everY
ทดลองอ่าน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 3 บทที่ 88-90 #นิยายวาย
บทที่ 90
เดือนธันวาคม เมืองหม่านเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ เกล็ดหิมะลอยละล่องตลอดคืน เมื่อจิ่งฮวนตื่นขึ้นมาด้านนอกก็ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวเป็นชั้นๆ แล้ว
ใกล้จะหมดเทอมแล้วเลยมีคนมาเข้าเรียนมากกว่าปกติ พวกคนที่ไม่ค่อยเข้าเรียนก่อนหน้านี้ก็พากันมาหมด เพราะอยากช่วงชิงความรู้สึกดีๆ จากอาจารย์อย่างสุดชีวิต
ตอนบ่าย จิ่งฮวนฟุบลงกับโต๊ะเผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเครื่องทำความร้อนในห้องเรียนจะเสียเลยไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นสักนิด เพื่อนๆ พากันเดินเข้าๆ ออกๆ ประตูห้องเรียนจึงไม่ได้ปิดไว้ ลมเย็นพัดฟู่ๆ เข้ามาด้านในทำเอาจิ่งฮวนหนาวจนไม่ได้ถอดผ้าพันคอออก
เมื่อมีชายหนุ่มอีกคนเข้ามาทางประตูหลังและทักทายจิ่งฮวน เขาก็กะพริบตาปริบๆ ก่อนส่งเสียง “อืม” ตอบกลับไปเนือยๆ
หลังจากคนคนนั้นจากไป ลู่เหวินเฮ่าก็ถามเขา “นายรู้จักคนนั้นเหรอ”
“จำหน้าได้ แต่ลืมชื่อน่ะ” จิ่งฮวนตอบอย่างเกียจคร้าน
“…” ลู่เหวินเฮ่าพูดไม่ออก “แล้วทำไมนายทักกลับเป็นธรรมชาติจัง”
“ถ้าไม่แบบนั้นล่ะ?” จิ่งฮวนพูด “แบบนี้แหละจะได้ไม่มีปัญหา”
ก็จริง
ประตูถูกผลักให้เปิดออกอีกครั้ง ลู่เหวินเฮ่าตัวสั่น เขาตบบ่าเกาจื้อเสียง “ทำอะไรของนาย จับแต่โทรศัพท์”
“คนโสดอย่างพวกนายไม่เข้าใจหรอก” เกาจื้อเสียงพูดอย่างร่าเริง “ฉันก็คุยกับแฟนน่ะสิ”
“ไอ้เวร ฉันไม่ใช่คนโสดนะเว้ย” ลู่เหวินเฮ่าตอกกลับอย่างโมโห
เกาจื้อเสียงพูด “จะไม่ใช่ได้ไง”
ลู่เหวินเฮ่าเงยหน้าขึ้น “ฉันคืนดีกับแฟนแล้ว! วันหยุดนี้ฉันจะไปเจอเธอ”
จิ่งฮวนหันหน้าไปทางพวกเขาโดยไม่เปลี่ยนท่าทาง “แฟนคนไหนของนายล่ะ”
“จะมีคนไหนอีกล่ะ นายก็รู้ว่ามีคนเดียวไม่ใช่เหรอ…แม่ง!” ลู่เหวินเฮ่าพูดไปได้เพียงครึ่งเดียวก็นึกถึงเรื่องแย่ๆ ในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง เขาโมโหจนหัวเราะออกมา “ฮวนฮวน ช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้แกล้งนายนะ ทำไมนายต้องพูดถึงไอ้ตุ๊ดโง่นั่นตลอดเลย!”
จิ่งฮวนพูด “นายจะโทษผู้ชายที่เล่นตัวละครหญิงทุกคนแค่เพราะโดนผู้ชายที่เล่นตัวละครหญิงหลอกไม่ได้นะ นายนี่มันเหยียดเพศชะมัด”
ลู่เหวินเฮ่าพยักหน้า “ใช่ ตอนนี้ฉันจะด่าให้หมด ถ้าเก่งนักก็ส่งตัวแทนพวกผู้ชายที่เล่นตัวละครหญิงมาจัดการฉันซะสิ”
ในฐานะชายที่เล่นตัวละครหญิงจิ่งฮวนไม่ได้สนใจอะไร เขามองลู่เหวินเฮ่าและหัวเราะอย่างเย็นชา
“เจอกันจริงๆ เหรอ” เกาจื้อเสียงพูด “นายคงไม่โดนสาวปลอมหลอกเหมือนครั้งก่อนนะ คราวนี้อาจจะโดนผู้หญิงหลอกไปขึ้นเตียงแล้วไถตังค์ก็ได้ ถึงตอนนั้นไม่ต้องเรียกเพื่อนๆ ไปช่วยล่ะ พวกเราไม่ไปแน่”
“ไอ้เวร แช่งเก่งเหลือเกินนะ ชาติก่อนฉันไปฆ่าคนหรือไปเผาบ้านใครมาวะถึงต้องมาเจอพวกนายเนี่ย”
ลู่เหวินเฮ่าพูดจบก็พลันนึกอะไรขึ้นได้ เขาค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปหาเกาจื้อเสียงแล้วพูดเบาๆ เกาจื้อเสียงฟังจบก็ตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะและด่าออกมาหนึ่งประโยค “ไอ้ประสาท…”
จิ่งฮวนขมวดคิ้ว “พวกนายคุยอะไรกัน”
“ช่างเถอะ เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องฟังหรอก” เกาจื้อเสียงส่ายหัว
จิ่งฮวนหัวเราะ “อยากโดนหรือไง รีบพูดมาเลย”
เกาจื้อเสียงทำหน้าลึกลับซับซ้อนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็โน้มตัวผ่านลู่เหวินเฮ่าเข้ามา “เฮ่าเอ๋อร์มันมาขอหนังโป๊จากฉัน ไอ้หมอนี่โคตรแย่เลย ยังไม่ทันได้เจอกันก็เอาเขามาจินตนาการซะแล้ว”
จิ่งฮวน “…”
ลู่เหวินเฮ่าโมโหมาก อยากจะกันก็กันไว้ไม่ได้ หลังจากถูกแฉก็ทำได้เพียงแกล้งถอนหายใจอย่างเคร่งขรึม “ฉันก็ต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าเปล่าวะ”
“ไม่ใช่มั้ง” เกาจื้อเสียงพูด “มีแฟนออนไลน์มาตั้งหลายรอบ จนตอนนี้ยังซิงอยู่อีกเหรอ”
“แม่ง ฉันไม่เคยนัดเจอใครมาก่อนนี่หว่า” ลู่เหวินเฮ่าถูกจี้ใจดำก็ลากคนข้างๆ มาเอี่ยวด้วยทันที “ฮวนฮวนทำไมนายไม่พูดอะไรเลยล่ะ!”
