everY
ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 3 บทที่ 77 – 78 #นิยายวาย
78
พอกลับมาที่แคมป์แพทย์ประจำทีมก็มาถึงแล้ว
เขาวัดน้ำตาลในเลือดให้เจี่ยนหรง ปรากฏว่ามันเกินค่าปกติขึ้นมาอย่างฉิวเฉียด
“ดีขึ้นบ้างแล้ว” แพทย์ประจำทีมเก็บเครื่องวัดระดับน้ำตาลแล้วถามว่า “เมื่อก่อนเคยมีอาการแบบนี้หรือเปล่า”
เจี่ยนหรงส่ายหน้า ถ้าก่อนหน้าเคยมีอาการ เขาย่อมไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นอีก
“งั้นต่อไปต้องระวังให้มาก” แพทย์ประจำทีมครุ่นคิด “แต่คนที่น้ำตาลในเลือดต่ำจะมีอาการอาเจียนให้พบน้อยมาก อาจเป็นเพราะกำลังแข่งขันอยู่พอดีนายเลยกดดันมาก ถ้าต่อไปยังรู้สึกปวดท้องอีกต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลนะ”
เจี่ยนหรงพยักหน้า “โอเคครับ”
“ตอนนี้นายยังทรมานอยู่มั้ย” พี่ติงมองดูสิ่งของในมือของเขา “นายจะถือถุงนี่ไปถึงเมื่อไหร่ วางไว้ที่โต๊ะไม่ได้เหรอ”
“ดีขึ้นมากแล้วครับ” เจี่ยนหรงผูกถุงพลาสติก ลากกระเป๋าอุปกรณ์ต่อพ่วงของตัวเองมาแล้วเปิดออก ก่อนที่จะใส่มันเข้าไป
ลู่ป๋อหยวนมองไปยังแพทย์ “อาการผิดปกตินี้มีวิธีรักษามั้ยครับ”
“สิ่งสำคัญก็ยังคงเป็นด้านชีวิตความเป็นอยู่ เวลากินข้าวต้องมีวินัย กินอาหารก็ต้องรักษาสมดุลโภชนาการ เดี๋ยวฉันจะกำชับคุณป้าที่แคมป์พวกนายไว้” แพทย์ประจำทีมชะงักเล็กน้อย “แล้วก็ต่อไปเวลาออกไปข้างนอกก็พกลูกอมกับบิสกิตติดตัวไว้หน่อย”
“โอเคครับ” ลู่ป๋อหยวนพยักหน้า “คืนนี้รบกวนให้คุณมาแล้ว”
“ไม่รบกวน ฉันมาดูมือนายพอดี” แพทย์ประจำทีมก้มหน้ามองดู “หลายวันมานี้ฝึกซ้อมเกินเวลาอีกแล้วใช่มั้ย ฉันเคยบอกแล้วว่ามือนาย…”
เมื่อรู้สึกได้ว่าสายตาของเจี่ยนหรงกวาดมองมา ลู่ป๋อหยวนก็ขัดจังหวะเขา “เรื่องนี้อีกหน่อยค่อยว่ากันครับ”
ด้วยความที่วันนี้สมาชิกทีมอาการไม่ดี พี่ติงจึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ตื่นกันแล้วค่อยดูรีเพลย์การแข่งขัน
หลังกินอาหารเย็นเสร็จ เจี่ยนหรงก็ถูกไล่ไปนอนทันที
เขาเพิ่งขึ้นชั้นบน เสี่ยวไป๋ก็ระบายลมหายใจ “สีหน้าของเจี่ยนหรงเหมือนดีขึ้นเล็กน้อย? ตอนอยู่หลังเวทีหน้าเขาดูซีดมากเลย เหมือนจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ”
หยวนเชียนเห็นด้วย “ตอนกลับมาที่รถสีหน้าเขาก็ดูไม่ค่อยดี เฮ้อ ยังผอมเกินไป”
“ตอนนั้นเขากำลังดูถ่ายทอดสด” Pine พูดอย่างเฉยชา “ฉันได้ยินเสียงผู้บรรยาย”
“ดูถ่ายทอดสด…” เสี่ยวไป๋นิ่วหน้า “ความสามารถในการต้านแรงกดดันของเขาแข็งแกร่งจริงๆ ฉันใช้นิ้วเท้าก็คิดได้ว่าซับกระสุนในการถ่ายทอดสดวันนี้น่ากลัวแค่ไหน ไม่น่าล่ะ ตอนกินข้าวเขาไม่พูดเลยสักประโยค”
ลู่ป๋อหยวนไม่ได้ส่งเสียง เขาโยนมือถือเข้ากระเป๋าแล้วหันกายไปห้องน้ำชาตามลำพัง
เมื่อเจี่ยนหรงอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าในมือถือมีข้อความวีแชตหลายข้อความ
