ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 3 บทที่ 77 – 78 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 3 บทที่ 77 – 78 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

ทดลองอ่าน เรื่อง I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเองเล่ม 3

ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)

แปลโดย : หมั่งสีโสว ซื่อเก้เหล้าก้าย

ผลงานเรื่อง : 我行让我来〔电竞〕 (Wo Xing Rang Wo Lai (Dian Jing))

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – –

 ** หมายเหตุยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

– – – – – – – – – – – – – – – – –

 

77

โต้วฟูคิดไม่ถึงว่าทั้งที่ใบหน้าของคนคนนี้ขาวจนกลายเป็นกระดาษอยู่แล้วก็ยังไม่ยอมเสียเปรียบ “นายแม่ง…นั่นเป็นเพราะฉันโชคไม่ดี แมตช์เกมนำได้มังกรลม เกมตามได้มังกรน้ำกับไฟ แบบนี้ยังจะสู้ไปทำหอกอะไรอีกเล่า!”

ในเกม LoL หลังจากมังกรตัวที่สามเกิด ธาตุของมังกรตัวต่อไปก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว เมื่อสังหารเดรกทั้งสี่ตัวจะมีบัฟวิญญาณมังกรเกิดขึ้น คนมากมายคิดว่าวิญญาณมังกรลมนั้นให้บัฟอ่อนที่สุด ขณะที่บัฟของวิญญาณมังกรน้ำและไฟกลับเด่นล้ำมากกว่า*

เจี่ยนหรงได้ยินคนโทษว่าวิญญาณมังกรคือสาเหตุของการแพ้เกมเป็นครั้งแรก เขาหัวเราะพรืด “ช่วยไม่ได้ คนโง่มีดวงของคนโง่ ส่วนคนโคตรโง่ไม่มีดวง”

“…” โต้วฟูเอาสองมือล้วงกระเป๋าแต่ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร เขาหรี่ตาถามด้วยความงุนงง “ว่าแต่นายเถอะ หน้าตาเป็นเด็กดีขนาดนี้ ทำไมพอเอ่ยปากแต่ละคำกลับชอบด่าคน”

เจี่ยนหรงพิงตัวกับผนัง “นายเองก็หน้าตาเหมือนคน ทำไมไม่เคยเห็นนายพูดภาษาคน”

โต้วฟู “…”

มือถือในกระเป๋าของโต้วฟูดังขึ้น เป็นโค้ชที่โทรมาเร่งให้เขากลับห้องพักนั่นเอง

“ท็อปเลนในทีมพวกนายเหมือนหมู ส่วนนายก็ผอมจนเหมือนซี่ไม้ไผ่” โต้วฟูเก็บมือถือ “นายเป็นอะไรกันแน่ ให้โทรเรียก 120** มาแบกเอามั้ย”

“แบกตัวนายเองเถอะ” เจี่ยนหรงพูดเสียงเย็นเยียบ “แพ้ติดกันเก้าแมตช์ในการแข่งขันรอบเก็บคะแนน ยังมีหน้าพูดถึงนักแข่งคนอื่นอีก รีบไสหัวไป”

โต้วฟูโกรธจนหัวเราะแล้ว จากนั้นพยักหน้าแล้วเอ่ย “นายสุดยอด”

หลังคนจากไปเจี่ยนหรงก็ล้างหน้าที่อ่างล้างหน้า นวดท้องส่งๆ สองทีแล้วจึงหันกายออกจากห้องน้ำ

เขาผลักประตูของห้องพักออก “ลงสนามเมื่อไหร่…”

คำพูดหยุดลงกลางคัน

เจี่ยนหรงยันประตูไว้ด้วยมือเดียว มองดูห้องพักที่แทบจะว่างเปล่า “คนล่ะ?”

ตอนนี้ในห้องพักมีเพียงสองสามคน

Moon หันหน้ามองดูเขาแวบหนึ่งก่อนอธิบายว่า “พวกเขาขึ้นเวทีแล้ว”

เจี่ยนหรงขมวดคิ้ว “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

“ไม่ต้องหรอก” Moon เรียกเขาเอาไว้ “เหอจื่อไปแล้ว เกมนี้ส่งตัวสำรองไปแทน นายพักผ่อนให้เต็มที่ดีกว่า”

เจี่ยนหรงยังยืนอยู่ตรงปากประตู เขาเลียริมฝีปากแล้วถาม “หมายความว่ายังไง”

“นายไม่สบายไม่ใช่เหรอ…” Moon ชะงัก “เรื่องเป็นแบบนี้ เมื่อกี้โต้วฟูมาเคาะประตู บอกกับกัปตันว่านายอ้วกในห้องน้ำ แถมยังบอกว่า…นายดูเหมือนใกล้จะตายแล้ว”

