ทดลองอ่าน ทะเลคลั่งภวังค์วิปลาส เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ทะเลคลั่งภวังค์วิปลาส เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 8 เลือดและไวน์ 08

ฉินเกออาศัยอยู่ในคอนโดฯ ห้องเดี่ยวที่เขาซื้อเอง ในทุกเดือนเขาจ่ายค่าห้องอย่างยากลำบาก แม้แต่รถยนต์ก็ไม่กล้าซื้อ เวลาออกไปข้างนอกก็ใช้รถสาธารณะหรือไม่ก็จักรยานไฟฟ้าของตนเอง

ห้องนี้มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ อยู่ในชั้นที่ไม่สูงไม่ต่ำ ที่ตั้งไม่ใกล้ไม่ไกล โดยอยู่บริเวณขอบของวงแหวนชั้นสี่และวงแหวนชั้นห้า เหมือนกับไข่ดาวที่วางไว้ไม่ดีระหว่างแฮมเบอร์เกอร์หมูกับขนมปัง

เซี่ยจื่อจิงมาถึงก่อนเขา ตอนที่ฉินเกอใกล้จะถึงประตูทางเข้าของเขตชุมชนเขาก็เห็นเซี่ยจื่อจิงยืนอยู่นอกประตูป้อมยามแล้ว

คนคนนั้นยังคงสะพายกระเป๋าที่เพียงแค่เห็นก็รู้แล้วว่าหนักมากอยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่วางมันลง ทั้งยังยืนอยู่แบบนั้นใกล้ๆ กับต้นไม้ สายตาจดจ้องไปยังทางแยกที่อยู่ไม่ไกล

ฉินเกอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังรอตนเองอยู่

…แต่ทิศทางที่อีกฝ่ายมองกลับเป็นทางที่อยู่ตรงกันข้าม

ขายาวจริงๆ ฉินเกอคิดในใจ หรือจะพูดว่ามันเกี่ยวกับการขยายตัวออกเมื่อร้อนหรือหดตัวลงเมื่อหนาวได้ไหมนะ ประจำการอยู่ที่ตีนภูเขาหิมะมาหลายปี ไม่รู้ว่าขาหดสั้นลงบ้างหรือเปล่า

เนื่องด้วยเป็นการมาพักอาศัยอยู่ชั่วคราว ฉินเกอเลยไม่ได้วางแผนจะให้กุญแจกับเขา โดยบอกแค่รหัสผ่านประตู

“142587?”* เซี่ยจื่อจิงอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “นายก็เชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์พวกนี้เหรอ นายเป็นนักเรียนสายศิลป์ไม่ใช่หรือไง”

เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ฉินเกอคิดกับตัวเอง แล้วทำไมต้องมาดูเบานักเรียนสายศิลป์ด้วย

เขาเดินเข้าห้องไปก่อน เซี่ยจื่อจิงถึงเดินตามหลังเขาเข้ามา ระหว่างที่มองเซี่ยจื่อจิงเดินเข้ามาในห้อง จู่ๆ ฝ่ามือของฉินเกอก็มีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย เขากังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาซื้อห้องนี้เมื่อปีก่อน หลังจากตกแต่งเสร็จก็มีเพียงฉินซวงซวง สมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่เคยมาเยือน เดิมทีเพื่อนของเขาก็น้อยอยู่แล้ว แม้แต่เหยียนหงที่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากมาห้องเขา เขาก็ยังไม่เคยตอบรับ ยิ่งเป็นเพื่อนร่วมงานยิ่งไม่มีทางได้รับโอกาสให้มาเยี่ยมเยียน

บ้านคือสถานที่ที่เป็นส่วนตัวอย่างมาก มันเก็บความลับมากมายของคนคนหนึ่งเอาไว้ ฉินเกอคิดเสมอว่าคนที่ได้รับคำชวนหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบ้านจะต้องเป็นคนที่พิเศษ

หากยินยอมที่จะแบ่งปันพื้นที่ซึ่งอยู่ในส่วนลึกและความลับในชีวิตของตนเองกับเขา นี่ก็เพียงพอที่จะอธิบายว่าพวกคุณสนิทกันมาก

…ดังนั้นตอนนี้ฉินเกอจึงเหมือนเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ

ยิ่งคิดฉินเกอก็ยิ่งหงุดหงิด

เขาชอบใช้ชีวิตคนเดียว ดังนั้นจึงลืมคิดไปว่าจะอยู่ร่วมกับคนอีกคนในห้องอย่างไรดี

เซี่ยจื่อจิงยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เขามองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น คอนโดฯ เล็กๆ ของฉินเกอมีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น หลังจากทุบผนังทิ้งไปแล้วก็ดูมีพื้นที่มากขึ้น ห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีประตูบานเลื่อนกั้นเอาไว้ซึ่งตอนนี้เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง เขามองเห็นเตียงนอนครึ่งหนึ่งและชั้นหนังสือซึ่งมีหนังสือยัดจนเต็มอีกครึ่งหนึ่งด้านในนั้น

ห้องนั่งเล่นตรงไปสู่ระเบียง แสงไฟหลายพันดวงส่องสว่างในยามกลางคืน

ประตูระเบียงปิดสนิท อากาศภายในห้องอบอุ่น อากาศร้อนและเย็นในฤดูใบไม้ผลิไม่สามารถแทรกผ่านเข้ามาด้านในได้ นี่เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย

ภายในห้องมีกลิ่นอายของความอ่อนโยนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างวิญญาณของฉินเกอ มันเป็นสัตว์ที่แสนเชื่องและขี้อาย มีร่องรอยบางอย่างปรากฏอยู่ในบรรยากาศที่แสนสงบ เซี่ยจื่อจิงยื่นมือไปจับมันไว้ข้างตัว การกระทำของเขาทำให้อากาศแปรปรวน ทันใดนั้นกลิ่นอายที่แสนสงบก็โอบล้อมรอบนิ้วของเขาด้วยความสนิทสนม

“คุณกำลังจับอะไร” ใบหน้าของฉินเกอเต็มไปด้วยความสงสัย

เซี่ยจื่อจิงชี้ไปที่โซฟา “ฉันนั่งได้ไหม”

ฉินเกอ “ได้”

เซี่ยจื่อจิง “วางกระเป๋าไว้ที่พื้นได้หรือเปล่า”

ฉินเกอ “…ได้ คุณอย่าทำตัวน่าสงสารจะได้ไหม”

เซี่ยจื่อจิงหัวเราะ “ได้ๆๆ”

เขานั่งลงบนโซฟาอย่างเชื่อฟัง แต่ท่าทีของเขาก็ยังคงไม่ผ่อนคลาย เขาวางมือไว้ที่หัวเข่า สายตามองตามร่างของฉินเกอที่กำลังไปต้มน้ำสำหรับชงชาอยู่ในห้องครัวแบบเปิด สุดท้ายฉินเกอก็นำน้ำผลไม้กล่องหนึ่งมาวางตรงหน้าเขา

ฉินเกอตั้งใจจะพูดกับเซี่ยจื่อจิงถึงเรื่องที่จำเป็นจะต้องระวังเมื่ออาศัยอยู่ในห้องของเขา แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วก็ไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องเตือนอีกฝ่าย

“ต้องอาบน้ำทุกวัน แล้วก็ควรพักผ่อนให้พร้อมกับผม” เขาหอบผ้านวมออกมาจากห้องนอน “คุณนอนที่โซฟาแล้วกัน โซฟาตัวนี้เป็นแบบปรับนอนได้ วางเก้าอี้ไว้ตรงนี้คุณน่าจะยืดขาได้”

เซี่ยจื่อจิงรับหมอนกับผ้านวมมา เขาพบว่าลายบนปลอกหมอนน่ารักมาก

“อันนี้คืออะไร” เซี่ยจื่อจิงอยากรู้ที่สุด “ร่างวิญญาณของนายเหรอ”

“ชูการ์ไกลเดอร์” ฉินเกอกลับเข้าไปหาแปรงสีฟันและผ้าขนหนูให้อีกฝ่ายอีกครั้ง “ร่างวิญญาณของน้องชายผม ผ้าห่มกับหมอนชุดนี้เป็นของเขา”

เซี่ยจื่อจิง “นายมีน้องชาย?”

