ้มเย็นยะเยือก พอยกเท้าก้าวจากไป เดินได้สองก้าวก็พลันรู้สึกแปลกๆ “เดี๋ยวนะ ใครคือประธานซีเหมิน”

 

 

* ‘นกกระจอกนอกหน้าต่าง ส่งเสียงร้องจอแจบนสายไฟ’ เป็นเนื้อร้องจากเพลง 七里香 (Orange Jasmine) ของศิลปิน Jay Chou

* ชาวนาฟาร์มโค้ด หมายถึงโปรแกรมเมอร์

** 996 หมายถึงการทำงานตั้งแต่เวลา 9.00 น. – 21.00 น. เป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์

*** 007 หมายถึงการทำงานตั้งแต่เวลา 00.00 น. – 00.00 น. ตลอด 7 วันต่อสัปดาห์

**** ซีเหมินชิ่ง คือตัวละครจากนิยายจีนโบราณเรื่องบุปผาในกุณฑีทอง ตัวละครนี้เป็นพ่อค้าผู้มั่งคั่งและเป็นที่รู้จักจากพฤติกรรมเจ้าชู้และเสเพล

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com