ทดลองอ่าน ราชครูนักต้มตุ๋น เล่ม 3 บทที่ 116-117 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ราชครูนักต้มตุ๋น เล่ม 3 บทที่ 116-117 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 117

อธิบาย

ครั้งก่อนที่จีอวิ๋นซีกับซ่งเสวียนออกจากเมืองซื่อฟางไปพร้อมทหารของทางการนั้น พวกเขาเดินทางไปตามเส้นทางบก ครั้งนี้กลับเดินทางในเส้นทางน้ำ เนื่องจากจีอวิ๋นซีแอบหนีออกมาจึงไม่อาจพักอยู่ในจุดพักม้าของทางการได้ เส้นทางน้ำจะปลอดภัยและรวดเร็วกว่าเส้นทางบกมากกว่า

วันที่ออกจากเมืองซื่อฟาง ซ่งเสวียนรออยู่ที่ท่าเรือเนิ่นนานก็ยังไม่เห็นเงาของเสี่ยงหรง

ที่ผ่านมาเขาคิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขารอใครสักคนมาส่ง ทว่าสิ่งนี้มาจากความรู้สึกผิดบางประการที่ไม่อาจบอกกล่าวเป็นถ้อยคำได้อย่างชัดเจน

จีอวิ๋นซีเองก็ไม่ได้ห้ามเขา เพียงรอเป็นเพื่อนเขาอยู่ที่ท่าเรือ เมื่อเห็นว่ารออยู่เนิ่นนานแล้วก็ยื่นเหลียงฉา* ให้เขาถ้วยหนึ่ง “ไม่ต้องรีบ คนที่ควรมาย่อมต้องมาอย่างแน่นอน”

ในดวงตาสุกใสคู่นั้นไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย แต่กลับแสดงสีหน้าจริงใจซื่อตรงออกมา ทำเอาจู้หยางอดสะท้านไม่ได้

ซ่งเสวียนรับถ้วยชามาแล้วดื่มลงไปอึกหนึ่ง เขาถอนใจเบาๆ “เกรงว่าข้าจะยั่วให้นางโมโหเสียแล้ว นางไม่ร้องไห้เลยจะดีที่สุด”

เขาเคยคิดว่าเสี่ยงหรงเป็นดั่งชายชาตรีแข็งแกร่งคนหนึ่ง ไม่มีทางร้องไห้ กระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่นางดื่มสุราจนเมามาย กอดซ่งเสวียนร้องไห้สูดจมูกฟูมฟาย นางมิได้บอกว่าเพราะเหตุใด ทว่าพึมพำเบาๆ ออกมาคำหนึ่งว่า ‘องค์ชาย’

เขาจึงได้รู้ว่าสตรีผู้นี้ก็น้ำตาตกได้เช่นกัน

ผ่านไปครู่หนึ่งนายท้ายเรือมาเร่งซ่งเสวียนว่าต้องขึ้นเรืออยู่หลายครั้ง เขาพลันเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ สวมชุดสีชมพูลูกท้อคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาจากที่ไกลๆ ซ่งเสวียนมองดูก็รู้ว่าคือสาวใช้จากหอฮวาซย่า

“อาจารย์ซ่ง…อาจารย์ซ่ง!” สาวใช้ผู้นั้นตะโกน

เมื่อซ่งเสวียนลงมาจากเรือ สาวใช้ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วว่า “ข้ามาถ่ายทอดวาจาแทนเถ้าแก่เสี่ยงหรงของพวกเรา”

ซ่งเสวียนย่อตัวลงพูดกับนาง “อะไรหรือ”

“เถ้าแก่ของพวกเราบอกว่าเจ้ามันเจ้าลูกเต่าโง่ ให้เจ้าไสหัวไปให้ไกล อย่าได้กลับมาอีก” สาวใช้ว่า “หากกลับมาอีกข้าจะต่อยเจ้าให้หน้าเต็มไปด้วยดอกท้อบานสะพรั่ง** ทีเดียว”

