ทดลองอ่าน ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน สำนักภูษานิล เล่ม 2 บทที่ 4 #นิยายวาย – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน สำนักภูษานิล เล่ม 2 บทที่ 4 #นิยายวาย

4 of 4หน้าถัดไป

ห่างออกไปไม่ไกลเสี่ยวชุนเห็นชายชราเคราขาวสองคนแทะเมล็ดแตงโมพลางจิบน้ำชา ท่าทางราวกับกำลังพูดคุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศกับเรื่องในครอบครัว แต่หากตั้งใจฟังให้ดี เนื้อหาบทสนทนากลับเป็นว่าเส้าหลินเป็นอย่างนั้น สำนักมารเป็นอย่างนี้ ความสามารถที่แท้จริงของยอดฝีมือที่สำนักฝูหวาส่งมาในปีนี้ การชุมนุมใหญ่ยุทธภพเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ การชุมนุมชาวยุทธ์คราวนี้แม้จะมีการกำหนดไว้เป็นการภายใน แต่สุดท้ายก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นอย่างนี้อย่างนั้น…

เสี่ยวชุนเบนสายตาไปยังลานประลอง

งานชุมนุมชาวยุทธ์นี่มันอะไรกันเขาไม่รู้หรอก รู้เพียงว่าคนเหล่านี้มีวิชายุทธ์ยอดเยี่ยม คนที่คอยชมอยู่รอบข้างต่างสนุกกับการชมการต่อสู้ ยิ่งกว่านั้นบนเรือสำราญยังมีของกินรสเลิศ และยังมีชาหอมกับสุราดีให้ลิ้มลอง เรื่องสนุกในชีวิตคนเราย่อมไม่พ้นเรื่องพวกนี้ ช่างน่ารื่นรมย์จริงๆ

ดูการประลองไปหลายยก เสี่ยวชุนก็คิดว่าตนจะชื่อแซ่ใดไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด ใครๆ ที่เกิดจากท้องแม่ก็ล้วนมาจากความว่างเปล่า ตายไปก็ว่างเปล่า ในเมื่อมาจากความว่างเปล่า ตอนไปก็ย่อมจะว่างเปล่า ตอนนี้ในหัวมีแต่ความว่างเปล่าจะเป็นเรื่องเสียหายอันใดเล่า

เรื่องฐานะของเขาและขวดแปลกๆ ที่ติดตัวมา เสี่ยวชุนเพียงแค่คิดว่าน่าสนใจดี แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่านั้น

ก่อนที่เขาจะสูญเสียความทรงจำคงจะประกอบอาชีพเป็นหมอกระมัง ไม่เช่นนั้นจะมีขวดยาติดตัวมากมายอย่างนี้หรือ แล้วยังรู้ทันทีว่าหานหานถูกพิษของยาชา ทำให้ร่วงตกน้ำได้รับบาดเจ็บภายใน เพียงลงมือทุบก็เอาลิ่มเลือดที่ตกค้างในร่างกายหานหานออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

เสี่ยวชุนมองดูมือของตัวเองอย่างเหม่อลอยพลางพลิกกลับไปกลับมา หรือว่าก่อนที่จะสูญเสียความทรงจำตนอาจจะเป็นหมอจริงๆ ก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังวินิจฉัยโรคได้แม่นยำอย่างน่าประหลาด เก่งกาจพอๆ กับหมอเทวดาทีเดียว

แต่เรื่องเหล่านี้กลับไม่สำคัญ เขารู้สึกว่าบัดนี้เมื่อไม่มีเรื่องมีราวก็รู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลายสบายใจเป็นที่สุด

ขณะกำลังครุ่นคิด ในน้ำเขียวใสก็ปรากฏคำว่า ‘มู่เซียงแห่งปราสาทเขาเพลินภิรมย์’ ผุดขึ้นมา

เสี่ยวชุนบังเอิญเหลือบเห็นมือที่จับไม้ค้ำยันของหานหานสั่นสะท้านเล็กน้อย สีหน้าเขาดูตื่นเต้น สายตาก็มองตรงไปยังลานประลองอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่แม้แต่จะกะพริบตา

คนบนลานประลองกำลังต่อสู้กัน เสี่ยวชุนมองดูอย่างเพลิดเพลิน แต่อาจเพราะมู่เซียงผู้นี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง คนชุดดำจึงต้องต่อสู้หลายยกจนดูกะปลกกะเปลี้ย ถึงกับเซไปครู่หนึ่ง มู่เซียงไม่เพียงไม่ฉวยโอกาสโจมตีเผด็จศึก กลับกันยังอุตส่าห์ยื่นมือไปช่วยประคอง อีกฝ่ายไม่รู้คุณ หวดทั้งกระบี่ซัดทั้งฝ่ามือโต้กลับ

เสี่ยวชุนหรี่ตาเพ่งมองก็พบรังสีอำมหิตของอาวุธลับที่ซัดออกมาเมื่อคนชุดดำเพลี่ยงพล้ำ คนผู้นั้นใช้อาวุธลับได้อย่างเชี่ยวชาญ หลังจากประมือกันแล้วจึงไม่อาจสังเกตเห็น ต้องรอจนยาชาค่อยๆ ออกฤทธิ์จึงทำให้คิดไปว่าที่พ่ายแพ้เป็นเพราะหมดแรงจากการต่อสู้

