ทดลองอ่าน ทะเลคลั่งภวังค์วิปลาส เล่ม 1 บทที่ 9-10 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ทะเลคลั่งภวังค์วิปลาส เล่ม 1 บทที่ 9-10 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 10 เลือดและไวน์ 10

ตอนที่กลุ่มคนมาถึงโรงพยาบาลฯ ที่ 267 ไช่อี้ก็รอพวกเขามาพักหนึ่งแล้ว

เขาอายุประมาณสามสิบกว่าๆ ตัวสูง หน้าตาดี เป็นหน้าเป็นตาของคณะกรรมการจัดการพิเศษ และเนื่องจากมีเรื่องที่ต้องดูแลอยู่ในมือไม่น้อยคนส่วนใหญ่จึงไว้หน้าเขาอยู่หลายส่วน นานวันเข้าความเย่อหยิ่งที่ไม่มีที่มาที่ไปก็พอกพูน เวลาที่คนอื่นพูดสายตาของเขาจะหยุดที่ศีรษะของอีกฝ่ายโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าคู่สนทนา

แต่เขาตั้งใจมองฉินเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ผมจำได้ว่าแผนกปรับสมดุลทางจิตเวชยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เอกสารที่เตรียมมายังขาดไปบางส่วน และสำนักงานวิกฤตการณ์ก็ยังไม่ส่งเพิ่มเติมมา เช่น ข้อตกลงการรักษาความลับที่คุณต้องเซ็นชื่อ” ไช่อี้พูดเสียงเรียบ

ฉินเกอรีบตอบกลับ “จะได้ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน”

ไช่อี้ยิ้มบาง “หากพวกคุณยังเตรียมตัวอยู่ก็คงไม่ทันแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาทำกันตอนนี้ล่ะ คณะกรรมการจัดการพิเศษไม่เคยรับเรื่องคำร้องขอสอบสวน เกาเทียนเยวี่ยสอนพวกคุณมาแบบนี้หรือไง”

ฉินเกอ “ตอนนี้ผมอยู่ในฐานะนักปรับสมดุลทางจิต”

ไช่อี้ “หืม?”

“ผมเป็นนักปรับสมดุลทางจิตของสำนักงานวิกฤตการณ์ ฉินเกอ ตอนนี้อาณาเขตทะเลของคุณหมอท่านหนึ่งในโรงพยาบาลฯ ที่ 267 ผิดปกติ นี่ไม่ใช่การสอบสวนอย่างที่คุณเข้าใจ เพียงแค่นักปรับสมดุลทางจิตมาเยี่ยมเยียนสัมภาษณ์คนเท่านั้น” ฉินเกอมองตรงไปที่ไช่อี้ “เวลาที่นักปรับสมดุลทางจิตทำงานไม่จำเป็นต้องผ่านคณะกรรมการจัดการพิเศษ”

นี่คือข้ออ้างที่ฉินเกอคิดตอนอยู่บนรถ ไช่อี้ตามหาพวกเขา แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไช่หมิงเยวี่ย แผนกปรับสมดุลทางจิตเวชยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้การสอบสวนถูกขัดขวางตั้งแต่เริ่มต้นฉินเกอจึงตัดสินใจใช้ตำแหน่งของตนเองแก้ปัญหาการปฏิบัติงานทุกอย่างในตอนนี้

“ในเมื่อผู้ป่วยของคุณตอนนี้มีแค่เผิงหู ถ้างั้นทำไมถึงต้องมาสอบสวนแม่ของผม”

ฉินเกอปฏิเสธ “ผมไม่ได้มาสอบสวนคุณแม่ของคุณ เพียงแต่คุณแม่ของคุณเป็นรุ่นพี่ของเผิงหู มีอิทธิพลกับเผิงหูมาก ผมต้องช่วยเผิงหูแก้ไขปัญหา เลยจำเป็นต้องเข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตัวของเผิงหู ผมแค่อยากได้ข้อมูลอย่างละเอียดของเผิงหูจากคุณแม่ของคุณ”

ฉินเกอพูดไปอย่างนั้น ขณะที่มุมเล็กๆ ภายในใจของเขาก็คิดว่าตัวเองถูกเซี่ยจื่อจิงพาเสียคนแล้ว เขากำลังโกหกโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