สาวใช้นั้นเลียนแบบได้อย่างออกรสออกชาติ แม้แต่สีหน้าถมึงทึงโหดเหี้ยมของเสี่ยงหรง เขาก็ยังมองเห็นได้จากนาง ทำเอาซ่งเสวียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้

เขาล้วงเอาลูกกวาดสองเม็ดออกมาจากช่องเก็บของในแขนเสื้อแล้วยัดใส่มือสาวใช้ ก่อนยิ้มตาหยีพลางเอ่ย “รบกวนแม่นางนำคำไปบอกเถ้าแก่ที บอกว่าให้นางเตรียมไม้กับสุราเอาไว้ ช้าเร็วซ่งเสวียนจะกลับมาอย่างแน่นอน”

สาวใช้กะพริบตาปริบๆ นางมองซ่งเสวียนแล้วก็มองลูกกวาดในมือ จากนั้นก็รับปากด้วยความลังเล

ซ่งเสวียนมองส่งสาวใช้คนนั้นจากไปจึงค่อยกลับเข้ามาในห้องโดยสารบนเรือ เขาเห็นจีอวิ๋นซีกำลังจับจ้องใบชาในถ้วยชา “ถ้าพี่ชายยังไม่กลับมาอีก ชานี้ของข้าคงกลายเป็นน้ำส้มสายชู* แล้ว”

ซ่งเสวียนนิ่งงันไปเล็กน้อย ละเลยความกำกวมในคำพูดของอีกฝ่ายไปอย่างไม่รู้ตัว “เสี่ยงหรงเป็นสหายข้ามาหลายปี ครานั้นมีคนฝากฝังให้ข้าดูแลนาง ดังนั้นจึงได้รู้จักเกี่ยวพันกัน เจ้าอย่าคิดมาก”

“ข้าไม่ได้คิดมาก” จีอวิ๋นซีว่า อย่างไรเขาก็ดำเนินการบางสิ่งบางอย่างลับๆ ไปบ้างแล้ว วันนี้เสี่ยงหรงผู้นั้นไม่ได้พบซ่งเสวียน วันหน้าเมื่อซ่งเสวียนไปถึงเซิ่งจิงแล้วก็อย่าได้คิดสัมผัสแม้ชายเสื้อของซ่งเสวียนเลย

ทว่าเขากลับอดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงออกมาทางจมูกเบาๆ “ผู้ใดฝากฝังให้เจ้าดูแลสตรีผู้หนึ่งรึ เหตุใดแม้แต่คำว่าเลี่ยงข้อครหาก็ยังเขียนไม่เป็น”

นี่ไม่ใช่เรื่องที่พูดไม่ได้แต่อย่างใด ซ่งเสวียนจึงอธิบายว่า “เป็นคนใหญ่คนโตผู้หนึ่งที่เร้นกายอยู่ในเมืองซื่อฟางมาเนิ่นนาน เขามีทักษะการพนันขันต่อดั่งเทพจำแลง คนในยุทธภพยกย่องเขาเป็นราชาพนัน เพียงแต่พบเห็นเขาได้น้อยนัก ข้าเองก็มีวาสนาได้พบเขาเพียงไม่กี่ครั้ง ทุกครั้งล้วนสวมหน้ากาก ไม่เคยเปิดเผยใบหน้า” ซ่งเสวียนคล้ายกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง “ข้าเคยแพ้พนันเขา ติดหนี้น้ำใจเขาอยู่หลายส่วน เขาต้องการให้ข้าคืนหนี้น้ำใจ จึงได้มีเรื่องเสี่ยงหรงนี้เข้ามา…”

ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงัก

เขานึกออกแล้วว่าก่อนหน้านี้เหตุใดจึงรู้สึกว่าเสียงของจีอวิ๋นฉีคุ้นหูยิ่งนัก

นั่นคือเสียงของราชาพนัน

ตอนที่ราชาพนันมาขอให้เขาช่วยเหลือในปีนั้นคือปีหลังจากสงครามกับแคว้นหนานถูสิ้นสุดพอดิบพอดี ฮวาอู๋ฉยงหายสาบสูญ ส่วนองค์ชายใหญ่จีอวิ๋นฉีปิดประตูไม่รับแขก

ที่แท้ก็มาซ่อนตัวอยู่เมืองซื่อฟางนี่เอง

มาคิดดูแล้วการที่ราชาพนันเร้นกาย อาจเป็นเพราะจีอวิ๋นฉีมีเรื่องต้องทำมากมาย ไม่สามารถปรากฏตัวที่เมืองซื่อฟางได้ในระยะเวลานานนัก

ส่วนเสี่ยงหรง ซ่งเสวียนรู้นานแล้วว่าเบื้องหลังของนางมีคนคอยหนุน

ถึงอย่างไรหอโคมเขียวก็มีเอาไว้เพื่อการพบปะทำการค้า หอฮวาซย่าได้เสี่ยงหรงดูแลอยู่หลายปี บรรดาแม่นางทั้งหลายถือไพ่เหนือกว่าลูกค้าเสียอีก จะรับแขกหรือไม่รับแขกก็ตามแต่อารมณ์ของพวกนางทั้งสิ้น หากเจ้ามุ่งหมายบังคับขู่เข็ญ เสี่ยงหรงจะเป็นคนแรกที่ถือไม้มาไล่ฟาด อีกทั้งยังล่วงเกินคนมาไม่รู้ตั้งเท่าใดแล้ว

ที่หอฮวาซย่ายังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งมาได้หลายปี ทั้งยังเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ นี้ อย่าว่าแต่ซ่งเสวียนผู้เดียวเลย แม้แต่ซ่งเสวียนสักสิบคนก็ยังปกปักคุ้มภัยเอาไว้ไม่อยู่ ได้แต่ให้ผู้อยู่เบื้องหลังผู้นั้นค้ำจุนเอาไว้

หากกล่าวเช่นนี้ซ่งเสวียนก็รู้สึกว่าท่านผู้นั้นเอาใจใส่มากทีเดียว

พอจีอวิ๋นซีเห็นว่าเขาหยุดชะงักไม่พูดต่อก็ถามว่า “เป็นอะไรไป”

ซ่งเสวียนยิ้มพลางเอ่ย “คงจะรู้สึกหดหู่อยู่บ้างกระมัง พออายุมากขึ้นก็กลัวการหวนระลึกถึงอดีตอยู่บ้าง”

จีอวิ๋นซีถลึงตาใส่เขา “ปิดบังข้าซี้ซั้วอีกแล้ว”

ว่าแล้วมือก็ผลักอีกฝ่ายไปด้วย

จู่ๆ เรือก็โคลง คาดว่านายท้ายเรือคงออกเรือแล้ว

จีอวิ๋นซีอาศัยการโคลงเคลงของเรือนั้นผลักซ่งเสวียนล้มลงแล้วตนก็โน้มตัวทับลงบนร่างของซ่งเสวียน เพียงแต่สายตาของเขาไม่มีความผิดคาดหรือตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย

กลับเป็นซ่งเสวียนที่อึ้งงันไปเล็กน้อย

ซ่งเสวียนไม่เคยลืมจูบที่ไม่เหมือนจูบในวันนั้น เพียงแต่คิดให้ตนถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โยนเรื่องนี้ทิ้งไปด้านหลังเสีย

ถึงอย่างไรครั้งนี้ตนก็ตอบรับการเชื้อเชิญของจีอวิ๋นซีไปแล้ว วันหน้าก็ยากจะเลี่ยงการพบหน้ากันเช้าเย็น การละเลยเรื่องนี้ไปเสียจึงเป็นตัวเลือกที่ดีและสะดวกที่สุด