ตอนนั้นลู่ป๋อหยวนหันกายหมายออกจากประตูทันที ทว่าก็เจอกับเจ้าหน้าที่ที่มาเร่งพวกเขาขึ้นเวทีเสียก่อน

นักแข่งของ PUD ขึ้นไปบนเวทีแล้ว พวกเขาเองก็ต้องรีบเช่นกัน ลู่ป๋อหยวนมองไปทางห้องน้ำแวบหนึ่ง แล้วค่อยหันหน้ามาพูดกับเจ้าหน้าที่โดยไม่มีสีหน้าแต่อย่างใดว่าเกมนี้พวกเขาต้องเปลี่ยนนักแข่ง

เจี่ยนหรงฟังจบด้วยริมฝีปากขาวซีด จากนั้นถามว่า “รู้มั้ยว่าห้องพักทีมโหยวอวี๋อยู่ที่ไหน”

ทีมงานที่อยู่โดยรอบส่ายหน้าทันที

ใครแม่งจะกล้าบอกว่ารู้

“เจี่ยนหรง?” รองผู้จัดการทีมวิ่งมาอย่างเร่งรีบ “ฉันหานายในห้องน้ำครึ่งค่อนวัน นายไม่เป็นไรใช่มั้ย ยังอยากอ้วกอยู่หรือเปล่า ปวดท้องเหรอ ถ้ารุนแรงฉันจะพานายไปโรงพยาบาล…”

“ไม่เป็นไรครับ” เจี่ยนหรงดื่มน้ำ “แค่คลื่นไส้นิดหน่อย น่าจะน้ำตาลในเลือดต่ำกำเริบ”

รองผู้จัดการทีมพูดด้วยความสงสัย “น้ำตาลในเลือดต่ำก็ทำให้อ้วกได้?”

“คงใช่ครับ” เจี่ยนหรงพูดต่อว่า “ไป่ตู้บอกมา ยังไงก็คงไม่ตาย วางใจเถอะ”

“…”

รองผู้จัดการเพิ่งเคยเจอคนที่ไม่สนใจร่างกายตัวเองเป็นครั้งแรก เธอหยิบบิสกิตออกมาจากในกระเป๋าหลายห่อ “งั้นนายกินสักหน่อย ฉันจะส่งนายขึ้นไปพักผ่อนบนรถ”

โซฟาของห้องพักไม่ใหญ่ นั่งสองคนก็เบียดกันแล้ว อีกทั้งด้านนอกมีคนขวักไขว่ไปมาเสียงดังมาก บางครั้งยังมีทีมงานเข้าๆ ออกๆ อีกด้วย

เพิ่งอาเจียนมารอบหนึ่ง ตอนนี้เจี่ยนหรงเห็นอะไรก็ไม่อยากอาหารเอาซะเลย เขาเลยหาข้ออ้างไปเรื่อยเปื่อย “ไม่กินแล้วครับ ไม่ชอบรสนี้ ผมนั่งเฉยๆ ที่นี่ก็พอ คุณไม่ต้องสนใจผมหรอก”

“…ยังไงก็ต้องกินสักหน่อยนะ” รองผู้จัดการยืนกราน “อีกอย่างเทพลู่เป็นคนให้ฉันมาพานายไปพักที่รถ”

เจี่ยนหรงชะงักแล้วหันหน้าไปมองเธอ

“จริงๆ นะ” รองผู้จัดการทีมชูเสื้อคลุมในมือของตัวเองขึ้น “ยังบอกว่าในรถไม่มีผ้าห่ม…ให้ฉันเอาเสื้อคลุมห่มให้นาย”

เจี่ยนหรงกลับไปที่รถประจำทีม

รถที่นั่งในวันนี้เป็นรถมินิแวน เบาะหลังกว้างขวาง เจี่ยนหรงเก็บขานิดหน่อยก็นอนลงได้

เขานอนอยู่บนเบาะ ผมตรงหน้าผากเปิดออก เผยหน้าผากอันสะอาดสะอ้าน

เจี่ยนหรงรู้สึกหมดแรงอยู่บ้างแต่เขานอนไม่หลับ

เขาใช้มือถือเปิดดูถ่ายทอดสดการแข่งขัน

เกมเข้าสู่หน้าแบนแอนด์พิกแล้ว กล้องนักแข่งกำลังจับภาพลู่ป๋อหยวนพอดี

ลู่ป๋อหยวนสวมเสื้อทีมแขนสั้นเพียงตัวเดียว เขาเม้มริมฝีปาก สีหน้ายังคงเย็นชา จากนั้นก็เหมือนพูดว่าอืมคำหนึ่งก่อนยกนิ้วชี้ขึ้นดันไมโครโฟนของตัวเองไปด้านนอกเล็กน้อย

