X
    Categories: everYทดลองอ่านพ้นเที่ยงคืนกลืนมิติ

ทดลองอ่าน พ้นเที่ยงคืนกลืนมิติ เล่ม 1 บทที่ 13 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง พ้นเที่ยงคืนกลืนมิติ เล่ม 1

ผู้เขียน : เหยียนเหลียงอวี่

แปลโดย : สนสราญ

ผลงานเรื่อง : พ้นเที่ยงคืนกลืนมิติ

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – –

 

Trigger Warning

เนื้อหามีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับความรุนแรง 

การทำร้ายทางร่างกายและจิตใจ การตาย การฆาตกรรม

การบังคับหรือโน้มน้าวให้ทำบางอย่างโดยไม่เต็มใจ

การกักขังหน่วงเหนี่ยว การทรมาน การบูลลี่

การกล่าวถึงเลือด สภาพศพ และสถานการณ์อันน่าขยะแขยง

    

สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

** หมายเหตุยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

– – – – – – – – – – – – – – – – –

บทที่ 13

ปีศาจราตรี 2

 

ติ๊ง

 

[โน้ตย่อ : รับของขวัญ ไอเทม ‘[พิเศษ] ค่ำคืนผู้ฝึกสัตว์’]

 

ไอเทมที่ชายเสื้อยืดขาดส่งมาให้สว่างอยู่ในช่องแรกของกล่องไอเทมว่างเปล่าของถังหลิ่น

เส้นหมอกสีดำหยุดลงแทบจะในเวลาเดียวกับที่เสียงเตือนดังขึ้น

ถังหลิ่นแตะไอเทม ทันทีที่ภาพลับหายพลังมหาศาลยากจะบรรยายก็พุ่งเข้าสู่หัวสมอง กระทบต่อการมองเห็นและความคิดอ่านของเขา ทุกสิ่งอย่างที่อยู่รายรอบล้วนมองไม่เห็นฟังไม่ได้ยิน โลกทั้งใบเหลือก็แต่กลุ่มเนบิวลาซึ่งเกิดจากการระเบิดของสิ่งที่อยู่ในสมอง

ในตอนนั้นเองเส้นหมอกสีดำก็ไปรวมตัวกันอยู่ทางด้านหลังของถังหลิ่น เงาร่างหมาป่ากระโจนพุ่งเข้าใส่เขาไม่ต่างอะไรกับฟ้าแลบ

“ระวัง” เจิ้งลั่วจู๋มือไวตาไว เขาหันกลับไปพร้อมใช้แผ่นเหล็กบังร่างถังหลิ่นไว้ทางด้านหลัง

โครม!

เงาร่างหมาป่ากระแทกเข้าใส่แผ่นเหล็กอย่างจัง ทำเอาเจิ้งลั่วจู๋ล้มกระเด็นไปทั้งคนทั้งแผ่นเหล็ก เล็บเท้าแหลมคมของเงาร่างหมาป่าจิกแผ่นเหล็กทะลุ

แผ่นเหล็กลากพาถังหลิ่น เจิ้งลั่วจู๋ และกลุ่มชายเสื้อยืดขาดล้มคว่ำเป็นโดมิโนไปตามๆ กัน ชายร่างอ้วนถูกทับอยู่ด้านล่างสุดหันหน้าตะโกนอย่างโมโหใส่ถังหลิ่นที่อยู่ด้านข้าง “นายคิดจะทำอะไรกันแน่”

ไอเทมใช้ไปแล้ว ผลลัพธ์ล่ะ?

เงาร่างหมาป่าถอนกรงเล็บออกจากแผ่นเหล็ก แลบลิ้นเลียเล็บ ก้มมองดูคนทั้งห้าจากที่สูง หนึ่งวินาทีต่อมามันก็กลายเป็นหมอกดำ ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัวมันก็เปลี่ยนเป็นเงาร่างหมาป่าอีกครั้ง หลังจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันมันก็มาปรากฏอยู่ข้างถังหลิ่น!