ไช่อี้ยิ้มก่อนจะหัวเราะให้กับคำพูดของเขา

“เอาล่ะ พวกเราไม่ต้องพูดอะไรที่มันน่าเบื่อกันแล้ว ทำไมผมถึงอยากเจอคุณ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ ในใจของทุกคนรู้กันดี” ไช่อี้หันไปมองห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ด้านข้าง “ความต้องการของผมมีเพียงอย่างเดียว คือให้แม่ของผมทรมานน้อยที่สุด”

ไช่อี้ยืนคุยกับพวกเขาอยู่ที่ด้านนอกประตูของห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ซึ่งไช่หมิงเยวี่ยพักรักษาตัวอยู่ในห้องนั้น

“คุณรู้ไหมครับว่าก่อนหน้านี้คุณหมอไช่ไปเจอกับอะไรมา” ฉินเกอถาม

“ผมไม่ทราบ” ไช่อี้มองมาทางเขา “ผมหวังว่าหลังจากนี้คุณจะสามารถบอกผมได้”

ฉินเกอตอบปฏิเสธเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด “ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้ นักปรับสมดุลทางจิตมีกฎการรักษาความลับ ถึงแม้คุณจะเป็นลูกชายของไช่หมิงเยวี่ย ผมก็ไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวภายในอาณาเขตทะเลของเธอให้ฟังได้”

ไช่อี้ “แต่หลังจากคุณทำรายงานสรุปออกมาผมก็สามารถดูได้”

ฉินเกอ “รายงานของแผนกปรับสมดุลทางจิตเวชเป็นความลับสูงสุด ท่านรองไช่ คุณไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบในสำนักงานวิกฤตการณ์และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับงานทางด้านจิตเวช ดังนั้นคุณจึงไม่มีสิทธิ์”

ไช่อี้ไม่ได้แสดงออกถึงความผิดหวัง เขาพยักหน้าให้ฉินเกออย่างยกย่อง “ดี อย่างไรก็ตามหลายปีมานี้คุณแม่ของผมท่านผ่านความเจ็บปวดมามาก ท่านมักละเมอเดินไปที่ห้องครัวหรือระเบียง หยิบมีดหรือบางอย่างขึ้นมาแล้วทำท่าทางผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนหน้านี้พวกเราคิดว่าเป็นเพราะท่านเพิ่งเกษียณ ทำให้ไม่คุ้นชิน ยังคิดถึงงานที่เคยทำอยู่ แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามันไม่ปกติมากขึ้นเรื่อยๆ การพูดการจาก็เพ้อเจ้อ ท่านต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

ภายในใจของฉินเกอเริ่มตื่นเต้น แต่เขายังสามารถควบคุมใบหน้าให้อยู่ในอาการสงบนิ่งได้อยู่ “คุณอนุญาตให้พวกเราสอบสวนอาณาเขตทะเลของคุณหมอไช่?”

ไช่อี้ “แน่นอน”

สามคนที่อยู่ด้านหลังฉินเกอต่างมองหน้ากันไปมา ถังชั่วที่เก็บความกังวลไว้ไม่อยู่เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า และแล้วสิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดก็ผ่านพ้นไป

ไช่อี้มองไปทางฉินเกอยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา “ฉินเกอ ในฐานะที่ผมเป็นลูกชายของไช่หมิงเยวี่ย ผมขอเป็นตัวแทนของแม่มอบความไว้วางใจให้คุณ อาณาเขตทะเลของท่านไม่ปกติมานานมาก ทำให้ท่านใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ขอให้คุณล่องเข้าไปในอาณาเขตทะเลของแม่ผมแล้วช่วยท่านแก้ปัญหานี้”

รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของฉินเกอค่อยๆ เลือนหายไป “อะไรนะครับ”

“ผู้ป่วย คุณแม่ของผม ผู้ป่วยของคุณ นักปรับสมดุลทางจิตฉินเกอ” ไช่อี้เสียงแข็ง “นี่คือความไว้วางใจแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ฉินเกอ ผมขอให้คุณเคารพหลักการรักษาความลับ อย่าได้เอาข้อมูลต่างๆ ของผู้ป่วยของคุณไปบอกคนอื่น”

