ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 11-12 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 11-12 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

ทดลองอ่านเรื่อง  ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1

ผู้เขียน :  ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ (绿野千鹤)

แปลโดย :  qMondae

ผลงานเรื่อง : 再少年 (Zai Shao Nian)

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – – 

Trigger Warning

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน

ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ

   

เนื้อหามีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับความรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจ

         

สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

** หมายเหตุยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

– – – – – – – – – – – – – – – – –

บทที่ 11

คาดเดา

 

หมิงเยี่ยนยิ้มแล้วยื่นมือซ้ายออกไป “มาสิ”

ลู่ตงตงวางมือลงบนฝ่ามือหมิงเยี่ยนอย่างว่าง่าย เล็บของเขายังคงเป็นกรงเล็บแหลมคมเพราะเมื่อครู่เพิ่งใช้พลังไป ด้วยกลัวว่าจะทำร้ายหมิงเยี่ยนจึงกำมือแล้วเก็บเล็บกลับไป

ปลายนิ้วที่เมื่อกี้นี้ยังคมกริบดูอันตราย พริบตากลับกลายเป็นนิ้วที่ละมุนอ่อนโยน

หมิงเยี่ยนยกดินสอขึ้น ตวัดวาดเบาๆ บนนิ้วชี้เรียวยาวนิ้วนั้น “แหวนนี้ฉันออกแบบไว้ตอนที่ไปเรียนต่างประเทศ ตอนนั้นคิดไว้อยู่ว่าน่าจะวาดไว้บนรูปคอนเซ็ปต์อาร์ตของเธอ”

ประธานจ้าวหนังตากระตุกกึกๆ มองอยู่ข้างๆ มีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ประหลาดในโลกจำลองแถมยังคุยเสียจริงจังอีก หมิงเยี่ยนที่เป็นแบบนี้ดูแปลกตาหน่อยๆ

หยางเฉินเห็นท่าไม่ดีก็พยายามส่งซิกให้ลู่อวี๋สุดแรงเกิด ทว่าลู่อวี๋เอาแต่สนใจจ้องภรรยาที่กำลังวาดรูป ไม่ได้สนใจไยดีความเป็นความตายของเพื่อนเลย เหล่าหยางทำได้แค่หัวเราะแห้งอย่างแสนระอา “surprise! นี่คือช่วงพูดคุยกับตัวละครที่ผมตั้งค่าไว้ รู้สึกตกใจหรือเปล่า”

มุมปากประธานจ้าวกระตุก ขณะเดียวกันก็ผ่อนลมหายใจ “ตกใจ ตกใจมาก ถ้าคุณไม่บอกผมก็นึกว่าคนกระดาษมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ซะอีก”

ทั้งสามคนที่อยู่ตรงนั้นชะงักพร้อมกัน

ลู่อวี๋จู่ๆ ก็เหมือนเครื่องค้าง ค่อยๆ หันหน้า ‘กึกกึกกึก’ ไปทางเขา พูดน้ำเสียงอึมครึม “จะเป็นไปได้ยังไง ไม่แน่พวกเราสามคนอาจจะกลายเป็นคนกระดาษไปแล้วก็ได้”

“หา?!” จ้าวเยียนชิงตกใจตัวโยน

“พรืด…” เหล่าหยางอดไม่ได้หลุดขำพรืด ถองศอกใส่ลู่อวี๋พลางกระซิบ “แสบเหลือเกินนะนายน่ะ”

“ชิ วิกนายร่วงแล้ว” ลู่อวี๋หลุดหัวเราะ ก่อนจะหันไปหาหมิงเยี่ยน

“เชี่ย!” เหล่าหยางลูบหัวที่เย็นวาบป้อยๆ แล้วถึงเพิ่งสังเกตว่าวิกที่ระบบใส่ให้เขาหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ คงจะปลิวหายไปตอนนั่งพรมบิน “สมจริงเกินไปแล้วว้อย ทำไมวิกถึงหล่นได้ด้วยเนี่ย”

