ทดลองอ่าน ไฟล์ข้อมูลของการตกหลุมรัก บทที่ 7-8 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ไฟล์ข้อมูลของการตกหลุมรัก บทที่ 7-8 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

ทดลองอ่านเรื่อง ไฟล์ข้อมูลของการตกหลุมรัก

ผู้เขียน : สือเอ้อร์ซาน (十二三)

แปลโดย :  Lucky Luna

ผลงานเรื่อง : 心动文档 (Xin Dong Wen Dang)

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – – 

Trigger Warning

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน

ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ

   

เนื้อหามีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับอาการป่วยทางจิต

ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจ

       

สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

** หมายเหตุยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

– – – – – – – – – – – – – – – – –

บทที่ 7

Doc1 กำหนดรสนิยม

 

สวี่จือเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องวิ่งหนีในบ้านของตัวเอง แต่การอยู่กับโจวมู่ตามลำพังในที่รโหฐานมักทำให้เขาไม่อาจคิดไตร่ตรองได้

หน้าต่างห้องนอนยังคงเปิดอยู่ ม่านผ้าโปร่งถูกลมพัดสะบัดพลิ้ว ทำให้อุณหภูมิร่างกายของสวี่จือที่ค่อนข้างร้อนรุ่มเย็นลง

เขาหยิบโน้ตบุ๊กจากบนโต๊ะขึ้นมา เดินไปนั่งบนเก้าอี้พักผ่อนตรงระเบียงตัวนั้น ค้นหาร่างคาแร็กเตอร์ที่เกี่ยวกับโจวมู่อีกรอบหนึ่งอย่างไม่ยอมแพ้

แต่ยังคงไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง

สภาพจิตใจของสวี่จือยังนับว่าดีอยู่ เขาคิดว่าในเมื่อโครงร่างหายไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ได้แต่ต้องเขียนจากจุดเริ่มต้นแรกสุดแล้ว

เขาสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมา พิมพ์วันที่ 11 กรกฎาคมลงไป

ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

สวี่จือวางโน้ตบุ๊กลงแล้วเดินไปเปิดประตู แขนของโจวมู่ที่ยกค้างไว้ครึ่งหนึ่งก็ปล่อยลง “ฉันอยากอาบน้ำ”

หัวใจของสวี่จือยังคงเต้นโครมคราม แต่เขาไม่สนใจ เพียงพยักหน้า “ฉันจะพานายไปห้องอาบน้ำ”

สวี่จืออาศัยอยู่ลำพัง ห้องพักเป็นอพาร์ตเมนต์แบบหนึ่งห้องนอน ในห้องนอนไม่มีห้องอาบน้ำ มีเพียงห้องอาบน้ำที่พื้นที่ไม่ใหญ่นักหนึ่งห้องตรงห้องรับแขกเท่านั้น

เมื่อเขาเดินออกจากห้องนอนก็พบว่ากล่องอาหารห่อกลับบ้านบนโต๊ะกาแฟถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว แต่มีอาหารชุดหนึ่งที่ไม่ได้ถูกแตะเลย

โจวมู่สังเกตเห็นสายตาของเขา จึงอธิบายว่า “กลัวว่าอีกเดี๋ยวนายจะหิว เลยไม่ได้ทิ้ง”

สวี่จือชะงักก่อนจะมองแวบหนึ่งโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เดินนำเขาไปถึงห้องอาบน้ำ “นายใช้เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นไหม”

“ใช้เป็นครับ” โจวมู่กล่าว

“งั้นก็ดี” สวี่จือหยิบแปรงสีฟันอันใหม่ออกมาจากลิ้นชักแล้วส่งให้เขา “งั้นฉันออกไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวก่อน” โจวมู่เรียกสวี่จือไว้ “มีผ้าขนหนูไหม”

สวี่จือนิ่งงัน เมื่อเช้าเขาเอาผ้าขนหนูทั้งหมดใส่เข้าไปในตู้และล็อกไว้หมดแล้ว สาเหตุเป็นเพราะไม่แน่ใจในตัวตนของโจวมู่ จึงกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายฆ่ารัดคอ

เขาเงยหน้ามองชายหนุ่มอีกคน รูปร่างที่มีข้อได้เปรียบของอีกฝ่ายยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่ออยู่ในห้องอาบน้ำเล็กแคบ ทั้งตัวสวี่จือถูกบดบังเอาไว้หมด

“มีสิ” สวี่จือบอก ก่อนจะเปิดตู้หยิบผ้าขนหนูออกมาสองผืน เขาส่งให้โจวมู่ผืนหนึ่ง “ผืนนี้เป็นของใหม่”