ฉินเกอหยิบผ้าขนหนูกับแปรงสีฟันออกมา ในที่สุดก็ทนไม่ไหว “คุณเป็นคนบอกเองว่าเคยคบกับผมไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นพวกเราคบกันยังไง แม้แต่น้องชายของผมคุณยังไม่รู้จักเลย”

“ไม่รู้สิ” เซี่ยจื่อจิงยิ้มแล้วพูด “อาจเป็นเพราะนายตั้งใจไม่บอกฉัน การแอบรักกับหนุ่มแบดบอยลับหลังที่บ้านมันก็น่าตื่นเต้นไม่ใช่เหรอ”

ฉินเกอ “…”

เซี่ยจื่อจิงขมวดคิ้วน้อยๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งมุมปากของเขาก็มีรอยยิ้มที่ดูหยาบคายเล็กน้อย

ฉินเกอ “…คุณคิดอะไรอีก!”

“ละครที่เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็ว อายุสิบเจ็ดสิบแปด ยังต้องเผื่อใจไว้สักหน่อย” เซี่ยจื่อจิงกระแอมเบาๆ “ฉันจะปรับมันสักหน่อย พวกเราควรเริ่มต้นจากการไปออกเดตโดยขี่จักรยานไฟฟ้า หลังจากนั้นค่อยจับมือพากันหนีไป คืนวันนั้นฝนตกหนัก ณ สถานีรถไฟร้างที่ไม่มีใครมาใช้บริการ ในรถไฟว่างเปล่า ฉันจุดเทียน หลังจากนั้นภายใต้แสงเทียนฉันกับนายก็ทำ…”

“ทำอะไร” ฉินเกอกัดฟันถาม

เซี่ยจื่อจิงทำสีหน้าจริงจัง “ทำข้อสอบเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย วิชาคณิตศาสตร์ยากเป็นพิเศษ คำถามข้อใหญ่ข้อสุดท้ายก็อยู่นอกเนื้อหาที่เรียน”

ผ้าขนหนูและแปรงสีฟันถูกโยนใส่หน้าเขา เซี่ยจื่อจิงรีบคว้ามันไว้ เขาเอาไปปิดหน้าแล้วเริ่มหัวเราะ ก่อนจะค่อยๆ ควบคุมเสียงหัวเราะไม่ได้ สุดท้ายเขาก็เอนตัวลงไปบนโซฟาและหัวเราะเสียงสั่น

“ไปอาบน้ำ!” ฉินเกอตะโกนเสียงดัง

ประตูบานเลื่อนถูกปิดเสียงดัง

เซี่ยจื่อจิงหัวเราะจนพอแล้ว เขานอนอยู่บนโซฟา มองโคมไฟบนเพดาน หลังจากนั้นก็หัวเราะอีกครั้ง สำหรับเขาแล้วการหยอกเย้าฉินเกอให้โมโหนั้นเป็นเรื่องที่สนุกจริงๆ

สิ่งที่พูดออกไปเมื่อครู่นี้เป็นเพียงจินตนาการ ซึ่งตัวเขาเองก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเคยคบกันฉินเกอได้อย่างไร

 

ฉินเกอสงสัยว่าเซี่ยจื่อจิงรู้ว่าตนเองมีอาการเพ้อฝันในความรัก

คนที่มีอาการเพ้อฝันในความรักน้อยคนนักที่จะรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่หากพูดกันตามหลักแล้วเมื่อคนคนหนึ่งรู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในสมองเกิดจากจินตนาการทั้งหมด เขาจะเริ่มรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็วและไม่หลงไปกับมันอีก

ดูเหมือนว่าเซี่ยจื่อจิงจะมีความสุขที่ได้เย้าแหย่ฉินเกอในฐานะแฟนเก่า

แต่เป็นเพราะอาณาเขตทะเลของเซี่ยจื่อจิงผิดปกติจึงถูกพักงาน ถ้าเขาไม่รู้เรื่องอาการเพ้อฝันในความรักที่ตนเองมี เช่นนั้นเหตุผลที่เขาถูกพักงานจะต้องไม่ใช่เรื่องนี้

บางทีอาจเป็นปัญหาที่หนักหนากว่าอาการเพ้อฝันในความรัก

ฉินเกอรู้สึกปวดศีรษะ แค่มีปัญหาหนึ่งอย่างภายในอาณาเขตทะเลก็นับว่ายุ่งยากมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูท่าแล้วเซี่ยจื่อจิงต้องมีปัญหาอย่างน้อยสองอย่าง

เขาได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากห้องน้ำ เซี่ยจื่อจิงไปอาบน้ำอย่างเชื่อฟัง

ฉินเกอเปิดสมุดบันทึก ก่อนจะสะสางแนวความคิดต่างๆ ของเผิงหูและไช่หมิงเยวี่ยภายในหัว จากนั้นจดมันลงไปบนกระดาษอย่างลวกๆ