ผู้บรรยาย A กล่าว “PUD ยังคงแบน Lee Sin…เกมที่แล้วเทพลู่แข่งจนตื่นเต้นหรือเปล่า แม้แต่เสื้อคลุมก็ถอดแล้ว”

ผู้บรรยาย B หัวเราะ “แต่ผมดูลักษณะแล้วไม่ค่อยเหมือนตื่นเต้นนะครับ”

เจี่ยนหรงดึงเสื้อคลุมที่ห่มอยู่บนร่างขึ้นมาถึงคาง ดมกลิ่นเจลอาบน้ำอ่อนๆ

ผู้บรรยาย A พูดต่อไป “ผมคิดไม่ถึงเลยว่า TTC จะใช้วิธีเปลี่ยนคน มีกลยุทธ์อะไรหรือเปล่าครับ”

ผู้บรรยาย B เอ่ย “เป็นไปได้นะครับ เหอจื่อเองก็เป็นมิดเลนแบบทีมไฟต์ อาจจะอยากสู้กับ PUD ช่วงท้ายเกม?”

ผู้บรรยายทั้งสองคนเริ่มวิเคราะห์สาเหตุการส่งตัวสำรองอย่างออกท่าออกทาง ขณะเดียวกันในการแข่งขันเหอจื่อได้ล็อก Lissandra แล้ว

Lissandra คือแชมเปี้ยนขึ้นชื่อของเหอจื่อ และเป็นแชมเปี้ยนเพียงหนึ่งเดียวที่เจี่ยนหรงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ขณะโซโล่กับเขา เจี่ยนหรงยังเคยเห็นเขาเล่นตอนลงแรงก์มาก่อนด้วย นับว่าเล่นได้ไม่เลวทีเดียว

ลู่ป๋อหยวนล็อก Kindred

Kindred คือจังเกิ้ลที่มีแดเมจช่วงต้นเกม เห็นได้ชัดว่าเกมนี้ลู่ป๋อหยวนคิดเล่นช่วงต้นเกมและกลางเกม แต่เกมที่แล้ว PUD เพิ่งได้รับบทเรียนมา เกมนี้ย่อมไม่มีทางปล่อยให้ลู่ป๋อหยวนฟาร์มและแกงค์คนอย่างสุขสบายอีก

แชมเปี้ยนที่แครี่ PUD หยิบคือ Ezreal เป็นแชมเปี้ยนที่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองแข็งแกร่งมาก ดังนั้นหลัง Nautilus ผู้เป็นซัพพอร์ตถึงเลเวลที่เหมาะสมก็สามารถตามไปป่วนป่าของ TTC ได้ทันที

เกมนี้เสี่ยวไป๋เล่น Lulu เป็นซัพพอร์ตสายป้องกันที่ไม่อาจติดตามจังเกิ้ล ก่อนเลเวลหกลู่ป๋อหยวนก็ถูกแกงค์ในป่าไปสองครั้ง แม้ไม่ได้แจกคิลแต่การฟาร์มยังคงถูกจำกัดเอาไว้

ภายใต้การคุกคามของจังเกิ้ลและซัพพอร์ตฝ่ายศัตรู กระทั่งผ่านไปแล้วยี่สิบนาทีในสนามมีการคิลเพียงตัวเดียวเท่านั้น Pine คือผู้ที่ได้คิล แต่พูดตามจริงแล้วก็นับว่าได้เปรียบไม่มาก

เจี่ยนหรงดูเวลาการแข่งขัน หากยื้อกันต่อไปอีกสิบนาที…Orianna ของ Savior ก็จะถึงช่วงได้เปรียบแล้ว

เพื่อนร่วมทีมเองก็เห็นปัญหาข้อนี้อย่างชัดเจนจึงรวมตัวสู้ทีมไฟต์ทันที โดยที่ทีมไฟต์ครั้งแรกจบลงด้วยผลการต่อสู้สามแลกสาม ไม่ขาดทุนและไม่ได้กำไร

จังหวะทีมไฟต์ครั้งที่สอง PUD จงใจเลี่ยงการต่อสู้ ไม่ได้เปิดไฟต์

ทีมไฟต์ที่สาม Orianna เริ่มแสดงความสามารถ

Savior เล่น Orianna ได้ถึงขั้นชำนาญ เขาตรวจสอบตำแหน่งการยืนให้แน่ใจ จากนั้นแฟลชเข้าไปปล่อยสกิลอัลติเมตดึงสี่คนเอาไว้ ก่อนเบิร์สต์แดเมจสร้างความเสียหายครั้งใหญ่