ฉินเกอตกใจจนพูดไม่ออก

เขาตกลงไปในกับดักของไช่อี้เข้าแล้ว

ตั้งแต่ที่เขาบอกว่าตนเองมาในฐานะนักปรับสมดุลทางจิต เขาก็จำเป็นต้องเคารพหลักการรักษาความลับของนักปรับสมดุลทางจิต

เมื่อไช่หมิงเยวี่ยกลายเป็นผู้ป่วยของเขาก็เท่ากับว่าระหว่างพวกเขาได้ทำข้อตกลงที่มองไม่เห็นขึ้นมาแล้ว โดยหลักการรักษาความลับนี้มีผลบังคับใช้ทันที ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรในอาณาเขตทะเลของไช่หมิงเยวี่ย เขาต้องเก็บมันไว้ภายในใจของตัวเองทั้งหมด

ฉินเกอนึกขึ้นได้ทันทีว่านอกจากจะมีข้อตกลงการรักษาความลับแล้ว ยังมีข้อตกลงการยกเว้นการรักษาความลับด้วย

ข้อตกลงการยกเว้นการรักษาความลับคือการที่เซนติเนลหรือไกด์ได้ทำการฆาตกรรม วางแผนฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย หรือก่ออาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ แต่ความลับของไช่หมิงเยวี่ยดำเนินมาจนถึงวันนี้เป็นเวลานานถึงสามสิบปีแล้ว ต่อให้เธอจะฆ่าคนตาย แต่ก็หมดอายุความในการดำเนินคดีแล้ว อีกทั้งนักปรับสมดุลทางจิตยังไม่สามารถเปิดเผยความลับในอดีตของเธอให้กับใครหรือองค์กรใดๆ รับรู้ได้

ไช่อี้ต้องการใช้ประโยชน์จาก ‘หลักการรักษาความลับ’ ของนักปรับสมดุลทางจิตเพื่อเก็บงำความลับของไช่หมิงเยวี่ยเอาไว้ตลอดไป ซึ่งการเก็บความลับไว้กับฉินเกอก็เป็นการรับรองว่าเขาจะไม่แพร่งพรายความลับออกไป

“ถ้าคุณจะไม่ตกลงก็ได้นะครับ” ไช่อี้กระซิบ “พรุ่งนี้แม่ของผมต้องทำการผ่าตัดแล้ว แล้วหลังจากนี้ก็ต้องไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ คุณจะหมดโอกาสในการดำน้ำลึกในอาณาเขตทะเลของแม่ผมตลอดไป และคุณจะไม่มีทางรู้ความจริงตลอดกาล”

มีความคิดหมื่นล้านอย่างไหลเวียนอยู่ภายในใจของฉินเกอ

เขาสามารถปฏิเสธได้ สามารถรออีกสองสามวันเพื่อรอให้เกาเทียนเยวี่ยกลับมา รอแผนกปรับสมดุลทางจิตเวชก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ พวกเขาอาจจะทำงานได้ราบรื่นกว่านี้…แต่ทั้งหมดนี้ก็แค่ ‘อาจจะ’

หากการผ่าตัดของไช่หมิงเยวี่ยเกิดปัญหาขึ้นล่ะ

หากเกาเทียนเยวี่ยเป็นคนของคณะกรรมการจัดการพิเศษ เขาอาจช่วยไช่อี้เก็บเรื่องราวความลับอันน่ากลัวนี้ไว้ก็เป็นได้

ตัวแปรมากเกินไป ฉินเกอจึงไม่อาจทิ้งขว้างโอกาสเพียงหนึ่งเดียวที่อาจจะสามารถเข้าไปในอาณาเขตทะเลของไช่หมิงเยวี่ยได้

“ผมรับเธอเป็นผู้ป่วยของผม” เขาพูดอย่างหนักแน่น

ไป๋เสี่ยวหยวนที่อยู่ด้านหลังเขากระซิบเสียงเบา “ฉินเกอ…”

“สามารถเริ่มตอนนี้ได้เลยครับ” ฉินเกอมองไช่อี้

ไช่อี้ยินดีเป็นอย่างมากกับการตัดสินใจของเขา จากนั้นฉินเกอก็เปิดประตูห้องพักผู้ป่วยเข้าไปอย่างมีมารยาท

“ล่องเรือหนึ่งต่อหนึ่ง แค่คุณกับแม่ของผม”