จิ่งฮวนเหลือบมองด้วยสายตาที่ไม่สามารถอธิบายได้ “แล้วมาเกี่ยวอะไรกับพ่อนายล่ะ”
“เล่น Nine Heroes มาตั้งหลายปี แถมหล่อเบอร์นี้” ลู่เหวินเฮ่าพูด “มันก็ยังซิงอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ขนาดปากมันยังไม่เคยจูบใครเลย!”
เกาจื้อเสียงมองเขาด้วยสายตาสงสัย “หมายความว่านายเคยจูบเหรอ”
ลู่เหวินเฮ่าหัวเราะเยาะ “ฉันเคยจูบกับเพื่อนร่วมโต๊ะสมัย ม.ต้น”
เกาจื้อเสียงยกนิ้วโป้งให้เขา ทั้งคู่ตบมุกกันไปมาอยู่ครู่หนึ่งหัวข้อการสนทนาก็เลี้ยวขวาขึ้นทางด่วนไป
เมื่อได้ยินชื่อตัวเองไม่หยุด สุดท้ายจิ่งฮวนก็ทนไม่ไหว “ใครบอกพวกนายว่าฉันไม่เคยจูบ”
ข้างกายเขาก็เงียบสนิท
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นลู่เหวินเฮ่าก็เข้ามาล็อกคอเขา “ว่าไงนะ! นายไปจูบกับใครมา! ใครมันช่วงชิงครั้งแรกของนายไป!!”
จิ่งฮวนตกใจ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไป
เขาแสร้งทำเป็นรังเกียจแล้วผลักอีกคนออก “เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่งหรอก”
“ตอนเข้าเรียนใหม่ๆ เสียงเอ๋อร์บอกว่านายไม่เคยมีแฟนมาก่อน งั้นก็ต้องเป็นตอนเรียนมหา’ลัยดิ…” ลู่เหวินเฮ่าถาม “เราเป็นเพื่อนรักกัน เรื่องนี้จะปิดบังไม่ได้นะเว้ย บอกมา! เป็นสาวคนไหน!”
ให้ตาย
เรื่องนี้จิ่งฮวนไม่สามารถพูดได้จริงๆ เพราะคำว่า ‘สาว’ นั้นไม่ได้ใกล้เคียงคนคนนั้นเลยสักนิด
ลู่เหวินเฮ่าอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก เขากำลังจะจี้ถามแต่จู่ๆ ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง ต่อมาก็ทำท่าทางเหมือนค้นพบโลกใหม่ “เอาว่ะ! ฮวนฮวน หูนายแดงหมดแล้ว!”
“…” จิ่งฮวนบอก “หุบปากไปเลย”
ทั้งคู่จี้ถามจิ่งฮวนตลอดคาบเรียน ทว่าจิ่งฮวนก็ไม่พูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว เขาคิดว่าตัวเองคงถอดสมองออกไปหมดแล้วถึงได้พูดประโยคนั้นออกไป
ตอนใกล้จะหมดคาบโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็สั่นขึ้นมาเล็กน้อย
เซี่ยง …
เสี่ยวจิ่งยา ?