ถังหลิ่นมองดูมันไม่ขยับ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองมองเห็นนัยน์ตาของหมาป่า

โลกสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว

เขารู้สึกได้ถึงพลังของไอเทม ‘[พิเศษ] ค่ำคืนผู้ฝึกสัตว์’ รับรู้ได้ถึงพันธนาการแปลกประหลาดระหว่างตัวเองกับไอเทม คล้ายห่างไกลคล้ายใกล้ชิดสนิทสนม

เงาร่างหมาป่าอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคม

ห่างกันเพียงคืบแถมเขายังล้มอยู่กับพื้น ตอบโต้ไม่ได้และไร้หนทางจะหลบพ้น

แต่จู่ๆ ก็มีสายฟ้าปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของถังหลิ่น โจมตีเข้าใส่เงาร่างหมาป่าเต็มแรงคล้ายแส้ของผู้ฝึกสัตว์

ทันใดนั้นบ่อน้ำใต้ดินก็สว่างไสวราวกับกลางวัน

เงาร่างหมาป่าหยุดโจมตีกะทันหัน หมอบทรุดลงกับพื้น ร้องครางออกมาคราหนึ่ง “งี้ด”

เสียงสะท้อนยังไม่ทันจางหาย เงาร่างหมาป่าก็พลันสลายไปแล้ว

ถังหลิ่นลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาเฉียบคมกลับจับจ้องหมอกดำที่อยู่ห่างออกไปแค่ครึ่งก้าวเขม็ง

คนอื่นๆ ต่างพากันลุกขึ้น

ชายเสื้อยืดขาด “แม่งเอ๊ย นึกว่าต้องตายแล้วเสียอีก”

ชายเสื้อโปโล “ไอเทมนี้ร้ายกาจโคตร!”

ชายร่างอ้วน “ไอเทมพิเศษ นายคิดว่าเป็นของเล่นๆ เหรอ”

เจิ้งลั่วจู๋ไม่พูดอะไร เขาหอบหายใจพลางปาดเหงื่อบนหน้าผาก คิดจะเรียกแผ่นเหล็กออกมาใหม่ แต่หลังจากลองอยู่หลายครั้งเขาก็พบว่าถึงใจจะยังสู้แต่เรี่ยวแรงกลับไม่เอื้ออำนวยแล้ว

เขามองดูถังหลิ่นปราดหนึ่ง นอกจากใบหน้าซีดเผือดของอีกฝ่ายแล้วก็มองไม่เห็นอะไรอื่นอีก ทว่าเขารู้ดี ว่าถังหลิ่นเพิ่งใช้ไอเทมเป็นครั้งแรก กำลังแรงใจย่อมถูกดึงออกไปใช้เป็นจำนวนมาก

หมอกดำเคลื่อนไหวเร็วขึ้นกว่าเดิม หนำซ้ำยังห้อมล้อมถังหลิ่นไว้ สัตว์ร้ายสีดำที่ถูกทำให้บาดเจ็บจดจำกลิ่นของศัตรูไว้ไม่ลืม

สายตาของถังหลิ่นจับจ้องการเคลื่อนไหวของมันไม่วางตา ความคิดอ่านในสมองรวมตัวเข้าหากันใหม่อีกรอบ แรงกายแรงใจถูกใช้ไปแทบไม่เหลือ หัวใจเขาเต้นถี่รัวจนแทบคุมไม่อยู่

แสงสว่างในมือเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เส้นเดียวหากแต่มีหลายเส้น

ถังหลิ่นกลั้นลมหายใจ ทุ่มเทเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี

แสงสว่างพวกนั้นถักทอกันเป็นตาข่ายก่อนพุ่งตรงเข้าใส่หมอกดำ

หมอกดำพยายามแยกตัวออกอย่างสุดกำลัง แต่กลับถูกตาข่ายแสงพันธนาการเอาไว้แน่นหนา สุดท้ายมันก็เปลี่ยนร่างเป็นเงาร่างหมาป่าอีกครั้ง!