Qian เสี่ยวหรง ชอบกินน้ำแกงไหม พี่สะใภ้นายบอกว่าอยากต้มน้ำแกงมาให้ อย่าเห็นว่าปกติเธอดูไม่สนใจไยดีอะไรเท่าไหร่ จริงๆ น้ำแกงที่เธอต้มหอมเป็นพิเศษเลย (ไม่ได้หมายความว่าน้ำแกงที่คุณป้าในแคมป์ทำไม่หอมนะ)
Pine [แชร์ลิงก์ : ผู้ป่วยน้ำตาลในเลือดต่ำควรระวังอะไร]
เสี่ยวไป๋ ชั้นสุดท้ายบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ฉันมีช่องเล็กๆ อยู่ ด้านในใส่ช็อกโกแลตไว้เยอะมาก ต่อไปถ้านายรู้สึกไม่สบายตอนฝึกซ้อมก็หยิบมากินได้เลย
เจี่ยนหรงยังคงไม่มีแรงอยู่บ้าง เขานั่งอยู่ตรงหัวเตียง อ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมาและกดช่องพิมพ์แชตหลายรอบแต่ไม่รู้ว่าควรตอบอะไร
เขาไม่ได้รับข้อความแบบนี้มานานมากแล้ว ในวีแชตของเขาแอดคนไว้มากมาย มีทั้งสตรีมเมอร์ แอดมิน ผู้บริหารระดับสูง ข้อความที่ได้รับแทบจะเป็นข้อความที่เกี่ยวกับการสตรีมทั้งหมด หรือบางครั้งช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลอื่นเมื่อได้รับข้อความอวยพรก็ไม่จำเป็นต้องตอบกลับ
เจี่ยนหรงพิมพ์คำว่า ‘โอเค’ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเพิ่มคำว่า ‘ขอบคุณ’ อีกคำ
ข้อความเพิ่งส่งออกไปไม่ถึงสองวินาทีประตูก็ถูกเคาะ
ลู่ป๋อหยวนเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ส่วนมืออีกข้างถือแก้วเอาไว้พลางพูดว่า “ดื่มเจ้านี่ค่อยนอน”
พอเจี่ยนหรงรับแก้วมาก็ได้กลิ่นหอมของน้ำผึ้งอ่อนๆ “…ขอบคุณครับ”
บรรยากาศเงียบไปสองวินาที
ลู่ป๋อหยวนถอนหายใจเบาๆ “เข้าไปได้มั้ย”
เจี่ยนหรงดึงประตูห้องเปิดกว้างทันที
เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ในห้องจึงมีกลิ่นเจลอาบน้ำที่คุ้นเคยอบอวล ลู่ป๋อหยวนเคยนอนไม่หลับและได้กลิ่นมันอยู่ทั้งคืน
เขาไม่ได้เดินเข้าไปในห้อง เพียงกอดอกพิงผนังเท่านั้น “การแข่งวันนี้…”
เจี่ยนหรงต่อความอย่างรวดเร็ว “ความผิดผมใหญ่มาก”
ลู่ป๋อหยวนเลิกคิ้ว “นายคิดว่าความผิดของนายคืออะไร”
“ความสามารถในการสนับสนุนอ่อนเกินไป ยังคอลล์เกมได้ไม่ดี สู้ทีมไฟต์ไม่สนใจเพื่อนร่วมทีม” เจี่ยนหรงก้มหน้าเอาไว้ “…ไม่กินข้าวเช้าให้เต็มที่ ป่วยจนทำให้ไม่ได้ลงในการแข่งขันเกมที่สาม”
ลู่ป๋อหยวนพยักหน้า “มีอีก”
เจี่ยนหรงครุ่นคิด “ช่วงต้นเกมไม่ได้ช่วยเลนบน ระหว่างนั้นมีเวฟหนึ่งที่ผมควรตามคุณไปเลนบน”
ลู่ป๋อหยวนไม่ได้ส่งเสียงใด เป็นนัยให้เขาพูดต่อไป
“ยังมี…” วันนี้เจี่ยนหรงฟอร์มไม่ดี รายละเอียดการแข่งขันมากมายเขาล้วนจำได้เลือนราง “ผมขอคิดดูหน่อย”
ลู่ป๋อหยวนเตือนสติอย่างเฉยชา “เป็นเรื่องนอกการแข่งขัน”
เจี่ยนหรงเข้าใจทันที “…ผมไม่ควรด่าโต้วฟูว่ากาก”
ลู่ป๋อหยวน “…”
“และไม่ควรด่าเขาว่าไอ้โง่”
“…”
“ยิ่งไม่ควรเยาะเย้ยว่าเขาแพ้ติดต่อกันเก้าแมตช์”