เซี่ยง มองที่ประตูสิ
จิ่งฮวนมองไปยังหน้าต่างบานเล็กๆ เหนือประตูด้วยสายตางุนงง
เซี่ยงไหวจือยืนก้มหน้าอยู่ด้านนอก ไม่กี่วินาทีถัดมาเขาก็เก็บโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับจิ่งฮวน ชายหนุ่มเหมือนเพิ่งนอนหลับในคาบเรียนมา เปลือกตาตกลงเล็กน้อย สวมชุดสีดำทั้งชุด ท่าทางสุดคูลยิ่งกว่าอุณหภูมิวันนี้ซะอีก
จิ่งฮวนไม่สามารถละสายตาไปได้เลย
“นายมองอะไรอยู่” ลู่เหวินเฮ่ามองตามสายตาเขาไปด้านนอก จากนั้นก็ส่งเสียงแซว “พี่เซี่ยง? เขามายืนรอคนอยู่นอกห้องเราเหรอ พวกนายนัดกันไว้หรือไง”
จิ่งฮวนพูด “ไม่ได้นัด”
“งั้นเขารอใครล่ะ…” ลู่เหวินเฮ่ายกมือขึ้นเพื่อทักทายเซี่ยงไหวจือ อีกฝ่ายพยักหน้าตอบกลับอย่างสบายๆ ลู่เหวินเฮ่าพูดพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “พี่เซี่ยงหล่อโคตรๆ เลยว่ะ”
รอฉันนี่แหละ
จิ่งฮวนละสายตากลับมาอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ก้มหน้าลงกระแอมกลบเกลื่อน
“เดี๋ยวก็เลิกเรียนแล้ว ต้องออกไปรับลมหนาวอีกแล้วสินะ” ลู่เหวินเฮ่าพูดพลางเอื้อมมือเพื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของจิ่งฮวน “อุ่นมือฉันให้หน่อยสิ ฮวนฮวน”
จิ่งฮวนสะดุ้งหนึ่งครั้งก่อนตบหลังมือของเขาเบาๆ
ทั้งสองคนต่างก็ตกตะลึง
ลู่เหวินเฮ่า “…?”
“ปิดให้บริการแล้ว” จิ่งฮวนเอามือสองข้างล้วงกระเป๋า และกลับมาแสดงสีหน้าเหมือนเดิมพร้อมพูดอย่างเคร่งขรึม
หลังเลิกเรียนจิ่งฮวนยัดหมากฝรั่งเข้าปากก่อนจะเก็บรวบรวมสมุดหนังสือ ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นกลับมีใครบางคนที่เร็วยิ่งกว่า
แม้จะเป็นหน้าหนาวในห้องเรียนก็ยังมีนักศึกษาสาวหลายๆ คนสวมกระโปรง ถึงด้านล่างจะมีถุงน่องห่อหุ้มอยู่ แต่กระโปรงตัวบางก็ยังทำให้สายตาใครๆ เป็นประกายได้
ชายกระโปรงของหญิงสาวสะบัดไปมาพร้อมกับปลายผม การก้าวเท้าสั้นๆ เต็มไปด้วยความคาดหวังและความประหม่า เธอวิ่งไปหาเซี่ยงไหวจือที่อยู่ด้านนอกประตูพร้อมรอยยิ้ม
“…” จิ่งฮวนชะงักไป ริมฝีปากอ้าออกเล็กน้อย สุดท้ายก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ “นั่นใครอะ”
ลู่เหวินเฮ่ากำลังคุยกับแฟนในเกม พอได้ยินก็งุนงง “หา? ใคร…อ้อ เธอน่ะเหรอ ชื่อเหลียงเมิ่งจยา เหมือนจะเป็นนางแบบดังอยู่นะ ได้ยินว่าในอนาคตจะได้เดบิวต์ด้วย ที่เทอมนี้ไม่ได้มาเรียนก็เพราะต้องไปเรียนกับครูเฉพาะทางน่ะ”
จิ่งฮวนถามขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว คิดไม่ถึงว่าลู่เหวินเฮ่าจะรู้เยอะขนาดนี้
เกาจื้อเสียงพูด “เหลียงเมิ่งจยาเหมือนจะเคยตามจีบเซี่ยงไหวจือนะ”
ฝีเท้าของจิ่งฮวนหยุดลง “นายก็รู้เหรอ…”
“เขาลือกันให้แซ่ด ได้ยินว่าสารภาพรักในห้องคาราโอเกะ” เกาจื้อเสียงพูด “เราไปทักทายพี่เซี่ยงกันดีไหม จะไปรบกวนเขาหรือเปล่า…”
เขายังพูดไม่ทันจบ สองมือของจิ่งฮวนก็ล้วงกระเป๋า แขนข้างหนึ่งเหน็บหนังสือเรียนไว้และเดินออกไปที่ประตูแล้ว
เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหวจากในห้อง เซี่ยงไหวจือก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าวเพื่อหลีกทางให้คนอื่นๆ
หญิงสาววิ่งมาหยุดตรงหน้า เขาเตรียมจะถอยหลังเพื่อหลีกทางแต่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกเขาเบาๆ “รุ่นพี่เซี่ยง”
หลังจากจิ่งฮวนเดินมาถึงประตู ความเร็วในการเคี้ยวหมากฝรั่งก็ช้าลงนิดหน่อย