ไม่คิดว่าจีอวิ๋นซีคล้ายไม่ต้องการละเลยเรื่องนี้เลย

เขาใช้ศอกค้ำอยู่ตรงข้างหูซ่งเสวียน เชยคางอีกฝ่าย น้ำเสียงเจือด้วยรอยยิ้มบางเบา “พี่ชายปิดบังข้าเช่นนี้อยู่เรื่อย น่ากลัวว่าจะต้องถูกข้าสั่งสอนแล้ว”

ทั้งที่ไม่ได้ใช้ถ้อยคำชัดเจนเปิดเผยแม้สักคำ ทว่าซ่งเสวียนกลับฟังแล้วหน้าแดงหูแดง ได้แต่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ตั้งใจจะลุกขึ้น

กระนั้นเขากลับถูกจีอวิ๋นซีกดบ่าลงเบาๆ “ซ่งเสวียน จูบก็จูบแล้ว อย่างไรเจ้าก็ควรอธิบายกับข้าสักหน่อยกระมัง”

ซ่งเสวียนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยออกมาชัดเจนแจ่มแจ้ง สีหน้าจึงยิ่งดูเก้อเขินกระอักกระอ่วน “อธิบายอย่างไร”

เพิ่งพูดจบเขาก็รู้ว่าคำถามของตนนั้นไม่ถูกต้อง

เป็นดังคาด จีอวิ๋นซีก้มศีรษะลงมา ท่าทางราวกับกำลังจะจูบ

ซ่งเสวียนกลับมีท่าทีตอบสนองเร็วรี่ ใช้มือปิดปากจีอวิ๋นซีเอาไว้ “เช่นนี้ไม่ได้…”

สมองของเขาทำงานช้ามาแต่แรกแล้ว ทว่าสัญชาตญาณยังคงอยู่ “อาซี เช่นนี้ไม่ได้…”

จีอวิ๋นซีกลับไม่ใส่ใจ เขาหัวเราะเบาๆ ปลายลิ้นแลบเลียฝ่ามือของซ่งเสวียนเล็กน้อย จากนั้นก็ลากไล้ไปตามเส้นลายมือ

ความรู้สึกแปลบปลาบส่งผ่านมาตามฝ่ามือ ซ่งเสวียนรีบดึงมือกลับ ทว่าจีอวิ๋นซีกลับฉกฉวยช่องว่างนี้จูบลงบนริมฝีปากของซ่งเสวียนอย่างแม่นยำ

ซ่งเสวียนยังได้ยินอีกฝ่ายงึมงำเบาๆ ว่า “เหตุใดจึงไม่ได้…”

เหตุใดจึงไม่ได้หรือ

ซ่งเสวียนเหมือนคิดไม่ทันเสียแล้ว เขารู้เพียงปลายลิ้นของคนผู้นั้นแทรกเข้ามาระหว่างฟันของเขาอย่างคล่องแคล่ว ไล่เลียลิ้นอันไวต่อสัมผัสของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำเอาสติสัมปชัญญะของเขาปั่นป่วนกลายเป็นกลุ่มก้อนแห่งความสับสนปนเป ตัดแยกตัวเขาออกจากโลกรอบด้าน

เขามีความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างที่คล้ายกับภาพลวงตา

รู้สึกว่าตนเองอาจขึ้นมาบนเรือโจรลำหนึ่ง จุดหมายที่มุ่งไปนั้นไม่ใช่วังหลวง หากแต่เป็นรังโจร รังโจรที่เข้าไปแล้วจะออกมาไม่ได้เช่นนั้น

 

* เหลียงฉา หรือจับเลี้ยง คือเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น

** ดอกท้อบานสะพรั่ง ในที่นี้เป็นการเปรียบเปรยว่าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เลือดออกเหมือนดอกท้อสีแดงที่บานสะพรั่ง

* มีที่มาจากสำนวน ‘กินน้ำส้มสายชู’ ซึ่งแปลว่าหึงหวง

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com