“ไม่เกี่ยวกับเขา” ลู่ป๋อหยวนขัดจังหวะอย่างเฉยชา หลุบตามองดูอีกฝ่าย “ไม่สบายทำไมไม่บอก”
เจี่ยนหรงตกตะลึงเล็กน้อย “ผมอ้วกเสร็จก็ดีขึ้นแล้ว ไม่ส่งผลต่อการเล่น”
“นี่ไม่เกี่ยวข้องกับการแข่ง” ลู่ป๋อหยวนนิ่งเงียบสองวินาทีก่อนพูดว่า “ทีมเซ็นสัญญากับนาย ไม่ใช่ให้นายมาทุ่มเทสุดชีวิต”
เจี่ยนหรงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “…เป็นความผิดผมเอง”
ลู่ป๋อหยวนมองดูเขาอย่างนิ่งเงียบครู่หนึ่ง
“ปัญหาของนายในวันนี้มีเยอะมาก”
เจี่ยนหรงหลับตาลง กำลังจะใจแป้วอยู่แล้ว แต่ก็ได้ยินลู่ป๋อหยวนพูดต่อว่า “แต่ล้วนเป็นความผิดพลาดที่สมาชิกใหม่อาจก่อขึ้นได้ ไม่นับเป็นความผิดใหญ่โตอะไร”
เจี่ยนหรงพลันเหลือบตาขึ้นมองฝ่ายตรงข้าม
แววตาของลู่ป๋อหยวนดูนิ่งสงบ “ความสามารถส่วนตัวของนายแข็งแกร่งมากก็เลยชอบบุกเดี่ยว อยากสร้างการเล่นที่ยอดเยี่ยมในการแข่งขัน อยากเป็นชุดหลักทุกแมตช์…ความคิดแบบนี้ปกติมาก”
“…”
“ถ้าอยู่ใน LSPL ที่เต็มไปด้วยหน้าใหม่ นายคงถูกกำหนดว่าจะเป็นแชมป์ไปแล้ว บางทีอาจยังได้รับคำเชิญจากสโมสรใหญ่อื่นๆ…แต่จุดเริ่มต้นของนายสูงเกินไป ทีมที่เผชิญหน้าก็มีประสบการณ์มาก พวกเขาอาจสู้ 1v1 กับนายไม่ได้ แต่พวกเขารู้ว่าจะควบคุมและกดดันนายยังไง แล้วยังมีนักวิเคราะห์ที่ศึกษาข้อมูลของนายโดยเฉพาะ พวกเขารู้จุดอ่อนของนายดีกว่าตัวนายเองซะอีก…ดังนั้นฉันคิดว่าการที่นายไม่คุ้นกับการเล่นแบบนี้เป็นปกติมาก”
อาจเพราะเสียงของลู่ป๋อหยวนแฝงความปลอบโยนไว้หลายส่วน หรืออาจเพราะเขาสตรีมนานเกินไป คุ้นเคยกับการทำผิดแค่นิดหน่อยแต่ก็ยังถูกด่าเต็มหน้าจอไปแล้วก็เป็นไปได้
สรุปแล้วในขณะนี้เจี่ยนหรงเศร้าใจเล็กน้อย
เขาพูดว่า “…แต่ผมก็ซ้อมแข่งมาตั้งหลายเดือนแล้ว”
“ใช่” ลู่ป๋อหยวนพูดเสียงทุ้มช้า “Twisted Fate Orianna และ Galio แชมเปี้ยนสำหรับการแข่งขันเหล่านี้นายล้วนกำลังฝึกอยู่ นายกำลังพยายามแต่ก็ยังไม่ค่อยพอ ขณะที่ Savior เชี่ยวชาญการสนับสนุนและทีมไฟต์ เขารู้ดีกว่านายว่าควรทำอะไรตอนไหน ถ้านายฝึกไม่กี่เดือนก็ไล่ตามไทม์มิ่งของเขาได้ทัน…นั่นก็ไม่ยุติธรรมกับค่าตัวราคาฤดูกาลละแปดล้านของเขาอยู่บ้าง”
เจี่ยนหรงหลุบตาเอาไว้ นึกถึงเรื่องจริงที่ตนเองเป็นเพียงมิดเลนราคาหนึ่งล้านสี่แสนขึ้นมาอีก
“แต่การแข่งขันรอบเก็บคะแนนเป็นเพียงการให้โอกาสทีมในการปรับเปลี่ยน นายยังมีเวลาฝึกซ้อมอีกมาก” ลู่ป๋อหยวนเลิกคิ้ว “ก่อนอื่นเลยคือร่างกายของนายต้องรับไหว”
“ผมรู้” เจี่ยนหรงพยักหน้า “ผมจะกินข้าวให้เต็มที่”
ลู่ป๋อหยวนผงกศีรษะก่อน ไม่กี่วินาทีให้หลังเขาพลันยิ้มออกมาเล็กน้อย
เจี่ยนหรงถามตามสัญชาตญาณ “ยิ้มอะไร”
ลู่ป๋อหยวนตอบเขาว่า “เปล่า”
แค่รู้สึกว่าคนที่มักจะทำหน้าบูดเกลียดฟ้าเกลียดดินทุกวันมาก้มหน้าพูดว่า ‘ผมจะกินข้าวให้เต็มที่’ แบบนี้ก็น่ารักอยู่บ้าง
ลู่ป๋อหยวนถามต่อว่า “ดีขึ้นบ้างแล้ว?”