“กรุณารอก่อนครับ” ฉินเกอพูดอย่างสงบ “สถานการณ์ของคุณแม่คุณค่อนข้างพิเศษ ผมจำเป็นต้องเข้าไปยังทะเลชั้นที่ลึกที่สุด และการล่องเข้าไปในชั้นที่ลึกก็มีแต่อันตราย ผมต้องการเซนติเนลหนึ่งคนที่เข้ากับผมได้เพื่อเรียกผมกลับมาในช่วงเวลาที่อันตรายนั้น”

ไช่อี้ขมวดคิ้ว

“นี่เป็นข้อบังคับที่อยู่ในกฎของนักปรับสมดุลทางจิต ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองตรวจสอบดูก่อนได้”

ไช่อี้ส่งสายตาให้เลขาฯ ตรวจสอบ ครู่หนึ่งก็ได้คำตอบที่แน่ชัด

“คู่หูดำน้ำคือคนที่คอยช่วยเหลือนักปรับสมดุลทางจิตเวลาทำงาน ส่วนใหญ่แล้วคู่หูดำน้ำจะเป็นเซนติเนล พวกเขามีหน้าที่ปกป้องและรับผิดชอบความปลอดภัยของไกด์ในระหว่างล่องเรือ หรือเรียกนักปรับสมดุลทางจิตให้ตื่นขึ้นในเวลาที่เหมาะสม โดยจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างนักปรับสมดุลทางจิตกับอาณาเขตทะเลของผู้ป่วยให้ขาดออกจากกัน” เลขาฯ อ่านข้อมูลในมือถือแล้วพูดขึ้น

ไช่อี้กล่าว “เซนติเนลไม่สามารถเข้าไปในอาณาเขตทะเลกับคุณได้ แล้วเขาจะตัดการเชื่อมต่อของคุณกับผู้ป่วยได้ยังไง”

ฉินเกอ “ขออภัยด้วย นี่เป็นความลับในการทำงานของนักปรับสมดุลทางจิต คุณไม่ใช่คู่หูดำน้ำของผม ผมไม่สามารถบอกได้”

เลขาฯ ที่อยู่ด้านข้างแจ้งขึ้น “คู่หูดำน้ำและนักปรับสมดุลทางจิตจำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักการรักษาความลับเหมือนกัน”

“โอเค” ไช่อี้มองประเมินฉินเกอ “ผมเป็นเซนติเนล”

“คุณคือลูกชายของผู้ป่วย ที่ผมต้องการคือผู้ช่วย ไม่ใช่คนที่จะทำให้ความคิดของผู้ป่วยแปรปรวน” ฉินเกอเอ่ยเสียงแข็ง “และผมก็มีคู่หูดำน้ำอยู่แล้ว”

เขาชี้ไปทางเซี่ยจื่อจิง

“แผนกปรับสมดุลทางจิตเวช เซี่ยจื่อจิง” ฉินเกอมองไปที่ไช่อี้ “เขาเป็นคู่หูดำน้ำของผม”

ไช่อี้ใช้สายตาเหลือบมองไปทางเซี่ยจื่อจิง

“เซี่ยจื่อจิง?” เขาเอียงศีรษะราวกับกำลังนึกย้อนไป “นายคือเซนติเนลที่เกาเทียนเยวี่ยลงแรงไปมากเพื่อเอาตัวกลับมาจากสำนักงานภูมิภาคตะวันตก ปีก่อนที่สำนักงานภูมิภาคตะวันตกเกิดคดี 630 ขึ้น นายคือคนที่ได้รับเหรียญแห่งเกียรติยศขั้นที่หนึ่ง?”

“อืม” เซี่ยจื่อจิงตอบกลับเขาอย่างง่ายๆ

ไช่อี้ “ก็แค่เหรียญแห่งเกียรติยศขั้นที่หนึ่ง ผมไม่เข้าใจว่าคุณมีอะไรพิเศษ มันคุ้มค่าสำหรับเกาเทียนเยวี่ยที่ช่วงชิงมาเลยเหรอ”

เซี่ยจื่อจิง “ก่อนอื่นนั่นไม่ใช่เหรียญแห่งเกียรติยศขั้นที่หนึ่งเหรียญแรกที่ผมได้รับ ที่จริงแล้วผมก็มองไม่ออกเหมือนกันว่าคุณมีอะไรดีถึงได้พูดจาไร้มารยาทแบบนี้”

สีหน้าของฉินเกอสงบนิ่ง แต่ภายในใจกำลังจับเซี่ยจื่อจิงเขย่าอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้คือช่วงเวลาสำคัญ ห้ามทำให้ไช่อี้โมโหเด็ดขาด!