ทีมไฟต์ครั้งนี้ทำให้ TTC ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย

ที่จริงก็มองออกว่าเหอจื่อหาโอกาสอยู่ตลอด แต่น่าเสียดายที่มิดเลนและแครี่ฝ่ายตรงข้ามหยิบสเปลคลีนส์* ที่สามารถล้าง CC ของเขาได้มา จึงทำให้การคุกคามของเขาตกต่ำอย่างไร้ขีดจำกัด

เกมนี้สู้กันไปสี่สิบหกนาทีแล้ว ป้อมซูเปอร์มินเนี่ยนทั้งสามเลนของ TTC แตกทั้งหมด สุดท้ายขณะที่เหอจื่อกำลังเคลียร์มินเนี่ยนอยู่นั้นก็ถูกซัพพอร์ตฝ่ายศัตรูแฟลชเข้ามาบังคับเปิดไฟต์ หลังสังหารมิดเลนได้ PUD จึงบุกโจมตีต่อไป สุดท้ายก็ดันฐานของ TTC จนแตก

PUD คว้าชัยชนะของการแข่งขันรอบเก็บคะแนนแมตช์นี้ไปด้วยผล 2 : 1

เจี่ยนหรงเพิ่งปิดการถ่ายทอดสด ด้านบนของมือถือก็มีการแจ้งเตือนเวยป๋อเด้งขึ้นมา…

 

[วงการอีสปอร์ตวุ่นวายมาก PUD เอาชนะ TTC ไป 2 : 1 สิ้นสุดการชนะติดต่อกันของ TTC! คลิกเพื่อดูเบื้องหลังการเปลี่ยนคนของ TTC!]

 

‘วงการอีสปอร์ตวุ่นวายมาก’ คือแอ็กปล่อยข่าวปลอมรายใหญ่ที่ได้รับการยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ ซึ่งแอ็กเคานต์รองของเขาได้กดติดตามเอาไว้ เจี่ยนหรงกวาดตามองตัวหนังสือบรรทัดสุดท้าย ก่อนหลุบตาแล้วกดเข้าไป

วงการอีสปอร์ตวุ่นวายมากบอกว่าจากการเปิดเผยของคนที่เชื่อถือได้ Road เป็นคนเอ่ยปากจะเปลี่ยนตัว Soft แถมยังบอกว่าสีหน้าของ Road เคร่งขรึมเหมือนกำลังโกรธอยู่ สุดท้ายยังมีการเน้นย้ำว่าตอนนั้น Soft ไม่ได้อยู่ในห้องพัก

เจี่ยนหรงอ่านไปมาสองรอบ ความจริงคำพูดท่อนนี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่กลับเป็นการเปิดพื้นที่จินตนาการต่างๆ แก่ชาวเน็ต…บางทีนี่อาจเป็นจุดที่เยี่ยมยอดของแอ็กปล่อยข่าวปลอม

ตามคาดช่องคอมเมนต์เปิดศึกแล้ว

 

[ในที่สุด Road ก็ทนไม่ไหวแล้ว? เกมแรกของวันนี้ Soft เล่นห่าอะไร เล่น Syndra แต่ก็ฆ่า Volibear ไม่ได้ กากจัดเลยจริงๆ ห่างชั้นกับ Savior หนึ่งกาแล็กซี่]

[ไอ้โง่ ไว้เกมหน้านายลองใช้ Syndra ฆ่า Volibear ที่เลเวลสูงกว่าตัวเองหนึ่งเลเวลครึ่งดูหน่อยไหม ไม่เห็นเหรอว่า Soft กดจน Savior ไม่กล้าออกจากป้อม อีกอย่างแดเมจในเกมแรกของ Soft ก็สูงกว่า Savior OK?]

[ใครชนะคนนั้นสุดยอด กะอีแค่ชนเลนเก่งมีประโยชน์อะไร นี่เป็นเกมที่เล่นห้าคน Soft ของนายมีฝีมือขนาดใช้หนึ่งแบกห้าในลีก LPL เชียวเหรอ]

[เกมที่สามลูกชายฉันไม่ได้ลง ถ้าลงไม่รู้ใครจะชนะใคร แฟนคลับ PUD เพ้อเจ้ออะไรอยู่]

[ถ้าไม่ใช่เพราะเล่นกากทำไมถึงไม่ได้ลงล่ะ Road ขอเปลี่ยนคนเองด้วย ไอ้โง่กลุ่มหนึ่งยังชิปอยู่อีก ตลกจริงๆ]

[รอเดี๋ยว ฉันได้ยินว่า Soft ไม่สบายก็เลยไม่ได้ลงนี่? มีคนเห็นเขาถูกทีมงานพยุงออกจากสนามแข่ง ข่าวลือนะ! ลือกันว่าน้ำตาลในเลือดต่ำ]

[น้ำตาลในเลือดต่ำ? เป็นไปได้เหรอ แม้แต่สมาชิกของทีม TTC ก็ยังน้ำตาลในเลือดต่ำ งั้นสมาชิกทีมอื่นอย่ามีชีวิตอยู่เลย]

[ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ ต้องดูสมรรถภาพร่างกายแต่ละคนโอเคไหม อีกอย่าง Soft ก็ผอมมากอยู่แล้ว]

[เชี่ย ทำไมเจ้าผมฟ้ายิ่งไปอยู่ในทีมยิ่งน่าสงสาร ความกดดันมากเกินไปหรือเปล่า]

[ไปก่อนล่ะ ไปเติมเงินฟลัดของขวัญ ลูกชายโง่เง่าคนนี้ทำฉันโกรธแทบตาย]

[พูดตามตรง ถ้ารักษาสมดุลโภชนาการและกินข้าวให้เต็มที่ ปกติแล้วไม่มีทางน้ำตาลในเลือดต่ำ ทีม TTC มีนักโภชนาการ Soft ป่วยจนต้องออกจากสนามก็ออกจะเกินไปหน่อย]

[+1 นอกจากอาการบาดเจ็บที่มือที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงแล้ว นักแข่งต่างมีความรับผิดชอบในการดูแลร่างกายของตัวเองให้เต็มที่]

[เอ็นดู Road มากเลย ในสามเกมเขาแข่งเหนื่อยที่สุด ถ้า Soft อยู่ เกมที่สามก็ไม่แน่ว่าจะแพ้]

[Road ยังมีอาการบาดเจ็บที่มือไม่ใช่เหรอ]

 

เมื่อก่อนเจี่ยนหรงไม่สนใจคอมเมนต์ของชาวเน็ตเหล่านี้เลย ไม่ว่าคนอื่นจะด่าจะว่าอย่างไร เขาก็ไม่เจ็บไม่คัน

แต่เขาต้องยอมรับว่าครั้งนี้มีคอมเมนต์หลายคอมเมนต์ที่แทงใจดำของเขา

เป็นเขาเองที่ไม่กินอาหารเช้าเพราะกลัวง่วงหลังกินข้าว จึงทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นเหตุให้ไม่ได้ลงสนามและพ่ายแพ้การแข่งขัน

นี่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจกว่าลงสนามแล้วถูกคนอื่นตบซะอีก

ลู่ป๋อหยวนแบกทีมด้วย Lee Sin เกมที่สามถูกโฟกัสแต่ก็ยังฟาร์มอย่างดื้อรั้น ทั้งสามเกมเลนล่างของเสี่ยวไป๋กับ Pine ไม่เสียเปรียบเลยสักเกม เกมแรกหยวนเชียนอ่อนหัดเล็กน้อย แต่อีกสองเกมเขาทนต่อความกดดันกัดฟันเกาะป้อมจนไม่เกิดข้อผิดพลาดอีก…

เพื่อนร่วมทีมต่างพยายามอย่างยิ่ง ความผิดของเขาใหญ่ที่สุด

สำหรับเจี่ยนหรงแล้วความรู้สึก ‘ละอายใจ’ นั้นมีความแปลกหน้าไม่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก เขาจับมือถือไว้ด้วยมือข้างหนึ่งแล้วใช้อีกมือปิดตาเอาไว้ ค่อยๆ รู้สึกอยากอาเจียนทีละน้อยอีกครั้ง

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่กว่าประตูรถจะถูกเปิดออก

สุ้มเสียงของเสี่ยวไป๋ถ่ายทอดเข้ามาก่อน “PUD มีกลิ่นอายของทีมลีกเกาหลีจริงๆ พอฉันเห็นคอมพ์ช่วงท้ายเกมของพวกเขาก็ขนหัวลุกปวดท้องฉี่แล้ว”

“98K เก่งมาก ฉันเองก็คิดจะไปฝึก Volibear ดูเหมือนกัน เฮ้อ หลายวันมานี้ฉันไม่กล้าอ่านโพสต์เทียปาเลยจริงๆ” หยวนเชียนนั่งอยู่บนรถที่โคลงเคลงเล็กน้อย เขาหันหน้ามาถามว่า “เสี่ยวหรง นายโอเคมั้ย ได้ยินว่านายอ้วก?”

เจี่ยนหรงลุกขึ้นนั่ง “ผมไม่เป็นไร ดีขึ้นมากแล้ว”

“คนผอมก็มีความหงุดหงิดของคนผอม” เสี่ยวไป๋ทอดถอนใจเสร็จก็พูดต่อด้วยความประหลาดใจ “ใช่แล้ว นายเจอกับโต้วฟูแต่ไม่ได้ต่อยกัน?!”

เจี่ยนหรงเอ่ยโดยปราศจากสีหน้า “เกือบแล้ว”

เสี่ยวไป๋ “…”

เหอจื่อ Moon และทีมงานต่างนั่งรถอีกคันหนึ่ง ขณะนี้เหอจื่อยืนอยู่นอกประตูรถ ชะโงกหน้ามาพูดด้วยความรู้สึกขอโทษ “Soft ขอโทษนะ วันนี้ฉันเล่นไม่ดี”

เจี่ยนหรงตกตะลึงหนึ่งวินาทีแล้วจึงพูดว่า “ไม่เลย ความผิดของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย”

เสี่ยวไป๋ถามอย่างไม่ไยดี “นายมีความผิดอะไร”

เจี่ยนหรงตอบเขาว่า “ฉันน้ำตาลในเลือดต่ำ ลงสนามไม่ได้ ก็เลยแพ้”

บนรถนิ่งเงียบไปหลายวินาที แม้แต่พี่ติงที่เพิ่งขึ้นรถก็หันหน้ามามองด้วยความประหลาดใจ

หยวนเชียนยิ้มออกมา “ความหมายของนายคือนายลงแล้วพวกเราชนะแน่?”

เสี่ยวไป๋เอ่ย “…นายแม่งโคตรบ้า”

Pine มองไปนอกหน้าต่างเงียบๆ

เจี่ยนหรงไม่ได้รู้สึกว่าความคิดของตัวเองมีอะไรไม่ถูกต้อง “อย่างน้อยโอกาสชนะคงสูงขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์”

“ถึงสิ่งที่นายพูดจะเป็นความจริง” เหอจื่อกุมหัวใจพลางเอ่ย “แต่ฉันยังเจ็บอยู่ ฉันกลับขึ้นรถแล้ว ไว้พบกัน”

“เอาล่ะ จบแล้วก็ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนั้นแล้ว เกมสุดท้ายคอมพ์ของ PUD คิดยื้อถึงช่วงท้ายเกมอย่างชัดเจน นายลงก็ไม่แน่ว่าจะเซฟเท่าเหอจื่อ” พี่ติงเคยเห็นนักแข่งมามาก แวบเดียวก็มองออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตอนที่เพิ่งเข้าวงการมีใครบ้างไม่เกิดปัญหา ต่อไปต้องใส่ใจร่างกายตัวเองให้มาก กินข้าวตรงเวลาก็พอ”

เจี่ยนหรงพยักหน้า อดไม่ได้ที่จะมองไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง

เมื่อมองไม่เห็นคนที่อยากเห็น เขาก็เม้มริมฝีปากถามว่า “กัปตันล่ะ”

เสี่ยวไป๋ถอดหมวกกำลังจัดผมอย่างหลงตัวเอง “ไม่รู้สิ เพิ่งแข่งเสร็จก็บอกว่ามีธุระต้องจัดการ ขอเวลาประมาณสิบนาที ให้พวกเรามารอบนรถ”

Pine เอ่ย “โทรถามดูหน่อย?”

“เมื่อกี้โทรแล้ว ไม่รับ” พี่ติงขมวดคิ้ว พึมพำว่า “ฉันบอกว่าจะหาคนไปเป็นเพื่อนเขาก็ไม่ยอม”

หยวนเชียนพูดว่า “แถวนี้มีแฟนคลับเยอะขนาดนี้ คงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอกมั้งครับ…”

เจี่ยนหรงนั่งไม่ติดแล้ว

เขาหยิบหมวกขึ้นมาใส่ง่ายๆ ก่อนลุกขึ้น “ผมจะไปหาเขา”

“ไม่ต้องๆ” เสี่ยวไป๋รีบขวางเขาเอาไว้ “ฉันกลัวว่านายจะอ้วกบนทางเดิน เพิ่มงานให้เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลเปล่าๆ”

“ฉันดีขึ้นแล้ว” เจี่ยนหรงตอบ

เสี่ยวไป๋ยื่นมือจับแขนของเขาเอาไว้ “หน้านายขาวกว่าฉันทาแป้งอีก ดีขึ้นกับผีสิ…”