“งี้ด”

เงาร่างหมาป่าส่งเสียงครางแหลมรันทดเจ็บปวดก่อนจะล้มลงกับพื้นดังตึง ดิ้นรนบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการของตาข่ายแสง

ถังหลิ่นนั่งยองๆ มีดสั้นในมือขวาเตรียมแทงลงไป

“หงิงๆ”

เสียงร้องกลับกลายเป็นเสียงครวญคราง

เงาร่างหมาป่าคล้ายรับรู้ได้ถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา มันเลิกดิ้นรนขัดขืน ทำเพียงขดร่างเอาไว้พร้อมเนื้อตัวที่สั่นระริก

ถังหลิ่นชะงัก ตะลึงงันอย่างไม่มีสาเหตุ

ภาพสะท้อนบางอย่างปรากฏขึ้นในสมองเขา คล้ายสมบัติล้ำค่าที่หายไปใต้ทะเลจู่ๆ ก็ถูกคลื่นใต้น้ำพัดพาขึ้นมา

ที่อยู่ท่ามกลางภาพสะท้อนเหล่านั้นคือสุนัขใหญ่ตัวหนึ่ง เนื่องจากย้อนแสงเงาร่างของมันจึงดูไม่ต่างอะไรกับหมาป่า ทว่าทันทีที่อ้าปากกลับเป็นเสียงร้องหงิงๆ ที่อ่อนแอ

มันวิ่งอยู่บนพื้นหญ้า ไล่จับผึ้งกับผีเสื้อ ทำเหมือนตัวเองไร้เดียงสาสุดๆ

อยู่ในบ้านมันมักคลุ้มคลั่ง กัดทึ้งโซฟา ฉีกตะกุยวอลล์เปเปอร์ แต่กลับคิดว่าตัวเองเป็นลูกแหง่

มันชอบเอาหัวมาทับอยู่บนตัวคน ชอบถูไถอยู่กับขาคน อยากให้คนจูบ อยากให้คนกอด อยากให้คนจับยกชูสูงๆ

ถังหลิ่นอยากเห็นให้มากกว่านั้น แต่เขากลับไม่อาจฉวยคว้าภาพสะท้อนสุดท้ายนั่นไว้

เพราะจู่ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวก็เอ่อท้นขึ้นมาจากส่วนลึกภายในจิตใจ ทำเอาเขาหายใจไม่ออก ดวงตาของเขาร้อนผ่าว

“หงิงๆ”

เงาร่างหมาป่าร้องออกมาอย่างน่าเวทนายิ่งกว่าเดิม

เสียงนั่นฟังดูไม่ต่างกับที่เขาได้ยินในภาพสะท้อน

ถังหลิ่นเหม่อลอย มือซ้ายยื่นออกหมายลูบหัวเงาร่างหมาป่า

“ยังจะรออะไรอีก แทงมันเลย”

นิ้วของถังหลิ่นแตะถูกปลายหูของเงาร่างหมาป่าได้ไม่ทันไร เสียงตะโกนของชายร่างอ้วนก็ดังออกมา

ถังหลิ่นได้สติขึ้นมาทันที เขาชักมือกลับราวกับถูกไฟช็อต

ทว่าสัมผัสอ่อนนุ่มนั้นกลับยังคงติดอยู่บนปลายนิ้ว

แสงสว่างที่ทำให้เงาร่างหมาป่า ‘เชื่อง’ นั้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด พลังของไอเทมถึงขีดจำกัดแล้ว!

เจิ้งลั่วจู๋กับชายเสื้อยืดขาดที่อยู่อีกด้านพุ่งตรงเข้ามา ในมือถือมีดแทงใส่ร่างของเงาร่างหมาป่าอย่างไม่คิดปรานี

แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง

แสงสว่างนั้นหายไปแล้ว เงาร่างหมาป่ากระจายกลายเป็นหมอกดำเต็มฟ้า

เสียงฉึกๆ ดังขึ้น ปลายมีดปักทิ่มจมพื้น

หมอกดำไม่ได้สนใจพวกเขา มันพุ่งตรงเข้าใส่ถังหลิ่น เพียงชั่วพริบตาก็ล้อมเขาไว้จนแน่น หมอกสีดำหนาทึบห่อร่างถังหลิ่นไว้จนไม่อาจมองเห็น