แหวนไพลินเส้นสุดท้ายถูกจรดลากสำเร็จแล้ว หมิงเยี่ยนหมุนปลายดินสอเล็กน้อย จุดลงที่รูปแหวนหนึ่งที อัญมณีลายเส้นดินสอสีขาวเทาพริบตาก็แปรเปลี่ยนเป็นไพลินระยิบระยับใสกระจ่าง ถูกยึดเกาะแน่นหนาด้วยหนามเตยทองคำขาวแสนซับซ้อนงดงาม

หมิงเยี่ยนลูบแหวนวงนั้น แล้วก็วาดรูปเงือกง่ายๆ ตัวเล็กๆ ไว้ด้านในวงแหวน ก่อนจะสวมให้ลู่ตงตงใหม่อีกครั้ง

“สวยมากเลย!” ลู่ตงตงยกมือขึ้น ท้องฟ้าหม่นเทาไร้แสงอาทิตย์ เขาดีดนิ้วหนึ่งที เมฆครึ้มพลันถูกขับออกไป แสงท้องฟ้าสาดส่องทะลุริ้วเมฆลงมากระทบลงบนแหวนไพลินวงนั้น มันระยิบระยับพร่างพราว งดงามจนสรรหาคำมาชมไม่หมด

หมิงเยี่ยนมองเงือกหนุ่มที่เอาแต่ยกมือขึ้นมองตรงนั้นตรงนี้ แววตาเปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยน

เวลานี้เองมือที่เห็นข้อนิ้วชัดเจนข้างหนึ่งก็ยื่นเข้ามา

ลู่อวี๋ยื่นมือตัวเองให้ พร้อมเลียนแบบน้ำเสียงของลู่ตงตง “พี่ครับ ผมก็อยากได้แหวนสักวง”

หมิงเยี่ยนมองมือของเขาไม่พูดจา และไม่รับมือเขามาด้วย

ประธานจ้าว “แหวะ” เขาที่เดิมทีก็อาการยังไม่ดีขึ้นอยู่แล้ว ซ้ำยังถูกลู่อวี๋หลอกให้ตกใจไปอีกหน จึงทนไม่ไหวอาเจียนออกมาอีกรอบ

เหล่าหยางตบหลังประธานจ้าว “ผมเข้าใจคุณนะ ผมก็รับไม่ได้กับบรรยากาศของสองคนนี้เหมือนกัน”

ประธานจ้าวถลึงตามองเหล่าหยาง อึกอักอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ออก เพียงอ้าปาก คำแรกก็คือ ‘แหวะ’

“ควรกลับกันได้แล้ว” หมิงเยี่ยนเอ่ยสีหน้าไร้อารมณ์

เหล่าหยางพยักหน้า เริ่มทำการเด้งออกจากระบบ

ลู่อวี๋ยังคงยัดเยียดมือให้อย่างดื้อด้าน จ้องหมิงเยี่ยนตาปริบๆ หมิงเยี่ยนยังคงไม่รับมือเขา เพียงแต่ฉวยจังหวะตอนที่อีกสองคนไม่สนใจรีบวาดรูปหัวหมูง่ายๆ บนหลังมือข้างนั้นลวกๆ

“ทำไมของตงตงได้เพชรพลอย ของผมมีแค่หัวหมูล่ะ” ลู่อวี๋ยู่ปาก กุมมือที่วาดหัวหมูขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

ลู่ตงตงโบกมือยิ้มตาหยี “พ่อ ปะป๊า แล้วเจอกันครับ”

“หืม?” ลู่อวี๋แหงนหน้าขึ้นมองลู่ตงตง แล้ววินาทีต่อมาภาพตรงหน้าก็ย้อนกลับมาเป็นภาพภายในแคปซูลเกมมิ่ง

ประธานจ้าวรีบปลดเข็มขัดนิรภัย ล้มลุกคลุกคลานปีนออกจากเครื่อง แล้วคุกเข่าอาเจียนแห้งกับพื้น

เมื่อกี้ที่เขาอาเจียนในเกมไป ก็อาเจียนออกมาในแคปซูลเกมมิ่งด้วย และเจ้าหมวกกันน็อกเกมมิ่งวิปริตนี่ก็ยังมีที่สำหรับรองรับของเหลวอย่างอาเจียนด้วย เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาแล้วพบสิ่งนี้ก็รู้สึกอยากอาเจียนขึ้นมาอีกรอบ เพียงแต่ในกระเพาะเขาตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว จึงได้แต่อาเจียนแห้งออกมา