“อืม ดีขึ้นแล้ว” เจี่ยนหรงชะงักไปเล็กน้อยแล้วพลันถามว่า “คุณ…เมื่อก่อนก็สั่งสอนพวกเขาแบบนี้เหมือนกัน?”
เจี่ยนหรงไม่มีความคิดอย่างอื่น เขาแค่รู้สึกว่าคำพูดของลู่ป๋อหยวนมีประโยชน์มาก เพียงแค่สิบนาทีสั้นๆ แต่ทั้งร่างของเขากลับเหมือนฟื้นคืนชีพขึ้นมา
ลู่ป๋อหยวนอึ้งไปสองวินาที
เขาครุ่นคิดถึงคำว่า ‘สั่งสอน’ ชั่วครู่จากนั้นถามว่า “นายคิดว่าฉันกำลังสั่งสอนนาย?”
เจี่ยนหรงตกตะลึงเล็กน้อย “อ่า”
ลู่ป๋อหยวนแย้มยิ้มออกมา “ฉันคิดว่าฉันกำลังปลอบนายอยู่”
คำพูดที่ดูแปลกหน้าอย่างคำว่า ‘ปลอบ’ พลันพุ่งเข้าหัวสมองของเจี่ยนหรง
เขาไม่รู้ว่าทำไมความสนใจถึงไปอยู่ที่คำคำนี้หมดแล้ว หลังจากมันวิ่งวนเวียนไปมาในหัวสมอง เขาก็รู้สึกว่าตนเองแทบไม่รู้จักคำคำนี้เลย ซ้ำยังมาแบบกะทันหันเหมือนน้ำเดือดทะลุผ่านลูกโป่ง กระแสความร้อนถั่งโถมพุ่งตรงมาใส่เซลล์ทั่วร่างของเขา
ภายใต้แสงไฟมืดสลัวสายตาของลู่ป๋อหยวนอ่อนโยนมาก เจี่ยนหรงเม้มปาก เลียริมฝีปาก อ้าปาก แต่กลับพูดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น
สุดท้ายลู่ป๋อหยวนขยับมือไปจับประตูที่ด้านหลังแล้วพูดว่า “พักผ่อนเถอะ”
เจี่ยนหรงนอนหลับสบาย ตั้งแต่เข้าทีมมาก็ไม่เคยฝันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
อาจเป็นเพราะนอนเร็วเกินไป เมื่อตื่นนอนในวันต่อมาก็พบว่ายังไม่ถึงเก้าโมง
ก่อนนอนหลับไปเมื่อคืนเขาไม่ได้ปิดม่านหน้าต่าง ดวงอาทิตย์รุ่งเช้าส่องบนเปลือกตาของเจี่ยนหรงชวนให้รู้สึกอบอุ่นและสุขสบาย เขาหลับตาดื่มด่ำอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งจึงค่อยหยิบมือถือขึ้นมาตามความเคยชิน…
[วงการอีสปอร์ตวุ่นวายมาก ติดตามเหตุการณ์ของ TTC…หลังการแข่งขันจบลง Road หายไปด้วยสีหน้าดำมืดเหมือนไม่พอใจมิดเลนคนใหม่]
[วงการอีสปอร์ตวุ่นวายมาก TTC เสี่ยงดึงคนใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์เข้าชุดหลักถูกหรือผิดกันแน่ คลิกอ่านการวิเคราะห์เชิงลึกของโค้ชรีไทร์]
แอ็กปล่อยข่าวปลอมนี้ไม่หลับไม่นอนเหรอ กลางค่ำกลางคืนก็ยังส่งบทความปัญญาอ่อนมาเยอะขนาดนี้?