ถ้าพิสูจน์ได้ว่าไช่หมิงเยวี่ยเคยทำเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎบางอย่างในห้องผ่าตัดหมายเลข 6 ก็จะสามารถส่งคำร้องขอให้มีการสอบสวนได้

แต่เวชระเบียนทางการแพทย์จะถูกเก็บไว้เพียงสามสิบปี ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้ครบกำหนดวันแล้ว ถึงแม้พวกเขาอยากค้นหาก็คงหาไม่ได้แล้ว

และถึงแม้จะยังมีบางส่วนถูกเก็บรักษาเอาไว้ แต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่อาจอนุญาตให้พวกเขาดูได้หากไม่มีเหตุผลที่เพียงพอ

หมอและพยาบาลที่ทำงานกับไช่หมิงเยวี่ยในปีนั้นล้วนอายุมากแล้ว ถ้าไม่จากโลกนี้ไปแล้วก็ตามหาตัวได้ยาก

ส่วนเรื่องที่ว่าจะสอบสวนโรงพยาบาลนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ผู้ป่วยของไช่หมิงเยวี่ยเองก็ตามหาได้ยากเช่นกัน คนที่จะสามารถตามหาได้ในตอนนี้คงมีเพียงคนที่คลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนทารกที่ตายตั้งแต่คลอดก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ไปอยู่ที่ไหนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพ่อแม่ให้ไช่หมิงเยวี่ยจัดการกับเด็ก ต่อให้ตามหาพ่อแม่เจอก็ไม่สามารถถามหาความจริงได้

วันผ่าตัดบายพาสหัวใจของไช่หมิงเยวี่ยก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นี่เป็นการผ่าตัดที่อันตราย ไม่แน่เลยว่าเธอจะออกมาจากห้องผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย

ทุกความเป็นไปได้ถูกขีดทิ้ง เหลือเพียงแค่บรรทัดสุดท้าย

 

‘แอบเข้าไปดำน้ำ’

 

ตอนที่ฉินเกอมองเห็นคำทั้งห้าคำนี้ก็เกือบจะลืมวิธีที่ว่านี้ไปแล้ว ระหว่างนั้นประตูห้องนอนก็เลื่อนเปิดออก เซี่ยจื่อจิงสวมเสื้อยืดแขนยาวและกางเกง ไอจากน้ำร้อนลอยวนอยู่นอกประตูตรงบริเวณที่อีกฝ่ายยืนอยู่

“ตานายแล้ว”

ฉินเกอนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ เซี่ยจื่อจิงไม่ได้ขออนุญาตก็เดินเข้ามายืนอยู่ที่ด้านข้าง ก่อนจะก้มศีรษะลงไปมองสมุดบันทึกของเขา

ฉินเกอได้กลิ่นสบู่อาบน้ำบนร่างกายของอีกฝ่าย ครู่หนึ่งถึงได้รับรู้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้นใกล้กันเกินไป เขาจึงรีบก้มหน้าลงพลางปิดสมุด

“ออกไป”

เขายังพูดไม่ทันจบเซี่ยจื่อจิงก็หมุนตัวเดินไปยังชั้นหนังสือที่อยู่ด้านข้าง

ฉินเกออยากให้อีกฝ่ายออกจากห้องของตนเองไปเร็วๆ เซนติเนลคนหนึ่งซึ่งมีอาการเพ้อฝันในความรักกับคุณเข้ามาในห้องนอนคุณพร้อมกับไอความร้อนหลังจากอาบน้ำเสร็จ มองอย่างไรนี่ก็เหมือนฉากเริ่มต้นของหนังแนวสืบสวนหรือไม่ก็หนังเรต R18 เพิ่มเติมคือไม่ได้ต้องการฆ่าคนหากแต่ต้องการขึ้นเตียง

“อยากหยิบอะไรไปก็หยิบไป ผมจะไปอาบน้ำแล้ว ส่วนคุณเชิญไปอยู่ที่ห้องนั่งเล่น”