แต่ไช่อี้ไม่ได้โกรธ หลังจากที่เขาแน่ใจแล้วว่าเซี่ยจื่อจิงคือคนของสำนักงานวิกฤตการณ์ก็เดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย

“พวกคุณมีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง” ไช่อี้บอก

ฉินเกอพยักหน้า

 

ภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษทุกห้องเป็นเตียงเดี่ยว ตกแต่งอย่างเรียบง่าย สะอาด และเรียบร้อย ภายในห้องนอกจากเตียงผู้ป่วยแล้วยังมีโซฟา โต๊ะรับแขก และของอื่นๆ สำหรับรับแขก ตอนนี้ที่โซฟาและโต๊ะรับแขกเต็มไปด้วยผลไม้และดอกไม้ที่ยังสดใหม่

เตียงผู้ป่วยมีม่านบังเอาไว้ ฉินเกอจึงมองไม่เห็นไช่หมิงเยวี่ย

ประตูห้องไม่สามารถล็อกได้ เขาจึงทำได้แค่ปิดมันให้สนิท

ขณะที่เซี่ยจื่อจิงกำลังจะเดินไปข้างหน้า ฉินเกอก็คว้ามือของเขาแล้วดึงมาด้านข้าง

“เซี่ยจื่อจิง คุณตั้งใจฟังผมให้ดี” ฉินเกอกระซิบอย่างรวดเร็ว “คุณยังไม่ถือว่าเป็นคู่หูดำน้ำของผมและยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการรับเข้าทำงาน ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่ถือว่าเป็นคนของสำนักงานวิกฤตการณ์หรือแผนกปรับสมดุลทางจิตเวช ไม่ว่าจะเป็นหลักการรักษาความลับที่นักปรับสมดุลทางจิตต้องปฏิบัติตามหรือข้อตกลงการรักษาความลับของแผนกปรับสมดุลทางจิตเวชล้วนไม่มีผลกับคุณ”

เซี่ยจื่อจิงฟังอย่างใจเย็น

“หลังจากนี้ในระหว่างที่ล่องเรือคุณคือคนนอก” ฉินเกอจับเสื้อของเขาไว้ “คุณเข้าใจไหม”

“ถ้างั้นฉันจะต้องปกป้องนายยังไง” เซี่ยจื่อจิงถาม “ฉันไม่เคยเรียนเรื่องการเป็นคู่หูดำน้ำ”

ฉินเกอรีบร้อนเล็กน้อย เขาไม่มีทางเลือกและกระซิบต่อ “ไม่ต้องสนเรื่องการปกป้องผม คุณจำเอาไว้ ทุกอย่างที่เห็นในห้องนี้ สิ่งที่ผมเห็นหรือได้ยินทั้งหมด มีเพียงคุณที่เป็นคนนอกเท่านั้นที่สามารถจดจำและบอกคนอื่นได้ เข้าใจหรือเปล่า”

“เข้าใจแล้ว” เซี่ยจื่อจิงมองตาของฉินเกอ “ตอนที่นายบอกว่าฉันคือคู่หูดำน้ำ ฉันก็รู้ว่าไช่อี้หลอกนาย ดังนั้นนายเลยต้องหลอกเขา แต่หลอกยังไงนั้นเมื่อกี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว”

ฉินเกอถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะปล่อยมือของเซี่ยจื่อจิง

แต่ทันใดนั้นเซี่ยจื่อจิงก็รีบพลิกมือกลับมาจับฝ่ามือของเขา

“ถ้างั้นฉันจะต้องปกป้องนายยังไง” เซี่ยจื่อจิงขยับเข้าไปใกล้ “การดำน้ำลึกอันตรายขนาดไหน สุดท้ายแล้วนายจะทำอะไร ฉันไม่เข้าใจเลยสักอย่าง”

เขาขยับเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น ทำให้ภายในใจของฉินเกอส่งสัญญาณเตือนอันตรายออกมา

“คุณไม่จำเป็นต้องปกป้องผม” ฉินเกอพยายามเอามือออกจากมือของเซี่ยจื่อจิง ขณะนั้นกลุ่มหมอกก็ค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากบ่าของเขา และไม่นานเจ้ากระต่ายขนยาวก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นที่บ่าของฉินเกอ