เจี่ยนหรงปิดมันลงโดยไม่แม้แต่จะอ่านเนื้อหา ก่อนเลิกผ้าห่มลงจากเตียงไปล้างหน้าแปรงฟัน
ทั่วทั้งแคมป์เงียบสงัด ก่อนที่คุณป้าจะมาถึงตอนเก้าโมง เจี่ยนหรงเทนมวัวแก้วหนึ่งไปนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ อ้าปากหาวแล้วจึงเปิดสตรีม
กระแสคนดูในสตรีมตอนเช้าตรู่น้อยกว่ากลางดึก ขณะที่เพิ่งสตรีมบนหน้าจอก็มีซับกระสุนไม่มาก
[เพิ่งแพ้การแข่งขันก็สตรีมแล้ว มาให้โดนฉอด?]
[ทำไมเวลาสตรีมของนายอัศจรรย์ขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เป็นวันพักผ่อนไม่ใช่เหรอ]
[วันพักผ่อนของทีมไหนบ้างที่จะได้พักผ่อนจริงๆ]
[เวลานี้ดีมาก พ่อเพิ่งตื่นนอน ด่าสักหน่อยจะได้เรียกสติพอดี]
[ยังเหลือเวลาสามนาทีก่อนแอนตี้แฟนจะถึงสนามรบ พ่อตื่นมารำไทเก๊กวอร์มร่างกายก่อน]
นักแข่งมากมายต่างไม่มีทางสตรีมหลังแพ้การแข่งขัน เพราะก่อนจะมีทีมที่พ่ายแพ้ทีมต่อไปปรากฏตัวขึ้นมา ระหว่างนี้ความสนใจของแอนตี้แฟนย่อมติดอยู่ที่คุณตลอด
เมื่อเห็นเจี่ยนหรงสตรีม เหล่าพ่อใหม่พากันด่าว่าด้วยสีหน้าโศกเศร้า ส่วนเจ้าตัวฉีกถุงบิสกิตออกกินหนึ่งชิ้น จากนั้นนั่งไขว่ห้างเปิดรีเพลย์การถ่ายทอดสดของเมื่อวาน
“ฟลัดเครื่องหมายคำถามอะไรกัน” เจี่ยนหรงพูดอย่างเกียจคร้าน “ธรรมเนียมเก่า ดูรีเพลย์”
[ธรรมเนียมเก่าอะไร]
[เมื่อก่อนตอนที่หมอนี่กดแรงก์ไม่เก่งมักจะดูรีเพลย์วิดีโอ ต่อมาอาจเพราะความนิยมสูงขึ้น รู้สึกว่าการดูรีเพลย์จะเสียแฟนคลับ ไอ้โง่ก็เลยไม่ทำอีกแล้ว]
[จุดสำคัญไม่ใช่ปัญหาของการแข่งขัน เป็นปัญหาที่คุณสมบัติส่วนตัวของนักแข่ง ฉันเพิ่งเคยเห็นนักแข่งที่ไม่อาจลงสนามเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นครั้งแรก]
[ไสหัวออกจาก TTC ไปเถอะ TTC รับพระพุทธรูปใหญ่* อย่างนายไว้ไม่ได้ อย่ามาสร้างหายนะให้ทีมฉัน OK?]
[ทีมอื่นก็ไม่ต้องการ ทางนี้แนะนำให้รีไทร์กลับไปทำอาชีพสตรีมเมอร์ของนาย ถึงยังไงอาชีพนี้ก็ไม่มีความต้องการด้านคุณสมบัติพนักงาน อย่าทำร้ายคนอื่น]
[ฮ่าๆๆๆ ทีมของนาย? ทำไมคิดว่าตัวเองเป็นตัวแทนของทีมทีมหนึ่ง คุณเป็นใคร หน้าด้านจังเลยนะ ฮ่า พวกนักฉอดโง่เง่า]
“ไม่ได้คิดว่าการดูรีเพลย์จะเสียแฟนคลับสักหน่อย พ่อนายแข็งแกร่งขึ้นแล้ว” เจี่ยนหรงกวาดตามองซับกระสุน “เป็นน้ำตาลในเลือดต่ำ ฉันโง่เอง ไม่ได้กินข้าวเช้า จุดนี้พวกนายด่าได้ตามสบาย แอดมินไม่ต้องแบนคน…ยังไม่ได้คิดรีไทร์และไม่คิดย้ายทีมด้วย ดังนั้นต่อให้พวกนายไม่สบายใจแค่ไหนก็ต้องดูฉันแข่งการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้จนจบ ไม่พอใจก็ลงสนามแข่งมาแกงค์ฉันเอง”
[มิดเลนที่แบกไม่เป็นเอามามีประโยชน์อะไร ใช้เป็นป้อมเฝ้าเลนกลาง?]
