everY
ทดลองอ่าน เลิกเรียนแล้วเจอกัน เล่ม 1 บทที่ 11-12 #นิยายวาย
บทที่ 12
ตอนนี้อวี้ฝานรู้สึกว่าสามารถต่อยอวี้ข่ายหมิงสองคนได้ด้วยมือข้างเดียว ดังนั้นหลังออกจากโรงพยาบาลเขาก็ตรงไปโบกรถกลับบ้าน
รถที่คนขับรถแท็กซี่ขับมาแล้วทั้งวันนั้นอึดอัดนิดหน่อย หน้าต่างรถด้านหน้าเปิดไว้ครึ่งหนึ่ง
เขามองคนที่อยู่เบาะหลังแวบหนึ่ง “น้องชาย เปิดหน้าต่างนิดหน่อยไม่เป็นไรนะ?”
อวี้ฝานตอบ “ไม่เป็นไร”
ลมพัดเข้ามาจากทางเบาะหน้า ทำให้เย็นหน้านิดหน่อย อวี้ฝานหดคางเข้าไปในคอเสื้อโดยอัตโนมัติ กลิ่นน้ำยาซักผ้าอ่อนๆ ขุมหนึ่งโชยเข้ามาในโพรงจมูก
เขาขมวดคิ้ว ก้มหน้าไปตามกลิ่นนั้น มองดูเสื้อขนเป็ดสีขาวที่ค่อนข้างหลวมบนร่างตนเองแวบหนึ่ง
“…”
ลืมคืนเสื้อ
พรุ่งนี้ค่อยเอาไปให้เขาที่โรงเรียนก็แล้วกัน
เมื่อถึงประตูทางเข้าเขตที่พัก หลังลงจากรถอวี้ฝานก็คิดครู่หนึ่ง ก่อนจะถอดเสื้อคลุมแล้วหิ้วไว้ในมือ
เดี๋ยวลงไม้ลงมือกันขึ้นมาจะได้ไม่เปื้อน
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาคิดมากเกินไป ในบ้านไฟดับ กลางดึกก็หาคนมาเปิดกุญแจไม่ได้ อวี้ข่ายหมิงจึงออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้วไม่ได้กลับมาจนถึงตอนนี้
อวี้ฝานกลับถึงบ้าน ล็อกประตูใหญ่ ขณะหมุนตัวเข้าห้องก็มองประตูห้องของตัวเองแวบหนึ่ง
ประตูถูกถีบ บนนั้นยังมีรอยเท้าหลงเหลือเด่นชัดหลายรอย มองออกเลยว่าตอนนั้นอวี้ข่ายหมิงบ้าคลั่งแค่ไหน
อวี้ฝานละสายตาและหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องอย่างเฉยเมย
วันต่อมาอวี้ฝานหอบเอาเสื้อขนเป็ดสีขาวที่ทั้งหนาและหนักตัวหนึ่งเดินเข้าประตูโรงเรียน นั่นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่อย่างไรอย่างนั้น
สวมตอนที่ป่วยเมื่อวานก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ทว่าตอนนี้รู้สึกว่าเสื้อคลุมตัวนี้ก็หนามากเหมือนกัน
เฉินจิ่งเซินร่างกายอ่อนแอสินะ
อวี้ฝานเหยียบย่างเข้าไปในห้องเรียนพร้อมกับเสียงกริ่งท่องหนังสือรอบเช้า วันนี้จวงฝ่างฉินมาเช้าเป็นพิเศษและตอนนี้ก็นั่งอยู่บนโพเดียมแล้ว
หวังลู่อันเห็นเขาก็พยายามยักคิ้วหลิ่วตาให้ อวี้ฝานยังไม่ทันรู้ตัว จวงฝ่างฉินก็ลุกขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“อวี้ฝาน เธอตามครูออกมา” เธอกวาดตามองคนที่อยู่ในห้อง “เริ่มท่องหนังสือรอบเช้าแล้ว ตัวแทนวิชาภาษาอังกฤษขึ้นมานำอ่าน”
ก้นของอวี้ฝานยังไม่ทันได้แตะที่นั่งก็หันหน้าออกไปจากห้องเรียนแล้ว
“เมื่อวานเธอทำอะไร” บนทางเดินจวงฝ่างฉินกอดอกแล้วถาม
อวี้ฝาน “หลับ”
“มีอะไรอีก”
ถ้าเปลี่ยนเป็นตอนปกติ สิ่งที่เขาพูดได้มีเยอะแยะมากมาย แต่อวี้ฝานคิดอยู่นานสองนานและแน่ใจว่าเมื่อวานนอกจากนอนหลับแล้วเขาก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย
“ไม่บอกสินะ” จวงฝ่างฉินกวาดตามองคนที่อยู่ในห้องเรียน “เธอต่อยเฉินจิ่งเซินจนเข้าโรงพยาบาลใช่ไหม”
“…”
จวงฝ่างฉินเห็นเสื้อผ้าที่อยู่ในมือเขาก็ตื่นตกใจ “เธอต่อยคนก็แล้วไป นี่ยังแย่งเสื้อคลุมของคนอื่นมาอีก?”