แต่ไหนแต่ไรมาเสี่ยวชุนก็ไม่ชอบเห็นใครใช้ลูกไม้สกปรก แพ้อย่างใสสะอาดเสียยังดีกว่า แต่มาใช้ลูกไม้ต่ำช้าพรรค์นี้เพื่อให้ตนชนะ คนชุดดำผู้นั้นช่างน่ารังเกียจจริงๆ

เขาเห็นอีกฝ่ายกำลังจะลงมืออีกครั้งก็ไม่ได้คำนึงถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองว่าจะรับไหวหรือไม่ เขาบิหมั่นโถวออกมาคำหนึ่ง ขับเคลื่อนพลังปราณเข้าไปในนั้น ก้อนหมั่นโถวที่เล็กจนแทบจะมองไม่เห็นก็พุ่งข้ามน้ำลอยขึ้นไปบนฟ้า กระแทกเข้ากับมือข้างที่ถืออาวุธลับของคนชุดดำ

พอลงมือไปแล้วลมปราณและเลือดในอกก็ปั่นป่วน เสี่ยวชุนเอามือกดหน้าอกไว้ สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน แต่แล้วก็ได้เห็นอีกฝ่ายมองมาอย่างฉุนเฉียวเมื่ออาวุธลับร่วงหล่นจากมืออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลงมือจู่โจมมู่เซียงต่อเนื่องอย่างไม่ยั้งมือ

เสี่ยวชุนเหลือบมองหานหาน เห็นอีกฝ่ายตื่นเต้นบีบที่เท้าแขนเก้าอี้ไม้สาลี่ไว้แน่นจนแทบจะแหลกคามือ คนผู้นี้สนใจมู่เซียงแห่งปราสาทเขาเพลินภิรมย์มากถึงเพียงนี้เชียว จึงคิดในใจว่าจะปล่อยให้คนที่ผู้มีพระคุณห่วงใยถูกคนชั่วทำร้ายได้อย่างไรกัน ทันใดนั้นจึงฝืนซัดหมั่นโถวลูกใหญ่ออกไปประหนึ่งเป็นอาวุธลับ

“โอ๊ย!” มีเสียงร้องดังมาจากลานประลอง

ทันใดนั้นก็เห็นร่างในชุดดำที่ยืนอยู่บนยอดเขาสูงทุบตาซ้ายของตัวเองแล้วทรุดลงคุกเข่า เสียงร้องนั้นสั่นสะท้านอย่างน่ากลัว

ยาชาในตัวมู่เซียงออกฤทธิ์นานแล้ว เสี่ยวชุนเข้าไปช่วยไม่ทันจึงได้แต่มองดูมู่เซียงร่วงลงน้ำดังตูมจนเปียกโชกไปทั้งตัว

“เจ้าทำอะไร” หานหานหันขวับมาทันที มองเสี่ยวชุนด้วยสีหน้าถมึงทึง จากนั้นก็พบว่าสีหน้าเสี่ยวชุนซีดขาว ทั้งยังมีเหงื่อเย็นไหลออกมา สีหน้าของหานหานพลันเผือดลงเช่นกัน

เสี่ยวชุนฝืนยิ้มแล้วพลิกข้อมือหานหานขึ้นมา เผยให้เห็นรอยสีดำที่เล็กกว่ารูเข็ม แล้วชี้ไปที่ลานประลอง พยายามบอกอย่างยากเย็นว่า “ถูกของสิ่งนี้เข้าก็จะตัวชา…มีอาการหมดเรี่ยวแรง…เจ้าคนข้างบนนั่น…เล่นสกปรก…”

หานหานได้ยินเข้าก็ผุดลุกขึ้นทันที สีหน้าเครียดคล้ำยิ่ง

มู่เซียงถูกศิษย์ของสำนักพาตัวกลับมา หานหานเดินไปดูก่อนจะหันมามองเสี่ยวชุน ทันใดนั้นก็ออกคำสั่งให้ศิษย์พาตัวเสี่ยวชุนกลับไปส่งที่ห้องแล้วรีบเชิญหมอมาตรวจดูอาการ

ตัวเขารีบเดินเข้าไปข้างกายมู่เซียง ยื่นมือไปดึงตัวสหายที่กลับมาหลังจากพ่ายแพ้การประลองพร้อมรอยยิ้มขื่น แล้วกระซิบบอกที่ข้างหู

สีหน้ามู่เซียงมีแววงุนงงสงสัย จากนั้นก็เผยรอยยิ้มอย่างเข้าใจ หันไปมองเสี่ยวชุนแล้วพยักหน้าทักทาย

เสี่ยวชุนหอบหายใจ แต่ทว่าศีรษะเพิ่งผงกขึ้นมาจะพยักหน้าตอบ ภาพตรงหน้าก็ดำมืดไป ศีรษะเอียงไปข้างหลัง หมดสติไปแล้ว

“แม่นาง…ไม่ใช่สิ…น้องชาย…” เสียงร้องโวยวายดังขึ้น น้ำเสียงฟังดูร้อนใจ คร่ำครวญราวกับสูญเสียบิดามารดา ท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกโศกเศร้า

“อดทนไว้…อดทนไว้นะ…อย่าตาย…อย่าตายนะ…”

 

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน สำนักภูษานิล ฉบับเต็ม

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com