เจี่ยนหรงลากแถบความคืบหน้าของวิดีโอรีเพลย์การถ่ายทอดสด กระโดดไปอยู่ที่หนึ่งวินาทีก่อนเริ่มการแข่งขัน “ใช่ ไม่ได้แบกคือความผิดของฉัน คราวหน้าทำได้แน่”
พูดจบแล้วเจี่ยนหรงก็ดูการแข่งขันอย่างตั้งใจจริงๆ
ท่าทีนี้ทำให้เหล่าแอนตี้แฟนงุนงงไปสองวินาที จากนั้นก็เริ่มเพิ่มเชื้อเพลิง พยายามปั่นกระแสคนดูที่ผ่านทางมา…
[เวฟนี้ไดฟ์ป้อมได้ชัดๆ กลับไม่แฟลชตามเข้าไป กากจริงๆ เลยว่ะ]
[ไม่เล่นอัสแซสซินก็เลยฆ่าคนไม่เป็น?]
เจี่ยนหรงไม่ได้พูดอะไร แต่เขารู้ว่าเวฟนี้ตนไม่มีข้อผิดพลาด Savior ที่มีทั้งสเปลคลีนส์ แฟลช และสกิลอัลติเมตกำลังรอไดฟ์ป้อมอยู่
เหล่าแอนตี้แฟนทุ่มเทต่อ หลังผ่านไปหลายนาทีกลับพบว่าทิศทางของซับกระสุนไม่ค่อยถูกต้อง
คนอื่นบนซับกระสุนพากันฉอด Soft ตามพวกเขาด้วย
แต่คนที่ฉอด…ดันติดไอคอนแฟนตัวยงในสตรีมของเขาหมดเลย
[ไอ้โง่ เมื่อคืนพวกพ่อช่วยแกจัดการในเทียปา แกเริ่มดูตั้งแต่นาทีที่แปดเถอะ]
[Savior เดินไปตรงหน้า Pine แล้ว นายยังลาสต์มินเนี่ยนอยู่เลนกลาง ถ้าฉันเป็น Pine ฉันต้อง AFK อยู่ที่บ่อน้ำแล้วคุยกับนายแน่]
[ถ้านายไม่รีบไปแกงค์คนก่อน Savior หรือไม่งั้นก็แค่ไม่ต้องรีบไปดันป้อมกลาง นายดูสิ นายไปๆ มาๆ เหมือนไอ้โง่ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง]
[กากจนฉันออกไปข้างนอกก็อายที่จะบอกกับคนอื่นว่าฉันคือพ่อแก]
[กากจนเมื่อคืนพ่อฝันว่า Syndra โง่เง่าของแกกำลังวิ่งมาราธอน]
[ปกตินายฉายเดี่ยวตอนกดแรงก์ยังพอว่า นี่ลงสนามแข่งนายยังทำแบบนี้อีก? ตอนแข่งฝึกซ้อมไม่ได้ฝึกเหรอ]
แอ็กเคานต์ของซิงคงทีวีสามารถผูกกับไอดีเกม LoL ของตัวเองได้ แอนตี้แฟนบางคนรู้สึกถึงความผิดปกติเลยกดเปิดไอคอน LoL ด้านหลังชื่อของคนที่กำลังวิจารณ์และสั่งสอนเหล่านี้ในซับกระสุน จากนั้นอันดับแรงก์ก็สะท้อนเข้าตาทันที
ไดมอนด์ มาสเตอร์ ไปจนถึงชาเลนเจอร์ กระทั่งแรงก์ต่ำที่สุดอย่างโกลด์ก็มี
เจี่ยนหรงดูวิดีโอซ้ำไปซ้ำมาอย่างนิ่งเงียบ หลายนาทีนี้ไทม์มิ่งของเขาโดดเดี่ยวไปบ้างจริงๆ
ขณะเจี่ยนหรงแข่งฝึกซ้อมย่อมมีการฝึกสนับสนุน แต่ระหว่างเขาเล่น Syndra นั้นไปสนับสนุนคนอื่นน้อยมาก และไม่เคยเห็น Aurelion Sol ที่แกงค์คนบ่อยเหมือนอย่าง Savior
เขาเปิดมือถือ บันทึกช่วงเวลาสนับสนุนของ Savior ไว้ในบันทึกความจำ
นมวัวครึ่งแก้วลงท้อง ริมฝีปากบนของเจี่ยนหรงเปื้อนสีขาวแถบหนึ่ง
[แล้วก็ทีมไฟต์ตอนนาทีที่ยี่สิบแปด นายลองดูเอาเองเถอะว่านายกากแค่ไหน ตำแหน่งยืนดีขนาดนั้น แต่กลับผลักบอลไปโดนแค่สองคน]