ถังหลิ่นรู้สึกเพียงว่าภาพตรงหน้ามืดดำ โลกกลับกลายเป็นมืดมิดขึ้นมาทันที

เขาเกร็งร่างตามพฤติกรรมการตอบสนองแบบมีเงื่อนไข พาตัวเองเข้าสู่สถานะป้องกัน แต่แล้วในใจจู่ๆ ก็รู้สึกอบอุ่น คล้ายมีมิตรภาพความปรารถนาดีอะไรบางอย่างไหลเข้ามาในร่าง ความรู้สึกดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับตอนสร้างความสัมพันธ์กับไอเทมก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เหมือนกันเลยเสียทีเดียว การตอบสนองที่ไหลเข้าสู่ใจเขาในเวลานี้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งกว่า ระแวดระวังยิ่งกว่า แฝงไว้ซึ่งความปรารถนา แฝงไว้ซึ่งความรู้สึกหยั่งเชิง

“ประธานถัง…”

ลมหายใจของเจิ้งลั่วจู๋หยุดชะงักคิดจะยื่นมือเข้าไปในหมอกดำเพื่อควานหาตัวถังหลิ่น ทว่าข้างหูกลับได้ยินเสียงคำรามโกรธขึ้งของสัตว์ร้ายดังลอยมา

ไม่ใช่เสียงหมาป่า แต่เป็นเสียงคำรามของสัตว์ร้าย

เขาหันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว สัตว์ประหลาดที่ก่อนหน้านี้มีเพียงเสียงดังลอดออกมาจากอุโมงค์อีกฟากเพิ่งกระโดดออกมาจากปากอุโมงค์

พวกชายเสื้อยืดขาดสามคนใกล้เสียสติแล้ว

“เชี่ยๆๆ”

“แม่งเอ๊ย จะไม่ให้รอดเลยใช่ไหมวะเนี่ย”

สัตว์ร้ายนั่นดูไม่ต่างอะไรกับไฮยีน่าสองตัว ทว่าพวกมันไม่ใช่ไฮยีน่าธรรมดาๆ แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า หางยาวกว่า หนำซ้ำยังมีเขาวัวงอกอยู่บนหัวอีก สองตาแดงก่ำ น้ำลายไหลเยิ้มออกมาตามฟันแหลมคม

พวกมันขยับเข้าหาพวกชายเสื้อยืดขาด

คนทั้งสามต่างพากันชักเท้าถอย เหงื่อเม็ดใหญ่เท่าเม็ดถั่วผุดพรายอยู่บนใบหน้า เห็นได้ชัดว่าตอนนี้พวกเขากำลังรวบรวมสมาธิกันอย่างเอาเป็นเอาตาย คิดจะเรียกใช้ต้นไอเทม

จู่ๆ หมอกดำที่หุ้มตัวถังหลิ่นก็รวมตัวกลายเป็นเงาร่างหมาป่าแล้วพุ่งเข้าใส่สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง

เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวสัตว์ร้ายตัวนั้นจึงถูกเงาร่างหมาป่างับเข้าที่คอ

ส่วนสัตว์ร้ายอีกตัวแม้จะเห็นเช่นนั้น แต่มันกลับไม่ได้เข้าไปช่วยพรรคพวก ตรงกันข้ามกลับหันหัวกระโดดขึ้นไปบนอุโมงค์แผ่นแน่บจากไป

เจ้าตัวที่ถูกงับพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลังแต่กลับไม่อาจสลัดหลุดจากคมเขี้ยวของอีกฝ่าย

ในที่สุดขามันก็ห้อยตกไม่ขยับเขยื้อน

ชายเสื้อยืดขาดปากอ้าค้าง “เกิด…เกิดอะไรขึ้น”

ชายร่างอ้วนเกาหัว “พวกมันน่าจะเป็นพวกเดียวกันไม่ใช่หรือไง”

ชายเสื้อโปโล “คนตายเพราะทรัพย์สมบัติ สัตว์ตายเพราะอาหาร เพื่อแย่งชิงพวกเรา พวกมันสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายก็เป็นเรื่องธรรมดา”

ชายเสื้อยืดขาดกับชายร่างอ้วนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน “อยากเป็นอาหารก็เป็นไปคนเดียวเลย!”