แม่ง…
สาวคนนี้มีเสียงแอ๊บแบ๊วซะด้วย
บริสุทธิ์ ไร้เครื่องแปลงเสียง ฟังดูไม่ได้พยายามดัดเสียงเลย
เซี่ยงไหวจือชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “มีอะไร”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองเขา ถึงอยากจะปิดบังไว้ แต่ความรู้สึกที่ยากจะควบคุมในดวงตากลับทรยศเธอ
จริงๆ แล้วเซี่ยงไหวจือจำเธอไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ
“เมื่อต้นปีที่แล้วเราเคยเจอกันที่คาราโอเกะไงคะ” หญิงสาวยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลใบเล็กๆ ให้เขา บนนั้นมีรูปวาดซานตาคลอสแสนน่ารักอยู่หนึ่งตัว “ใกล้จะคริสต์มาสแล้ว นี่เป็น…ของขวัญวันคริสต์มาสค่ะ”
เซี่ยงไหวจือจำได้แล้ว ตอนนั้นไฟในห้องคาราโอเกะมืดสลัวเกินไป เขาเลยมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวไม่ค่อยชัด
เขาเหลือบมองถุงกระดาษ พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็เห็นจิ่งฮวนที่ยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวคนนั้นแล้ว
มีผมสองเส้นบนหัวของจิ่งฮวนกระดกขึ้นมานิดๆ ดูเหมือนจะโดนทับโดยไม่ตั้งใจขณะที่ฟุบตัวนอน อีกฝ่ายเป่าลูกโป่งหมากฝรั่งขึ้นมาหนึ่งลูก ทันทีที่สายตาสบประสานกัน ลูกโป่งหมากฝรั่งก็แตกออก จากนั้นก็ถูกเจ้าของเก็บกลับไปในปากช้าๆ
หน้าผากของเขาเหมือนจะมีคำว่า ‘ไม่พอใจ’ เขียนแปะอยู่
เซี่ยงไหวจือละสายตากลับมาและพูดว่า “ขอบใจ”
หญิงสาวมีความสุขอยู่ลึกๆ…
“แต่ต้องขอโทษด้วยนะ” เซี่ยงไหวจือพูดต่อ “ฉันมีแฟนแล้ว”
เสียงของเซี่ยงไหวจือไม่ดังไม่เบา จิ่งฮวนจึงได้ยินพอดี
หญิงสาวตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็ดึงของขวัญกลับไปด้วยความอับอาย “อ่า คือว่า…ฉันแค่อยากให้ของขวัญพี่ ไม่ได้มีเจตนาอื่นนะคะ”
เซี่ยงไหวจือปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”
“เธอ…” หญิงสาวกัดฟัน “ยังไงแฟนพี่ก็คงไม่รู้…”
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เซี่ยงไหวจือก็ยิ้มออกมา
“รู้สิ” เซี่ยงไหวจือพูด
จิ่งฮวนไม่รู้เลยว่าเหลียงเมิ่งจยาจากไปยังไง ตอนที่เขาได้สติกลับมา เซี่ยงไหวจือก็เดินเข้ามาหาและยกมือขึ้นลูบผมเขาแล้ว
“หลับในคาบเหรอ” เซี่ยงไหวจือถาม
“ฟุบไปแป๊บนึงครับ” จิ่งฮวนเคี้ยวหมากฝรั่งช้าๆ อีกครั้ง จากนั้นก็พูดว่า “พี่ก็หลับเหรอ”
เซี่ยงไหวจือตอบว่า “อืม” ออกมา “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ”
ในใจจิ่งฮวนเอ่ยว่าบังเอิญจังเลยนะ
ตั้งแต่วันที่จูบกันตรงบันไดวันนั้น เขาก็ไม่เคยนอนหลับสบายอีกเลย
เขาฝันถึงเซี่ยงไหวจืออยู่หลายวัน บางครั้งความฝันก็แสนธรรมดา เรื่องราวเขาจำได้ไม่ชัดเจน จำได้เพียงสีหน้าและการแสดงออกของเซี่ยงไหวจือ
บางครั้งก็ฝัน…เกินไปหน่อย
“พี่เซี่ยง” เกาจื้อเสียงสวมหูฟังเดินออกมา “วันนี้พี่มีเรียนที่ตึกเราเหรอครับ”
เซี่ยงไหวจือชักมือกลับ “อืม”
“แล้วทำไมพี่ลู่ไม่อยู่ล่ะครับ” ลู่เหวินเฮ่ามองซ้ายมองขวา
“มันโดดเรียนน่ะ” เซี่ยงไหวจือมองนาฬิกาและถามขึ้นมาโดยทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจ “พวกนายกำลังจะไปกินข้าวกันเหรอ”
“ใช่ครับ วันนี้ที่โรงอาหารมีหัวปลานึ่งราดพริกขาย” ลู่เหวินเฮ่าทำเหมือนเตี๊ยมกันมาก่อน เขาถามอย่างเป็นธรรมชาติ “พี่เซี่ยง ไปด้วยกันไหมครับ”