[สำคัญสุดคือสตัน 98K ไม่ได้ ค่าตอบแทนก็คือถูกคนตบทีเดียวตาย กระจอกจริงๆ]
[หยวนเชียนโคตรกาก Soft เองก็โคตรกาก ว่ากันว่าหยวนเชียนใกล้จะหมดสัญญาแล้วใช่ไหม จูงมือกันไสหัวไปพอดีเลย]
“เวฟนั้นฉันจำได้…ไม่ได้ดันให้ดี” เจี่ยนหรงกินบิสกิตอีกหนึ่งชิ้นพลางขยับปลายนิ้วแบนคนที่พูดถึงหยวนเชียน “ดูรีเพลย์ก็ดูรีเพลย์ ด่าฉันก็ด่าฉัน คนที่ฉวยโอกาสมาก่อกวนไสหัวไปให้ไกลเท่าที่จะไกลได้ พ่อไม่ชินกับพวกนาย”
พูดจบเขากดปุ่ม ‘เล่น’ ต่อไป
ดูรีเพลย์เกมแรกใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง
อารมณ์ดุเดือดแต่เดิมของเหล่าแอนตี้แฟนกลับสู่ความสงบ…แฟนคลับกลุ่มนี้ด่าแรงกว่าพวกเขาซะอีก นี่แม่งทำได้อย่างไร
คุณป้าผลักประตูเข้ามาถามเขาว่าต้องการให้ทำอาหารเช้าหรือไม่ เจี่ยนหรงพยักหน้า “เอาครับ รบกวนด้วย”
[นายเป็นหมูเหรอ กินมินิบิสกิตไปสองถุงแล้วยังจะกินอีก?]
[สิ่งนี้มีโภชนาการไม่พอหรอก เจ้าโง่กำลังเติบโตอยู่นะ]
[อายุสิบแปดยังเติบโตได้? ชาตินี้ส่วนสูงคงได้แค่นี้แล้วแหละ น้ำหนักอาจยังเพิ่มขึ้นได้อีก]
เจี่ยนหรงบิไข่ต้มเป็นสองส่วน ชิ้นหนึ่งในนั้นยัดเข้าปาก ตอบอย่างคลุมเครือ “เพ้อเจ้อ…อย่างน้อยฉันก็สูงหนึ่งร้อยแปดสิบ”
[หนึ่งร้อยแปดสิบในฝัน]
[นายพูดคำนี้โดยไม่หน้าแดงได้ไงเนี่ย?]
[ลูกชาย พ่อเห็นคนอื่นบอกว่า Road โกรธนายจนหน้าดำ? เป็นความจริงไหม]
[พูดให้ถูกต้องสักหน่อย เขาโกรธจนหนีไป แข่งเสร็จไม่ได้กลับห้องพักก็ไปเลย ฮ่าๆๆ]
ท่าเคี้ยวของเจี่ยนหรงช้าลงเล็กน้อย
[ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง เอาจริงการแข่งขันเกมนี้ไม่ใช่ความผิดของลูกชายฉันทั้งหมดหรอก]
[รักมากก็ตำหนิแรง]
[รักกับผีสิ กากแบบนี้คงเลิกกันไปแล้ว]
[เลิกกัน? ลูกชายฉันรักเขาฝ่ายเดียวมาตลอดไม่ใช่เหรอ พูดให้ถูกหน่อย ลูกชายฉันอกหักฝ่ายเดียว]
[ลูกชายน่าสงสารจัง ทั้งแพ้การแข่งขัน ทั้งไม่มีความรัก]
[ดีมาก แบบนี้ลูกชายฉันก็ไม่ต้องเป็นเกย์แล้ว]
พอพูดถึงลู่ป๋อหยวน เขาก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาอีก
คำว่า ‘ปลอบ’ กัปตันใช้ตอนที่ห่วงใยสมาชิกในทีมได้เหรอ
ผู้ชาย…ต้องปลอบผู้ชายเหรอ
เมื่อรู้สึกว่าใบหูของตนดูท่าจะร้อนจนลวกขึ้นมา เจี่ยนหรงก็รีบกลืนไข่ต้มลงไป เด็กหนุ่มกำลังคิดจะขัดจังหวะของซับกระสุน ประตูห้องฝึกซ้อมก็ถูกคนผลักออก
ลู่ป๋อหยวนสวมชุดลำลองเดินเข้ามา มองดูอาหารเช้าบนโต๊ะของเจี่ยนหรง แล้วยังมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วย
