ทดลองอ่าน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 2 บทที่ 44-45 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 2 บทที่ 44-45 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 45

 

สิ่งที่จิ่งฮวนทนเห็นไม่ได้มากที่สุดก็คือการเล่นตุกติกแบบนี้ในสนามบาส สมัยมัธยมตอนปลายก็เคยมีคนจงใจยื่นขามาขัดจนเกาจื้อเสียงจนล้มในการแข่ง ต่อมาเขากับเกาจื้อเสียงก็ขัดขาอีกฝ่ายคืนนับครั้งไม่ถ้วน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ถึงแม้วิธีการจะดูเด็กแต่ก็ใช้ได้ผล หลังจากนั้นคนคนนั้นก็ไม่กล้ามาเล่นบาสกับพวกเขาสองคนอีกเลย

เวลานี้รอบข้างมีคนดูอยู่มากทำให้ชายคนนั้นรู้สึกขายหน้า เขาลุกขึ้นและคิดจะเดินกลับเข้ามาในสนาม แต่เซี่ยงไหวจือกลับยืนอยู่ตรงหน้าจิ่งฮวน บดบังตัวของเขาไปครึ่งหนึ่ง ท่าทางเหมือนพยายามจะปกป้อง

“พี่เซี่ยง แบบนี้ถือว่าหมอนั่นฟาวล์นะ” ชายคนนั้นกัดฟัน “เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง…แต่นี่ควรมีการชู้ตลูกโทษสิ?”

เซี่ยงไหวจือจ้องอีกฝ่ายเขม็ง “ใช้วิธีกระแทกคนอื่นจนเบื่อแล้ว ตอนนี้เลยจะหัดแกล้งทำฟาวล์งั้นเหรอ”

“แกล้งฟาวล์…” ผู้ชายคนนั้นชะงัก ทันใดนั้นก็พูดอย่างเกรี้ยวกราด “แกล้งทำฟาวล์บ้าบออะไร! เขากระแทกผมต่างหาก!”

“ดูจากรูปร่างของนายสองคนแล้ว…” เซี่ยงไหวจือหยุดพูด “เขาเนี่ยนะจะกระแทกนาย?”

จิ่งฮวน “…?”

เมื่อเซี่ยงไหวจือพูดแบบนั้น พวกคนที่เข้ามาประคองชายหนุ่มคนนั้นก็พากันตกตะลึงและหันมาพิจารณาจิ่งฮวนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็หันกลับไปมองชายร่างใหญ่อีกรอบ

รูปร่างของจิ่งฮวนเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นๆ ก็ไม่ถือว่าผอม แต่ถ้าเทียบกับชายร่างใหญ่คนนี้ก็ถือว่าตัวบางกว่ามาก

เมื่อนึกถึงการเล่นบาสของคนข้างตัว สองสามคนนั้นก็พากันอุทานก่อนจะปล่อยมือที่ช่วยพยุงหนุ่มร่างใหญ่ทันที

“ช่างเถอะๆ เรื่องเล็กแค่นี้เอง เล่นบาสมันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นปกติอยู่แล้ว” ใครบางคนพยายามไกล่เกลี่ย “เล่นต่อกันเถอะ”

“แม่ง…” ชายร่างใหญ่สบถเสียงต่ำออกมาหนึ่งคำ แต่ก็รู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่สามารถทำให้วุ่นวายได้ “ช่างเถอะ”

ขณะที่จิ่งฮวนจะกลับไปประจำตำแหน่งเดิมก็ถูกคว้าแขนเอาไว้

“นายกลับไปตำแหน่งก่อนหน้านี้เลย” เซี่ยงไหวจือพูด

“ไม่” จิ่งฮวนยืนยัน “ผมอยากเล่นกองหลัง…”

ทันทีที่พูดจบจู่ๆ เซี่ยงไหวจือก็ยื่นมือออกมาหาเขา

มือของชายหนุ่มเคลื่อนไหวอยู่บนหัวเขาครู่หนึ่ง แต่เพราะกลัวว่าจะทำผมของเขาสกปรก สุดท้ายจึงใช้มือดันหลังเขาแล้วออกแรงผลักให้เดินไปข้างหน้าเบาๆ

“กลับไป” เซี่ยงไหวจือพูด “ฟังกันหน่อยเถอะ”

“…”