ระหว่างทางไปโรงอาหารจิ่งฮวนกังวลไปตลอดทาง กลัวว่าพวกลู่เหวินเฮ่าจะมองอะไรออก
แต่หลังจากนั้นเขาก็พบว่าเป็นตัวเองที่คิดมากไป รูมเมตทั้งสองคนของเขาต่างก็ยุ่งกันมาก คนหนึ่งยุ่งกับการคุยกับแฟน ส่วนอีกคนก็ยุ่งอยู่กับการคุยกับแฟนในเกม ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาจากจอด้วยซ้ำ
เซี่ยงไหวจือเองก็ไม่ได้ทำอะไรรุ่มร่าม แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังพูดคุยกับลู่เหวินเฮ่าเป็นครั้งคราวอยู่หลายประโยค
ขณะที่จิ่งฮวนกำลังรู้สึกดีใจก็ยังมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกอยู่นิดหน่อย
จะว่ายังไงดีล่ะ
เขาไม่ค่อยสบายใจนัก
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ก้มหน้าลงกินซุปและกลืนเอาความรู้สึกยุ่งเหยิงเหล่านี้กลับลงไป
กินไปได้ครึ่งหนึ่งช่องเล็กๆ ของเคาน์เตอร์ในโรงอาหารก็เปิดออกอย่างเงียบๆ ลู่เหวินเฮ่าที่กินอยู่ตัวสั่นขึ้นมาทันทีก่อนจะรีบตบไหล่เกาจื้อเสียง
“นายนี่แม่ง…จะฆ่าฉันหรือไง” เกาจื้อเสียงข้าวติดคอ
“ช่องเบอร์สิบสองเปิดแล้ว!” ลู่เหวินเฮ่าพูด
ช่องที่สิบสองคือช่องขายอาหารพิเศษของโรงอาหาร เป็นร้านขายโอเด้งที่ซอสอร่อยแถมยังราคาถูก แต่เวลาเปิดไม่แน่นอน บางครั้งก็เปิดเพียงสัปดาห์ละสองวัน บางครั้งก็ไม่เปิดไปทั้งเดือน ซึ่งความถี่ในระยะหลังๆ ก็เป็นอย่างหลัง ดังนั้นตอนที่ลู่เหวินเฮ่าเห็นจึงตื่นเต้นมาก
ครึ่งนาทีหลังจากนั้นบนโต๊ะก็เหลือเพียงจิ่งฮวนกับเซี่ยงไหวจือ ส่วนอีกสองคนพากันไปเข้าแถวซื้อโอเด้งแล้ว
จิ่งฮวนเขี่ยข้าว สายตาเหลือบมองจานข้าวของคนข้างๆ
“พวกนายสอบกันเมื่อไหร่” จู่ๆ คนพูดน้อยก็วางตะเกียบลงพลางเอ่ยถาม
จิ่งฮวนงุนงง เขาตอบว่า “สอบเสร็จวันที่เจ็ดมกราคมครับ”
เร็วจัง
เซี่ยงไหวจือขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนถามอีก “แล้วนายจะกลับบ้านตอนไหน”
“ยังไม่แน่นอนเลยครับ” จิ่งฮวนพูด “ทำไมเหรอ”
“วันหยุดฤดูหนาวมาเจอกันได้ไหม”
ตะเกียบของจิ่งฮวนชะงัก
จริงๆ แล้วการเจอเพื่อนในช่วงวันหยุดฤดูหนาวเป็นเรื่องที่ปกติมาก ทุกปีเวลาเขากลับบ้านก็จะนัดรวมตัวกับเพื่อนเก่าเสมอ
เมื่อคิดแบบนี้จิ่งฮวนจึงไม่ได้กระอักกระอ่วนมากนัก เขาหันหน้ามาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ “จะว่าได้มันก็ได้ครับ แต่ปีนี้วันตรุษจีนมาถึงเร็ว ผมคงไปที่อื่นไม่ได้…”
“ฉันไปหาเอง” เซี่ยงไหวจือพูด
“…” จิ่งฮวนพูด “งั้นพี่ก็ลำบากหน่อยนะครับ”
“บ้านนายอยู่ไหน”
“ที่เมืองหม่านนี่แหละครับ ขับรถจากมหา’ลัยไปไม่กี่ชั่วโมง”
เซี่ยงไหวจือยิ้มน้อยๆ “ฉันก็เหมือนกัน”
สุดท้ายก็ตกลงกันตามนั้น
หลังจากนั้นเซี่ยงไหวจือก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจากกันเขาไปซื้อของบางอย่างที่ซูเปอร์เล็กๆ ในโรงอาหาร
“ฉันมีธุระต้องออกไปนอกมหา’ลัย พวกนายกลับไปก่อนเถอะ” เขาพูด
ลู่เหวินเฮ่าแปลกใจ “ในเมื่อต้องออกไปนอกมหา’ลัย แล้วมากินข้าวที่โรงอาหารทำไมล่ะครับ…พวกของกินสตรีตฟู้ดข้างนอกไม่ดีกว่าเหรอ”
“ไม่ดี” เซี่ยงไหวจือพูด
ก่อนจากไปเขาถือโอกาสตอนที่ทั้งสองคนไม่ทันสังเกตหยิบกล่องโยเกิร์ตออกมาจากกระเป๋าแล้วยัดใส่มือของจิ่งฮวน
ระหว่างทางกลับจิ่งฮวนใส่หมวกแก๊ปก้มหน้าก้มตามองพื้นตลอดทาง
ลู่เหวินเฮ่าเดินเข้ามาหาและเอ่ยถามเขา “ฮวนฮวน คิดอะไรอยู่”
จิ่งฮวนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ไม่รู้สิ”
“…?”