เงาร่างหมาป่าทิ้งร่างไร้วิญญาณของสัตว์ร้ายตัวนั้นลง หลังจากนั้นก็เปลี่ยนร่างเป็นหมอกดำอีกครั้งพุ่งตรงเข้าไปหาถังหลิ่น แต่คราวนี้มันไม่ได้โอบล้อมถังหลิ่นไว้ หากกลับกลายเป็นเงาร่างหมาป่าใหม่อีกหน ถูไถข้างขาของถังหลิ่นไม่หยุด

ใช่แล้ว ถูไถ…

“…” ชายเสื้อยืดขาด ชายเสื้อโปโล และชายร่างอ้วนต่างทึ่มทื่อไม่เข้าใจ

เจิ้งลั่วจู๋จ้องมองดูปีศาจราตรีที่ต่างกันราวกับเป็นคนละตัวพลางวิเคราะห์ “บางทีอาจเพราะบุญคุณที่ไม่ฆ่ามัน มันเลยยอมอุทิศชีวิตให้”

ถังหลิ่นปล่อยให้เงาร่างหมาป่าถูไถอย่างสนุกสนาน สีหน้าผ่อนคลายลงอย่างไม่รู้ตัว เขานั่งยองๆ แล้วยกมือลูบหูของมัน ขนฟูนุ่มจริงๆ

อันที่จริงการลูบหมาป่าก็เป็นเรื่องชวนเพลิดเพลินอยู่เหมือนกัน ถังหลิ่นลูบมันจากหูไปถึงหัว หลัง ท้อง และอุ้งเท้า

เงาร่างหมาป่าคล้ายถูกลูบจนสบาย มันหมอบนิ่งอยู่บนเท้าของถังหลิ่น ส่งเสียงครางหงิงๆ อย่างเบิกบานใจ แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าสบายอกสบายใจขนาดไหน

เจิ้งลั่วจู๋ ชายเสื้อยืดขาด ชายเสื้อโปโล และชายร่างอ้วน “…”

ประจบประแจงเกินไปแล้วหรือเปล่า เกียรติปีศาจราตรีของเอ็งมันหายไปไหนหมด!

ขณะกำลังลูบอีกฝ่ายเพลิน ภาพนกเค้าแมวบนแขนของถังหลิ่นก็พลันสว่างวาบ

เขานึกถึงคำพูดของชายเสื้อยืดขาดได้ คนที่ทำปีศาจราตรีบาดเจ็บได้จะได้ค่าประสบการณ์ หากโชคดีอาจได้รับไอเทมด้วย เขารีบแตะมันเพื่อเปิดดู

 

‘กล่องไอเทม : ว่างเปล่า

ค่าประสบการณ์ : 0

ต้นไอเทม : [?]

[? / 100 / ด่าน 1]

[? / 500 / ด่าน 2]’

 

แม้แต่ต้นไอเทมที่คนอื่นปลดล็อกแล้ว ของเขากลับยังคงปิดล็อกเหมือนเก่า

ถังหลิ่นออกจากกล่องไอเทม จ้องแขนตัวเองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง

ภาพนกเค้าแมวนั่นไม่ส่องแสงแล้ว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คล้ายเป็นเพียงภาพลวง

 

ในตรอกมืดดำ

เสียงคำรามของเครื่องจักรเงียบหมดแล้ว ฟั่นเพ่ยหยางยืนพิงผนังของบ้านที่ถูกทิ้งร้างหลังหนึ่ง วิเคราะห์ข่าวสารที่เพิ่งได้รับมาเมื่อครู่ ขณะเดียวกันก็ตรวจสอบดูชายที่มาเสนอขายไอเทมตรงหน้า