มือของเซี่ยงไหวจือใหญ่มาก ส่วนเสื้อของจิ่งฮวนเองก็บางทำให้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ความอบอุ่นค่อยๆ กระจายจากกระดูกสันหลังลามไปทั่วทั้งตัว

แล้วที่มือนั้นมาวนไปเวียนมาอยู่แถวๆ หัวเขาเมื่อกี้นี้…คิดจะทำอะไรกันแน่

คนอื่นๆ เร่งเร้าโดยไม่ปล่อยให้จิ่งฮวนได้มีเวลาคิดมาก เขาจึงดึงสติกลับมา “…รู้แล้ว”

เพราะแต้มห่างกันมากแถมเมื่อกี้ยังมีเรื่องเกิดขึ้น ทีมตรงข้ามจึงหมดกำลังใจจะต่อสู้ ในควอเตอร์สุดท้ายแทบจะมีแค่ทีมของจิ่งฮวนที่ทำแต้มได้ จนสุดท้ายก็ชนะมาแบบขาดลอย

จิ่งฮวนเดินไปข้างๆ ม้านั่งแล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเหงื่อก่อนจะยกยิ้มให้เซี่ยงไหวจือที่อยู่ด้านข้าง “รุ่นพี่ หมอนั่นอยู่ทีมบาสจริงเหรอ ทำไมผมไม่เห็นเขาจะเล่นเก่งอะไรเลย เก่งไม่เท่าลู่เหวินเฮ่าด้วยซ้ำ”

เซี่ยงไหวจือพยักหน้าเห็นด้วย “ก็ไม่เก่งจริงๆ นั่งแหละ น่าจะเพราะโค้ชมหา’ลัยเห็นหุ่นเขาดีเลยอยากฝึกเขาล่ะมั้ง”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้จิ่งฮวนก็นึกถึงเรื่องเมื่อครู่ขึ้นมาได้

เซี่ยงไหวจือเช็ดเหงื่อ เขาหยิบขวดน้ำแร่มากำลังจะบิดเกลียวเปิด แต่จู่ๆ คนข้างๆ ก็มาคว้ามือเขาไว้

สิ่งที่ตามมาก็คือกลิ่นหอมของแชมพูผสมกับกลิ่นเหงื่อจางๆ ที่ลอยเข้ามาในจมูกของเขา

เขาหันไปมองด้วยความสงสัยก็พบว่าคนข้างๆ กำลังขยับเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ใช้มือเพียงข้างเดียวดึงชายเสื้อเลิกขึ้น

สีผิวของชายหนุ่มขาวยิ่งกว่าสาวๆ หลายคน บนร่างยังมีรอยเหงื่อจางๆ อยู่ด้วย

จิ่งฮวนสูดหายใจเบาๆ เผยให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องรำไร

“รุ่นพี่ ที่พี่พูดก่อนหน้านี้ก็ดูถูกผมไปหน่อยนะ” จิ่งฮวนพูดจริงจัง “ผมก็มีกล้ามท้องเหมือนกันนะ ถึงจะไม่ชัดก็เถอะ…”

เซี่ยงไหวจือหยุดมองไม่กี่วินาทีก่อนจะละสายตากลับมาทื่อๆ

“อืม” เขาควบคุมความเร็วในการพูด “นายเก่งกว่าหมอนั่นอีก”

“แน่นอนสิ ต่อให้ผมไม่ตั้งใจเล่นก็ยังดั๊งก์ใส่หัวหมอนั่นได้สบายๆ”

จิ่งฮวนพูดอย่างเห็นด้วยจบแล้วก็พลันคิดได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

คำพูดของเซี่ยงไหวจือเมื่อกี้ ฟังไปฟังมาก็เหมือนคำพูดหลอกเด็กเลย

เขาขยับริมฝีปาก ทั้งยังคิดจะพูดอะไรเสริม แต่แล้วก็มีขวดน้ำแร่ที่ยังไม่ได้เปิดขวดหนึ่งยื่นเข้ามาตรงหน้าเขา

จากนั้นก็พบว่าเป็นหญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตยาวกับกระโปรงสั้น มัดผมแกะสองข้าง ทั้งตัวมีกลิ่นหอมกรุ่น เธอมองมาที่จิ่งฮวนด้วยสีหน้าเขินอาย