ไม่รู้ว่าเดินไปไกลแค่ไหนแล้ว จู่ๆ จิ่งฮวนก็หันหน้ามาเรียก “เสียงเอ๋อร์”
เกาจื้อเสียงลดโทรศัพท์ลง “ว่า”
“วันหยุดฤดูหนาวมาเจอกันไหม”
“…” เกาจื้อเสียงงุนงง “ฉันก็ไปสวัสดีปีใหม่ที่บ้านนายทุกปีไม่ใช่เหรอ”
จิ่งฮวนจ้องเขาอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดว่า “ไม่มีอะไรแล้ว” ก่อนหันหลังเดินจากไป
“…” เกาจื้อเสียงเอ่ย “เป็นอะไรของมัน”
ลู่เหวินเฮ่ายักไหล่ “อย่าไปเดาใจฮวนฮวนมันเลย”
จิ่งฮวนเดินไปด้านหน้า บนใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
เห็นๆ อยู่ว่าเป็นเพื่อนกัน เห็นๆ กันอยู่ว่าวันหยุดฤดูหนาวก็จะได้เจอกัน…
แต่พอเปลี่ยนเป็นเซี่ยงไหวจือ ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆ แบบนี้ล่ะ
ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนี้มันเหมือนกับ…
เหมือนว่าวันหยุดฤดูหนาวครั้งนี้จะแตกต่างจากวันหยุดฤดูหนาวสิบกว่าครั้งที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง
เมื่อกลับถึงบ้านจิ่งฮวนก็นั่งดูดโยเกิร์ตอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
จิ่งฮวนกดล็อกอินเข้าเกม หัวใจเพรียกหาไม่อยู่ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจไปกินยาบำรุงในบ้าน
[คนรับใช้ : หลังจากดื่มรังนกน้ำตาลก้อนแล้ว นายน้อยก็ขยับตัวเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีความสุขมาก ^^]
ไร้สาระ อันละตั้งสิบกว่าหยวนจะไม่มีความสุขได้ไง
เขาเองก็ไม่ได้อยากกินนักหรอก
จิ่งฮวนต่อว่าเสร็จก็เปิดดูปฏิทินและพบว่าวันพรุ่งนี้ก็จะคลอดลูกได้แล้ว
เขาลังเลนิดหน่อยก่อนจะเปิดดูหน้าเว็บที่ตัวเองเซฟเอาไว้ คีย์เวิร์ดทั้งหมดล้วนเป็นคำว่า ‘ไกด์ไลน์การเลี้ยงดูลูกสำนักเขาฉีหยา’
ขณะที่กำลังคิดจะกดเข้าไปก็พบว่าด้านล่างของหน้าจอเกมมีโทรโข่งประโยคหนึ่งโผล่ขึ้นมา
[ดูหนัง AV → 99992LM : วิดีโอยอดนิยม 5 อันดับ ↑ ที่คนดูต่างชื่นชอบ, เซ็กซี่, ยุโรป, ญี่ปุ่น แบบมีซับไตเติ้ลภาษาจีนให้เลือก]
โฆษณาเล็กๆ ในเกม Nine Heroes มีเยอะแยะมาแต่ไหนแต่ไร ปกติเมื่อโผล่ขึ้นมาไม่ถึงครึ่งวินาทีก็จะหายไปโดยอัตโนมัติเพราะถูกระบบของเกมเซ็นเซอร์
แต่เจ้าโฆษณาตัวนี้กลับลอยอยู่ด้านล่างของเกมเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ โดยที่ยังไม่หายไป
[เวิลด์แชต] ดาวบนฟ้า : โอเค คนขายหนังผู้ใหญ่เนี่ยต้องมีคอนแท็กคนดูแลแน่เลย
[เวิลด์แชต] รองเท้าแก้วของฉันล่ะ : @GM มาทำงานหน่อย
[เวิลด์แชต] ความดุร้ายยามเที่ยงคืน 0 : หนังที่หมอนี่ขายคุณภาพดีมากนะ
ถ้าเป็นปกติจิ่งฮวนคงไม่สนใจจะมองแม้แต่แวบเดียว ดีไม่ดีอาจจะกดรีพอร์ตด้วยซ้ำ แต่วันนี้…
เขาลดสายตาลงมองไปยังข้อความในประกาศโทรโข่ง
ระยะนี้เขาเอาแต่ฝันอะไรมั่วซั่วไปหมด หรือจะเป็นเพราะอดกลั้นมานานเกินไป
ช่วงวัยสิบเก้าถึงยี่สิบปีเป็นวัยที่มีกำลังวังชาดีเยี่ยม ตอนที่เล่นบาสเกตบอลสองสามครั้งก่อนหน้านี้เขาก็รู้สึกว่าพลังงานทั้งร่างกายของตัวเองไม่มีที่ให้ปลดปล่อย…
หลังจากนั้นสองนาทีจิ่งฮวนก็เปิดวีแชตหาเพื่อนที่กระตือรือร้นกับเรื่องหนังโป๊มาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้วบอกจุดประสงค์ไป อีกฝ่ายส่งไฟล์ให้เขาในทันทีโดยไม่พูดไม่จา
ฟ้าเริ่มมืดไฟข้างทางสว่างไสว เขาปิดไฟในห้อง ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด มีเพียงแสงจางๆ ที่ส่องออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
บรรยากาศกำลังดี
มือข้างหนึ่งของจิ่งฮวนวางรองท้ายทอยพลางเปิดไฟล์ที่เพื่อนส่งมาให้ ภาพหน้าปกของแต่ละคลิปเกินจะทน เขาเลื่อนจากบนลงล่างและค่อยๆ เปิดทีละอัน
อันนี้น่าเกลียดเกิน
นี่ก็แก่เกิน
นี่ก๊อกใหญ่ไม่เท่าเขาด้วยซ้ำ
…ส่วนนี่ก๊อกใหญ่เกินไป
หลายสิบวิดีโอไม่มีวิดีโอไหนที่เขาดูได้เกินสองนาทีเลย
ตอนนั้นเองจิ่งฮวนก็ขยับนิ้วกดลบไฟล์นั้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ก่อนจะเปิดหน้าแชตคุยกับเพื่อน
เสี่ยวจิ่งยา ฉันแค่ลองถามเชิงดูเฉยๆ
เพื่อน ?
เสี่ยวจิ่งยา คิดไม่ถึงว่านายจะมีจริงๆ
เสี่ยวจิ่งยา ฉันรีพอร์ตไปแล้ว
เสี่ยวจิ่งยา ไอดีนายไม่รอดแล้วนะ
เสี่ยวจิ่งยา [กรุณามากับเราด้วยครับ.jpg]
เพื่อน …
เพื่อน จิ่งฮวน ไอ้เวร ฉันจะฆ่านาย
จิ่งฮวนอ้าปากหัวเราะอยู่นานมาก หัวเราะไปเรื่อยๆ รอยยิ้มก็เริ่มขมขื่น
บ้าเอ๊ย ฉันมาหาความเร่าร้อนไม่ใช่เหรอวะ
ทำไมมาหัวเราะเหมือนไอ้โง่อยู่ได้…ไร้สาระ โคตรไร้สาระเลย
เขานอนราบลงบนเตียงพลางจับโทรศัพท์เลื่อนดูเวยป๋อไปเรื่อย ความง่วงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จิ่งฮวนหาวออกมาหนึ่งครั้งและกำลังคิดว่าจะนอนเลยดีหรือเปล่า
ติ๊ง
เซี่ยง ฉันถึงหอแล้ว
จิ่งฮวนลุก ‘พึ่บ’ ขึ้นจากเตียง
เสี่ยวจิ่งยา อ้อ
เซี่ยง จะนอนแล้วเหรอ
เสี่ยวจิ่งยา เปล่าครับ
เซี่ยง เล่นเกมไหม
เสี่ยวจิ่งยา อ้อ
เสี่ยวจิ่งยา ได้ครับ
เสี่ยวจิ่งยา ผมลุกจากเตียงก่อน
จิ่งฮวนส่งไปสามข้อความติดกัน เขาพยายามทำให้ตัวเองไม่ดูรีบร้อนจนเกินไป จากนั้นก็รีบลุกจากเตียง
หัวใจเพรียกหาปรากฏตัวอยู่ที่บ้านแล้ว ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างๆ พ่อบ้านเหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่
“พี่ทำอะไรอะ” จิ่งฮวนถาม
“เก็บยาบำรุง”
“ไม่ต้องแล้ว! พรุ่งนี้ผมก็คลอดแล้ว…”
บ้าเอ๊ย
จิ่งฮวนพูดจบถึงรู้สึกว่ามันผิดปกติ
เซี่ยงไหวจือชะงักหันกลับไปมองคนที่กำลังร้องเพลงอยู่ในห้องน้ำ ผ่านไปครู่หนึ่งถึงพูดออกมา “ปิดเครื่องแปลงเสียงซะ”
“หา? ทำไมล่ะครับ”
“ไม่มีคนอื่นอยู่”
“ช่างเถอะ ผมขี้เกียจปิด” จิ่งฮวนพูด
นายไม่ชอบเครื่องแปลงเสียงนี่เหรอ
อุตส่าห์ดัดเสียงให้ฟังยังไม่พอใจอีก
เซี่ยงไหวจือพูด “ฉันอยากได้ยินเสียงนาย”
“…”
ผ่านไปครึ่งนาทีเสียงกังวานสดใสของชายหนุ่มก็ดังเข้ามาในหูฟัง “ปิดแล้วครับ”
เซี่ยงไหวจือกัดริมฝีปากเบาๆ จากนั้นก็ขยับนิ้วเอาหนังสือเกี่ยวกับเด็กที่อยู่กับตัวทิ้งไว้ให้จิ่งแสนหวานตัวน้อย
จิ่งฮวนประหลาดใจ “นี่อะไรครับ”
“ของที่ต้องใช้เลี้ยงเด็กถ้ำเซียนจิ้งจอก” เซี่ยงไหวจือพูด “หนังสือไกด์ไลน์ฉันเขียนไว้หมดแล้ว นายทำตามก็พอ”
จิ่งฮวนยังไม่ทันได้พูดอะไร เซี่ยงไหวจือก็ส่งไฟล์มาให้
เป็นไกด์ไลน์ที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ช่วงนี้เขาหาไกด์ไลน์ไว้เยอะมาก อันไหนที่ดังๆ ก็มีเก็บไว้หมด อันนี้น่าจะเป็นอันที่เซี่ยงไหวจือทำขึ้นมาเอง
ลูกที่เลี้ยงมาตามแผนที่สร้างขึ้นเองจะต้องน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่าแน่นอน
จิ่งฮวนครุ่นคิด จากนั้นก็เก็บไกด์ไลน์นั้นไว้
จิ่งแสนหวานตัวน้อยกำลังตั้งท้องจึงมีหลายกิจกรรมที่ทำไม่ได้ เซี่ยงไหวจือสร้างปาร์ตี้แล้วพาเขาไปเดินเตร่รอบเมืองหลักเหมือนกำลังดูแผงขายของ ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยแต่จิ่งฮวนก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่าย
เขาจับจ้องเกมอยู่นานมาก จนกระทั่งมีคำขอเป็นเพื่อนปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอวีแชต เขาถึงได้สติกลับมา
[เหลียงเมิ่งจยาขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อน ข้อความเพิ่มเติม : สวัสดีจิ่งฮวน ฉันเหลียงเมิ่งจยาที่อยู่คลาสเดียวกับนายนะ]