ถึงอีกฝ่ายจะเสื้อผ้าขาดวิ่น ทว่าร่างกายกลับไม่ได้ดูปวกเปียกอ่อนแอ กล้ามเนื้อบนแขนดำมะเมื่อมนั่นปรากฏชัด

ใบหน้าซูบตอบสกปรกมอมแมมแต่กลับไม่คล้ายหิวโหย ตรงกันข้ามกลับเหมือนคนที่นอนกลางดินกินกลางทราย ตากแดดตากลม เดินทางรอนแรมมาเนิ่นนาน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสายตาของอีกฝ่ายที่ดูแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยว

นี่ไม่ใช่ลักษณะของคนยากจนข้นแค้น ตรงกันข้ามกลับดูเป็นนักสู้

“นายมั่นใจเหรอว่าความสามารถของมันไม่ใช่เรื่องคุยโม้โอ้อวด?” ในที่สุดฟั่นเพ่ยหยางก็เอ่ยปาก เสียงแผ่วเบายากที่จะฟังออกว่าเขารู้สึกเช่นไร

ชายผิวคล้ำยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวสะอาด “แน่นอน”

ฟั่นเพ่ยหยาง “ก็แค่คำพูดปากเปล่าไม่มีหลักฐาน”

ชายผิวคล้ำผายมือออก “งั้นก็ช่วยไม่ได้ คุณคงได้แต่ต้องเลือกเอาแล้วว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ถ้าเชื่อ เช่นนั้นก็วินๆ กันทั้งสองฝ่าย ไม่เชื่อ พวกเราต่างฝ่ายก็ต่างเสียเวลา”

ฟั่นเพ่ยหยางนึกชื่นชมนิสัยตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย “ฉันต้องการทั้งหมด เสนอราคามาได้เลย”

ชายผิวคล้ำยื่นนิ้วออกมาสามนิ้ว “สามแสน”

ฟั่นเพ่ยหยางพยักหน้า “ตกลง”

“อย่าเพิ่งรีบร้อน” ชายผิวคล้ำลดนิ้วลงสองนิ้ว “สามแสนต่อหนึ่งอัน”

ฟั่นเพ่ยหยางช้อนตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบเฉย “ฉันรู้”

ชายผิวคล้ำ “…”

เสียงเครื่องบริการธุรกรรมอัตโนมัติดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเงียบลงอีกคราว

ฟั่นเพ่ยหยางดึงบัตรเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ

ชายผิวคล้ำมองดูการเคลื่อนไหวของเขา รู้สึกว่าอีกฝ่ายท่วงท่าองอาจห้าวหาญ

ไอเทม ‘[พิเศษ] ข้าคือ VIP’ ห้าอันเข้าไปอยู่ในกล่องไอเทมของฟั่นเพ่ยหยางเป็นที่เรียบร้อย การซื้อขายเป็นอันสิ้นสุด

“เถ้าแก่ ไว้พบกัน”

เขาโบกมือให้กับฟั่นเพ่ยหยางก่อนจะหันหลังเดินจากไป ไม่นานเขาก็เลี้ยวหายลับเข้าไปในตรอกถนนแห่งหนึ่ง

ทางที่ฟั่นเพ่ยหยางต้องไปเป็นฝั่งตรงกันข้าม

เขามองดูเวลาปราดหนึ่ง ได้เวลาที่ปีศาจราตรีจะออกอาละวาดตามที่ชายเสื้อยืดขาดบอกแล้ว

ฟั่นเพ่ยหยางขมวดคิ้วน้อยๆ เขาเร่งฝีเท้า ทว่าเพิ่งเดินถึงปากถนนได้ไม่ทันไรเขาก็พบหมอกดำขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งลอยมา ด้านหลังยังมีเงาตะคุ่มๆ ของคนกลุ่มหนึ่ง ถึงจะมองเห็นไม่ชัดนักแต่เสียงของพวกเขากลับดังชัด

“คนที่อยู่ข้างหน้านั่น ถ้าไม่อยากตายก็รีบหลบไป”

 

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: