ในฐานะที่เป็นองค์หญิงสายตรง ในใจองค์หญิงใหญ่ตุนซู่ย่อมชมชอบจวิ้นจู่ที่ถือกำเนิดจากชายาเอกมากกว่า เพียงน่าเสียดายที่หลิ่งหนานอ๋องไม่โปรดปรานชายาผู้นี้อย่างแท้จริง องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ถอนใจ “เจ้าคิดเห็นอย่างไรก็ว่าอย่างนั้นเถิด…”
เรื่องของหลิ่งหนานอ๋องฉีเซียวก็รู้กระจ่างดี เขาหัวเราะเบาๆ “บิดาของชายาหลิ่งหนานอ๋องสิ้นชีพในศึกเวิ่งซี ประการแรกนางไม่เป็นที่โปรดปราน ประการที่สองไม่มีญาติมิตรฝ่ายมารดาให้พึ่งพา ลูกชายาเอกย่อมสู้ลูกชายารองซึ่งเป็นที่โปรดปรานมิได้ ซ้ำบัดนี้ซื่อจื่อยังมาเป็นตัวประกัน ฝั่งทายาทสายตรงยิ่งไม่ได้รับความสำคัญ”
องค์หญิงใหญ่ตุนซู่พยักหน้า “เรื่องเป็นเช่นนี้จริง ไม่เป็นไร…ถึงจะมิใช่สายตรง แค่เป็นธิดาของหลิ่งหนานอ๋องก็พอ เช่นนี้ต่อแต่นี้ในยามจำเป็นไร้ทางเลือก…ชาวหลิ่งหนานย่อมยินดีสนับสนุนเจ้าที่เคยผูกสัมพันธ์แต่งงานกับหลิ่งหนานมาก่อน มีการสนับสนุนจากหลิ่งหนาน…เรื่องวันหน้าก็มั่นใจได้อีกชั้นหนึ่ง”
ฉีเซียวยังคงมีท่าทีอย่างไรก็ได้ “หลานเชื่อฟังเสด็จป้าพ่ะย่ะค่ะ”
องค์หญิงใหญ่ตุนซู่มองดวงตาที่เหมือนอู่ตี้ไม่มีผิดของฉีเซียวอย่างเอ็นดูเหลือแสน อดไม่ได้ดึงมือเขามาและเอ่ยเสียงเบา “เด็กดี ป้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบ…แต่อดทนอีกหน่อยเถิด ครั้นเจ้าขึ้นครองราชย์ป้าก็วางใจแล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าต้องการทำสิ่งใดก็จะไม่มีผู้ใดขัดขวางได้อีก…”
อย่างไรองค์หญิงใหญ่ตุนซู่ก็อายุค่อนข้างมากแล้ว นางเดินทางเหน็ดเหนื่อยยากลำบากมาตลอด เมื่อครู่ตอนอยู่ที่ตำหนักเฉิงกานยังดูไม่ออก ยามนี้ลับตาผู้คน แววเหนื่อยล้าพลันปรากฏ ต่อให้ฉีเซียวมีนิสัยเย็นชาก็ยังอดปวดใจไม่ได้ เขาเอ่ยเสียงเบา “เสด็จป้าไม่จำเป็นต้องทุ่มเทแรงใจเพื่อหลานถึงเพียงนี้ เรื่องพวกนี้หลานเอง…”
“ภาระบนบ่าเจ้าหนักหนาพอแล้ว เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ให้ข้าช่วยจัดการก็พอ อย่าได้เก็บไปคิดมากนัก ข้าไม่เพียงทำเพื่อเจ้า…” องค์หญิงใหญ่ตุนซู่สูดหายใจลึกคราหนึ่ง “มากกว่านั้นคือเพื่อตัวข้าเอง บัดนี้ผู้สืบสายเลือดสายตรงจากไท่จู่เหลือเพียงเจ้ากับข้าสองคน หากข้ายังให้เจ้าต่อสู้ลำพัง เกรงว่าบรรพบุรุษก็จะไม่ยอมรับข้าเช่นกัน”
แม้ฉีเซียวเห็นเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เป็นสิ่งที่มีหรือไม่มีก็ได้ ทว่าเห็นแก่องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ที่กลัดกลุ้มใจเพื่อเขาจึงไม่อาจอยู่เฉย วันต่อมาหลังประชุมราชกิจ ฉีเซียวจงใจล่าช้าสองสามฝีก้าว รออยู่ที่สระเลี่ยนเยี่ยนหน้าตำหนักกานชิง พักหนึ่งก็ได้พบกับหลิ่งหนานซื่อจื่อที่ออกมาจากสำนักฮุ่ยซิ่นตามคาด
ฐานะตัวประกันของหลิ่งหนานซื่อจื่อตงหลิงไป่เริ่นทุกคนล้วนรู้กระจ่างแก่ใจ ทว่าแต่ไหนแต่ไรฮ่องเต้ทรงแสดงออกอย่างดีเยี่ยม ดูแลเอาใจใส่อาหารการกิน เสื้อผ้าอาภรณ์ ที่พักอาศัยก็พร้อมสรรพ ได้ยินว่าตอนอยู่ที่หลิ่งหนาน ไป่เริ่นกำลังเรียนหนังสือ ฮ่องเต้ก็ส่งราชครูไปสอนพร้อมอนุญาตให้เขาเข้าวังเพื่อเล่าเรียนที่สำนักฮุ่ยซิ่นทุกวัน ได้รับการปฏิบัติเทียบเท่าองค์ชายทุกประการ
ฉีเซียวหัวเราะหยันในใจ เป็นเพราะใส่ใจหลิ่งหนานหรือต้องการจับตาดูให้ดี นั่นก็เป็นเรื่องต่างจิตต่างใจแล้ว
ไป่เริ่นเพิ่งเลิกคาบเช้า เนื่องจากฮ่องเต้ส่งอาหารเช้ามา เขาจึงพาสหายร่วมเรียนเดินรีบเร่งตามข้ารับใช้ไปยังตำหนักเฉิงกาน เขามองเห็นฉีเซียวแต่ไกลจึงไม่เหมาะสมที่จะเดินอ้อม ได้แต่พาคนจำนวนหนึ่งเดินมา ฉีเซียวแย้มยิ้ม “ซื่อจื่อกำลังจะไปที่ใดหรือ”
ไป่เริ่นคารวะตามธรรมเนียมและหลุบตาลงตอบ ฉีเซียวพยักหน้า “ซื่อจื่อมาเยือนเมืองหลวงหลายวัน ข้ายังมิได้พูดคุยกับซื่อจื่ออย่างเต็มที่เลย อยู่ที่นี่สบายดีทุกอย่างหรือไม่ คิดถึงบ้านบ้างหรือเปล่า”
ไป่เริ่นเงยหน้ามองฉีเซียวแวบหนึ่ง ในดวงตาฉายประกายประหลาดใจ การแสดงออกยังคงสงบนิ่งเฉยเมย เอ่ยราบเรียบอย่างไม่กลบเกลื่อนสีหน้าว่า “ฝ่าบาททรงปฏิบัติต่อกระหม่อมอย่างดียิ่ง มิเคยคิดถึงบ้านพ่ะย่ะค่ะ”
ฉีเซียวมองความห่างเหินของไป่เริ่นออกจึงหาได้บีบบังคับอีกฝ่าย เพียงคลี่ยิ้มอ่อนโยน “เสด็จพ่อมีราชกิจมากมาย หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีจุดซึ่งทรงคาดไม่ถึง หากมีอันใดไม่ราบรื่นบอกกับข้าเป็นพอ มิต้องเห็นเป็นคนอื่นไกล ในเมื่อเสด็จพ่อเรียกตัวเจ้า ข้าก็จะไม่ทำเจ้าล่าช้าแล้ว ต่อไปวันใดมีเวลาค่อยพบกัน”
ไป่เริ่นพยักหน้าอย่างเย็นชาและค้อมกายเล็กน้อย ก่อนหมุนตัวเดินตามข้ารับใช้ไป ตั้งแต่ต้นจนจบแม้แต่รอยยิ้มสักครายังไม่เผย ฉีเซียวทอดตามองเงาหลังของไป่เริ่นจากที่ไกลพลางยิ้มอย่างนึกสนุก “หลิ่งหนานซื่อจื่ออายุยังน้อย แต่นิสัยกลับสงบเยือกเย็นยิ่ง”
เจียงเต๋อชิงรีบยิ้มประจบ “ซื่อจื่ออายุน้อยเพียงนี้มาเมืองหลวงลำพัง จิตใจย่อมหดหู่เป็นเรื่องปกติ รัชทายาทอายุมากกว่า เข้าใจซื่อจื่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ฉีเซียวจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาไม่ได้ไม่สบอารมณ์เพราะความเฉยชาของไป่เริ่นอย่างแน่นอน เพียงแต่…หลิ่งหนานซื่อจื่อเพิ่งมาเมืองหลวงไม่นาน ฉีเซียวได้พบหน้าเขาแค่สองครั้ง ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการมองวูบเดียวจากระยะไกล จดจำได้เพียงว่าไป่เริ่นนั้นหน้าตางามหมดจด ทว่ารายละเอียดเป็นอย่างไรนั้นกลับไม่มีความทรงจำเท่าใด เมื่อครู่พินิจดูในใจก็หวั่นไหวอย่างมิอาจห้าม เขาคลี่ยิ้ม ตอบเรียบๆ ว่า “นั่นย่อมแน่นอน”
โปรดติดตามตอนต่อไป…