เจี่ยนหรงไม่ได้ตอบอะไรอีก มือเขาเพิ่งวางบนประตูรถ จู่ๆ มันก็ถูกเปิดออก

ลู่ป๋อหยวนสวมผ้าปิดปากและหมวกยืนอยู่นอกประตู เผยให้เห็นเพียงดวงตาเรียวยาวคู่หนึ่ง

เจี่ยนหรงสวมหมวกต่ำมาก ตอนแรกมองเห็นเพียงชุดทีมบนร่างของลู่ป๋อหยวนกับถุงพลาสติกสีดำที่ถืออยู่ในมือ

เจี่ยนหรงยังไม่ทันตอบสนอง ปีกหมวกก็ถูกคนจับเอาไว้แล้วยกขึ้นเล็กน้อย

ลู่ป๋อหยวนมองดูเขาพลางถามเสียงทุ้มผ่านผ้าปิดปาก “จะไปไหน”

เขายังไม่ทันเอ่ยปากเสี่ยวไป๋ก็ช่วยพูดก่อนแล้ว “เจี่ยนหรงกลัวพี่หายไป เลยเตรียมจะลากสังขารผุพังไปหาพี่น่ะ”

อาการน้ำตาลในเลือดต่ำทำให้เจี่ยนหรงตอบสนองเฉื่อยชาอยู่บ้าง กระทั่งเขากลับไปนั่งที่เบาะหลังอีกครั้ง ความคิด ‘สู้ตายกับเสี่ยวไป๋’ จึงผุดขึ้นมาช้าๆ

ระหว่างทางกลับแคมป์ เดี๋ยวเสี่ยวไป๋ก็บ่นว่าเกมแรกถูกแกงค์จนเละเป็นโจ๊ก เดี๋ยวก็บ่นว่าไม่ได้เล่น Blitzcrank เลยอดใช้สกินแชมป์โลก พี่ติงกำลังถกเถียงกับหยวนเชียนเรื่องความผิดพลาดเล็กน้อยขณะหยวนเชียนชนเลนในเกมแรก ขณะที่ Pine เปิดมือถือดูรายการวาไรตี้

ที่นั่งหลายแถวหน้าเสียงดังเกินไป เบาะหลังจึงเงียบเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด

เจี่ยนหรงไม่ได้ถอดหมวก อาศัยจังหวะที่ลู่ป๋อหยวนมองไม่เห็น หลุบตาจ้องมือของลู่ป๋อหยวนอยู่ตลอด

เขาจำได้ว่ามีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่าลู่ป๋อหยวนมีอาการบาดเจ็บที่มือ?

ถ้าเป็นกล้ามเนื้อบาดเจ็บธรรมดา เหมือนยังไม่ถึงกับต้องใช้คำว่า ‘อาการบาดเจ็บที่มือ’

จ้องไปจ้องมามือข้างนี้ก็พลันยื่นมาหา

ลู่ป๋อหยวนวางถุงพลาสติกสีดำไว้ในอ้อมอกเขา

เจี่ยนหรงตกตะลึง จากนั้นก็ถามว่าคืออะไรไปพลางเปิดถุงไปพลาง

ในถุงนั้นเต็มไปด้วยขนมอย่างเช่นลูกอม บิสกิต ช็อกโกแลต…บรรจุภัณฑ์กับรสชาติของทุกแบบล้วนต่างกัน

ลู่ป๋อหยวนถอดผ้าปิดปากออก “กินสักหน่อย”

เจี่ยนหรงยังคงค้างในท่าที่เปิดถุงเอาไว้ ไม่กี่วินาทีให้หลังเขาก็พูดว่า “…ทำไมซื้อมาเยอะแยะขนาดนี้”

ลู่ป๋อหยวนกวาดตามองเขาแวบหนึ่ง “รองผู้จัดการบอกฉันว่าในทีมมีคนเลือกกิน”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพักผ่อนพอแล้วหรือเปล่า เจี่ยนหรงถึงไม่รู้สึกทรมานแล้ว

เขากินช็อกโกแลตครึ่งชิ้นกับบิสกิตสองถุง ก่อนหลับตางีบยังโยนลูกอมเข้าไปในปาก

เขาถอดหมวกออก ศีรษะพิงอยู่บนหน้าต่างรถ หลับตาแต่กลับไม่ได้นอนหลับเลย

อารมณ์ของเขาในตอนนี้แปลกเล็กน้อย

เมื่อได้รับขนมที่รวมกันแล้วอาจไม่เกินห้าร้อยไคว่ถุงนี้ เขาเหมือนดีใจจนเกินไปอยู่บ้าง…ดีใจกว่าตอนขึ้นแรงก์ชาเลนเจอร์ครั้งแรก ได้รับของขวัญสตรีมครั้งแรก ขึ้นการแนะนำที่หน้าแรกของสตรีมครั้งแรก