“รุ่นพี่คะ…” เธอกะพริบตา “ขวดนี้ให้พี่ค่ะ”

การได้รับน้ำจากสาวๆ เป็นเรื่องปกติสุดๆ สำหรับพวกเขาทั้งคู่ สมัยเข้ามาปีหนึ่งคนที่อยากให้น้ำเซี่ยงไหวจือถึงกับต้องเข้าแถวต่อคิวเลยทีเดียว หลังจากเซี่ยงไหวจือปฏิเสธอย่างเย็นชาอยู่ครึ่งเทอมสถานการณ์ทำนองนี้ถึงค่อยๆ หายไป

เซี่ยงไหวจือเม้มปาก ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้เขาเหมือนส่วนเกินไม่มีผิด

จิ่งฮวนเงยหน้าส่งเสียงหัวเราะก่อนจะพูด “ขอบใจนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีน้ำแล้ว”

“พี่กินหมดไปแล้วนี่นา ฉันเห็นนะคะ” หญิงสาวพูดพลางหน้าแดง “ขวดนี้ฉันเพิ่งซื้อมา ยังเย็นๆ อยู่เลย”

“ขอโทษที ฉันไม่ชอบกินน้ำเย็น” จิ่งฮวนพยักพเยิดไปยังขวดน้ำที่เหลืออยู่ครึ่งขวดบนม้านั่ง “แถมฉันยังเหลือขวดนั้นอยู่อีก”

หญิงสาวเอ่ยต่อ “แต่ขวดนั้นเป็นของรุ่นพี่เซี่ยงนะคะ…”

“เราสนิทกัน ไม่คิดมากหรอก กินด้วยกันได้หมดแหละ” จิ่งฮวนไม่ได้พูดโกหก เขามักจะกินน้ำขวดเดียวกับพวกลู่เหวินเฮ่าเสมอ ขอแค่ปากไม่โดนขวดก็พอแล้ว “ใช่ไหมฮะรุ่นพี่”

เซี่ยงไหวจือเลิกคิ้วเล็กน้อย ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบ “…อืม”

หลังจากสาวน้อยเดินจากไป จิ่งฮวนก็เลียริมฝีปาก ตอนไม่พูดก็เฉยๆ แต่พอพูดแล้วก็กระหายน้ำขึ้นมาเลย เขาหันมองซ้ายขวาก็พบว่าไม่มีขวดน้ำที่ยังไม่ได้เปิดแล้ว

เมื่อเห็นการกระทำของเขา เซี่ยงไหวจือจึงเอ่ยถาม “หิวน้ำเหรอ”

“นิดหน่อยครับ” จิ่งฮวนลูบท้อง “งั้นผมไปก่อนนะรุ่นพี่ ต้องไปหาอะไรกินที่หน้าประตูมหา’ลัยหน่อย”

เมื่อเห็นท่าทางของเขาเซี่ยงไหวจือก็ขมวดคิ้ว “นายยังไม่ได้กินข้าวเช้าเหรอ”

“ยังครับ ตอนแรกกะว่าจะกลับไปนอนต่อ” เมื่อจิ่งฮวนพูดจบก็หยิบโทรศัพท์บนม้านั่งขึ้นมา “ไว้มาเล่นบาสด้วยกันอีกนะครับ รุ่นพี่”

“เดี๋ยวก่อน” เซี่ยงไหวจือเรียกเขาไว้ “ไปด้วยกันสิ ฉันเลี้ยงเอง”

ไม่รอให้เขาได้ตอบกลับ เซี่ยงไหวจือก็รีบเปิดปากอธิบายก่อน

“เป็นรางวัลที่ช่วยให้ฉันชนะไง”

สิบนาทีถัดมา ทั้งสองคนเดินเคียงกันเข้าไปในร้านไก่อบขิงใกล้ๆ มหาวิทยาลัย

ความคิดของเซี่ยงไหวจือนั้นเรียบง่ายมาก เขาเลี้ยงข้าวจิ่งฮวนเพื่อช่วยอีกฝ่ายลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน

“รุ่นพี่ ไก่อบขิงร้านนี้อร่อยมากเลยนะครับ!” จิ่งฮวนหักตะเกียบแล้วยื่นให้เขา “ผมชอบสั่งอาหารร้านนี้ไปกินที่บ้าน”