ไม่รู้ทำไมจู่ๆ อวี้ฝานก็นึกถึงเรื่องที่ตนเองปล่อยหมัดออกไปแล้วถูกเฉินจิ่งเซินตะครุบไว้ได้อย่างง่ายดายเมื่อวานนี้ขึ้นมา
“ผมไม่ได้ต่อยเขา” อย่างน้อยก็ต่อยไม่โดนสักหน่อย
อวี้ฝานชะงัก “ครูไปฟังมาจากไหน”
“เห็นในกลุ่มโรงเรียน เธอกับเขาที่โรงพยาบาล…” จวงฝ่างฉินพูดไปพูดมาก็หยุด
อวี้ฝานกล่าว “โอเค ครูเนียนเข้าไปอยู่ในกลุ่มโรงเรียน?”
ไม่เพียงเนียนเข้าไปเท่านั้น ยังตั้งค่าแจ้งเตือนคีย์เวิร์ดในกลุ่มด้วย พอมีคนเอ่ยชื่อของอวี้ฝานเธอก็จะได้รับการแจ้งเตือนทันที
จวงฝ่างฉินเอ่ย “แน่นอนว่าเปล่า เป็นนักเรียนคนอื่นส่งรูปมาให้ครู”
“…”
“งั้นเมื่อวานเธอไปทำอะไรที่โรงพยาบาล”
คำอธิบายของอวี้ฝานมาถึงริมฝีปากแล้วกลืนกลับลงไป
“ผมโกหก ผมต่อยเขาเอง” ผ่านไปสักพักอวี้ฝานก็พิงผนังแล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “พฤติกรรมของเด็กหัวกะทิอย่างเขาน่ะ ผมเห็นแล้วรำคาญ ไม่แน่ว่าอาจได้อัดอีกสักรอบด้วย”
จวงฝ่างฉินเลิกคิ้ว มองเขาอย่างเงียบๆ
เธอดูแลอวี้ฝานมาหนึ่งปีกว่า สิ่งที่เด็กหนุ่มพูดเป็นความจริงหรือพูดเล่นแค่แวบเดียวเธอก็มองออก
เป็นไปตามคาด ผ่านไปครู่หนึ่งอวี้ฝานก็พูดว่า “เพราะงั้นครูรีบย้ายที่นั่งเขาไปเถอะ ผมจะได้ไม่ลงมืออีก”
จวงฝ่างฉินที่อกสั่นขวัญแขวนมาทั้งคืนก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงแล้ว
ไม่ได้ชกต่อยก็ดี ตอนนี้อวี้ฝานยังมีโทษติดตัว ขืนติดทัณฑ์บนอีกหนึ่งกระทง ปัญหาก็จะร้ายแรงแล้ว
แม้ในใจเธอจะติดว่าอวี้ฝานคงไม่ลงมือกับเพื่อนโดยไม่มีสาเหตุ แต่ยังคงต้องเรียกออกมาถามเหตุผลให้ชัดเจน
แต่ในเมื่ออวี้ฝานขับไล่ไสส่งขนาดนี้ก็ควรพิจารณาที่จะปรับเปลี่ยนสักหน่อย
หากระหว่างนักเรียนสองคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้ อย่างนั้นก็ยิ่งไม่ต้องไปคาดหวังเรื่องอื่นเลย
“เอาล่ะ” จวงฝ่างฉินพยักพเยิดปลายคางไปทางห้องเรียน “เข้าไปท่องหนังสือรอบเช้าซะ”
อวี้ฝานกลับไปถึงที่นั่งถึงได้พบว่าคนครึ่งห้องต่างกำลังมองมาทางนี้
เขาชินกับการเป็นที่สนใจแบบนี้มานานแล้ว แต่วันนี้รู้สึกอึดอัดมากเป็นพิเศษ จึงถลึงตาจ้องกลับไปทีละคนๆ
หลังจากคนพวกนั้นหันหน้ากลับไปหมดแล้ว อวี้ฝานถึงได้มองไปที่คนข้างๆ
วันนี้เฉินจิ่งเซินสวมเสื้อผ้าบางกว่าเมื่อวาน สวมเพียงเสื้อโค้ตตัวเดียว กำลังท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
สีหน้าของเขาเหนื่อยหน่าย ริมฝีปากก็ซีดนิดหน่อย ตอนทำหน้าเฉยเมยดูท่าทางเหมือนคนขี้โรค
ดูท่าร่างกายจะอ่อนแอจริงๆ