เซี่ยจื่อจิงชี้ไปที่มุมหนึ่งของชั้นหนังสือที่มีอูคูเลเล่วางอยู่

นี่เป็นของที่เจี่ยงเซี่ยวชวนมอบให้เขาตอนย้ายเข้ามา แต่ฉินเกอเล่นได้แค่สี่ท่อนแรกของเพลง ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ เท่านั้น แม้ว่าเพลงจะสั้นแต่ฉินเกอก็เล่นได้เพียงสี่ท่อน ดังนั้นเวลาที่เขาเล่นจึงเข้าถึงอารมณ์ได้ง่าย คนที่เป็นผู้เล่นอย่างเขาจึงดื่มด่ำได้อย่างง่ายดาย ทว่าคนฟังนั้นแทบทนฟังไม่ได้

ฉินเกอรีบพูดขึ้น “ได้”

 

หลังอาบน้ำเสร็จความรู้สึกของฉินเกอที่มีต่อเซี่ยจื่อจิงก็เปลี่ยนไป

เซี่ยจื่อจิงทำความสะอาดทุกอย่างในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ไม่ใช่แค่พื้นและผนังที่ไม่มีรอยหยดน้ำ แม้แต่กระจกเองก็ยังไม่มี

ฉินเกอตัดสินใจที่จะชื่นชมอีกฝ่ายสักสองสามประโยค และถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นแขกของเขา แต่เมื่อเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นเขาก็พบว่าคนคนนี้ไปยืนดีดอูคูเลเล่อยู่ที่ระเบียงแล้ว

ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่า ฉินเกอจึงรีบไปที่ระเบียงเพื่อหยุดเขา “เข้ามา อย่ารบกวนชาวบ้าน”

เซี่ยจื่อจิงดีดมันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเก็บอูคูเลเล่กลับมาด้วยความพอใจ

“เพราะไหม” เขาถามฉินเกอ

“เพราะมากๆ” ฉินเกอตอบเขาแบบผ่านๆ

“ฉันเล่นเพลงรัก* เรียนตอนอยู่ที่ภูเขาหิมะ” เซี่ยจื่อจิงพูดยิ้มๆ

ฉินเกอฟังออกว่าอีกฝ่ายต้องการเล่นมุกกับชื่อของตนเอง จึงตัดสินใจกลืนคำชมที่นึกขึ้นได้เมื่อครู่นี้กลับลงไปในท้อง

หลังจากทั้งคู่กล่าวราตรีสวัสดิ์กัน ฉินเกอก็ล็อกห้องนอนของตนเอง

เซี่ยจื่อจิงนั่งอยู่ที่โซฟาสักพักหนึ่ง ก่อนจะหยิบหนังสือในกระเป๋าสะพายขึ้นมาอ่านแล้วเอนตัวนอนลงพร้อมห่มผ้าห่ม

เขามีปัญหาในการนอนหลับตอนกลางคืน และวันนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เขาอ่านหนังสือไปได้ครึ่งเล่มก็สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างภายในห้องนอน เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง

กลิ่นอายบางอย่างที่เบาบางออกมาจากห้องนอนของฉินเกอ

เซี่ยจื่อจิงรู้ว่าฉินเกอนอนหลับไปแล้ว แต่กลิ่นอายร่างวิญญาณของฉินเกอหนาแน่นเต็มห้องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกมันเหมือนความอบอุ่นที่ปกคลุมอยู่ในห้องนี้ ทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว และถึงแม้ว่ามันจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของเขา แต่ขณะเดียวกันมันก็สร้างความวิตกกังวลใหม่ให้แก่เขา

หมอกสีขาวราวน้ำนมทะลุผ่านผนังและกระจกออกมา หลังจากตกลงที่ระเบียงก็ควบแน่นกลายเป็นก้อนกลมเล็กๆ หูทั้งสองข้างโผล่ขึ้นมาจากขนยาวสีขาว ครู่หนึ่งหูทั้งสองข้างก็ตกลงมา หางก้อนกลมเล็กๆ ตรงก้นขยับไปมาเป็นจังหวะ

เซี่ยจื่อจิงนั่งตัวตรง

นั่นคือร่างวิญญาณของฉินเกอ กระต่ายขนยาวขนาดเท่าฝ่ามือ

มันกำลังอาบแสงจันทร์

 

* 142587 เป็นจำนวนวัฏจักร (Cyclic number) โดยเป็นชุดตัวเลขที่ไม่ว่าจะคูณด้วยจำนวนใดระหว่าง 1-6 ก็จะได้ตัวเลขชุดเดิมเพียงแต่สลับตำแหน่งกัน

* เพลงรัก ในภาษาจีนออกเสียงคล้ายกับชื่อฉินเกอ

 

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

community.jamsai.com