เซี่ยงไหวจือชะงัก เขารับตะเกียบมา “ฉันรู้แล้ว เคยมีคนบอกฉันแล้ว”

จิ่งฮวนพยักหน้า “คนคนนั้นตาถึงมากเลยนะเนี่ย”

เซี่ยงไหวจือ “…” ชมไปก็เข้าตัวเองทั้งนั้น

กินไปได้ไม่กี่คำเซี่ยงไหวจือก็นึกอะไรบางได้ “รีสอร์ตที่นายไปพักคราวก่อน ค่าที่พักคืนหนึ่งเท่าไรนะ ฉันจะได้คืนเงินค่าที่พักให้นาย”

จิ่งฮวนช้อนตาขึ้นมอง “หา? ไม่เป็นไรครับ ครั้งนั้นลู่เหวินเฮ่าเป็นคนออก ผมไม่ได้จ่ายเลย”

การไปเที่ยวรีสอร์ตครั้งนั้นจริงๆ ลู่เหวินเฮ่าเป็นคนจ่ายให้ ก่อนหน้านี้จิ่งฮวนซื้อรองเท้าผ้าใบรุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นซึ่งมีแค่ไม่กี่ร้อยคู่ในโลกให้ลู่เหวินเฮ่าเป็นของขวัญวันเกิด เมื่อลู่เหวินเฮ่าได้เห็นก็น้ำตาแทบไหล อีกนิดก็จะเรียกเขาว่าพ่อแล้ว

เซี่ยงไหวจือพยักหน้า ในใจคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

หลังกินดื่มกันจนอิ่มจิ่งฮวนก็ซดน้ำซุปพลางหยิบมือถือออกมาพิมพ์ข้อความด้วยมือเดียวอย่างชำนาญ

เซี่ยงไหวจือรู้สึกได้ถึงการสั่นในกระเป๋าจึงหยุดเคี้ยวทันที

ไม่กี่วินาทีถัดมา

ครืด…ครืด…

มือถือสั่นอีกสองครั้ง

เซี่ยงไหวจือหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยท่าทางสุขุม

 

เสี่ยวจิ่งยา พี่ชายตื่นหรือยังค้า >.<

เสี่ยวจิ่งยา [นอนเตียงเดียวกัน.jpg]

เสี่ยวจิ่งยา พี่ชายวันนี้จะออนเกมกี่โมงเหรอ [นิ้วจิ้มกัน]

เซี่ยง …อีกสักพัก

เสี่ยวจิ่งยา โอเคค่ะ [รูปภาพ] ดูสิคะ ฉันกินไก่อบขิงอยู่!

 

ไก่อบขิงที่อยู่ในภาพก็วางอยู่ตรงหน้าเขานี่แหละ

ทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามกันแท้ๆ แต่กลับคุยกันผ่านวีแชต เซี่ยงไหวจือเพิ่งเคยเจออะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก

ตอนแรกเขาคิดว่ากลับไปก่อนค่อยตอบ ทว่าหลังจากเห็นตะเกียบของตัวเองปรากฏอยู่ในภาพ เซี่ยงไหวจือก็พิมพ์ข้อความตอบไปโดยไม่ทันคิด

 

เซี่ยง กินกับเพื่อนเหรอ

เสี่ยวจิ่งยา ใช่ค่ะ

 

เซี่ยงไหวจือมองจอแล้วอดหัวเราะไม่ได้ เขาก็เป็นไปด้วยแล้วหรือไง ทำไมตัวเองถึงกลายเป็นโรคจิตไปแล้วล่ะ

เขากำลังจะปิดมือถือ แต่อีกฝ่ายก็ตอบข้อความกลับมาก่อน

 

เสี่ยวจิ่งยา อ้อ พี่ชายอย่าเข้าใจผิดนะคะ เป็นเพื่อนผู้หญิงน่ะ >O<!

 

เซี่ยงไหวจือยิ้มค้าง

 

เซี่ยง ?