เมื่อเจ้ากระต่ายเห็นเซี่ยจื่อจิงก็รีบวิ่งไปหมายจะเกาะตัวเขา แต่ทันใดนั้นฉินเกอก็จับมันไว้แน่นจนไม่สามารถขยับได้

“การดำน้ำลึกยังไงก็มีความเสี่ยง แต่อายุของไช่หมิงเยวี่ยมากแล้ว อาณาเขตทะเลของเธอตามผมไม่ทันแน่”

เซี่ยจื่อจิงอยู่ที่ด้านหลังเขา อีกฝ่ายเดินตรงมาที่เตียงผู้ป่วยซึ่งถูกผ้าม่านล้อมปิดไว้ก่อนจะกระซิบว่า “งั้นฉันก็จะปกป้องกระต่ายด้วย”

เจ้ากระต่ายขยับไปมาอยู่บนบ่าอย่างตื่นเต้น ฉินเกอกดมันไว้แน่นโดยไม่ได้ตอบเซี่ยจื่อจิงกลับไป

เขาเปิดผ้าม่านอย่างระมัดระวัง ก่อนผู้สูงอายุที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยจะค่อยๆ ลืมตาแล้วมองมาที่เขา

ไช่หมิงเยวี่ยอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากอาการเจ็บป่วยและอาณาเขตทะเลที่ผิดปกติมาเป็นเวลานานทำให้เธอผอมเหมือนโครงกระดูกที่ถูกห่อหุ้มด้วยผิวหนัง เธอสวมหน้ากากออกซิเจน ท่าทางอ่อนแอและเคร่งเครียด

ฉินเกอนั่งอยู่ที่ด้านข้างเตียงผู้ป่วย กุมมือของไช่หมิงเยวี่ยเอาไว้

“ผมเป็นนักปรับสมดุลทางจิต ชื่อฉินเกอนะครับ” เขาพูดเสียงเบา “คุณหมอไช่ ผมเป็นคนที่ลูกชายของคุณเชิญมาเพื่อรักษาปัญหาอาณาเขตทะเลของคุณ”

ทันใดนั้นดวงตาของไช่หมิงเยวี่ยก็เบิกกว้าง มือที่ซูบผอมของเธอสั่น แล้วจู่ๆ ก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมา เธอจับนิ้วของฉินเกอไว้แน่น

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ก่อนจะกลิ้งไปที่จอนผมแห้งเหี่ยวสีขาว

“ช่วย…ฉัน…” เธออ้าปากกว้างแต่ก็แทบจะไม่มีเสียงหลุดลอดออกมา

 

คดี 630 เป็นคดีการฆาตกรรมมนุษย์กึ่งซอมบี้ที่ใหญ่ที่สุด เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว สำนักงานภูมิภาคตะวันตกจึงเรียกมันว่า ‘ภัยพิบัติฤดูหนาว’ ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้วสำนักงานภูมิภาคตะวันตกได้รับรายงานหลายฉบับเกี่ยวกับการพบศพของมนุษย์กึ่งซอมบี้ในสถานที่ที่แตกต่างกันรวมแล้วหกสิบหกศพ หัวใจและสมองของศพทั้งหมดถูกทำลายอย่างรุนแรง ศพส่วนใหญ่ถูกนำไปทิ้งที่กองขยะตามชานเมืองต่างๆ คดีนี้เป็นคดีที่มุ่งเป้าไปที่มนุษย์กึ่งซอมบี้ อาชญากรใช้วิธีที่เลวร้ายและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมเพื่อต้องการสร้างความเกลียดชังระหว่างมนุษย์ธรรมดากับมนุษย์พิเศษขึ้น การสืบสวนดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งปีโดยทีมสืบสวนทั้งหมดสามสิบเจ็ดคน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเซี่ยจื่อจิงอยู่ด้วย แล้วเขาก็ได้รับรางวัลจากคดีดังกล่าวนี้

 

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 87-88

บทที่ 87 ข้อห้าม กู้หมิงเค่อถูกหลี่เจาเกอยั่วโมโหจากไปแล้ว นางอมยิ้มรับช่วงหลักฐาน เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาที่ติดตามนางมา “จงข...

community.jamsai.com