ลู่ป๋อหยวนแข่งติดต่อกันสามเกม แต่เรื่องแรกที่ทำหลังลงจากเวทีก็คือซื้อลูกอมให้เขา

พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา เจี่ยนหรงจึงอดไม่ได้ที่จะกัดลูกอมในปาก

พี่ติงหันหน้ามา “นายรู้สึกมั้ยว่าไม่กี่เกมนี้ XIU เล่นได้ธรรมดา…”

ขณะนั้นลู่ป๋อหยวนกำลังเล่นมือถือ เขาพูดเบาๆ โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า “เบาเสียงหน่อยครับ”

พี่ติง “…”

พี่ติงมองดูเจี่ยนหรงที่พิงหน้าต่างหลับแล้วลดเสียงพูดว่า “คืนนี้ฉันให้คุณป้าทำกับข้าวหลายอย่างหน่อย ช่วงนี้ต้องรีบบำรุงเขา”

“เพิ่มกับข้าวไปก็ไม่มีประโยชน์” ลู่ป๋อหยวนเอ่ย “ต้องเฝ้าไว้”

พี่ติงพยักหน้า “ก็จริง อาหารเช้าที่คุณป้าทำอร่อยมาก แต่เขากลับอดทนไว้ไม่กิน…งั้นฉันจัดผู้ช่วยส่วนตัวให้เขาดีกว่า?”

ลู่ป๋อหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ต้องครับ ยุ่งยาก”

พี่ติงอาสา “งั้นฉันเอง…”

“ผมดูแลเขาเอง” ลู่ป๋อหยวนพูด

พี่ติง “…?”

เจี่ยนหรง “…”

พี่ติงตกตะลึงอยู่สองวินาทีจึงเข้าใจความหมายของเขารางๆ

“นายแม่งให้มิดเลนที่ฉันซื้อตัวมาหนึ่งล้านสี่แสนนวดมือให้นายยังพอว่า” พี่ติงรู้สึกเหลือเชื่อ “แต่นี่ฉันจ่ายสิบล้านกว่าซื้อนายมาเพื่อให้นายไปเฝ้าคนอื่นกินข้าวเหรอ…”

พี่ติงยังไม่ทันพูดจบ รถก็เหมือนแล่นผ่านหลุมใหญ่หลุมหนึ่งจนทั้งคันสั่นไหวอย่างแรง

เจี่ยนหรงถูกสั่นสะเทือนจนตัวเอนเล็กน้อย ศีรษะของเขากำลังจะชนกับกระจก แต่แล้วลำคอพลันถูกคนยื่นมือมาพยุงเอาไว้

เขาจับลำคอของเจี่ยนหรงไว้อย่างง่ายดาย ออกแรงเล็กน้อยให้เด็กหนุ่มพิงบนไหล่ตนเอง

พี่ติงถูกสั่นสะเทือนจนกลับไปที่เดิม เอ่ยให้คนขับขับช้าลงหน่อยด้วยเสียงแผ่วเบาทันที บอกว่าบนรถมีสมาชิกทีมกำลังนอนหลับ

ที่เบาะหลังเจี่ยนหรงซึ่งหลับตาอยู่ตลอดกำลังหัวใจเต้นรัว หัวสมองยุ่งเหยิง ขนตาสั่นไหวอย่างรวดเร็วจนคล้ายเห็นเป็นภาพลวงตา

 

* มังกร หรือเดรกทั้งสี่ธาตุจะสุ่มเกิดขึ้นมาจนกระทั่งถึงตัวที่สาม หากมังกรตัวที่สามเป็นธาตุใด มังกรตัวถัดไปก็จะเป็นธาตุเดียวกัน เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถเก็บมังกร (เดรก) ได้ครบ 4 ตัวก่อน จะมีวิญญาณมังกร หรือ Elder Dragon เกิดขึ้นมา ซึ่งจะมีบัฟความสามารถที่สูงกว่าเดรก ทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันเป็นอย่างมาก โดยบัฟของมังกรลมจะเป็นการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ มังกรน้ำช่วยในการฟื้นฟู ส่วนมังกรไฟเพิ่มแดเมจ หลายคนเลยมองว่าบัฟจากมังกรลมนั้นไม่มีประโยชน์เมื่อเทียบกับมังกรไฟหรือมังกรน้ำ

** 120 เป็นหมายเลขโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินของประเทศจีน

* สเปลคลีนส์ เป็นเวทสนับสนุนแบบกำหนดเป้าหมาย มีผลในการลบล้างเอฟเฟ็กต์ของ CC และสถานะดีบัฟต่างๆ

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com