เสี่ยวจิ่งยา เป็นรุ่นพี่ผู้หญิงที่ดีมากเลยค่ะ ^^

เซี่ยง

 

อยู่ดีๆ ก็โดนแจกบัตรคนดี เสียอย่างนั้น ในใจเซี่ยงไหวจือสับสนไปหมด

กินอาหารเสร็จทั้งคู่ก็เดินออกจากร้าน สายตาจิ่งฮวนจับจ้องไปยังร้านชานมฝั่งตรงข้าม “รุ่นพี่ อยากกินชานมไหมครับ”

เซี่ยงไหวจือไม่ค่อยกินชานมที่ทั้งหวานและมันเกินไป เขาชำเลืองมอง “นายอยากกินเหรอ”

“อยากครับ!” จิ่งฮวนถอนหายใจ “ไม่ได้กินมานานแล้วอะ”

เขาไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงที่พูดอย่างเสียดายนั่นทำให้คนฟังที่อยู่ข้างๆ รู้สึกสงสารมากเพียงใด

“งั้นไปเข้าแถวสิ”

ไม่นานนักจิ่งฮวนก็ถือชานมสามแก้วยืนอยู่หน้าร้านชานมด้วยสีหน้ามึนงง

เมื่อกี้ตอนที่ต่อแถวจนถึงคิว เซี่ยงไหวจือถามว่าเขาอยากดื่มอะไร พอเขาตอบไปหนึ่งประโยคก็ได้ยินเซี่ยงไหวจือพูดกับพนักงานว่า “ชานม XX สามแก้วครับ”

จากนั้นก็เปิดคิวอาร์โค้ดของจือฟู่เป่า และจ่ายเงินให้เสร็จสรรพ

ทีแรกเขาคิดว่าเซี่ยงไหวจืออยากดื่มเอง แต่สุดท้ายเมื่อได้ชานมแล้ว เซี่ยงไหวจือกลับยื่นชานมสามแก้วนั้นใส่มือเขาก่อนบอกลาแล้วจากไป

จิ่งฮวนเอียงคอด้วยความสับสน

เมื่อกี้นี้เขาดู…ตะกละขนาดนั้นเลยเหรอ

 

หลังจากเอาชานมสองแก้วไปใส่ตู้เย็น จิ่งฮวนก็มานั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้วขยับเม้าส์ไปมา หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ส่องสว่างขึ้นมาทันที

ก่อนออกจากบ้านเขาเปิดไอดีทิ้งไว้ที่เเดนเซียนเผิงไหล ตอนนี้ได้ค่าประสบการณ์มาสองสามหมื่นแต้มแล้ว

ไอคอนเพื่อนกะพริบไม่หยุด จิ่งฮวนเลยเปิดดู

 

[เพื่อน] ชิวเฟิง : เสี่ยวจิ่งจิ่ง มาแต่เช้าเลยนะ

[เพื่อน] ชิวเฟิง : AFK เหรอ

[เพื่อน] ชิวเฟิง : มาแล้วก็ตอบหน่อยนะ [น่ารัก]

[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : อ๋อ ฉันไม่ลงดันนะ

[เพื่อน] ชิวเฟิง : เธอมาพอดีเลย ไม่ใช่เรื่องลงดันหรอก เรื่องอื่นน่ะ เธอรอฉันตรงนั้นนะ เดี๋ยวฉันไปหา

[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : เรื่องอะไรเหรอ O.O

[เพื่อน] ชิวเฟิง : เรื่องใหญ่!

 

จิ่งฮวนกลัวนายชิวเฟิงคนนี้จริงๆ ปฏิเสธกี่ครั้งยังไงก็ไล่ไม่ไปสักที

ไม่นานบัณฑิตชุดขาวก็เดินมาอยู่ข้างๆ เขา โบกพัดในมือไปมาเบาๆ อย่างสง่าและนุ่มนวล

 

[ชิวเฟิงส่งคำเชิญให้คุณเข้าร่วมปาร์ตี้ — (ยอมรับ) (ปฏิเสธ)]

 

จิ่งฮวนคลิกที่ปุ่มยอมรับ

“เสี่ยวจิ่งจิ่ง กินข้าวหรือยัง” เมื่อเข้ามาในปาร์ตี้ เสียงของชิวเฟิงก็ดังขึ้นมาทันที

 

[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : กินแล้ว นี่เราต้องไปที่ไหน

 

“บอกไม่ได้ แต่ไม่ได้พาเธอไปขายหรอก” ชิวเฟิงถามต่อ “เธอยังพูดไม่ได้อีกเหรอ”

 

[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : …ไม่ได้

 