พนักงานผู้เชี่ยวชาญการซ่อมบำรุงแคปซูลเกมมิ่งรีบเข้ามาจัดการเก็บกวาดอุปกรณ์ ด้านเลขาฯ เสี่ยวเจียงก็ยื่นทิชชูเปียกและน้ำให้อย่างทันใจ “ประธานจ้าว ดื่มน้ำกลั้วปากสิครับ”

ประธานจ้าวกลั้วปาก รับแก้วใบใหม่มาดื่มน้ำ แล้วถึงค่อยดีขึ้นมานิดหน่อย “เสี่ยวเจียงคนนี้ไม่เลวเลย ประธานหมิงช่วยตัดใจยอมยกเขาให้มาทำงานกับผมทีเถอะ เลขาฯ ของผมสมองช้าซื่อบื้อ ไหวพริบไม่ได้ครึ่งเสี่ยวเจียงเลย”

หมิงเยี่ยนเองก็ถือผ้าขนหนูเช็ดหน้า เหลือบมองเสี่ยวเจียงที่ประคององศารอยยิ้มได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนมุมปากจะกระตุกเบาๆ อย่างสังเกตเห็นได้ยาก “เกรงว่าจะไม่ได้ครับ”

“อย่าอ้างกับผมว่าเสี่ยวเจียงเป็นคนของประธานเสิ่นเลย บนรายชื่อผู้บริหารระดับสูงของพวกคุณน่ะผมดูมาหมดแล้ว ไม่มีคนที่ชื่อเสิ่นเลยสักคน” จ้าวเยียนชิงถูกเครื่องจำลองโลกนวนิยายโฮโลแกรมทรมาทรกรรมจนอายุขัยหดหายไปครึ่งหนึ่ง กำลังไม่สบอารมณ์อย่างมาก แต่สามคนนั้นกลับเหมือนไม่เป็นอะไรเลย เขาเองก็โวยวายไม่ได้เดี๋ยวจะเสียฟอร์ม เลยได้แต่พาลไปลงกับเรื่องของประธานเสิ่นที่คิดว่าอีกฝ่ายจงใจปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมา

หมิงเยี่ยนหน่ายใจ “เสี่ยวเจียงเป็นเลขาฯ ของเสิ่นไป๋สุ่ยครับ”

“เสิ่นไป๋สุ่ย?” จ้าวเยียนชิงรู้สึกคุ้นหูกับชื่อนี้นิดหน่อยแต่ก็นึกไม่ออก

เลขาฯ เสี่ยวเจียงดันแว่นกรอบทอง ดึงผ้าเช็ดหน้าประดับอกตรงกระเป๋าเสื้อสูทออกมาอย่างรู้สึกเกรงใจ ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้โผล่ออกมาแค่มุมหนึ่ง คุณภาพเนื้อผ้าดูชั้นสูงมาก เมื่อเขาดึงออกมาทั้งหมดก็เผยให้เห็นรูปสกรีนเสิ่นไป๋สุ่ยเวอร์ชั่นจิบิ “ผมเกิดมาเป็นเลขาฯ ของท่านประธานเสิ่น ถึงตายก็จะเป็นเลขาฯ ดิจิตอลของประธานเสิ่นครับ”

ประธานจ้าว “…”

ลู่อวี๋เข้าใจแล้ว ไม่นึกเลยว่าสหายเสี่ยวเจียงคนนี้จะเป็นแฟนคลับของน้องรอง

เขาทำความเข้าใจเนื้อเรื่องของ ‘เรือนทองคำ’ มาบ้างแล้ว ข้างกายของเสิ่นไป๋สุ่ยมีเลขาฯ ที่มากความสามารถคนหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอะไรก็แม่นยำยอดเยี่ยมหาที่เปรียบไม่ได้ แม้แต่องศาของรอยยิ้มก็ยังผ่านการคำนวณมาแล้วอย่างแม่นยำ และประธานเสิ่นก็ให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายมาก เสี่ยวเจียงเองก็น่าจะเรียนรู้รูปแบบการทำงานมาจากเลขาฯ คนนั้น

