ทดลองอ่าน ไฟล์ข้อมูลของการตกหลุมรัก บทที่ 11-12 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ไฟล์ข้อมูลของการตกหลุมรัก บทที่ 11-12 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 12

14 กรกฎาคม น้ำเสียงเน้นหนัก

 

สวี่จือเสียเวลาไปเพราะเก็บหนี้กับโจวมู่ อีกทั้งตอนเรียกแท็กซี่ก็ยังเจอรถติด ดังนั้นกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลของเวินซูเหยาเวลาก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว เวินซูเหยารอจนหน้าดำคร่ำเครียด

สวี่จืออธิบายกับเขาว่า “ซูเหยา ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไม่มานะ”

“รู้น่ะ” เวินซูเหยาพยักหน้า จ้องริมฝีปากที่แดงชุ่มของเขา ไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด “คนรักอยู่ในอ้อมอก ปลีกตัวไม่ได้ก็เป็นเรื่องธรรมดา”

สวี่จือเห็นเขาไม่ได้โกรธจริงๆ ก็เริ่มแหย่ไม่เข้าท่า “เวลานายกับสุดหล่อของนายเมกเลิฟในเวลางาน ฉันก็ไม่เคยกวนนาย”

เวินซูเหยาถูกเขาจี้จุดจนไปไม่เป็น จึงหันหน้าหนีโดยไม่พูดไม่จา

สวี่จือเม้มปากยิ้ม นึกถึงจูบตอนก่อนออกจากบ้านพวกนั้นอีกครั้ง แล้วเกิดจิตใจฟุ้งซ่านขึ้นมา

เวินซูเหยาถอนหายใจหนักๆ กล่าวด้วยความผิดหวัง “นายเองก็ได้แค่นี้แหละ”

ทั้งสองคนไปที่ห้องทำงานของเวินซูเหยา อีกฝ่ายเดินไปปิดม่านผ้าโปร่งที่ข้างหน้าต่างก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะรินน้ำแก้วหนึ่งให้สวี่จือและให้เขานั่ง

สวี่จือรับน้ำมา เดินไปนั่งริมโซฟาที่อยู่ชิดผนัง รอการซักถามตามปกติจากเวินซูเหยา

เวินซูเหยาเดินไปนั่งลงตรงข้ามเขา เฝ้าสังเกตอาการของสวี่จืออย่างละเอียด ตั้งแต่สีหน้าไปจนถึงอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ ไม่ตกหล่นแม้แต่อย่างเดียว

สวี่จือถนัดในการจับสังเกตคนอื่น แต่ไม่ชินกับการถูกคนอื่นจับสังเกต แม้เวินซูเหยาจะวินิจฉัยเขาอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เขายังคงมีความรู้สึกตึงเครียดแบบเวลาที่ผู้ป่วยต้องเผชิญหน้ากับหมอ

“เสี่ยวจือ” เวินซูเหยาเอ่ยปากช้าๆ “ผ่อนคลาย”

สวี่จือสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง ค่อยๆ ผ่อนคลาย แต่ก็ได้ผลเพียงน้อยนิด

เวินซูเหยาถอดเสื้อกาวน์ที่แสดงฐานะของแพทย์ออก นั่งพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย แล้วถามสวี่จือว่า “เมื่อคืนเล่นกันหนักเกิน?”

สวี่จือถือแก้วน้ำหมุนไปมา ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แม้ว่าเมื่อคืนจะไม่ได้ทำอะไร แต่การจูบก็กระทบต่อการนอนหลับ ถือว่าเกินไปหน่อยจริงๆ จึงยอมรับตามตรง

เวินซูเหยาเองก็ไม่ได้มีสีหน้าประหลาดใจ เขาพยักหน้าและถามต่อว่า “กินยาที่ฉันจ่ายให้นายแล้วหรือยัง”

“กินแล้ว” สวี่จือบอก

“แต่ผลข้างเคียงชัดมาก” สวี่จือกล่าวต่อ “เวียนหัว คิดช้า เซื่องซึม”

เวินซูเหยาอธิบายให้เขาฟังอย่างชำนาญ “ส่วนประกอบบางอย่างที่อยู่ในยาจิตเวชจะมีผลอย่างนี้จริงๆ” กล่าวจบก็เน้นย้ำกับสวี่จือว่า “แต่นายจะหยุดยาเองไม่ได้”

สวี่จือไม่พูดไม่จา เวินซูเหยาบอกอีกครั้ง “กระบวนการรักษาจะต้องครบถ้วน…”

สวี่จือต่อบทสนทนาเขา “…หลังจากผลการรักษาทางคลินิกชัดเจนแล้ว ระยะรักษาเสริมความคงที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงหกเดือน ในขั้นตอนการรักษาเสริมความคงที่และประคับประคอง การใช้จิตบำบัดร่วมด้วยก็จำเป็นเหมือนกัน”

คำพูดนี้เวินซูเหยาพูดมาตลอดตั้งแต่ที่สวี่จือมารับคำปรึกษาด้านจิตวิทยากับเขาครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนจนสวี่จือท่องจำได้แล้ว

เวินซูเหยา “…”

เวินซูเหยา “ในเมื่อนายรู้ ก็อย่าทำให้เป็นห่วง”

“อืม” สวี่จือพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ฉันรู้แล้ว”

“โจวมู่ไม่ได้มากับนาย?” เวินซูเหยาถามผ่านๆ

เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตนของโจวมู่ถูกเปิดเผย สวี่จือจึงไม่ได้พาโจวมู่มาด้วย แต่ให้รออยู่ที่บ้านคนเดียว

สวี่จือเงยหน้ามองเวินซูเหยา ไม่ได้สัมผัสถึงท่าทีสืบเสาะอะไรบนใบหน้าเขา จึงพยักหน้า

ดูท่าทางเวินซูเหยายังคิดจะถามต่อ สวี่จือจึงพูดอย่างต่อต้านเล็กน้อย “ไม่ต้องพูดถึงเขาแล้ว ซูเหยา”

เวินซูเหยานิ่งงันไปและไม่ได้พูดถึงอีก จากนั้นก็คุยเรื่องอื่นกับเขาต่อ

ท่าทีบนใบหน้าของสวี่จือดูเหมือนกำลังตั้งใจฟัง แต่ในความเป็นจริงความคิดหลุดลอยไปนานแล้ว

เขาไม่ได้ซื้อโทรศัพท์ให้โจวมู่ ตอนนี้จึงไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้

เขาอยากรู้มากว่าเวลาที่เขาไม่อยู่โจวมู่กำลังทำอะไรอยู่ที่บ้าน ถึงอย่างไรโจวมู่ก็เป็นบุคคลอันตราย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะก่อความเสียหายต่อบ้านและทรัพย์สินของเขา

ดังนั้นขณะที่เวินซูเหยาพูดโน้มน้าวปากเปียกปากแฉะด้วยความหวังดี สวี่จือจึงแอบกดสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่ง และระบุหมายเหตุเป็นคำพูดที่ต้องการให้พนักงานส่งของบอกต่อโจวมู่

เวินซูเหยาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นท่าทางใจลอยของเขา ยังคงให้คำแนะนำทางจิตวิทยากับเขาโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

จนกระทั่งท้ายที่สุดเวินซูเหยาพูดจนเหนื่อยแล้ว สวี่จือก็ยังไม่หลุดจากท่าทีรอสายโทรศัพท์

ราวๆ ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของสวี่จือก็สั่นครืด

เบอร์โทรศัพท์เป็นซิมการ์ดสำรองสักอันหนึ่งที่เขาเอาไว้ที่บ้าน

สวี่จือดีใจขึ้นมาทันที แต่ไม่อยากแสดงออกชัดเจนต่อหน้าเวินซูเหยา จึงแสร้งทำเป็นว่ามีธุระสำคัญ ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วรีบเดินไปที่ทางเดินของอาคาร

เมื่อรับสาย เสียงของโจวมู่ก็ดังผ่านลำโพงออกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาโทรคุยกัน สวี่จือรู้สึกแปลกใหม่มากและค่อนข้างตื่นเต้น

“สวี่จือ” โจวมู่เรียกอยู่ในโทรศัพท์เสียงค่อย

“อืม” สวี่จือตอบรับอย่างเย็นชา ถามโจวมู่ว่า “โทรมาทำไม”

น้ำเสียงเหมือนกับว่าเขาไม่รู้เลยว่าใครอยากคุยโทรศัพท์กับโจวมู่ และใครซื้อโทรศัพท์มือถือให้โจวมู่แล้วให้คนไปส่งถึงบ้านทันที

โจวมู่ไม่ได้เปิดโปงเขา ถามด้วยรอยยิ้มอยู่ในสายว่า “นายจะกลับบ้านเมื่อไหร่”