อวี้ฝานมารู้ตัวทีหลัง ถ้าอย่างนั้นเมื่อคืนอีกฝ่ายถอดเสื้อคลุมนั่งที่โรงพยาบาลทั้งคืนจะไม่ยิ่งทำให้ร่างกายแย่ลงเหรอ
เฉินจิ่งเซินเสียงไม่ดัง แต่โทนเสียงของเขาทุ้มต่ำกว่าคนอื่นหน่อยๆ ท่ามกลางเสียงท่องอันยืดยาวนั้นเสียงของเขาโดดออกมาจากเสียงของคนอื่นๆ
ท่องไปท่องมาจู่ๆ เขาก็ปิดปากไอทีหนึ่ง
อวี้ฝานได้สติกลับมา ยัดเสื้อขนเป็ดให้เขาอย่างหยาบกระด้าง “เมื่อวานลืมคืนให้นาย”
เมื่อคืนเฉินจิ่งเซินทำโจทย์ทั้งคืน จึงไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเท่าไรนัก
เขาส่งเสียงตอบรับทีหนึ่ง ก่อนจะรับมาวางไว้บนตักแล้วถ่างตาอ่านคำศัพท์ต่อ
อวี้ฝานพิงหลังที่พนักเก้าอี้ หันหน้าไปมองเขาแวบหนึ่ง
หลังจากนั้นสองนาทีก็หันไปมองเขาอีกรอบหนึ่ง
จนกระทั่งตัวแทนวิชาภาษาอังกฤษหอบหนังสือเรียนลงจากโพเดียม เขาถึงได้ร้องอย่างเหลืออด “เฮ้ย”
เฉินจิ่งเซินคล้ายจะเพิ่งรู้สึกตัว “อะไร”
“มันโดนฉันแล้ว” อวี้ฝานนั่งไขว่ห้าง ใช้เข่าดันเสื้อขนเป็ดนุ่มๆ ที่อยู่บนตักอีกฝ่ายแล้วขมวดคิ้ว “สวมซะสิ”
เฉินจิ่งเซินยังคงอยู่ในท่ายัดหนังสือเรียนเข้าไปในลิ้นชัก ก่อนจะหันหน้ามามองเขา
อวี้ฝานถูกเขาจ้องจนหนังตากระตุก จึงถามอย่างเย็นชา “มองอะไร”
“เปล่า” เฉินจิ่งเซินสวมเสื้อขนเป็ด
จากนั้นก็หันหน้าไปและไอแรงขึ้นกว่าเดิม
อวี้ฝาน “…”
ระหว่างพักคาบหวังลู่อันชวนอวี้ฝานไปสูบบุหรี่
คนด้านข้างเอ่ยถาม “พี่ฝาน เมื่อวานเห็นรูปที่จั่วควนส่งมา ฉันยังนึกว่านายต่อยเฉินจิ่งเซินจริงๆ ซะอีก”
“ฉันบอกแล้วไงว่าอวี้ฝานไม่มีทางลงมือกับคนในห้องหรอก” หวังลู่อันพ่นควันออกมา “แล้วเมื่อวานพวกนายไปทำอะไรที่โรง’บาลกันแน่”
อวี้ฝานขี้เกียจอธิบายจึงพูดไปเรื่อย “ฉันผ่านไป เขาออกมาจากโรง’บาล เจอกันพอดี”
หวังลู่อันร้องอ้อทีหนึ่ง “ฉันเห็นพวกนายใกล้ชิดกันขนาดนี้ยังนึกว่าพวกนายไปด้วยกันซะอีก”
“เป็นไปได้หรือไง” อวี้ฝานมองไปนอกหน้าต่าง “ไม่ได้สนิทกับเขาสักหน่อย”
คาบต่อไปเป็นวิชาของจวงฝ่างฉิน พวกเขาสูบบุหรี่ไปมวนหนึ่งก็กลับไปที่ห้องเรียนอย่างเร่งรีบ
พอจวงฝ่างฉินเข้ามาในห้องเรียนก็พูดเข้าประเด็นทันที “เมื่อกี้ครูพลิกดูการบ้านเมื่อวานของพวกเธอคร่าวๆ จับได้ว่ามีหลายคนแอบโกง บางข้อคัดไม่ถึงสิบรอบ คนพวกนี้รู้ตัวเองหน่อยนะ สุดสัปดาห์นี้เอาข้อที่คัดตกหล่นไปคัดใหม่อีกสิบรอบมาให้ครู”
“ยังมีอีก” เธอหยิบสมุดการบ้านที่สอดไว้ออกมาจากในหนังสือเรียน “อวี้ฝาน เธอลุกขึ้นพูดเองซิ”
มีเรื่องอะไรกับเขาอีกล่ะเนี่ย
อวี้ฝานค่อยๆ ลุกขึ้นยืน “ผมพูดอะไร”