เขาตบไหล่เสี่ยวเจียงอย่างตื้นตันใจ พูดแทรกในโอกาสที่เหมาะเหม็ง “วางใจเถอะเสี่ยวเจียง สวัสดิการที่นี่รับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานของประธานเสิ่นแน่นอน และยังสูงกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรมด้วย ถ้าเกิดวันไหนนายจากโลกนี้ไปด้วยเหตุไม่คาดฝัน ฉันจะเอานายไปเขียนไว้ในตอนพิเศษ ให้นายไปสมัครเป็นเลขาฯ ของเสิ่นไป๋สุ่ย เข้าร่วมเซ็ตติ้งเดียวกับโลกของเขา”

เสี่ยวเจียงตาเป็นประกายทันที มุมปากยกขึ้นสูงเกินองศามาตรฐาน มีความสุขอย่างยิ่ง “ขอบคุณประธานลู่ ผมจะพยายามครับ”

ประธานจ้าวเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พวกคุณชักจะเกินไปใหญ่แล้ว!” ถ้าเกิดคนในบริษัทนี้ไม่ใช่กลุ่มผู้ป่วยจิตเวช ก็คงรวมหัวกันทำให้เขาอับอาย

ลู่อวี๋มองเขาอย่างแปลกใจ “ทำไมเหรอ หรือให้ผมเขียนถึงคุณด้วยไหม”

จากนั้นลู่อวี๋ก็ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าจริงๆ มันเป็นจดหมายสอบถามที่จ้าวเยียนชิงยื่นให้หมิงเยี่ยนเมื่อเช้า เขายื่นมือ เสี่ยวเจียงก็ส่งปากกาด้ามหนึ่งมาให้เขา เขาหมุนฝาปากกาออก แล้วเขียนตัวอักษรเล็กๆ สองคำลงในช่องข้างหลังประโยค ‘การสมรสระหว่างคุณหมิงเยี่ยนกับคุณลู่อวี๋จะยังคงมีผลอยู่หรือไม่’ ไปว่า ‘มีผล’ แล้วก็เอาจดหมายไปตบตรงอกจ้าวเยียนชิงพลางยิ้มตาหยี

“ตอนนี้ก็สายแล้ว เที่ยงนี้อยู่ทานด้วยกันสักมื้อสิครับ”

หมิงเยี่ยนถอนหายใจอย่างระอา เดินเข้าไปยืนข้างๆ ลู่อวี๋ “เราจัดการเรื่องมื้อเที่ยงไว้เรียบร้อยแล้ว ประธานจ้าวโปรดให้เกียรติมาทานกับเราสักมื้อสิครับ”

จ้าวเยียนชิงใช้นิ้วคีบจดหมายสอบถามใบนั้น เหลือบตาอ่าน แล้วจึงยิ้มเย็นยะเยือก “ไม่ล่ะ เมื่อครู่เพิ่งอ้วกไป ไม่รู้สึกอยากอาหาร ไว้วันอื่นแล้วกันครับ”

ทุกคนพาประธานจ้าวไปส่งหน้าบริษัท ทว่าเขากลับยกมือขึ้น “ไม่ต้องส่งหรอกครับ เรื่องการลงทุน พวกเราจะประชุมพิจารณาและหารือกันอีกครั้ง” ว่าจบก็เหลือบมองหมิงเยี่ยนหนึ่งครั้งก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ครั้นเห็นรถหรูของประธานจ้าวบึ่งออกไปด้วยความโมโห หมิงเยี่ยนก็ขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความทุกข์ใจ

“ไม่ต้องห่วง ต่อให้เขาไม่ลงทุน พวกเราก็ทำเงินเองได้” ลู่อวี๋ยื่นแขนยาวไปลูบไหล่ฝั่งที่อยู่ไกลของหมิงเยี่ยน ดูแล้วเหมือนจะโอบคนเข้ามาไว้ในอ้อมแขน