เจี่ยนหรงคิดไม่ถึงว่าเขาจะตื่นเช้าขนาดนี้ ได้แต่เงยหน้ามองคางของอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง
คนทั้งสองต่างยังไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไร คุณป้าที่ผัดข้าวให้พวกเขาก็เข้ามาก่อนแล้ว
คุณป้าคิดจะมาช่วยเจี่ยนหรงเก็บชามและตะเกียบพอดี เธอรู้ว่าปกติเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ลำบากไม่น้อย ดังนั้นเรื่องที่ทำได้ล้วนไม่ให้พวกเขาต้องลงมือเอง
เธอตกตะลึงเมื่อมองเห็นลู่ป๋อหยวน “เสี่ยวลู่ ทำไมตื่นเช้าขนาดนี้ ป้ากวาดโถงทางเดินเสียงดังจนปลุกเธอเหรอ”
“เปล่าครับ” ลู่ป๋อหยวนพูดอย่างเฉยชา “กลัวเขาไม่กินอาหารเช้าเลยตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้”
เจี่ยนหรงเอามือข้างหนึ่งวางบนคีย์บอร์ด สีหน้าตกตะลึงกว่าเดิม
“แบบนี้นี่เอง…” คุณป้าวางใจแล้ว “งั้นป้าไปทำอาหารเช้าให้เธอสักชุดดีมั้ย อยากกินอะไร”
“เหมือนกับเขาก็ได้ครับ รบกวนคุณป้าด้วย”
หลังคุณป้าออกไปลู่ป๋อหยวนถึงหลุบตาถามว่า “ทำไมสตรีมเช้าขนาดนี้”
เจี่ยนหรงส่งเสียงหืม “สตรีมฆ่าเวลา”
เมื่อพบว่าลู่ป๋อหยวนกำลังดูวิดีโอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เจี่ยนหรงก็อธิบาย “พี่ติงยังไม่มา ผมเลยดูรีเพลย์เองก่อน”
“ดูจบแล้ว?”
“…อืม”
ลู่ป๋อหยวนผงกศีรษะ “ฉันจะเปิดเครื่อง พวกเราดูโอ้กัน”
เจี่ยนหรงพูดทันที “โอเค”
ลู่ป๋อหยวนกำลังจะเดินไปโต๊ะคอมพิวเตอร์ของตนเอง แต่เมื่อมองเห็นไข่ต้มครึ่งใบที่เหลืออยู่บนโต๊ะของเขา จึงยื่นมือมาขยี้หัวเจี่ยนหรงพลางกำชับ “กินให้หมด”
เจี่ยนหรงยัดไข่ต้มอีกครึ่งใบใส่ปาก
ไม่กี่วินาทีต่อมาซับกระสุนพลันมีเครื่องหมายคำถามลอยผ่าน
[แอ็กปล่อยข่าวปลอมโง่เง่าเมื่อไหร่จะตาย]
[…ช่างเถอะ เกย์ก็คือเกย์นั่นแหละ ได้เป็นคู่เกย์กับ Road ก็นับว่านายเล่นของสูงแล้วลูกชาย]
[ความสัมพันธ์ของพวกนายนี่คนอื่นในทีมรู้ไหม]
[นี่เรียกว่าหน้าดำ? นี่เรียกว่าหน้าดำ? นี่แม่งอีกนิดเดียวก็สตรีมขึ้นเตียงแล้ว!]
[สองนาทีก่อนเพิ่งรีเฟรชเจอวิดีโอที่ Road ยื่นมือเข้าปากไอ้โง่ ช่างเถอะไม่พูดมากแล้ว ขอให้ 99*]
[ขอภาพหน่อย ขอให้ 99]
[ขอให้ 99]
[ขอให้ 99]
* พระพุทธรูปใหญ่ เป็นคำเปรียบเทียบ หมายถึงคนเก่งที่ไม่เหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ บางครั้งก็ใช้ในการปฏิเสธอย่างสุภาพด้วย
* ขอให้ 99 หมายถึงขอให้รักกันยืนยาว ซึ่งเลข 9 ในภาษาจีนออกเสียงว่า ‘จิ่ว’ ซึ่งพ้องกับคำว่า 久 (จิ่ว) ที่แปลว่ายาวนาน
โปรดติดตามตอนต่อไป…
ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 25 ก.ย. 65