“การบ้านเธอเป็นคนอื่นเขียนให้สินะ” จวงฝ่างฉินแกว่งสมุดการบ้านของเขา “ตัวหนังสือเธอสวยขนาดนี้ด้วย? เธอดูซิว่าตัวหนังสือข้างในกับชื่อข้างนอกเป็นคนคนเดียวกันเขียนออกมาได้เหรอ”
“…”
“ครูรับได้ถ้าเธอจะคัดน้อยหรือถึงขั้นไม่ส่ง” จวงฝ่างฉินกล่าว “แต่เธอจะบังคับให้เพื่อนคนอื่นช่วยเธอเขียนการบ้านไม่ได้ นี่มันแย่มาก…”
‘พรึบ’ อวี้ฝานยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ คนข้างๆ ก็เคลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้น
“ครูครับ เขาไม่ได้บังคับคนอื่น”
จวงฝ่างฉินงงงัน “อะไร…”
เฉินจิ่งเซิน “ผมเป็นฝ่ายช่วยเขาเขียนเองครับ”
อวี้ฝาน “…”
จวงฝ่างฉิน “…”
หวังลู่อัน “…???”
ทั้งสองคนหอบหนังสือเรียนมายืนนอกห้องเรียนด้วยกัน
คนหนึ่งยืนตัวตรง คนหนึ่งบิดไปบิดมา
ห้องเรียนของพวกเขาอยู่ใกล้ทางเดิน หน้าต่างทั้งสองบานที่อยู่ด้านทางเดินล้วนใหญ่และกว้าง
อวี้ฝานยืนตัวตรงขึ้นอย่างหงุดหงิดเพื่อขวางทางลม
“นายโง่หรือไง” เขาอดถามไม่ได้ “ลุกขึ้นมาทำไม”
เฉินจิ่งเซินเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “ขอโทษ”
“…”
ไม่เห็นจำเป็นต้องขอโทษ
อวี้ฝานขยับริมฝีปาก กำลังคิดจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เฉินจิ่งเซินกลับเอ่ยขึ้นมา “ฉันไม่คิดว่าตัวหนังสือของนายจะน่าเกลียดขนาดนั้น”
“…”
“ต่อไปจะฝึกสักหน่อยก็แล้วกัน”
“…”
“อย่างน้อยก็ต้องเขียนชื่อให้คนอื่นอ่านออกสิ…”
“ขืนนายพูดมากอีกประโยคเดียว” อวี้ฝานบีบหนังสือเรียน เอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ฉันจะเอาจดหมายรักขยะๆ ของนายไปติดบอร์ดประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน ให้คนทั้งโรงเรียนเชยชมตัวหนังสือห่วยๆ ของนายด้วยกัน…”
คนข้างๆ มองมาอย่างอ่อนโยน “นายยังเก็บไว้?”
“…”
คนในห้องจับจ้องคนสองคนที่ตัวติดกันและคุยกันไม่หยุดอยู่ข้างนอกมานานแล้ว
นี่เรียกว่าไม่สนิทกับเขา? หวังลู่อันงุนงง
นี่เรียกว่าเห็นแล้วก็รำคาญ? จวงฝ่างฉินกำหมัดแน่น
เธอกำลังคิดที่จะพูดว่า ‘พวกเธอขึ้นมาคุยบนโพเดียมเลยก็ได้’ แต่ก็เห็นอวี้ฝานถือหนังสือเรียนแล้วหมุนตัวจากไปก่อน ซึ่งนั่นก็เผยให้เห็นใบหูที่แดงก่ำ
เขาเดินมาหยุดยืนที่ประตูหลัง ห่างจากเฉินจิ่งเซินหนึ่งห้องเรียน
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน เลิกเรียนแล้วเจอกัน เล่ม 1
วางจำหน่ายแบบรูปเล่มที่เว็บไซต์ Jamsai Store, ร้าน Jamclub
และร้านหนังสือทั่วไป
รวมถึงในรูปแบบอีบุ๊กที่
Meb / OOKBEE / Pinto E-book by Fictionlog / Naiin App / SE-ED / Hytexts / comico และ ARN