หมิงเยี่ยนชำเลืองมองอุ้งเท้าสุนัขที่เกาะอยู่บนไหล่ตัวเอง “ไลฟ์ปรับแก้ฮวาเหวินหย่วน นายจำเป็นจะต้องคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องมากๆ ด้วย ‘ทะลวงหมาป่าสวรรค์’ มีสี่ล้านตัวอักษร ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ นายทำได้หรือเปล่า”

ลู่อวี๋ขมับกระตุกกึกๆ กัดฟันเอ่ย “ผู้ชายจะพูดคำว่าไม่ได้ได้ยังไง ก็ต้องได้อยู่แล้ว”

เหล่าหยางที่ยืนอยู่ไกลออกไปได้ยินบทสนทนาของพวกเขาไม่ชัด เอ่ยแทรกโดยไม่อ่านบรรยากาศ “ได้อะไรอยู่แล้ว”

ลู่อวี๋เหลือบมองเหล่าหยางที่บนหัวเหลือผมลู่ลมไปมาไม่กี่เส้น ก่อนคลายมือที่โอบหมิงเยี่ยนไปกำรอบคอเหล่าหยางแทน “เรื่องนี้ไว้ทีหลัง ฉันถามนายอย่างหนึ่งก่อน วันที่เก้าพฤศจิเมื่อสิบปีที่แล้ว พวกเราสองคนไปกินหมาล่าผัดด้วยกัน นายจำได้หรือเปล่า”

หยางเฉินหมดคำจะพูด “ฉันจะไปจำได้ได้ไง”

ลู่อวี๋หักนิ้วลงนับช่วยเขาย้อนความทรงจำ “วันนั้นพวกเราสองคนกินมันฝรั่ง กุ้ง ปูอัด ปีกไก่ ผักกาดขาว”

แล้วเหล่าหยางก็พยักหน้า “แน่นอน พวกเราสองคนไปกี่รอบก็สั่งประมาณนี้ตลอด บางครั้งก็ใส่เต้าหู้ปลาเพิ่มด้วย”

มือของลู่อวี๋ที่กำรอบคอเหล่าหยางยกขึ้นตบหัวของเขาทันที “วันนั้นแกไอ้ลูกหมาพกเงินสดออกไปข้างนอกแค่ยี่สิบไคว่เพื่อไม่ให้ฉันดื่มเหล้า แต่สุดท้ายแกดันสั่งข้าวไปสามถ้วย มื้อนั้นราคาสี่สิบเจ็ด ฉันจ่ายไปยี่สิบเจ็ด”

เหล่าหยางพยักหน้าอึ้งๆ “อันนี้ฉันจำไม่ได้แล้ว มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“ฉันจ่ายไปยี่สิบเจ็ดไคว่ นั่นแปลว่านายติดฉันอยู่สามจุดห้าไคว่ ฉันถามนาย สามจุดห้าไคว่ตรงนี้นายคืนฉันมาหรือยัง” ลู่อวี๋จ้องตาเหล่าหยางแน่วแน่

หยางเฉินเหม่อ “ไม่เอาน่าลู่อวี๋ ตั้งสิบปีแล้ว นายยังจะทวงอีกเหรอ”

“พี่น้องแท้ๆ ต้องคิดบัญชีให้ชัดเจน” ลู่อวี๋ชี้ข้อมือซ้ายของเหล่าหยาง “นายค้นดูว่าสรุปคืนเงินฉันมาหรือยัง ไม่งั้นพอนึกได้ขึ้นมาคืนนี้ฉันนอนไม่หลับแน่”

“เชี่ย?” หยางเฉินไม่อาจเข้าใจพฤติกรรมของเขาได้เลย แต่ก็ยังคงเปิดสมองอัจฉริยะ เปิดแอพฯ คุยแชตโบราณขึ้นมาค้นประวัติการเดินบัญชีอย่างว่าง่าย สมัยพวกเขาสองคนเรียนมหาวิทยาลัยก็ใช้แอพฯ นี้โอนเงินตลอด “นี่หมิงเยี่ยน นายไม่ให้ค่าขนมกับหมอนี่เหรอ นี่มันเกินไปแล้วนะ”