ปลายนิ้วของจิ่งฮวนชะงัก ผ่านไปสักพักกว่าจะกดยอมรับ
เหลียงเมิ่งจยา รบกวนหน่อยนะ~
เหลียงเมิ่งจยา …ฉันคงไม่ได้เพิ่มเพื่อนผิดคนใช่ไหม
ทั้งรูปโพรไฟล์และชื่อ นอกจากคำว่า ‘จิ่ง’ แล้ว อย่างอื่นก็ดูไม่เข้ากับหนุ่มหล่อราวกับแสงตะวันในคลาสคนนั้นเลย จนตอนแรกเหลียงเมิ่งจยาคิดว่าเพื่อนของเธอให้วีแชตมาผิดคนซะแล้ว
เสี่ยวจิ่งยา ไม่ผิดหรอก
เหลียงเมิ่งจยา อ้อๆ งั้นก็ดี
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
เหลียงเมิ่งจยา …นายยังอยู่ไหม
เสี่ยวจิ่งยา อยู่
เหลียงเมิ่งจยา …
เหลียงเมิ่งจยา จริงๆ แล้วฉันมีอะไรอยากให้นายช่วยน่ะ [ปิดหน้า]
เสี่ยวจิ่งยา ว่ามาสิ
เหลียงเมิ่งจยา วันนี้ฉันเห็นนายคุยกับเซี่ยงไหวจือ พวกนายสนิทกันมากไหม
ไม่สนิท
แค่จูบปากกันไปสองครั้งเอง
เสี่ยวจิ่งยา ประมาณนึง
เหลียงเมิ่งจยา อ้อๆ จริงๆ ก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก ฉันแค่อยากได้วีแชตของเขาน่ะ ได้ไหม
เหลียงเมิ่งจยา นายยังอยู่ไหม
จิ่งฮวนวางมือลงบนคีย์บอร์ดโดยไม่ได้ตอบกลับ
ตอนนี้หน้าจอเขาด้านซ้ายเป็นหน้าต่างสนทนากับเหลียงเมิ่งจยา ส่วนด้านขวาก็เป็นแผนการเลี้ยงลูกที่เซี่ยงไหวจือส่งมา
จิ่งฮวนกำลังจะพิมพ์ข้อความ จู่ๆ ก็เห็นข้อความเล็กๆ บางอย่างบนตาราง
ตัวหนังสือนั้นเล็กมาก อยู่ตรงบรรทัดสุดท้ายของแผนการเลี้ยงลูก
บนนั้นเขียนไว้ว่า ‘หนังสือเลี้ยงลูกของเสี่ยวเซี่ยงจิ่ง’
“…”
เหลียงเมิ่งจยา ?_?
เสี่ยวจิ่งยา อยู่
เสี่ยวจิ่งยา ฉันคงไม่สะดวกนะ เขามีแฟนแล้ว
เหลียงเมิ่งจยา เรื่องนี้ฉันก็ไปถามคนอื่นมาหมดแล้ว ทุกคนบอกว่าไม่มีนะ…นายรู้ไหมว่าแฟนเขาเป็นใคร
เสี่ยวจิ่งยา รู้
เหลียงเมิ่งจยา ใครเหรอ
‘ฉันไง’
จิ่งฮวนพิมพ์ข้อความนี้ไป แต่ก็ละล้าละลังไม่ได้กดส่ง
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเขาก็ปิดหน้าต่างสนทนากับเหลียงเมิ่งจยาพร้อมทั้งกดลบเพื่อนไปด้วย พอสลับกลับมาที่เกมก็พบว่าเซี่ยงไหวจือพาเขามาทำกิจกรรมคู่เทศกาลคริสต์มาส
ถ้าจะเข้าสู่หน้าต่อสู้ของกิจกรรมก็ต้องให้ทุกคนในปาร์ตี้กดยอมรับ
จิ่งฮวนตกใจและรีบกดยอมรับ หลังเข้าไปสู่หน้าต่อสู้เขาก็เอ่ยถาม “เมื่อกี้ผมไปดูอย่างอื่นมา…ทำไมพี่ไม่เรียกผมล่ะ”
“กลัวว่านายจะหลับไปแล้ว” เซี่ยงไหวจือพูด
กลางดึกในฤดูหนาวเงียบกริบ ไม่มีเสียงจิ้งหรีดเรไรและไม่มีเสียงพูดคุยของผู้คนที่เดินไปมาด้วย
ดังนั้นตอนนี้จิ่งฮวนจึงได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นอย่างชัดเจน มันรัวเร็วและรุนแรง เร็วยิ่งกว่าตอนที่อยู่กับคนอื่นๆ
หลังการต่อสู้จบลงจิ่งฮวนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและเอนหลังพิงเก้าอี้
ผ่านไปไม่กี่วินาทีเขาก็ยกมือขึ้นปิดตาตัวเองช้าๆ
จิ่งฮวนรู้สึกเหมือนตัวเองเปลี่ยนไป
ดูเหมือนว่าเขาจะชอบเซี่ยงไหวจือเข้าให้แล้ว
**หมายเหตุ : ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบู
—
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 3
วางจำหน่ายที่ร้าน JamClub, เว็บไซต์ Jamsai Store และร้านหนังสือทั่วไป