สวี่จือคิดว่าคงไม่มีฆาตกรคนไหนเก็บอาหารเย็นไว้ให้เหยื่อหรอก

“ขอบคุณครับ” โจวมู่เอ่ย จากนั้นก็รับผ้าขนหนูมาถือไว้

สวี่จือถอยออกมาจากห้องอาบน้ำ เดิมทีคิดจะกลับไปเขียนอะไรสักหน่อยที่ห้องนอน แต่กลับไม่มีแรงบันดาลใจสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไปนั่งที่โซฟาแล้วแกะโจ๊กข้าวโอ๊ตที่ยังไม่ได้กินชุดนั้น

แม้ในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่โจ๊กข้าวโอ๊ตยังคงอุ่นอยู่

เสียงน้ำในห้องอาบน้ำดังขึ้น สวี่จือกินไปฟังไปอย่างกระอักกระอ่วน

โจวมู่อาบน้ำเร็วมาก สวี่จือเพิ่งกินโจ๊กเสร็จ เสียงน้ำไหลซู่ซ่าในห้องอาบน้ำก็หยุดแล้ว

เสียงฝีเท้าหนักแน่นของโจวมู่ดังมาจากข้างหลัง สวี่จือไม่ได้หันกลับไปมอง เขาเอากล่องอาหารห่อกลับบ้านใส่ถุงแล้วผูกให้เรียบร้อย “ฉันจะไปหาผ้าห่มมาให้นาย”

“สวี่จือ” โจวมู่เดินอ้อมมาด้านหน้าโซฟา เสียงน้ำที่หลงเหลือใต้ฝ่าเท้าเสียดสีกับพื้นเกิดเป็นเสียงที่ค่อนข้างคลุมเครือ “ฉันไม่มีเสื้อผ้า”

สวี่จือหันไปมองเขาแวบหนึ่ง การกระทำในมือหยุดชะงัก

โจวมู่ยืนเปลือยอยู่ตรงหน้าเขา หยดน้ำบริเวณช่วงเอวและหน้าท้องที่ไม่ได้เช็ดให้แห้งไหลลงมาตามวีไลน์ที่เด่นชัด จมหายเข้าไปในพงไพรอันเป็นสัญลักษณ์ของเรือนกายเพศชาย

สวี่จือละสายตาออกอย่างร้อนรน โยนถุงขยะในมือกลับไปไว้บนโต๊ะกาแฟ “เมื่อเช้านายยังมีชุดคลุมนอนอยู่ตัวหนึ่งไม่ใช่เหรอ”

“อาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนชุดใหม่ดีกว่า” โจวมู่ดูท่าทางไม่ได้สนใจเลยว่าเขากำลังคุยกับคนอื่นโดยที่เปลือยล่อนจ้อนอยู่ พูดคุยด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติมาก

เมื่อเช้านี้ยังขอเสื้อผ้าจากสวี่จืออย่างขัดเขินอยู่แท้ๆ ตอนนี้กลับตรงไปตรงมาแบบนี้เสียแล้ว

เมื่อเช้านี้สวี่จือแค่เหลือบไปเห็นร่างเปลือยของโจวมู่เพียงชั่วแวบสั้นๆ แต่ตอนนั้นตื่นตกใจเกินไปจึงไม่ได้เกิดความคิดอื่นใด ตอนนี้พอมองอีกครั้งกลับรู้สึกวุ่นวายใจขึ้นมาอยู่บ้าง

ทันใดนั้นเขาก็นึกไปถึงหุ่นปูนปลาสเตอร์ที่จัดวางอยู่ในห้องเรียนตอนเรียนวาดรูปสมัยเด็กๆ เขาคิดว่ารูปร่างของโจวมู่เป็นสัดส่วนที่ตรงตามหลักสุนทรียศาสตร์ของร่างกายมนุษย์มาก น่าดึงดูดอย่างยิ่ง

สวี่จือเงยหน้าขึ้นมองโจวมู่โดยแสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจมากนัก ดวงตาจับจ้องไปที่คางของอีกฝ่าย ไม่กล้ามองลงไป “งั้นฉันจะไปหามาให้นายสักชุดก็แล้วกัน”

จู่ๆ โจวมู่ก็หัวเราะหึ เขาเดินมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง มองสำรวจสวี่จืออย่างจริงจัง

“สวี่จือ นายหน้าแดงแล้ว” โจวมู่พูดข้อสรุปจากการเฝ้าสังเกตออกมา

สวี่จือเอ่ยเสียงเย็น “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย”