หมิงเยี่ยนเม้มปาก พอจะรู้ว่าทำไมลู่อวี๋ถึงถามเรื่องนี้ เขาอยากพิสูจน์ว่าลู่ต้าอวี๋ได้ย้อนเวลากลับไปหรือเปล่า ถ้าลู่ต้าอวี๋ย้อนเวลากลับไป ต้องจำเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน และไม่มีทางทวงเงินสามจุดห้าไคว่กับเหล่าหยางด้วย

หยางเฉินค้นทั่วประวัติการโอนของแอพฯ แชตโบราณของปี 2023 แล้วทั้งเดือนพฤศจิกายน เดือนธันวาคม แต่ก็ไม่มีสามจุดห้าหยวนนี่เลย เขาทอดถอนใจ “สุดยอดจริงๆ เลยนายเนี่ย ยังจะจำได้อีก นายสมองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหรือไง”

ประโยคเหน็บแนมนี้กลับทำให้ลู่อวี๋หัวเราะไม่ออก เขาปล่อยมือออกจากคอเหล่าหยาง พูดเสียงแผ่ว “ลู่ต้าอวี๋ย้อนกลับไปจริงๆ”

หมิงเยี่ยนถอนหายใจ “ไม่แน่อาจจะคิดว่าเงินแค่นี้ ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยก็ได้”

“ไม่มีทาง!” ลู่อวี๋พูดเสียงเด็ดขาด “สมัยมหา’ลัยผมจนกรอบจนได้ยินแต่เสียงเศษเงินกรุ๊งกริ๊ง ผมกับเหล่าหยางทำพาร์ตไทม์หาเงินกันสุดชีวิต จะเศษเงินกี่เหมา* พวกเราสองคนก็จำได้หมด”

ตอนนั้นเหล่าหยางชีวิตยากจนแร้นแค้น เขาก็ทะเลาะกับตระกูลลู่จนไม่ได้เงินค่าครองชีพ เลยเข้มงวดกับเรื่องเงินกันมากๆ

หยางเฉินได้ยินประโยคหลังแล้วสีหน้าเหน็บแนมในทีแรกก็ค่อยๆ กลายเป็นความคิดถึงอดีต “นั่นสิ พวกเราสองคนตอนนั้นจนมากๆ เฮ้อ…คิดแล้วก็จริง กาลเวลาช่างผ่านไปเร็วเหมือนลูกธนู โลกเราไม่มีอะไรแน่นอนเลยน้า”

เมื่อนึกถึงวัยเด็กและวัยเยาว์ที่ยากจนของตัวเองแล้วหันกลับมามองความสำเร็จของตัวเองในตอนนี้ ถึงแม้จะยังเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่สำเร็จ ไม่ได้มีทรัพย์สินหมื่นล้าน หยิบปากกาขึ้นมาเขียนอัตชีวประวัติของตัวเอง แต่ก็ยังอดทอดถอนใจไม่ได้

เหล่าหยางตบไหล่ลู่อวี๋อย่างซาบซึ้งใจ “เหล่าลู่ พูดจริงๆ นะ ฉันรู้สึกขอบใจนายมากๆ เลย สมัยมหา’ลัยนายเป็นคนที่เชียร์ให้ฉันหาเงินด้วยการเขียนมินิโปรแกรมขาย ทำให้ฉันมีหน้ามีตาขึ้นมา แล้วก็เป็นนายเหมือนกันที่พาฉันออกมาก่อตั้งบริษัท ฉันพูดได้เลยว่าถ้าไม่มีนายก็คงไม่มีฉันในวันนี้”

ขณะพูดออกไปแบบนั้นเหล่าหยางที่วัยใกล้เลขสามก็น้ำตาคลอ พูดจนตัวเองซาบซึ้งเอง

ลู่อวี๋ตบไหล่เขา “เราพี่น้องกัน พูดเรื่องนี้ไปทำไม แค่คืนสามจุดห้าไคว่นั่นมาก็พอ”

เหล่าหยาง “…”

 

* เหมา เป็นหน่วยเงินที่เล็กที่สุดรองลงมาจากหยวน

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com