ขณะที่จิ่งฮวนกำลังลังเลว่าจะกดออกดีไหม พวกเขาก็ผ่านศาลเจ้าผู้เฒ่าจันทรา มือของเขากลับมีเหงื่อผุดซึมขึ้นมาพลางสงสัยว่าชิวเฟิงจะพาเขาเข้าไปที่นั่นเพื่อยื่นเรื่องแต่งงานหรือเปล่า

เขามองดูเส้นทางการเดินของชิวเฟิงเขม็งจนทำให้ไม่ทันเห็นการแจ้งเตือนผู้เล่นออนไลน์ที่กล่องข้อความด้านขวาของหน้าจอ

ทันทีที่เซี่ยงไหวจือออนไลน์ก็ได้รับแจ้งเตือนข้อความหนึ่ง แจ้งว่าอัญมณีที่เขาจองเอาไว้ได้รวบรวมสำเร็จแล้ว

มันเป็นอัญมณีที่เขาจองไว้สำหรับแหวนของจิ่งฮวน ยิ่งเลเวลของอัญมณีบนแหวนสูงเท่าไร พลังฮีลของถ้ำเซียนจิ้งจอกก็จะยิ่งสูงเท่านั้น เมื่อไปประลองในอารีน่าก็จะยิ่งสบายมากขึ้น

หลังจากได้รับอัญมณีมาแล้ว เซี่ยงไหวจือก็เปิดรายชื่อเพื่อน

ชื่อ ‘จิ่งแสนหวานตัวน้อย’ ส่องสว่างอยู่ แปลว่าอีกฝ่ายกำลังออนไลน์

แต่น่าจะกำลัง AFK ไม่งั้นคงส่งข้อความมาหาเขาแต่แรกแล้ว

เซี่ยงไหวจือคลิกดูที่โพรไฟล์ของจิ่งแสนหวานตัวน้อยเพื่อดูพิกัดของอีกฝ่ายและเตรียมจะเอาอัญมณีไปให้

 

วังจันทรา (19.21)

 

ไปทำอะไรที่วังจันทรา

ที่นั่นเป็นแผนที่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม แต่เลเวลแผนที่ต่ำเลยไม่ค่อยมีใครไปกัน

ขณะที่กำลังสงสัยก็พบว่าพิกัดของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

วังจันทรา (44.102)

 

ที่แท้ก็ไม่ได้ AFK

ในเมื่อไม่ได้ AFK แล้วก็ออนไลน์มาตั้งนานแล้ว ทำไมอีกฝ่ายยังไม่ส่งข้อความมาอีกล่ะ

เซี่ยงไหวจือคลิกจุดวาร์ปของเมืองหลัก จากนั้นก็กดวาร์ปไปที่วังจันทราและมุ่งหน้าไปยังพิกัดที่จิ่งแสนหวานตัวน้อยอยู่ทันที

ชายชุดดำเดินเข้าไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็ชะงักงัน

บริเวณหน้าดาวตกพระจันทร์เต็มดวงที่อยู่ไม่ไกลนักมีบัณฑิตในชุดขาวและเซียนจิ้งจอกน้อยที่กำลังสะบัดพวงหางใหญ่โตไปมายืนอยู่ ทั้งสองยืนอยู่ใกล้กันมากจนตัวแทบจะติดกันและดูสนิทสนมสุดๆ

หลังจากนั้นไม่นานที่เท้าของบัณฑิตคนนั้นก็มีดอกไม้ค่อยๆ บานออก…เป็นเอฟเฟ็กต์ดอกไม้ไฟพิเศษในเกมที่ให้ผู้เล่นควบคุมเอง

ดอกไม้หลากสีหลายร้อยดอกบานขึ้นมาพร้อมกันเป็นรูปหัวใจ ตรงกลางเป็นตัวอักษร ‘จิ่ง’ ตัวใหญ่ ดอกไม้ผุดขึ้นมาทุกที่และกลายเป็นดอกไม้ไฟนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปเบ่งบานเต็มท้องฟ้า ทำเอาท้องฟ้ายามค่ำคืนของวังจันทราสว่างขึ้นมา

ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนการเดตที่สุดแสนจะโรแมนติก

ชายชุดดำยืนอยู่ตรงมุมฉาก ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและกลายเป็นส่วนเกินในฉากนี้

เซี่ยงไหวจือ “…”

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 11 .. 65

 

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com