หัวใจของสวี่จือเต้นแรงเพราะคำพูดธรรมดาๆ ประโยคนี้ จากนั้นก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปราวกับลูกโป่งอัดแก๊สที่หลุดจากพันธนาการ

“ทำไม” สวี่จือยังคงแสดงท่าทีไม่สะทกสะท้าน

“หิวแล้วครับ” โจวมู่พูดอยู่ในสาย “อยากรอนายกลับมาพาฉันไปซื้อข้าว ฉันไม่มีเงิน”

มือของสวี่จือที่ถือโทรศัพท์มือถือกำแน่นขึ้น พึมพำเสียงเบามาก “ห่างจากฉันไม่ได้ขนาดนี้เชียว?”

คำพูดประโยคนี้หากนิยามตามระดับความดังของเสียงนั้นน่าจะเป็นการพูดกับตัวเองมากกว่า แต่โจวมู่ได้ยินแล้ว

โจวมู่ยอมรับ “ใช่ ห่างจากนายไม่ได้”

สุดท้ายสวี่จือก็วางสายอย่างรวดเร็ว ก่อนเดินกลับไปยังห้องทำงานของเวินซูเหยาแล้วบอกกับอีกฝ่ายว่า “ฉันจะกลับบ้านแล้ว”

เวินซูเหยาไม่แปลกใจเลยสักนิด ถามสวี่จือว่า “โจวมู่?”

“อืม” สวี่จือพยักหน้า น้ำเสียงอิ่มเอมใจอยู่บ้าง “ในสายเขาเร่งฉันกลับบ้านตลอด”

พูดจบก็มองเวินซูเหยาด้วยสีหน้าโอ้อวด

ในคำพูดประโยคนี้สวี่จือใช้น้ำเสียงเน้นหนักสองจุด ใส่ไว้ตรง ‘เร่ง’ คำหนึ่ง และอีกคำหนึ่งใส่ไว้ตรง ‘บ้าน’ เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ แต่เขาหวังว่าเวินซูเหยาจะจับได้

เวินซูเหยาถอนหายใจ พูดอย่างไว้หน้าว่า “รู้แล้วว่าโจวมู่เร่งนายกลับบ้าน”

เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงเน้นหนัก สวี่จือมองเขาอย่างไม่พอใจ

เวินซูเหยาสบตาเขาไม่กี่วินาทีก็ชิงยอมแพ้ พูดประโยคนี้ใหม่ ใช้น้ำเสียงเน้นหนักที่สองคำนั้นเหมือนกับสวี่จือ

สวี่จือพยักหน้าอย่างพอใจ

“ติดหนึบกันจริงๆ” เวินซูเหยาอับจนคำพูดสุดๆ แล้ว อดพูดแขวะไม่ได้

สวี่จือไม่เพียงแค่ไม่โกรธ แต่ยังเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเวินซูเหยาด้วย สีหน้าดูกลัดกลุ้มใจ “อืม เขาติดคน”

พูดจบก็เดินออกไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์เลยสักนิด “งั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะ”

เวินซูเหยามองเขากำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นก็เอ่ยปากเรียกเขาไว้ “เสี่ยวจือ”

สวี่จือหมุนตัวกลับมาเล็กน้อย ถามว่ามีอะไร

“ไม่มีอะไร” เวินซูเหยามองเขาสองสามวินาทีแล้วยิ้ม “มีปัญหาก็มาหาฉันได้ตลอด”

สวี่จือขมวดคิ้ว ก่อนจะโบกมือไปมาเป็นเชิงว่ารู้แล้ว

เขาคิดในใจ ตอนนี้ไม่มีเวลาจะทำกิจกรรมปรึกษาด้านจิตวิทยาอันไร้ความหมายกับเวินซูเหยาแล้ว ถึงอย่างไรที่บ้านก็ยังมีคนที่อยู่ห่างจากเขาไม่ได้คนหนึ่ง โจวมู่ที่ติดคนกำลังรอเขาอยู่

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน ไฟล์ข้อมูลของการตกหลุมรัก

วางจำหน่ายแบบรูปเล่มที่เว็บไซต์ Jamsai Store, ร้าน Jamclub และร้านหนังสือทั่วไป

 

รวมถึงในรูปแบบอีบุ๊กที่

Meb / OOKBEE / Fictionlog / Naiin App / SE-ED / Hytexts / comico และ ARN

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com