แต่กลับไร้พลังในการขัดขวางอย่างสิ้นเชิง

“ไม่เกี่ยวกับฉันเหรอ” โจวมู่เอ่ยพลางเดินมาข้างหน้าอีกก้าว ทั้งสองใกล้กันยิ่งกว่าเดิม “ฉันนึกว่านายกำลังเขินซะอีก”

สวี่จือถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไร้สุ้มเสียง จากนั้นยื่นนิ้วชี้ข้างขวาออกไปจิ้มหน้าอกของโจวมู่ ดวงตายังคงไม่กล้ามองส่งเดช เขาเตือนโจวมู่ว่า “ไม่ต้องเข้ามาแล้ว”

เขาเดินอ้อมออกไปจากอีกฝั่งของโต๊ะกาแฟ “ฉันจะไปหยิบเสื้อผ้าให้นาย”

พูดจบก็เข้าไปในห้องนอน ก่อนจะหยิบชุดคลุมนอนออกมาชุดหนึ่ง รวมถึงผ้าห่มฤดูร้อนบางๆ อีกผืนหนึ่งอย่างรวดเร็ว

เขาโยนชุดคลุมนอนใส่ตัวโจวมู่โดยทิ้งระยะห่างเอาไว้ โจวมู่ยื่นมือไปรับมา

โจวมู่สวมเสื้อผ้าด้วยความเคลื่อนไหวเชื่องช้า แผ่ความสง่างามสูงศักดิ์ที่ติดตัวมาแต่เกิด กระทั่งสายรัดของชุดคลุมนอนกลายเป็นปมโบสวยงามในมือเขา สวี่จือถึงได้เอ่ยปากพูด

“ฉันหน้าแดงก็เพราะเขินจริงๆ นั่นแหละ” สวี่จือตอบคำถามเมื่อครู่ของโจวมู่ “แต่ต่อให้เปลี่ยนเป็นใครสักคนก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน”

สวี่จือเตือนโจวมู่ “เพราะงั้นนายอย่าหลงตัวเองเกินไปล่ะ”

โจวมู่หัวเราะทีหนึ่ง เดินมานั่งลงบนโซฟา แล้วเอ่ยด้วยเสียงฉะฉานอย่างยิ่ง “ทำยังไงดีล่ะ หลงตัวเองไปแล้ว”

สวี่จือคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้ ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ

โจวมู่ดูเหมือนจะชอบมองท่าทางแบบนี้ของสวี่จือเป็นพิเศษ เขาพิงไปข้างหลังเล็กน้อย ยกมือข้างหนึ่งวางไว้บนพนักโซฟา ท่วงท่าราวกับนักธุรกิจกำลังเจรจากัน

เขาเงยหน้ามองสวี่จือแล้วถามว่า “ตอนที่นายกำลังเขียนถึงฉัน นายกำหนดรสนิยมทางเพศของฉันไว้ยังไงเหรอ”

สวี่จือกอดผ้าห่มยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาไม่ได้กำหนดรสนิยมทางเพศของโจวมู่เอาไว้จริงๆ

“หืม? สวี่จือ” โจวมู่ยังคงถามซักไซ้

สวี่จือคิดว่าโจวมู่เองก็ใช่ว่าไม่อยากรู้อยากเห็นเลย แต่เขาแค่จะยึดติดกับคำถามที่ตัวเองรู้สึกสนใจเท่านั้น

สวี่จือก้มหน้ามองโจวมู่ ไม่รู้อะไรดลใจ จู่ๆ ก็บอกไปว่า “นายชอบเพศเดียวกัน”

เสียงของเขาแข็งกระด้าง แห้งผากราวกับถุงพลาสติกแข็งๆ ที่ถูกดึงจนสุด ช่างแตกต่างกับน้ำเสียงที่ดุโจวมู่เมื่อตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง

“อ๋อ…” โจวมู่ตอบรับด้วยเสียงลากเสียงยาว จากนั้นถามอีกครั้งว่า “งั้นฉันอยู่ในนิยายของนายก็โสดเหรอ”

“ใช่” สวี่จือตอบเสียงเบามาก

โจวมู่พยักหน้า ถามคำถามไม่จบไม่สิ้น “งั้นฉันมีคนที่ชอบไหม”

โจวมู่ยังคงอยู่ในท่าทางเจรจา เวลาที่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรทำให้รู้สึกว่าเคร่งขรึมมาก เมื่อคนทั่วไปถูกจ้องเช่นนี้จะต้องไม่กล้าพูดโกหกแน่นอน

แต่สวี่จือยังคงพูดมั่วๆ ไปอยู่ดี

“ไม่มี” สวี่จือบอก

โจวมู่ไม่ได้ตอบรับในทันที ห้องตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ

โจวมู่จ้องมองสวี่จือเนิ่นนาน เห็นแขนขาของสวี่จือแข็งเกร็งหมดแล้ว จากนั้นจึงก้มหน้าลง เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลงเล็กน้อย “ไม่มีเหรอ”

ข้างนอกมืดมากแล้ว ในห้องรับแขกเปิดโคมไฟตั้งพื้นซึ่งวางอยู่ตรงข้ามกับโซฟาเอาไว้ดวงหนึ่ง ทั้งตัวโจวมู่ถูกปกคลุมอยู่ในแสงไฟสีเหลืองนวล

เครื่องหน้าทั้งหน้าที่ดูเย็นชาแข็งกระด้างถูกทำให้อ่อนลง ดูท่าทางเป็นมิตรเข้าถึงง่ายขึ้นมา

เส้นผมตรงหน้าผากเขายังคงชื้นอยู่ ลู่ลงมาเกิดเป็นเงาเล็กๆ บริเวณกลางสันจมูก สวี่จือมองเห็นสีหน้าของเขาไม่ชัด

“ฉันเขียนไว้แบบนี้” สวี่จือพูดอย่างเหม่อลอย

โจวมู่เงยหน้ามองสวี่จือ นัยน์ตาสีเข้มลุ่มลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง ทั้งอ่อนโยนทั้งอันตรายอยู่บ้าง

สวี่จืออ้าปาก พูดด้วยความอึดอัดว่า “แต่ในเมื่อนายมาแล้วก็อาจจะไม่ตรงกันซะทั้งหมด”

“อืม” ครั้งนี้โจวมู่ตอบเร็วมาก เขามองสวี่จือแล้วหัวเราะทีหนึ่งอย่างผ่อนคลาย “ฉันก็คิดว่างั้น”

ความหมายของโจวมู่คือรสนิยมทางเพศไม่ตรงกับร่างคาแร็กเตอร์ หรือว่าไม่ตรงกับข้อที่ว่า ‘ไม่มีคนที่ชอบ’ กันแน่ สวี่จือไม่ได้ถาม

เขาโยนผ้าห่มฤดูร้อนที่กอดไว้ไปบนโซฟา “ราตรีสวัสดิ์”

จากนั้นก็หนีกลับไปในห้องนอนอีกครั้ง

สวี่จือเดินไปที่ระเบียง โน้ตบุ๊กของเขาตั้งค่าไว้ไม่ให้หน้าจอดับ ดังนั้นบนหน้าเดสก์ท็อปจึงยังเปิดไฟล์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เอาไว้

สวี่จือหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้พักผ่อน เริ่มครุ่นคิดถึงสาระสำคัญของการสร้างไฟล์เอกสารไฟล์นี้

“สวี่จือ!” โจวมู่ตะโกนอยู่ด้านนอก “ยาที่หมอเวินจ่ายให้ยังอยู่ที่ฉันนะ”

สวี่จือได้ยินแล้ว แต่ไม่ได้สนใจ

นิ้วมือของเขาเคาะลงบนแป้นพิมพ์ พิมพ์ตัวอักษรบรรทัดหนึ่ง

วันที่ 11 กรกฎาคม การจดบันทึกที่เกี่ยวกับโจวมู่มีได้มากมาย ยกตัวอย่างเช่น ‘โจวมู่โผล่ขึ้นมาบนเตียงของสวี่จืออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาสวี่จือตกใจจนโรควิตกกังวลเกือบจะกำเริบ’

เช่น ‘วันนี้โจวมู่ตรวจร่างกายทั้งหมดสิบสองรายการ’

เช่น ‘โจวมู่รสนิยมทางเพศไม่ชัดเจน’ หรือ ‘กินจุมาก ต้องการโจ๊กสองชาม’

“สวี่จือ?” โจวมู่หยุดอยู่หน้าประตู พูดกับอีกฝ่ายว่า “เอายามาให้นายแล้ว”

“รู้แล้ว” สวี่จือตอบรับคำหนึ่ง

สวี่จือกดเซฟแล้วปิดไฟล์ ชื่อไฟล์ตั้งเป็น Doc1 โดยอัตโนมัติ

เขาคิดว่าหากวันไหนโจวมู่หายไปกะทันหัน อย่างน้อยไฟล์พวกนี้ก็สามารถทิ้งความคิดถึงเอาไว้ได้ แม้โจวมู่จะเป็นปัญหายุ่งยากชิ้นใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เลวร้าย…ไม่ใช่หรือ

 

‘Doc1 : วันที่ 11 กรกฎาคม โจวมู่ทำให้สวี่จือใจเต้นรัว’

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com